logo

ราคา รถบรรทุก Hino 6 ล้อ อัปเดตปี 2025 พร้อมสเปค

user avatar
ปวีณ์ ธีรกุล·07/05/2025 17:01
点赞
ราคา รถบรรทุก Hino 6 ล้อ อัปเดตปี 2025 พร้อมสเปค

สวัสดีจ้าทุกคนนน! วันนี้เราไม่ได้จะมาเม้าท์มอยเรื่องกล้องฟรุ้งฟริ้งหรือมือถือสุดล้ำนะจ๊ะ แต่เราจะมาเจาะลึกเรื่องที่ใหญ่กว่านั้น! ใช่แล้วจ้า! เราจะมาคุยกันเรื่อง รถบรรทุก Hino 6 ล้อ ที่เป็นพระเอกของงานขนส่งบ้านเรานี่แหละ! ใครที่กำลังมองหารถคู่ใจสำหรับธุรกิจ หรือกำลังเล็งจะอัปเกรดรถเก่าให้ปังกว่าเดิม ต้องมาฟังทางนี้เลย เพราะเราจะอัปเดตข้อมูลเท่าที่พอจะเม้าท์ได้สำหรับปี 2025 พร้อมสเปคคร่าวๆ และเรื่องราคาที่หลายคนอยากรู้สุดๆ ไปเลยจ้า เตรียมสมุดปากกา เอ้ย! เตรียมเปิดใจรับข้อมูลแบบบ้านๆ ได้เลย!

1. ผลิตภัณฑ์นี้มันคืออะไรกันนะ?

มาเริ่มกันที่ว่าเจ้า รถบรรทุก Hino 6 ล้อ นี่มันคืออะไร? พูดง่ายๆ เลยนะ มันคือรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ตัวใหญ่บึ้มที่มี 6 ล้อ เหมาะสำหรับงานขนส่งสินค้า ไม่ว่าจะขนผัก ขนของ ขนวัสดุก่อสร้าง หรืออะไรก็ตามแต่ที่ต้องอาศัยพละกำลังและความทนทานจ้า ฮีโน่เนี่ยเป็นแบรนด์รถบรรทุกเก่าแก่จากประเทศญี่ปุ่น ที่เค้าขึ้นชื่อเรื่องความอึด ความถึก ทนไม้ทนมือ มานานแล้วนะ เป็นที่ไว้วางใจของพี่น้องชาวไทยที่ทำธุรกิจขนส่งมาหลายยุคหลายสมัยเลยล่ะ เหมาะมากๆ สำหรับผู้ประกอบการที่ต้องการรถที่ไว้ใจได้ ไม่จุกจิกกวนใจ พร้อมลุยงานหนักได้ทุกเมื่อในตลาดเมืองไทยของเราจ้า


2. ราคาในตลาดไทยเป็นยังไงบ้าง?

มาถึงเรื่องที่ทำให้ใจสั่น นั่นก็คือ "ราคา" นั่นเอง! สำหรับ รถบรรทุก Hino 6 ล้อ ในปี 2025 เนี่ย ต้องบอกตามตรงว่า ณ ตอนนี้ (กลางปี 2025) ราคายังอาจจะไม่ได้ประกาศอย่างเป็นทางการครบทุกรุ่นเป๊ะๆ เหมือนตอนรถเก๋งเปิดตัวใหม่ๆ หรอกนะ เพราะรถบรรทุกมันมีความหลากหลายของรุ่นย่อยและออปชันที่เยอะกว่ามากๆ จ้า

แต่ถ้าดูจากแนวโน้มและราคาในตลาดปัจจุบัน (ซึ่งก็เป็นข้อมูลที่เราพอจะหาได้นะ) รถบรรทุก 6 ล้อของ Hino เนี่ย ราคาเริ่มต้นจะมีความแตกต่างกันไปเยอะมากๆ ขึ้นอยู่กับรุ่น เครื่องยนต์ (มีตั้งแต่ 155 แรงม้า, 175 แรงม้า, 210 แรงม้า หรือมากกว่านั้น) และสเปคต่างๆ เช่น น้ำหนักบรรทุกที่รองรับได้ (เช่น 10.2 ตัน หรือมากกว่า) และระยะต่อตัวถังที่หลากหลาย โดยทั่วไปแล้ว ราคาของรถ 6 ล้อ Hino มือหนึ่งในไทยอาจจะเริ่มต้นตั้งแต่ช่วง หนึ่งล้านต้นๆ ไปจนถึงเกือบสองล้านบาท (฿) หรืออาจจะสูงกว่านั้นในรุ่นใหญ่ๆ หรือสเปคพิเศษนะ อันนี้เป็นแค่ช่วงราคาคร่าวๆ สุดๆ เลยจ้า

ช่องทางการซื้อรถบรรทุกเนี่ย เค้าไม่ได้ไปเดินเลือกดูใน Lazada, Shopee, Central หรือ Big C เหมือนซื้อของใช้นะจ๊ะ! ส่วนใหญ่จะต้องไปที่ ผู้จำหน่ายรถบรรทุก Hino อย่างเป็นทางการ (Dealer) โดยตรงเท่านั้นจ้า ถึงจะได้ข้อมูลราคาที่แม่นยำและอัปเดตที่สุด ส่วนร้าน JIB, Banana IT, Power Buy นี่ลืมไปได้เลยนะ เค้าขายแต่อุปกรณ์ไอทีจ้า ไม่ได้ขายรถบรรทุกนะแก!

ส่วนเรื่องราคาถ้าเทียบกับราคานานาชาติแล้วมีส่วนต่างอัตราแลกเปลี่ยนมั้ย อันนี้บอกยากมากๆ เพราะโครงสร้างภาษีและต้นทุนการนำเข้ามันซับซ้อนกว่าสินค้าทั่วไปเยอะเลยจ้า เอาเป็นว่าดูราคาที่ผู้จำหน่ายในไทยประกาศขายเป็นหลักจะดีที่สุดนะ


3. แล้วเทียบกับคู่แข่งล่ะ ราคาโอเคมั้ย?

ในตลาดรถบรรทุก 6 ล้อบ้านเรา คู่แข่งตัวฉกาจของ Hino ก็มีหลายแบรนด์เลยนะ ที่เห็นบ่อยๆ ก็จะเป็น Isuzu, Mitsubishi Fuso อะไรพวกนี้ ซึ่งแต่ละแบรนด์ก็มีรุ่น 6 ล้อออกมาให้เลือกหลากหลายสเปคมากๆ จ้า ถ้าจะให้เปรียบเทียบราคากันเนี่ย ต้องดูเป็นรุ่นต่อรุ่นไปเลยนะ เช่น Hino รุ่น FC9J เครื่อง 210 แรงม้า อาจจะต้องเทียบกับ Isuzu รุ่น NQR หรือ FRR ในสเปคใกล้เคียงกัน ซึ่งราคาอาจจะมีความแตกต่างกันไปบ้าง

โดยทั่วไปแล้ว ราคาของรถบรรทุก 6 ล้อเนี่ย มันขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยมากๆ นอกเหนือจากแบรนด์แล้วก็มีเรื่อง ขนาดเครื่องยนต์, น้ำหนักบรรทุกสูงสุด ที่รถรองรับได้, ชนิดของตัวถัง ที่ต่อ (เช่น กระบะเรียบ, คอก, ตู้แห้ง, ตู้เย็น, ดัมพ์), และ เทคโนโลยีหรือออปชันพิเศษ ที่ใส่มา บางแบรนด์อาจจะเน้นเรื่องความประหยัดน้ำมัน บางแบรนด์อาจจะเน้นเรื่องพละกำลัง หรือความทนทานเป็นพิเศษ ซึ่งทั้งหมดนี้ก็มีผลต่อราคาขายทั้งนั้นจ้า บางทีรุ่นที่ราคาถูกกว่าอาจจะมีสเปคหรือฟังก์ชันที่น้อยกว่า หรือรุ่นที่แพงกว่าอาจจะให้ความคุ้มค่าในระยะยาวมากกว่า เช่น เรื่องค่าซ่อมบำรุง หรือราคาขายต่อ (ซึ่ง Hino ก็มีชื่อเสียงเรื่องราคาขายต่อที่ดีนะ)


4. ซื้อแล้วได้อะไรมาบ้างนะ?

เวลาซื้อ รถบรรทุก Hino 6 ล้อ เนี่ย สิ่งที่ได้มาหลักๆ นอกจากตัวรถเปล่าๆ (แชสซีส์พร้อมหัวเก๋ง) แล้ว ก็คือเรื่อง การรับประกัน จ้า อันนี้สำคัญมากๆ สำหรับรถเพื่อการพาณิชย์ เพราะใช้งานหนัก การรับประกันที่ดีช่วยลดความกังวลเรื่องค่าซ่อมได้เยอะเลย ซึ่ง Hino เค้าก็มีการรับประกันตามมาตรฐานของรถใหม่นะ (แต่รายละเอียดเป๊ะๆ สำหรับปี 2025 ต้องสอบถามผู้จำหน่ายอีกทีนะ) โดยทั่วไปก็จะครอบคลุมระยะเวลาหรือระยะทางที่กำหนดจ้า

ส่วนเรื่อง ค่าขนส่ง เนี่ย การซื้อรถบรรทุกส่วนใหญ่ก็จะตกลงเรื่องการรับรถหรือการจัดส่งกับผู้จำหน่ายโดยตรงนะ ไม่ได้มีบริการส่งฟรีแบบซื้อของออนไลน์ทั่วไปจ้า อาจจะต้องไปรับรถเองที่ศูนย์บริการ หรือมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมในการจัดส่งแล้วแต่ตกลงกัน

นอกจากนี้ สิ่งที่มักจะมาพร้อมกับการซื้อรถบรรทุกก็คือ บริการหลังการขาย จากผู้จำหน่ายนะจ๊ะ ทั้งเรื่องศูนย์บริการสำหรับตรวจเช็คและซ่อมบำรุง, การจัดหาอะไหล่แท้, และบางทีอาจจะมี แพ็กเกจบำรุงรักษา หรือ โปรโมชั่นพิเศษ จากผู้จำหน่ายในช่วงที่ซื้อนะ (แต่ไม่ใช่ของแถมกุ๊กกิ๊กแบบซื้อกล้องนะ!) อาจจะเป็นส่วนลดในการเช็คระยะ หรือข้อเสนอทางการเงินต่างๆ จ้า


5. มีช่วงไหนน่าซื้อเป็นพิเศษมั้ย?

ถ้าพูดถึง โปรโมชั่น สำหรับรถบรรทุก Hino เนี่ย เค้าไม่ได้มีจัดลดราคาแบบยิ่งใหญ่เหมือนช่วง 11.11 หรือ 12.12 ใน Lazada/Shopee หรือมีโปรโมชั่นฉลองเทศกาลสงกรานต์แบบรถยนต์นั่งทั่วไปนะจ๊ะ โปรโมชั่นของรถบรรทุกมักจะเน้นไปที่เรื่อง ข้อเสนอทางการเงิน มากกว่า เช่น อัตราดอกเบี้ยพิเศษจาก Hino Leasing หรือสถาบันการเงินที่ร่วมรายการ, การจัดไฟแนนซ์ที่ยืดหยุ่น หรือโปรแกรมเช่าซื้อต่างๆ

บางทีผู้จำหน่ายแต่ละรายอาจจะมีโปรโมชั่นของตัวเองในช่วงเวลาที่แตกต่างกันไปนะ เช่น โปรโมชั่นช่วงปลายปีเพื่อกระตุ้นยอดขาย หรือโปรโมชั่นเฉพาะรุ่น อันนี้ต้องหมั่นสอบถามกับผู้จำหน่ายโดยตรงเลยจ้า หรือบางที Hino เองก็อาจจะมีแคมเปญใหญ่ๆ ออกมาบ้างเป็นครั้งคราว ซึ่งก็มักจะเน้นที่ประโยชน์สำหรับผู้ประกอบการ เช่น การขยายระยะเวลารับประกัน หรือแพ็กเกจบำรุงรักษา

สรุปคือ ถ้าอยากได้โปรโมชั่นดีๆ สำหรับรถบรรทุก Hino เนี่ย ไม่ต้องไปรอช่วงเทศกาลช้อปปิ้งออนไลน์นะ แต่ให้ ติดต่อผู้จำหน่ายหลายๆ ที่ เพื่อเปรียบเทียบข้อเสนอและโปรโมชั่นทางการเงินในช่วงเวลานั้นๆ จะดีที่สุดจ้า


6. คนไทยใช้แล้วรู้สึกยังไงกันบ้างนะ?

จากที่ได้ยินเสียงเล่าเสียงลือของพี่ๆ น้องๆ ที่ใช้ รถบรรทุก Hino ในเมืองไทยมาเนี่ย ฟีดแบ็กส่วนใหญ่ถือว่าไปในทิศทางที่ดีเลยนะ จุดที่คนไทยมักจะประทับใจเกี่ยวกับ Hino 6 ล้อก็คือ:

  • ความทนทานและเชื่อถือได้: อันนี้คือจุดเด่นที่ Hino ขึ้นชื่อเลยจ้า หลายคนบอกว่ามันอึดจริงๆ ใช้งานหนักได้ต่อเนื่อง ไม่ค่อยมีปัญหากวนใจ ทำให้ธุรกิจไม่สะดุด
  • เครื่องยนต์ทรงพลัง: พละกำลังเครื่องยนต์ของ Hino ถือว่าตอบโจทย์งานบรรทุกได้ดี
  • หาศูนย์บริการง่าย: Hino มีเครือข่ายศูนย์บริการที่ค่อนข้างครอบคลุม ทำให้สะดวกในการดูแลรักษาและซ่อมบำรุง
  • ราคาขายต่อดี: อันนี้เป็นอีกข้อที่คนทำธุรกิจขนส่งให้ความสำคัญนะ เวลาจะเปลี่ยนรถ หรือขายต่อเนี่ย Hino มักจะได้ราคาดีกว่าแบรนด์อื่นบางยี่ห้อ
  • อะไหล่หาง่าย: อะไหล่ต่างๆ สำหรับ Hino ค่อนข้างหาง่ายและมีตัวเลือกหลากหลาย

แน่นอนว่าก็อาจจะมีบางจุดที่ผู้ใช้แต่ละคนอาจจะมีความเห็นแตกต่างกันไปบ้าง เช่น เรื่องอัตราสิ้นเปลืองน้ำมัน (ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับลักษณะการขับขี่และการบรรทุกด้วย) หรือความสะดวกสบายภายในห้องโดยสาร แต่โดยรวมแล้ว Hino ถือเป็นตัวเลือกที่คนไทยให้ความไว้วางใจในเรื่องของ ความคุ้มค่าในการลงทุนระยะยาว และ ความน่าเชื่อถือในการใช้งาน จ้า


7. แล้วจะไปหาซื้อได้ที่ไหนล่ะทีนี้?

อย่างที่เน้นย้ำไปหลายรอบแล้วว่า รถบรรทุก Hino 6 ล้อ เนี่ย เค้าซื้อขายกันที่ ผู้จำหน่ายรถบรรทุก Hino อย่างเป็นทางการ เท่านั้นนะจ๊ะ นี่คือช่องทางหลักและเป็นทางการที่สุดในการซื้อรถใหม่ เพราะคุณจะได้รถมาตรฐาน มีการรับประกันเต็มรูปแบบ และเข้าถึงบริการหลังการขายต่างๆ ได้อย่างครบวงจร

การไปที่ศูนย์ผู้จำหน่ายเนี่ย ข้อดีคือคุณสามารถ ดูรถจริง สอบถามข้อมูล สเปค ราคา และโปรโมชั่นล่าสุด ได้โดยตรงกับผู้เชี่ยวชาญ สามารถปรึกษาเรื่องรุ่นรถที่เหมาะสมกับการใช้งานของคุณ รวมถึงเรื่องการจัดไฟแนนซ์ด้วยนะ

ส่วนช่องทางอื่นๆ เช่น การซื้อผ่านแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซใหญ่ๆ อย่าง Shopee หรือ Lazada อันนี้ ไม่มี นะจ๊ะ เค้าไม่ขายรถบรรทุกกันบนนั้น ส่วนการซื้อรถมือสองก็จะเป็นอีกตลาดหนึ่ง ซึ่งก็มีเว็บไซต์เฉพาะทางสำหรับการซื้อขายรถบรรทุกมือสองอยู่บ้าง

ดังนั้น ถ้าจะซื้อ Hino 6 ล้อใหม่ปี 2025 ช่องทางที่แนะนำที่สุดและควรไปเป็นอันดับแรกเลยก็คือ ผู้จำหน่ายรถบรรทุก Hino ทั่วประเทศ เลยจ้า ลองค้นหาศูนย์ที่อยู่ใกล้บ้าน แล้วเข้าไปสอบถามข้อมูลได้เลย!


8. สรุปแล้วน่าซื้อไหม? เหมาะกับใคร?

มาถึงบทสรุปกันแล้ว! ถามว่า รถบรรทุก Hino 6 ล้อ ยังน่าซื้ออยู่ไหมในปี 2025? คำตอบคือ น่าซื้อมากๆ เลยจ้า ถ้าคุณเป็นคนที่กำลังทำธุรกิจขนส่ง โลจิสติกส์ เกษตรกรรม หรืออุตสาหกรรมที่ต้องใช้รถบรรทุก และมองหารถที่:

  • มีความทนทาน ใช้งานหนักได้หายห่วง
  • เชื่อถือได้ ไม่ค่อยมีปัญหาจุกจิก
  • มีศูนย์บริการรองรับทั่วประเทศ
  • มีราคาขายต่อที่ค่อนข้างดี
  • ต้องการรถที่เป็นที่นิยมในตลาด (ซึ่งหมายถึงหาคนขับได้ง่าย และอู่ซ่อมทั่วไปก็มักจะคุ้นเคยกับรถ Hino)

Hino 6 ล้อคือตัวเลือกอันดับต้นๆ ที่ตอบโจทย์ได้ดีมากๆ เลยจ้า เหมาะสำหรับผู้ประกอบการทุกขนาดที่ต้องการรถคู่ใจที่พร้อมลุยงานและสร้างรายได้ให้ธุรกิจได้อย่างต่อเนื่อง

ส่วนจะเลือกรุ่นเครื่องยนต์ 155, 175, 210 แรงม้า หรือสูงกว่านั้น ก็ขึ้นอยู่กับ ลักษณะงาน และ น้ำหนักสินค้า ที่คุณจะบรรทุกเป็นหลักนะ ถ้าวิ่งงานไม่หนักมากในเมือง หรือขนส่งสินค้าที่ไม่ใช่น้ำหนักสูงสุดตลอดเวลา รุ่นเริ่มต้น 155 แรงม้าก็อาจจะเพียงพอ แต่ถ้าต้องวิ่งทางไกล ขึ้นเขา หรือบรรทุกหนักเต็มพิกัดบ่อยๆ การเลือกรุ่นที่แรงม้าสูงขึ้นก็จะช่วยให้ขับสบายขึ้น และเครื่องยนต์ไม่ทำงานหนักเกินไป ยืดอายุการใช้งานได้อีกด้วยจ้า

สรุปคือ Hino 6 ล้อ เป็นการลงทุนที่ คุ้มค่า สำหรับธุรกิจที่ต้องการรถบรรทุกที่ไว้ใจได้ในระยะยาว และเหมาะมากๆ สำหรับผู้ประกอบการที่ให้ความสำคัญกับความทนทาน บริการหลังการขาย และราคาขายต่อที่ดีจ้า ก่อนตัดสินใจซื้อจริง อย่าลืมเข้าไปปรึกษาผู้จำหน่าย Hino ใกล้บ้านเพื่อรับข้อมูลล่าสุดและข้อเสนอที่ดีที่สุดสำหรับคุณนะ! ขอให้ได้รถคู่ใจไปช่วยเสริมธุรกิจให้รุ่งเรืองจ้า! บ๊ายบายยย!


วิดีโอที่เกี่ยวข้อง

บทความล่าสุดดูเพิ่มเติม

สวัสดีปี 2025 จ้าาา! ใครที่กำลังมองหาทางชุบชีวิตบ้านเก่าให้กลับมาปิ๊งปั๊งเหมือนใหม่ แต่ว่างบในกระเป๋าค่อนข้างจำกัด วันนี้เรามีเคล็ดลับและไอเดีย รีโนเวทบ้านเก่า ราคาถูก งบจำกัด ทำเองได้ง่ายๆ มาฝากกัน บอกเลยว่าทำได้จริง ไม่ต้องขายไต ไม่ต้องกู
รีโนเวทบ้านเก่า ราคาถูก งบจำกัด ปี 2025 ทำเองได้ง่ายๆ เปลี่ยนบ้านให้เหมือนใหม่
สวัสดีค่าาา เหล่าสายแฟชั่นนิสต้าและเพื่อนๆ นักช้อปออนไลน์ทุกคน! วันนี้เราจะมาเจาะลึกเรื่องยีนส์ที่ฮิตติดลมบน แถมราคายังเป็นมิตรกับกระเป๋าตังค์สุดๆ อย่าง กางเกงยีนส์ Denim Co จาก H&M กันค่ะ! ใครกำลังมองหายีนส์คู่ใจตัวใหม่ที่ใส่ได้บ่อยๆ แ
กางเกงยีนส์ Denim Co ราคาเท่าไหร่? ยีนส์ H&M คุณภาพดี ราคาเข้าถึงง่าย
สวัสดีครับทุกคนนน! วันนี้เราจะมาพูดถึงไอเทมสุดฮิตที่ขาดไม่ได้สำหรับสายปาร์ตี้ สายเที่ยว หรือแค่สายชิลล์ๆ ฟังเพลงอยู่บ้าน นั่นก็คือ ลำโพงบลูทูธ Ultimate Ears Wonderboom นั่นเองงง! ใครที่กำลังมองหาลำโพงคู่ใจ เสียงดี พกพาง่าย แถมลุยได้ทุกสถานก
ลำโพงบลูทูธ Ultimate Ears Wonderboom ราคาล่าสุดปี 2025 เสียงดี กันน้ำไหม?

บทความยอดนิยม

บทความที่แนะนำ