รีวิว Shiseido Synchro Skin Self-Refreshing Foundation: รองพื้นเนื้อบางเบา ติดทน ไม่ดรอป คุมมัน กันน้ำไหม?


โอ๊ยยย... หน้าร้อนเมืองไทยมันช่างโหดร้าย! แต่งหน้าตอนเช้าเป๊ะปังออกจากบ้าน แต่พอเที่ยงเท่านั้นแหละ... หน้าเริ่มเยิ้ม เริ่มดรอป เป็นคราบ โอ๊ยไม่ไหว! ใครเคยเป็นแบบนี้บ้างยกมือขึ้น! นี่แหละค่ะ ปัญหาโลกแตกของสาวไทยที่รักการแต่งหน้า
แต่วันนี้ค่ะ ดิฉันมีตัวช่วยใหม่ที่อยากจะมาป้ายยา เอ้ย! มารีวิวให้ฟังแบบหมดเปลือก นั่นก็คือ Shiseido Synchro Skin Self-Refreshing Foundation นั่นเองค่ะ รองพื้นตัวดังที่เคลมว่าเนื้อบางเบา ติดทน ไม่ดรอป แถมยังคุมมัน กันน้ำอีกด้วย! มันจะจริงแค่ไหน? ใช้แล้วจะรอดชีวิตในหน้าร้อน (และหน้าอื่นๆ) ของเมืองไทยได้ไหม? ตามมาดูกันเลย!
1. ภาพรวมของสินค้า: รู้จักน้อง Shiseido Synchro Skin กันหน่อย
แบรนด์: Shiseido
รุ่น: Synchro Skin Self-Refreshing Foundation
ช่วงราคา: ประมาณ 2,200 - 2,600 บาท
ตำแหน่งในตลาด: เป็นรองพื้นระดับกลางถึงสูง เหมาะสำหรับคนที่มองหารองพื้นคุณภาพดี ติดทน และสบายผิว
จุดเด่นคร่าวๆ ที่เค้าเคลมมา:
- Self-Refreshing Technology: เคลมว่ารองพื้นจะปรับสภาพและติดทนกับผิวได้ตลอดทั้งวันเหมือนเพิ่งทาใหม่
- ติดทนนาน 24 ชั่วโมง: อันนี้เคลมแรงมาก ต้องพิสูจน์!
- บางเบา สบายผิว: เนื้อสัมผัสไม่หนักหน้า
- คุมมัน กันน้ำ กันเหงื่อ: สำคัญสุดๆ สำหรับอากาศบ้านเรา
- ปกปิดแบบ Buildable: build ได้ตั้งแต่ medium ถึง full coverage
2. ดีไซน์ & รูปลักษณ์ภายนอก: เรียบหรู ดูมินิมอล
ขวดรองพื้นมาในขวดแก้วทรงเหลี่ยม สีกระจกฝ้าๆ ดูเรียบหรู มินิมอลตามสไตล์ Shiseido ค่ะ มีหัวปั๊มใช้งานง่าย ควบคุมปริมาณได้ดี ไม่ต้องกลัวหกเลอะเทอะค่ะ ตัวขวดขนาดกำลังดี 30 ml พกพาสะดวก ใส่ในกระเป๋าเครื่องสำอางได้สบายๆ
ในกล่องก็มีแค่ตัวรองพื้นกับคู่มือเล็กๆ น้อยๆ ค่ะ ไม่มีอุปกรณ์เสริมอะไรพิเศษ
3. ประสิทธิภาพในการใช้งานฟังก์ชันหลัก: พิสูจน์ความติดทน ไม่ดรอป คุมมัน!
มาถึงช่วงสำคัญ! ลองของจริงกันค่ะ เนื้อรองพื้นเป็นลิควิดค่อนข้างเหลว เกลี่ยง่ายมากๆ ใช้ฟองน้ำหรือแปรงก็ได้ หรือใช้นิ้วเกลี่ยก็ได้ค่ะ สบายผิวจริง ไม่รู้สึกหนักหน้าเลย
การปกปิด: ครั้งแรกที่ทาได้ประมาณ Medium Coverage ค่ะ พวกรอยแดง จุดด่างดำเล็กๆ เอาอยู่ ถ้าอยากปกปิดเพิ่มก็ build เพิ่มได้ ไม่เป็นคราบ ไม่ดูหนาโบ๊ะค่ะ
ความรู้สึกบนผิว: รู้สึกบางเบา สบายผิวจริงๆ เหมือนไม่ได้ทารองพื้น ฟินิชที่ได้เป็นแบบ Natural Semi-Matte ค่ะ ไม่ได้แมตต์แห้งสนิท และไม่ได้ฉ่ำวาวเกินไป ให้ความเป็นผิวสวยสุขภาพดี
ทดสอบความติดทน & ไม่ดรอป: เอาล่ะ! นี่คือหัวใจของการรีวิวนี้ค่ะ ดิฉันลองทารองพื้นตัวนี้ไปใช้ชีวิตในวันปกติที่ต้องเจอทั้งอากาศร้อน เหงื่อ และความมันระหว่างวัน
- ช่วงเช้า: เป๊ะมาก ผิวดูเนียนสวย
- ช่วงบ่าย: เริ่มมีเงาๆ ตรงทีโซนบ้างเล็กน้อย แต่ไม่ได้เยิ้มหรือเป็นคราบค่ะ ที่สำคัญคือ "ไม่ดรอป" สีไม่เปลี่ยน ไม่หมองลงเลยค่ะ ยังรู้สึกว่าผิวดูเฟรชอยู่
- ช่วงเย็น: ผ่านไปประมาณ 8-10 ชั่วโมง รองพื้นยังอยู่บนผิวได้ดีมากค่ะ มีความมันเพิ่มขึ้นบ้างตามปกติของคนผิวมัน แต่ซับๆ หน่อยก็กลับมาสวยเหมือนเดิมค่ะ
ทดสอบคุมมัน & กันน้ำ: เค้าเคลมว่าคุมมันและกันน้ำ ส่วนตัวรู้สึกว่าช่วยควบคุมความมันได้ดีในระดับหนึ่งค่ะ ไม่ได้คุมมันแบบสนิท แต่ก็ไม่ทำให้หน้าเยิ้มระหว่างวัน ส่วนเรื่องกันน้ำ กันเหงื่อ อันนี้ทำได้ดีเลยค่ะ ลองฉีดน้ำแร่ใส่หน้า หรือวันที่เหงื่ออกเยอะๆ ก็ไม่เป็นคราบ ไม่ไหลเป็นทางค่ะ
ด้วยเทคโนโลยี ActiveForce™ ที่เค้าบอกว่าช่วยให้รองพื้นปรับเข้ากับความร้อน เหงื่อ และการเคลื่อนไหวของใบหน้า อันนี้รู้สึกได้จริงค่ะ รองพื้นมีความยืดหยุ่นไปกับผิว ไม่ตกร่องตามรอยพับของใบหน้า
4. ประสบการณ์การใช้งาน & ความง่ายในการใช้: เกลี่ยง่าย สบายผิวสุดๆ
ไม่ต้องเป็นมือโปรก็ใช้รองพื้นตัวนี้ได้สบายมากค่ะ เนื้อเหลว เกลี่ยง่าย ไม่ต้องรีบเกลี่ยเหมือนรองพื้นบางตัวที่แห้งไว
- ใช้ง่ายไหม: ง่ายมากค่ะ ใครเพิ่งเริ่มแต่งหน้าก็ใช้ได้สบายๆ
- ต้องเรียนรู้อะไรเยอะไหม: ไม่เลยค่ะ
- สบายผิวเวลาใช้ไหม: สบายผิวมากจริงๆ ค่ะ เหมือนทาสกินแคร์เลย ไม่รู้สึกอึดอัดผิว
- รองรับภาษาไทยไหม: อันนี้เป็นเครื่องสำอางค่ะ ไม่ได้มีระบบซอฟต์แวร์ แต่คู่มือต่างๆ มักจะมีหลายภาษา รวมถึงภาษาไทยค่ะ
5. แบตเตอรี่ / พลังงาน / ความคุ้มค่าในระยะยาว: ขวดหนึ่งใช้ได้นานแค่ไหน?
อันนี้ไม่ใช่เครื่องใช้ไฟฟ้า เลยไม่มีแบตเตอรี่ค่ะ แต่ถ้าพูดถึงความคุ้มค่าในระยะยาว ขวดหนึ่ง 30 ml ถ้าใช้ทุกวัน ปริมาณเท่าที่ต้องการปกปิด ก็อยู่ได้ประมาณ 2-3 เดือนเลยค่ะ
ความคุ้มค่า: ด้วยราคาประมาณสองพันต้นๆ ถึงกลางๆ อาจจะดูสูงเมื่อเทียบกับรองพื้น Drugstore ทั่วไป แต่ถ้าเทียบกับคุณภาพ ความติดทน การคุมมัน และความสบายผิวที่ได้รับ ถือว่า คุ้มค่ามาก ค่ะ โดยเฉพาะถ้าเป็นคนผิวมัน-ผิวผสม หรือต้องเจออากาศร้อนๆ บ่อยๆ
ถ้าเทียบกับรองพื้นในราคาใกล้เคียงกัน Shiseido Synchro Skin ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมากๆ ค่ะ
6. ข้อดี-ข้อเสีย: มาดูกันแบบตรงไปตรงมา!
ข้อดีที่คนไทยน่าจะชอบ:
- ติดทน ไม่ดรอป ไม่หมองระหว่างวัน: อันนี้ยืนยัน! เหมาะกับอากาศเมืองไทยสุดๆ
- เนื้อบางเบา สบายผิว: ทาแล้วไม่รู้สึกหนักหน้า ไม่อึดอัด
- คุมมัน กันน้ำ กันเหงื่อได้ดี: เอาอยู่ทั้งวัน ไม่ไหลเยิ้ม
- ปกปิด buildable: อยากได้เบาๆ ใสๆ หรืออยากได้แน่นๆ ก็ทำได้ในขวดเดียว
- มีเฉดสีให้เลือกเยอะ: หาเฉดที่เข้ากับผิวคนไทยได้ง่าย
ข้อเสียที่อาจทำให้ลังเลใจ:
- ราคาสูง: เมื่อเทียบกับรองพื้น Drugstore ทั่วไป
- ไม่ได้คุมมันแบบ Mattifying สนิท: คนที่ผิวมันมากๆ อาจจะต้องซับหน้าระหว่างวันบ้าง
- ไม่มี SPF ในบางรุ่น: บางข้อมูลระบุ SPF30 หรือ SPF35 แต่บางทีก็ต้องเช็คดีๆ ก่อนซื้อค่ะ ถ้ากังวลเรื่องกันแดด อาจจะต้องทากันแดดเพิ่มอยู่ดี
7. เหมาะกับใคร & คำแนะนำในการซื้อ: ใครควรตำ?
Shiseido Synchro Skin Self-Refreshing Foundation เหมาะกับ:
- คนที่ผิวมัน-ผิวผสม ที่ต้องการรองพื้นติดทน ไม่ดรอป ไม่เยิ้มระหว่างวัน
- คนที่มองหารองพื้นที่ให้งานผิวสวยเป็นธรรมชาติ ไม่แมตต์แห้ง และไม่ฉ่ำวาวเกินไป
- คนที่ต้องการรองพื้นที่สบายผิว บางเบา ไม่หนักหน้า
- คนที่ต้องเจออากาศร้อน เหงื่อออกเยอะ หรือทำกิจกรรมระหว่างวันบ่อยๆ
ควรซื้อเลยไหม? ถ้าคุณสมบัติตรงกับที่คุณมองหา โดยเฉพาะเรื่องความติดทน ไม่ดรอป และคุมมันในระดับหนึ่งในสภาพอากาศเมืองไทย แนะนำให้ลองเลยค่ะ! แต่ถ้าอยากได้ราคาดีๆ แนะนำให้รอช่วงโปรโมชั่นตามห้างสรรพสินค้า หรือช่องทางออนไลน์ต่างๆ ค่ะ
8. เปรียบเทียบกับสินค้าคล้ายๆ กัน (อันนี้แถมให้!):
ถ้าให้เทียบกับรองพื้นดังๆ ในตลาดที่เคลมเรื่องความติดทน อย่าง Estée Lauder Double Wear ตัวนั้นจะให้ความแมตต์และปกปิดสูงกว่า Shiseido Synchro Skin ค่ะ แต่ Shiseido จะให้ความเป็นงานผิวมากกว่า สบายผิวกว่า และไม่ดูหนาเท่า Double Wear ค่ะ ขึ้นอยู่กับความชอบและสภาพผิวของแต่ละคนเลย
หรือถ้าเป็นในไลน์ Synchro Skin ด้วยกัน ก็จะมีรุ่น Synchro Skin Radiant Lifting Foundation ที่จะเน้นความโกลว์ ฉ่ำวาวมากกว่ารุ่น Self-Refreshing ค่ะ เลือกรุ่น Self-Refreshing ถ้าเน้นคุมมันและติดทนในอากาศร้อนค่ะ
9. บริการหลังการขายและช่องทางการซื้อ: ซื้อง่าย หายห่วง!
Shiseido เป็นแบรนด์ใหญ่ มีเคาน์เตอร์ในห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วประเทศค่ะ สามารถไปลองสี ลองเนื้อที่เคาน์เตอร์ได้เลย BA น่ารัก ให้คำแนะนำดีค่ะ
ช่องทางการซื้อ: นอกจากเคาน์เตอร์ในห้างแล้ว ยังหาซื้อได้ง่ายตามช่องทางออนไลน์ต่างๆ ค่ะ เช่น Sephora, Lazada, Shopee, Central Online และเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของ Shiseido
โปรโมชั่น: ช่วงที่น่าซื้อที่สุดคือช่วงโปรโมชั่นค่ะ ทั้งตามห้างสรรพสินค้า หรือในแพลตฟอร์มออนไลน์ต่างๆ มักจะมีส่วนลด ของแถม หรือโปรโมชั่นผ่อน 0% คอยส่องดีๆ อาจจะได้ราคาดีกว่าราคาเต็มเยอะเลยค่ะ
การรับประกัน: สินค้าเครื่องสำอางมักจะไม่มีการรับประกันเหมือนเครื่องใช้ไฟฟ้า แต่ถ้ามีปัญหาจากการผลิต สามารถติดต่อสอบถามกับทางแบรนด์หรือจุดที่ซื้อได้ค่ะ
10. บทสรุปและคำแนะนำในการซื้อ: ฟันธง!
จากที่ได้ลองใช้และทดสอบอย่างจริงจัง ถ้าถามว่า Shiseido Synchro Skin Self-Refreshing Foundation ควรซื้อไหม?
คำแนะนำคือ: ควรซื้อ! ถ้าคุณเป็นคนที่มีปัญหาหน้าเยิ้ม หน้าดรอประหว่างวันในอากาศร้อนๆ ต้องการรองพื้นที่ติดทน คุมมันได้ดีในระดับหนึ่ง และให้ฟินิชผิวที่สวยเป็นธรรมชาติ สบายผิวไม่หนักหน้า รุ่นนี้ตอบโจทย์มากๆ ค่ะ
สำหรับผู้เริ่มต้นที่อยากลงทุนกับรองพื้นดีๆ สักขวด ตัวนี้ก็เป็นตัวเลือกที่ดีค่ะ ใช้ง่าย ไม่ต้องมีสกิลมากมายก็เกลี่ยให้ผิวสวยได้
แต่ถ้า: คุณเป็นคนผิวแห้งมากๆ อาจจะต้องบำรุงผิวให้ชุ่มชื้นก่อนทา หรือมองหารุ่นที่เน้นความชุ่มชื้นมากกว่านี้ค่ะ และถ้าต้องการรองพื้นที่คุมมันแบบ Mattifying สนิทกริ๊บ อาจจะต้องมองหารุ่นอื่น หรือใช้ร่วมกับแป้งคุมมันดีๆ ค่ะ
โดยรวมแล้ว Shiseido Synchro Skin Self-Refreshing Foundation เป็นรองพื้นที่ทำได้ตามที่เคลมไว้หลายอย่างมากๆ เป็นไอเท็มกู้ชีพสำหรับสาวไทยในสภาพอากาศปราบเซียนจริงๆ ค่ะ!
วิดีโอที่เกี่ยวข้อง
แนะนำสำหรับคุณ
จักรยาน Eurobike X1 26 นิ้ว ราคาเท่าไหร่? เหมาะกับใครบ้าง?
Smart Watch D18 ราคาถูก ฟังก์ชันเพียบ น่าซื้อใช้ไหม?
ลิปสติก Christian Louboutin ราคาเท่าไหร่? สีไหนฮิต น่าซื้อ?
iPhone 6 ราคาล่าสุดปี 2025 (เครื่องเปล่า Banana): ยังมีขายไหม?
ราคาประตูน้ำทองเหลือง ขนาด 3 นิ้ว เลือกซื้อยี่ห้อไหน ทนทาน ไม่รั่วซึม
โปรเจคเตอร์ Full HD: ราคาล่าสุด ปี 2568 รุ่นไหนดี? คุ้มค่ากับการลงทุน?