ราคารถบรรทุก Hino ทุกรุ่น ทั้ง 6 ล้อ และ 10 ล้อ อัปเดตล่าสุด

รถบรรทุกคือหัวใจสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและธุรกิจหลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นภาคอุตสาหกรรม โลจิสติกส์ การก่อสร้าง หรือแม้แต่การเกษตร และเมื่อพูดถึงรถบรรทุกที่ได้รับความไว้วางใจจากผู้ประกอบการในประเทศไทย ชื่อของ Hino (ฮีโน่) ย่อมเป็นอันดับต้นๆ ที่หลายคนนึกถึง ด้วยชื่อเสียงด้านความทนทาน ประหยัดน้ำมัน และสมรรถนะที่ยอดเยี่ยม ฮีโน่จึงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่กำลังมองหารถบรรทุกคู่ใจ วันนี้เราจะมาเจาะลึกถึงราคารถบรรทุก Hino ทั้งรุ่น 6 ล้อ และ 10 ล้อ อัปเดตล่าสุด พร้อมข้อมูลน่ารู้ครบครันเพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจได้อย่างคุ้มค่าที่สุด

1. ทำความรู้จัก Hino: หัวใจของธุรกิจขนส่ง

Hino (ฮีโน่) เป็นแบรนด์ผู้ผลิตรถบรรทุกและรถโดยสารสัญชาติญี่ปุ่นที่มีประวัติยาวนาน ก่อตั้งขึ้นในปี 1942 โดยมีจุดเริ่มต้นจากการเป็นส่วนหนึ่งของอุตสาหกรรมก๊าซโตเกียว ตลอดระยะเวลากว่า 80 ปี ฮีโน่ได้สั่งสมประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในการพัฒนายานยนต์เพื่อการพาณิชย์ จนกลายเป็นหนึ่งในผู้นำระดับโลก

สำหรับประเทศไทย ฮีโน่ ได้เข้ามามีบทบาทสำคัญในตลาดรถบรรทุกมาตั้งแต่ปี 1964 โดยมีโรงงานประกอบในประเทศ และมีการรวมกิจการด้านการขายและการผลิตเพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งในตลาดไทย รถบรรทุกฮีโน่ได้รับการออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของอุตสาหกรรมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นงานขนส่งสินค้าทั่วไป การขนส่งวัสดุก่อสร้าง การขนส่งสินค้าเกษตร หรือแม้แต่งานเฉพาะทางอย่างรถหัวลากและรถโดยสาร จุดเด่นของฮีโน่คือ เครื่องยนต์ดีเซลที่ทรงพลัง ให้แรงบิดและแรงม้าสูง สามารถบรรทุกของหนักและวิ่งระยะไกลได้อย่างมั่นใจ พร้อมความสามารถในการประหยัดเชื้อเพลิงที่ดีเยี่ยม นอกจากนี้ยังโดดเด่นด้วย โครงสร้างตัวถังที่แข็งแรงทนทาน และห้องโดยสารที่กว้างขวาง มอบความสะดวกสบายให้ผู้ขับขี่ตลอดการเดินทาง

2. ช่วงราคารถบรรทุก Hino ในตลาดไทย (อัปเดตล่าสุด)

ราคารถบรรทุก Hino ในตลาดประเทศไทยมีความหลากหลายอย่างมาก ขึ้นอยู่กับรุ่น, ประเภทของตัวถัง (เช่น กระบะพื้นเรียบ, ตู้แห้ง, ตู้เย็น, ดั๊มพ์), ขนาดเครื่องยนต์, และอุปกรณ์เสริมที่ติดตั้งเพิ่มเติม โดยราคาที่ระบุในที่นี้เป็นราคาเริ่มต้นโดยประมาณสำหรับรถใหม่จากผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการและราคามือสองที่พบในตลาดปัจจุบัน

รถบรรทุก Hino 6 ล้อ

• สำหรับรถบรรทุก 6 ล้อขนาดกลาง เช่น Hino 500 Dominator FC Series ซึ่งเป็นรุ่นยอดนิยม มีเครื่องยนต์ให้เลือกตั้งแต่ 155 แรงม้า, 175 แรงม้า, และ 210 แรงม้า ราคาเริ่มต้นสำหรับรถใหม่สามารถอยู่ที่ประมาณ 1,370,000 บาท (฿) ขึ้นไป.
• ในตลาดรถบรรทุกมือสอง รถ 6 ล้อ Hino รุ่นยอดนิยม เช่น Hino FC หรือ FG สามารถพบได้ในราคาตั้งแต่ 666,000 บาท (฿) ไปจนถึง 1,350,000 บาท (฿) หรือสูงกว่า ขึ้นอยู่กับปีที่ผลิต สภาพรถ และระยะทางที่ใช้งาน.

รถบรรทุก Hino 10 ล้อ

• สำหรับรถบรรทุก 10 ล้อของ Hino เช่น Hino 500 Victor FL/FM Series ที่รองรับการบรรทุกหนัก มีเครื่องยนต์ตั้งแต่ 260 แรงม้า ไปจนถึง 344 แรงม้า ราคาเริ่มต้นสำหรับรถใหม่จะอยู่ที่ประมาณ 2,475,000 บาท (฿) ไปจนถึง 3,344,000 บาท (฿) หรือสูงกว่า ขึ้นอยู่กับรุ่นย่อยและคุณสมบัติเฉพาะ.
• ในตลาดรถบรรทุกมือสอง รถ 10 ล้อ Hino สามารถมีราคาตั้งแต่ 350,000 บาท (฿) สำหรับรุ่นเก่า ไปจนถึง 2,750,000 บาท (฿) หรือสูงกว่าสำหรับรุ่นปีใหม่และสภาพดี.

เนื่องจากรถบรรทุกเป็นสินทรัพย์เพื่อการลงทุน ผู้ประกอบการมักจะพิจารณาการจัดไฟแนนซ์ ซึ่งผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการมักจะมีโปรแกรมสนับสนุนสินเชื่อพร้อมพันธมิตรทางการเงินชั้นนำ

3. เปรียบเทียบราคากับรถบรรทุกประเภทเดียวกัน

ในตลาดรถบรรทุกของประเทศไทย นอกจาก Hino แล้ว ยังมีแบรนด์อื่นๆ ที่เป็นคู่แข่งสำคัญ เช่น Isuzu (อีซูซุ) และ Mitsubishi Fuso (มิตซูบิชิ ฟูโซ่) การเปรียบเทียบราคาจะช่วยให้เห็นความคุ้มค่าของ Hino:

• Hino vs. Isuzu: ทั้งสองแบรนด์ต่างได้รับความนิยมสูงในไทย Hino มีจุดเด่นด้านความทนทานเป็นพิเศษและเหมาะสำหรับการขนส่งหนักและระยะไกล ในขณะที่ Isuzu โดดเด่นเรื่องความประหยัดน้ำมันและมีมูลค่าขายต่อสูง ราคาเริ่มต้นของรถ 6 ล้อ Isuzu อาจจะใกล้เคียงกับ Hino หรือแตกต่างกันเล็กน้อย ขึ้นอยู่กับรุ่นและสเปก เช่น รถ 6 ล้อ Isuzu NPR รุ่น 150 แรงม้า มือสอง อาจมีราคาประมาณ 633,000 บาท (฿). สำหรับรถ 10 ล้อ Isuzu GVR 300 แรงม้า มือสอง ก็เป็นที่นิยมเช่นกัน.
• Hino vs. Mitsubishi Fuso: Mitsubishi Fuso มักจะถูกมองว่ามีราคาไม่สูงมากนัก คุ้มค่ากับการลงทุน อะไหล่หาง่าย และบำรุงรักษาง่าย ซึ่งอาจเป็นทางเลือกสำหรับธุรกิจ SME หรือการขนส่งสินค้าทั่วไปในเมือง ในขณะที่ Hino อาจมีราคาเริ่มต้นสูงกว่าเล็กน้อย แต่ให้ความแข็งแกร่งและสมรรถนะที่ตอบโจทย์งานหนักและซับซ้อนกว่า.

โดยรวมแล้ว Hino วางตำแหน่งตัวเองเป็นรถบรรทุกที่มี ความทนทานสูง และ เหมาะกับการบรรทุกหนักและวิ่งทางไกล ซึ่งถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าในระยะยาวสำหรับผู้ประกอบการที่ต้องการความน่าเชื่อถือและประสิทธิภาพสูงสุด.

4. อุปกรณ์เสริมและบริการที่รวมมา

เมื่อซื้อรถบรรทุก Hino ใหม่จากผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการในประเทศไทย โดยทั่วไปแล้วจะมีบริการและสิทธิประโยชน์ต่างๆ ที่มาพร้อมกับการซื้อ เพื่อให้ผู้ประกอบการมั่นใจในการใช้งานและได้รับบริการหลังการขายที่ดี:

• ค่าขนส่ง: การส่งมอบรถบรรทุกมักจะมีการจัดการโดยผู้จำหน่าย ซึ่งรายละเอียดค่าใช้จ่ายหรือเงื่อนไขการจัดส่งฟรีอาจแตกต่างกันไปตามโปรโมชั่นหรือระยะทาง ควรสอบถามกับผู้จำหน่ายโดยตรง.
• ระยะเวลารับประกัน: Hino ให้ความสำคัญกับคุณภาพและความทนทาน รถบรรทุก Hino ใหม่โดยทั่วไปจะมาพร้อมกับ การรับประกันตัวรถ 24 เดือน โดยไม่จำกัดระยะทาง (unlimited kilometers) สำหรับตัวรถและระบบส่งกำลัง (powertrain) และอาจมีการรับประกันห้องโดยสาร (Cab Warranty) 36 เดือน และแชสซี (Chassis Warranty) 36 เดือน นอกจากนี้ ฮีโน่ยังมีการรับประกันอะไหล่และงานซ่อมเป็นระยะเวลา 6 เดือน หรือ 10,000 กิโลเมตร แล้วแต่ว่าสิ่งใดถึงก่อน. การรักษาสิทธิ์การรับประกันนี้จำเป็นต้องเข้ารับบริการตรวจเช็กตามระยะทางที่ศูนย์บริการที่ได้รับการแต่งตั้งจาก Hino Motors Sales (Thailand) Co., Ltd..
• ของแถม อุปกรณ์เสริม และโปรโมชั่น: ผู้จำหน่าย Hino มักจะมีข้อเสนอพิเศษต่างๆ เช่น โปรแกรมสนับสนุนสินเชื่อแบบเช่าซื้อ (Hire Purchase) หรือลีสซิ่ง (Operating Lease) ร่วมกับบริษัทการเงินชั้นนำ บางครั้งอาจมีของแถมเป็นอุปกรณ์เสริมที่จำเป็นสำหรับรถบรรทุก เช่น กล้องมองหลัง. นอกจากนี้ยังอาจมีโปรแกรมบริการหลังการขายที่ครอบคลุม เช่น ส่วนลดพิเศษสำหรับอะไหล่แท้ Hino (HOP), แบตเตอรี่, บริการตรวจเช็กฟรี, เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องฟรี, หรือบริการ Home Service.

บริการเหล่านี้ช่วยให้ลูกค้ามั่นใจได้ว่าจะได้รับการดูแลอย่างมืออาชีพและลดความกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาในระยะยาว.

5. โปรโมชั่นและคำแนะนำการซื้อ

การซื้อรถบรรทุก Hino เป็นการลงทุนที่สำคัญ ดังนั้นการเลือกช่วงเวลาและช่องทางการซื้อที่เหมาะสมจึงช่วยให้ได้รับความคุ้มค่าสูงสุด:

• โปรโมชั่นช่วงเทศกาล: แม้ว่ารถบรรทุกจะแตกต่างจากสินค้าอุปโภคบริโภคทั่วไป แต่ผู้จำหน่าย Hino ก็มักจะมีโปรโมชั่นพิเศษในช่วงเวลาสำคัญต่างๆ เช่น ช่วงสิ้นปี หรือ ช่วงครึ่งปี เพื่อกระตุ้นยอดขาย นอกจากนี้ อาจมีโปรโมชั่นร่วมกับสถาบันการเงิน เช่น ดอกเบี้ยพิเศษ, แพ็กเกจบำรุงรักษา, หรือส่วนลดพิเศษสำหรับการติดตั้งอุปกรณ์เสริมต่างๆ ควรติดตามข่าวสารจากผู้จำหน่ายอย่างใกล้ชิด.
• โปรโมชั่นจากผู้จำหน่ายโดยตรง: ผู้จำหน่าย Hino ทั่วประเทศมักจะมีแคมเปญและข้อเสนอที่แตกต่างกันไป การติดต่อสอบถามข้อมูลกับผู้จำหน่ายหลายๆ แห่งจะช่วยให้คุณสามารถเปรียบเทียบข้อเสนอและเลือกข้อตกลงที่ดีที่สุดได้.
• คำแนะนำการซื้อ:
  • เปรียบเทียบหลายรุ่น: พิจารณารุ่นที่เหมาะสมกับประเภทธุรกิจและน้ำหนักบรรทุกที่ต้องการอย่างแท้จริง ฮีโน่มีรุ่นย่อยและตัวเลือกการต่อตัวถังที่หลากหลาย.
  • ศึกษาเงื่อนไขไฟแนนซ์: รถบรรทุกส่วนใหญ่เป็นการซื้อผ่านสินเชื่อ ควรสอบถามรายละเอียดอัตราดอกเบี้ย, ระยะเวลาผ่อนชำระ, และเอกสารที่จำเป็นจากผู้จำหน่าย.
  • ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ: ทีมงานขายของ Hino มีความรู้และประสบการณ์ในการให้คำแนะนำเกี่ยวกับรุ่นรถที่เหมาะสมกับธุรกิจของคุณ รวมถึงบริการหลังการขาย.

การไม่รีบร้อนและใช้เวลาศึกษาข้อมูลให้รอบด้าน จะช่วยให้คุณได้รถบรรทุก Hino ที่ตรงใจและคุ้มค่าที่สุด.

6. รีวิวและฟีดแบ็กจากผู้ใช้ในไทย

จากฟีดแบ็กของผู้ใช้งานรถบรรทุก Hino ในประเทศไทย เสียงตอบรับส่วนใหญ่บ่งชี้ถึงความพึงพอใจในหลายๆ ด้าน ซึ่งสอดคล้องกับจุดเด่นที่แบรนด์ให้ความสำคัญ:

• ความทนทานและแข็งแรง: ผู้ใช้จำนวนมากให้ความเห็นว่ารถบรรทุก Hino มี ความแข็งแรงทนทานสูง สามารถรองรับการบรรทุกหนักและใช้งานในสภาพถนนที่หลากหลายได้อย่างดีเยี่ยม โดยเฉพาะโครงสร้างแชสซีที่ผลิตจากเหล็กคุณภาพสูง ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้มั่นใจในการใช้งานระยะยาว.
• สมรรถนะเครื่องยนต์และการประหยัดน้ำมัน: ผู้ขับขี่ชื่นชอบเครื่องยนต์ของ Hino ที่ให้ กำลังและแรงบิดที่ดี ทำให้สามารถขึ้นทางลาดชันหรือบรรทุกของหนักได้อย่างสบาย นอกจากนี้ ยังมีฟีดแบ็กเชิงบวกเรื่อง การประหยัดเชื้อเพลิง ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการลดต้นทุนการดำเนินงานของธุรกิจขนส่ง.
• ความปลอดภัยและเทคโนโลยี: ฮีโน่มีการติดตั้งระบบความปลอดภัยขั้นสูง เช่น ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก (ABS) และระบบควบคุมการทรงตัวแบบอิเล็กทรอนิกส์ (ESC) ซึ่งช่วยเพิ่มความมั่นใจและความปลอดภัยในการขับขี่. ผู้ใช้บางรายยังกล่าวถึงเทคโนโลยีที่ช่วยในการบริหารจัดการFleet Management อย่าง Hino Insight.
• ความสะดวกสบายในห้องโดยสาร: แม้จะเป็นรถบรรทุก แต่ฮีโน่ก็ออกแบบห้องโดยสารให้มีความกว้างขวาง นั่งสบาย มีช่องเก็บของหลายจุด และมีการจัดวางอุปกรณ์ที่ใช้งานง่าย ซึ่งช่วยลดความเมื่อยล้าของผู้ขับขี่ในการเดินทางระยะไกล.
• บริการหลังการขายและอะไหล่: ลูกค้าส่วนใหญ่พอใจกับ การบริการหลังการขายที่ครอบคลุม และการเข้าถึงอะไหล่แท้ได้ง่ายทั่วประเทศ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญสำหรับรถเพื่อการพาณิชย์ที่ต้องมีการบำรุงรักษาอย่างต่อเนื่อง.

โดยสรุปแล้ว ฟีดแบ็กจากผู้ใช้ชาวไทยตอกย้ำว่า Hino เป็นรถบรรทุกที่ ตอบโจทย์การใช้งานจริงในภาคธุรกิจ ด้วยคุณภาพที่เชื่อถือได้ ความทนทาน และบริการที่ครบวงจร.

7. ช่องทางการซื้อที่แนะนำ

การซื้อรถบรรทุก Hino เพื่อธุรกิจ ควรพิจารณาช่องทางที่น่าเชื่อถือ เพื่อให้มั่นใจในคุณภาพรถและการบริการหลังการขายที่ดีเยี่ยม:

• ช่องทางทางการ (ผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการ):
  • ศูนย์บริการและผู้จำหน่าย Hino ทั่วประเทศ: นี่คือช่องทางหลักและแนะนำมากที่สุด การซื้อผ่านผู้จำหน่ายที่ได้รับการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการ เช่น Hino Motors Sales (Thailand) Ltd. หรือตัวแทนจำหน่ายในเครือ จะทำให้คุณได้รับรถใหม่จากโรงงานโดยตรง พร้อมการรับประกันเต็มรูปแบบ บริการหลังการขายที่ครบวงจร ทีมช่างผู้เชี่ยวชาญ และการเข้าถึงอะไหล่แท้ 100% นอกจากนี้ยังสามารถขอคำปรึกษาและคำแนะนำเกี่ยวกับรุ่นรถที่เหมาะสมกับธุรกิจ โปรแกรมสินเชื่อ และโปรโมชั่นต่างๆ ได้อย่างครบถ้วน. ศูนย์บริการเหล่านี้มักตั้งอยู่ในจังหวัดหลักๆ และครอบคลุมทั่วประเทศ.
• แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซใหญ่ในไทย:
  • สำหรับรถบรรทุกใหม่ขนาดใหญ่เช่น Hino โดยทั่วไปแล้วจะไม่วางขายบนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซสำหรับผู้บริโภคทั่วไปอย่าง Lazada หรือ Shopee โดยตรง การซื้อขายส่วนใหญ่จะดำเนินการผ่านผู้จำหน่ายรถบรรทุกโดยเฉพาะ อย่างไรก็ตาม อาจมีผู้จำหน่ายบางรายใช้ช่องทางออนไลน์เพื่อลงประกาศขายรถมือสอง หรือโปรโมทแคมเปญต่างๆ ซึ่งสามารถใช้เป็นช่องทางในการค้นหาข้อมูลเบื้องต้นและติดต่อสอบถามได้.
• ช่องทางร้านค้าปลีกและราคา:
  • เนื่องจากรถบรรทุก Hino เป็นยานยนต์เพื่อการพาณิชย์ขนาดใหญ่ จึงไม่มีการวางขายในร้านค้าปลีกทั่วไปเช่น JIB, Banana IT, Central, Big C, หรือ Power Buy ราคาที่พบในช่องทางเหล่านี้จึงไม่เกี่ยวข้องกับรถบรรทุกฮีโน่.

คำแนะนำ: เพื่อความมั่นใจและได้รับประโยชน์สูงสุด การติดต่อผู้จำหน่าย Hino อย่างเป็นทางการโดยตรง เป็นช่องทางที่ดีที่สุดเสมอ. คุณสามารถนัดหมายเพื่อดูรถจริง สอบถามข้อมูลเชิงลึก และปรึกษาเรื่องไฟแนนซ์ได้โดยตรง.

8. สรุปและคำแนะนำเรื่องราคา

โดยสรุปแล้ว รถบรรทุก Hino ถือเป็น การลงทุนที่คุ้มค่าอย่างยิ่ง สำหรับผู้ประกอบการในภาคธุรกิจขนส่งและโลจิสติกส์ในประเทศไทย. ด้วยชื่อเสียงที่สั่งสมมายาวนานด้าน ความทนทาน แข็งแรง สมรรถนะเครื่องยนต์ที่ยอดเยี่ยม และความประหยัดน้ำมัน ทำให้ Hino เป็นตัวเลือกที่น่าเชื่อถือและตอบโจทย์การใช้งานหนักได้อย่างดีเยี่ยม นอกจากนี้ การมีเครือข่ายศูนย์บริการและอะไหล่ครอบคลุมทั่วประเทศ รวมถึงบริการหลังการขายที่ครบวงจร ยิ่งเพิ่มความมั่นใจในการเป็นเจ้าของและลดความกังวลเรื่องการบำรุงรักษาในระยะยาว.

ใครควรซื้อรุ่นไหนดี?

• สำหรับผู้ที่ต้องการรถ 6 ล้อ: หากธุรกิจของคุณเน้นการขนส่งสินค้าขนาดกลางถึงใหญ่ในระยะทางที่ไม่ไกลมากนัก เช่น การกระจายสินค้าในเมือง, งานขนส่งวัสดุเบา, หรือการขนส่งสินค้าเกษตร Hino 6 ล้อ เช่น Hino 500 Dominator FC Series ถือเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมอย่างยิ่ง ด้วยขนาดที่คล่องตัว แต่ยังคงไว้ซึ่งความแข็งแกร่งและประหยัดเชื้อเพลิง ทำให้เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีสำหรับธุรกิจขนส่งทุกประเภท.
• สำหรับผู้ที่ต้องการรถ 10 ล้อ: หากธุรกิจของคุณเกี่ยวข้องกับการขนส่งสินค้าขนาดใหญ่พิเศษ การบรรทุกหนัก การวิ่งระยะไกลข้ามจังหวัด หรือต้องการรถเพื่อเป็นหัวลากสำหรับงานเฉพาะทาง Hino 10 ล้อ เช่น Hino 500 Victor FL/FM Series จะตอบโจทย์ได้ดีกว่า ด้วยกำลังเครื่องยนต์ที่สูงกว่าและเพลาที่เพิ่มขึ้น ทำให้รองรับน้ำหนักบรรทุกได้มากขึ้นและทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดในงานหนัก.

ไม่ว่าคุณจะเลือกรุ่น 6 ล้อ หรือ 10 ล้อ การลงทุนในรถบรรทุก Hino ถือเป็นการตัดสินใจที่ชาญฉลาด เพราะคุณจะได้รถที่ แข็งแกร่ง ทนทาน และพร้อมเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจของคุณให้เติบโตอย่างยั่งยืน ขอแนะนำให้ติดต่อผู้จำหน่าย Hino โดยตรง เพื่อรับข้อมูลราคาและโปรโมชั่นล่าสุดที่ตรงกับความต้องการและงบประมาณของคุณมากที่สุด เพื่อให้ได้รถบรรทุกคู่ใจที่พร้อมลุยงานไปกับคุณในทุกเส้นทาง.

วิดีโอที่เกี่ยวข้อง

• คลิปนี้ดูกันยาวๆ รวมหัวลากมือสอง ราคามีบอกทุกคัน จะมีรุ่นไหนบ้างที่ ...
• UPDATE ‼️รถบรรทุก 6 ล้อดั้มพ์ รถใช้งานราคาประหยัด 💰💰ราคาเริ่ม ...
• รีวิวรวมหัวลาก HINO ซีรี่ย์500 ราคาเริ่มต้น800000บาทใช้เงินออกรถ ...
• พาชมรถบรรทุกเข้าใหม่เพียบ❗️เอกสารพร้อมโอนทุกคัน (EP.1 ...
• อัพเดท 6 ล้อดั้มพ์ยางใหญ่ รถห้างไทยมือ3 เดก้า FTR200 ,เมก้า212