รถยนต์คลาสสิค Nissan Figaro ราคามือสองในตลาดรถยนต์ตอนนี้


สวัสดีค่ะทุกคน! วันนี้เราจะพาทุกคนไปย้อนวันวานกับรถยนต์คลาสสิกที่ยังคงครองใจใครหลายคนอย่าง Nissan Figaro รถยนต์ที่มีดีไซน์น่ารักเป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร และกลายเป็นที่ต้องการของนักสะสมและผู้ที่ชื่นชอบรถคลาสสิกทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตลาดรถยนต์มือสองของประเทศไทย ใครที่กำลังมองหารถยนต์ที่มีสไตล์โดดเด่น ไม่ซ้ำใคร และมีเรื่องราวเบื้องหลังที่น่าสนใจ ห้ามพลาดบทความนี้เลยค่ะ
1. ทำความรู้จัก Nissan Figaro รถคลาสสิกที่มาพร้อมเสน่ห์เหนือกาลเวลา
Nissan Figaro เป็นรถยนต์เปิดประทุนสองประตูขนาดเล็กที่ผลิตโดยบริษัท Nissan ผู้ผลิตรถยนต์ยักษ์ใหญ่จากประเทศญี่ปุ่น โดย Figaro ได้รับการเปิดตัวครั้งแรกในงาน Tokyo Motor Show ปี 1989 ภายใต้สโลแกน "Back to the Future" และเริ่มวางจำหน่ายจริงในปี 1991 รถรุ่นนี้เป็นส่วนหนึ่งของโปรเจกต์ "Pike Factory" ของ Nissan ซึ่งมุ่งเน้นการสร้างสรรค์รถยนต์ที่มีดีไซน์ย้อนยุคแต่แฝงด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย โดยมีรถยนต์รุ่นอื่น ๆ ในตระกูล Pike Car เช่น Be-1, Pao, และ S-Cargo
สิ่งที่ทำให้ Nissan Figaro โดดเด่นคือดีไซน์ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากรถยนต์ยุโรปยุค 1930s-1960s เช่น Fiat 500 หรือ Citroën 2CV ภายนอกมีลักษณะโค้งมน น่ารัก ด้วยไฟหน้าและไฟท้ายทรงกลม มือจับประตูและกันชนเป็นโครเมียมเพิ่มความหรูหรา และมีสีพิเศษ 4 สีที่สื่อถึง 4 ฤดูกาล ได้แก่ Emerald Green (ฤดูใบไม้ผลิ), Pale Aqua (ฤดูร้อน), Topaz Mist (ฤดูใบไม้ร่วง) และ Lapis Grey (ฤดูหนาว) หลังคาเป็นแบบ Fixed-Profile Convertible ที่สามารถเปิดได้บางส่วน ภายในห้องโดยสารถูกออกแบบมาให้ความรู้สึกคลาสสิกและพรีเมียม ด้วยคอนโซลหน้าหุ้มหนังเทียมสีครีม เบาะหนังแท้สี Ivory มาตรวัดทรงกลม และเครื่องเล่น CD พร้อมระบบปรับอากาศ
แม้จะมีดีไซน์ย้อนยุค แต่ Figaro สร้างบนพื้นฐานของ Nissan March K10 ทำให้โครงสร้างพื้นฐานมีความทนทานและดูแลรักษาง่ายกว่ารถคลาสสิกทั่วไป ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ SOHC เทอร์โบชาร์จ ขนาด 987 ซีซี (1.0 ลิตร) รหัส MA10ET ให้กำลังสูงสุด 76 แรงม้า พร้อมเกียร์อัตโนมัติ 3 สปีด ตัวรถมีน้ำหนักเพียง 810 กิโลกรัม ทำให้ขับขี่คล่องตัวในเมือง Figaro เป็นรถที่ผลิตจำนวนจำกัดเพียง 20,073 คันทั่วโลก และถูกจำหน่ายด้วยวิธีการจับสลากเนื่องจากความต้องการสูงมาก ด้วยความหายากและดีไซน์ที่เป็นอมตะ ทำให้ Figaro กลายเป็นรถยนต์ที่น่าสะสมและยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการรถยนต์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ใช้งานได้จริงในชีวิตประจำวัน และเป็น "ของเล่น" ที่มีคุณค่าทางใจ
2. ช่วงราคา Nissan Figaro ในตลาดรถยนต์มือสองของไทย
สำหรับ Nissan Figaro ในตลาดรถยนต์มือสองของไทย ต้องบอกเลยว่าราคาค่อนข้างหลากหลายและขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นสภาพรถ ปีที่จดทะเบียน (แม้จะผลิตปี 1991-1992 แต่บางคันอาจมีการจดทะเบียนในไทยภายหลัง) รวมถึงการเก็บงานหรือบูรณะรถมามากน้อยแค่ไหน จากการสำรวจในตลาดรถยนต์ออนไลน์และเต็นท์รถคลาสสิกในประเทศไทย พบว่า Nissan Figaro มือสองมีราคาอยู่ในช่วงประมาณ 600,000 - 1,250,000 บาท (฿) หรืออาจสูงกว่านั้นสำหรับคันที่ได้รับการบูรณะมาอย่างสมบูรณ์แบบ
ยกตัวอย่างราคาที่พบในแพลตฟอร์มต่าง ๆ เช่น One2Car มีประกาศขายบางคันในราคา 1,090,000 บาท ไปจนถึง 1,250,000 บาท สำหรับสภาพดี ส่วนในเว็บไซต์ Chobrod.com ก็มีการเสนอราคาอยู่ในช่วง 600,000 - 800,000 บาท หรือ 860,000 บาท และ TaladROD.com ก็มีให้เห็นในราคา 669,000 บาทเช่นกัน
เนื่องจากเป็นรถยนต์คลาสสิกที่ไม่ได้มีขายทั่วไปตามโชว์รูมหรือแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซหลักอย่าง Lazada หรือ Shopee การเปรียบเทียบราคาจึงต้องอาศัยแหล่งรวมรถยนต์มือสองเฉพาะทาง หรือกลุ่มซื้อขายรถคลาสสิกเป็นหลัก ซึ่งราคาก็จะแตกต่างกันไปตามผู้ขายแต่ละราย และค่าดำเนินการนำเข้าสำหรับรถยนต์รุ่นนี้ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้ราคาสูงขึ้นในตลาด Grey Market ของไทย
3. เปรียบเทียบราคากับรถยนต์คลาสสิกประเภทเดียวกัน
เมื่อเทียบกับรถยนต์คลาสสิกหรือรถยนต์ดีไซน์เรโทรในตลาดประเทศไทย Nissan Figaro ถือว่ามีราคาอยู่ในกลุ่มที่ค่อนข้างสูง แต่ก็สะท้อนถึงความหายากและเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใคร หากเทียบกับรถยนต์ขนาดเล็กดีไซน์น่ารักอย่าง Mini Cooper Classic (รุ่นเก่า) หรือ Volkswagen Beetle (รุ่นเต่า) ซึ่งเป็นที่นิยมในกลุ่มผู้ชื่นชอบรถคลาสสิกเช่นกัน ราคาของ Figaro อาจจะสูงกว่าเล็กน้อย หรืออยู่ในช่วงเดียวกัน ขึ้นอยู่กับสภาพและความสมบูรณ์ของรถ
ยกตัวอย่างเช่น รถยนต์คลาสสิกสไตล์เรโทรที่คล้ายกันอาจได้แก่ Daihatsu Copen (ซึ่งเป็นรถสปอร์ตเปิดประทุนขนาดเล็กที่ได้รับความนิยมในไทย) หรือ Fiat 500 (รุ่นคลาสสิก) รถเหล่านี้ก็มีราคาตลาดมือสองที่หลากหลาย แต่โดยรวมแล้ว Figaro มักจะถูกมองว่าเป็น "ของสะสม" ที่มีมูลค่าเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ด้วยจำนวนการผลิตที่จำกัด ทำให้ราคามักจะคงที่หรือสูงขึ้นในระยะยาว ต่างจากรถยนต์ตลาดทั่วไปที่ราคาลดลงตามอายุการใช้งาน
ดังนั้น Nissan Figaro จึงเหมาะสำหรับผู้ที่มองหารถยนต์ที่มี คุณค่าทางใจและมูลค่าในการสะสม มากกว่าการเป็นเพียงยานพาหนะทั่วไป หากเทียบในแง่ของความคุ้มค่าด้านราคาสำหรับผู้ที่ต้องการเพียงรถยนต์ใช้งาน อาจมีตัวเลือกอื่นที่ถูกกว่าและดูแลรักษาง่ายกว่า แต่ถ้าต้องการความโดดเด่นและสไตล์ที่ไม่มีใครเหมือน Figaro คือคำตอบที่ใช่
4. อุปกรณ์เสริมและบริการที่มาพร้อมกับการซื้อรถ
การซื้อ Nissan Figaro ในตลาดมือสองนั้น แตกต่างจากการซื้อรถยนต์ใหม่ที่มักจะมีแพ็กเกจบริการและอุปกรณ์เสริมมาตรฐานครบครัน สำหรับรถคลาสสิกอย่าง Figaro สิ่งที่ผู้ซื้อจะได้รับมักขึ้นอยู่กับข้อตกลงกับผู้ขายแต่ละรายเป็นสำคัญ สิ่งที่ควรตรวจสอบและสอบถามเพิ่มเติมมีดังนี้:
- สภาพรถและเอกสาร: ตรวจสอบสภาพตัวถัง เครื่องยนต์ ช่วงล่าง และภายในรถอย่างละเอียด รวมถึงเอกสารการโอนเล่มทะเบียนที่ถูกต้องและสมบูรณ์ บางคันอาจมีการเก็บงานหรือบูรณะมาแล้ว ซึ่งเป็นจุดที่เพิ่มมูลค่าให้กับรถ
- อะไหล่และประวัติการซ่อมบำรุง: เนื่องจากเป็นรถคลาสสิก การหาอะไหล่บางชิ้นอาจทำได้ยากหรือมีราคาสูง การได้รถที่มาพร้อมกับอะไหล่สำรอง หรือมีประวัติการซ่อมบำรุงที่ชัดเจน จะเป็นข้อดีอย่างมาก
- ของแถม: ผู้ขายบางรายอาจให้ของแถมเล็กๆ น้อยๆ เช่น ผ้าคลุมรถ, อุปกรณ์ทำความสะอาดรถ, หรือแม้กระทั่งเลนส์ไฟสำรอง (หากเป็นรุ่นที่มี) แต่โดยทั่วไปแล้ว ไม่ได้มีโปรโมชั่นจัดเต็มเหมือนรถใหม่
- ค่าขนส่ง: หากซื้อจากเต็นท์รถหรือผู้ขายที่อยู่ต่างจังหวัด ควรสอบถามเรื่องค่าจัดส่งให้ชัดเจนว่ารวมอยู่ในราคาหรือไม่ หรือต้องมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
- การรับประกัน: รถยนต์คลาสสิกมือสองส่วนใหญ่ ไม่มีการรับประกันจากศูนย์บริการ แล้ว ผู้ขายบางราย (เช่น เต็นท์รถ) อาจมีการรับประกันจากร้านค้าเป็นระยะเวลาสั้นๆ เช่น 7 วัน หรือ 30 วัน เพื่อให้ผู้ซื้อมั่นใจในสภาพรถเบื้องต้น ควรสอบถามรายละเอียดการรับประกันนี้ให้ชัดเจน หากไม่มีการรับประกัน ผู้ซื้อต้องยอมรับความเสี่ยงในการซ่อมบำรุงเอง
สิ่งสำคัญที่สุดในการซื้อ Nissan Figaro มือสองคือ การตรวจสอบสภาพรถด้วยตนเองหรือให้ผู้เชี่ยวชาญช่วยตรวจสอบ เพื่อประเมินค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุงที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
5. โปรโมชั่นและคำแนะนำการซื้อ
สำหรับ Nissan Figaro ซึ่งเป็นรถยนต์คลาสสิกและไม่ได้มีการจำหน่ายอย่างเป็นทางการแล้วนั้น การหา "โปรโมชั่น" ในรูปแบบเดียวกับรถยนต์ใหม่จึงเป็นเรื่องที่ไม่ปกติ อย่างไรก็ตาม ยังมีโอกาสที่จะได้ราคาที่ดีหรือข้อเสนอที่น่าสนใจผ่านช่องทางเฉพาะ:
- ช่วงเวลาเหมาะสมในการซื้อ: รถคลาสสิกมักไม่ได้มีโปรโมชั่นตามเทศกาล "Double Digit Sale" (เช่น 11.11, 12.12) เหมือนสินค้าทั่วไป แต่บางเต็นท์รถคลาสสิก หรือผู้ขายรายย่อยอาจมีการปรับราคาลงเล็กน้อยในช่วงที่ต้องการเร่งระบายสต็อก หรือเมื่อมีรุ่นใหม่ๆ เข้ามาแทนที่ในคอลเลคชั่นของตนเอง
- การต่อรองราคา: การซื้อรถมือสอง โดยเฉพาะรถคลาสสิก การต่อรองราคามีความสำคัญมาก ผู้ซื้อควรศึกษาข้อมูลราคาตลาดให้ดี เพื่อใช้เป็นข้อมูลในการต่อรอง
- สภาพรถและความคุ้มค่า: แทนที่จะมองหา "โปรโมชั่น" ควรเน้นที่ สภาพรถที่สมบูรณ์และคุ้มค่ากับราคาที่ตั้งไว้ มากกว่า บางครั้งรถที่ตั้งราคาไว้สูงกว่า แต่ได้รับการดูแลรักษาหรือบูรณะมาอย่างดี อาจคุ้มค่ากว่ารถราคาถูกที่ต้องนำมาซ่อมแซมเพิ่มเติมอีกมาก
- การซื้อในช่วงที่มีผู้ปล่อยขายหลายคัน: หากมีช่วงเวลาที่มีผู้สนใจปล่อย Nissan Figaro ในตลาดมือสองหลายคันพร้อมกัน อาจทำให้เกิดการแข่งขันด้านราคาได้บ้าง
คำแนะนำคือ อย่ารีบตัดสินใจซื้อ ควรใช้เวลาในการค้นหา เปรียบเทียบ และตรวจสอบสภาพรถอย่างละเอียด รวมถึงสอบถามข้อมูลจากผู้ขายให้มากที่สุด หากเป็นไปได้ ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านรถคลาสสิกหรือช่างผู้ชำนาญการ Nissan Figaro เพื่อขอคำแนะนำก่อนตัดสินใจ
6. รีวิวและฟีดแบ็กจากผู้ใช้ในไทย
จากฟีดแบ็กและรีวิวของผู้ใช้ Nissan Figaro ในประเทศไทย มักจะสะท้อนถึงความประทับใจในเอกลักษณ์และเสน่ห์เฉพาะตัวของรถคันนี้ โดยมีประเด็นที่คนไทยชื่นชอบเป็นพิเศษดังนี้:
- ดีไซน์ที่เป็นอมตะและน่ารัก: ผู้ใช้งานส่วนใหญ่หลงใหลในรูปลักษณ์ที่โดดเด่น ไม่เหมือนใครของ Figaro ซึ่งทำให้รถคันนี้ดึงดูดสายตาและได้รับคำชมอยู่เสมอ
- ความหายากและคุณค่าในการสะสม: ด้วยจำนวนการผลิตที่จำกัด ทำให้ Figaro กลายเป็นรถที่น่าสะสมและมีมูลค่าเพิ่มขึ้นในตลาด หลายคนซื้อมาเพื่อเป็น "รถของเล่น" หรือ "รถคันที่สอง" สำหรับขับขี่ในโอกาสพิเศษ
- ขับขี่ง่ายในเมือง: แม้จะเป็นรถเก่า แต่ด้วยขนาดที่กะทัดรัดและระบบเกียร์อัตโนมัติ 3 สปีด ทำให้ Figaro ยังคงขับขี่คล่องตัวในสภาพการจราจรในเมืองได้ดี
- ดูแลรักษาง่ายกว่ารถคลาสสิกทั่วไป: เนื่องจากใช้พื้นฐานร่วมกับ Nissan March K10 ทำให้การหาอะไหล่บางชิ้นและงานซ่อมบำรุงไม่ซับซ้อนเท่ารถคลาสสิกที่ซับซ้อนกว่า
- ห้องโดยสารคลาสสิกและมีฟังก์ชันครบครัน: ผู้ใช้หลายคนชื่นชอบการออกแบบภายในที่หรูหรา พร้อมอุปกรณ์ที่จำเป็น เช่น แอร์และเครื่องเล่น CD ซึ่งใช้งานได้จริงแม้จะเป็นรถยุค 90s
อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้งานบางรายก็ให้ข้อสังเกตว่า Nissan Figaro อาจไม่เหมาะกับการเป็นรถคันหลักสำหรับใช้งานทุกวัน เนื่องจากเป็นรถที่มีอายุมาก อะไหล่บางชิ้นอาจหายากหรือมีราคาสูง และต้องมีความรู้พื้นฐานในการดูแลรักษารถคลาสสิกบ้าง นอกจากนี้ การเติมน้ำมันควรเป็นเบนซิน 95 เท่านั้น โดยรวมแล้ว ฟีดแบ็กจากผู้ใช้ในไทยสะท้อนว่า Nissan Figaro คือรถยนต์ที่มอบประสบการณ์การขับขี่ที่แตกต่างและมีสไตล์ เหมาะสำหรับผู้ที่หลงใหลในรถคลาสสิกและพร้อมที่จะดูแลเอาใจใส่
7. ช่องทางการซื้อที่แนะนำ
เนื่องจาก Nissan Figaro เป็นรถยนต์คลาสสิกที่ไม่ได้ผลิตใหม่แล้ว ช่องทางการซื้อจึงเน้นไปที่ตลาดรถยนต์มือสองเป็นหลัก ซึ่งมีหลายช่องทางที่น่าสนใจ:
- แพลตฟอร์มตลาดรถยนต์ออนไลน์ขนาดใหญ่: เว็บไซต์อย่าง One2Car.com และ Chobrod.com เป็นแหล่งรวมรถยนต์มือสองที่ใหญ่ในประเทศไทย มักมีประกาศขาย Nissan Figaro ให้เห็นอยู่บ้าง ข้อดีคือมีตัวเลือกหลากหลาย สามารถเปรียบเทียบราคาและสภาพรถจากผู้ขายหลายรายได้ง่าย แต่ข้อจำกัดคือผู้ซื้อไม่สามารถเห็นรถจริงได้ ต้องอาศัยรูปภาพและข้อมูลที่ผู้ขายให้มาเป็นหลัก ควรติดต่อผู้ขายโดยตรงเพื่อขอข้อมูลเพิ่มเติมและนัดดูรถ
- กลุ่มซื้อขายรถยนต์คลาสสิกใน Facebook: กลุ่มเฉพาะทางเหล่านี้มักเป็นแหล่งรวมตัวของเจ้าของและผู้ที่ชื่นชอบ Nissan Figaro หรือรถคลาสสิกรุ่นอื่นๆ การซื้อผ่านช่องทางนี้อาจได้ราคาที่ดีกว่า หรือได้รถจากเจ้าของโดยตรงที่มีประวัติการดูแลรักษารถอย่างดี ข้อควรระวังคือการตรวจสอบความน่าเชื่อถือของผู้ขาย และควรนัดดูรถจริงพร้อมกับผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจซื้อขาย
- เต็นท์รถยนต์คลาสสิกหรือรถหายาก: ในกรุงเทพฯ และหัวเมืองใหญ่บางแห่ง อาจมีเต็นท์รถที่เชี่ยวชาญในการนำเข้ารถยนต์คลาสสิกหรือรถหายาก ข้อดีคือสามารถไป ดูสภาพรถจริง ทดลองขับ และสอบถามข้อมูลกับผู้ขายได้โดยตรง เต็นท์รถบางแห่งอาจมีการดูแลหรือบูรณะรถมาในระดับหนึ่ง ทำให้รถอยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน แต่ราคาก็อาจจะสูงกว่าการซื้อจากผู้ใช้โดยตรงเล็กน้อย
- เว็บไซต์นำเข้ารถยนต์มือสองจากต่างประเทศ: เช่น Goo-net Exchange หรือ BE FORWARD เป็นอีกช่องทางหนึ่งสำหรับผู้ที่ต้องการ Figaro จากญี่ปุ่นโดยตรง ซึ่งอาจได้ตัวเลือกที่หลากหลายกว่า แต่มีข้อจำกัดเรื่องค่าใช้จ่ายในการนำเข้า ภาษี และการจดทะเบียนในประเทศไทย ซึ่งอาจสูงและซับซ้อน
สำหรับผู้ที่ไม่มีความรู้เรื่องรถคลาสสิกมากนัก การซื้อจากเต็นท์รถที่มีความน่าเชื่อถือ หรือการนำผู้เชี่ยวชาญไปช่วยตรวจสอบรถ จะเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยที่สุด
8. สรุปความคุ้มค่าและคำแนะนำการซื้อ
โดยสรุปแล้ว Nissan Figaro เป็นรถยนต์คลาสสิกที่มอบความ คุ้มค่าในแง่ของสไตล์ เอกลักษณ์ และคุณค่าในการสะสม มากกว่าจะเป็นเพียงยานพาหนะสำหรับเดินทางทั่วไป เหมาะอย่างยิ่งสำหรับ:
- ผู้ที่ชื่นชอบรถยนต์คลาสสิกและดีไซน์ย้อนยุค: หากคุณหลงใหลในความน่ารัก มีสไตล์ และไม่ต้องการรถที่เหมือนใคร Figaro คือตัวเลือกที่สมบูรณ์แบบ
- ผู้ที่ต้องการรถคันที่สองหรือรถสำหรับขับเล่น: Figaro เหมาะกับการเป็น "รถของเล่น" หรือรถสำหรับขับขี่ในวันหยุดพักผ่อน ไม่ได้เหมาะกับการใช้งานหนักในชีวิตประจำวัน
- นักสะสมหรือผู้ที่มองหารถยนต์ที่มีมูลค่าเพิ่ม: ด้วยจำนวนการผลิตที่จำกัด Figaro มีแนวโน้มที่จะรักษามูลค่าหรือเพิ่มขึ้นในระยะยาว
- ผู้ที่มีความพร้อมในการดูแลรักษารถคลาสสิก: แม้จะดูแลรักษาง่ายกว่ารถคลาสสิกบางรุ่น แต่ก็ยังคงต้องอาศัยความเข้าใจและเอาใจใส่ในการบำรุงรักษา รวมถึงความพร้อมในการหาอะไหล่หากจำเป็น
สำหรับราคาในตลาดมือสองที่อยู่ระหว่าง 600,000 - 1,250,000 บาท ถือว่าสมเหตุสมผลสำหรับรถยนต์ที่มีสถานะเป็นไอคอนและของสะสมเช่นนี้ หากงบประมาณของคุณอยู่ในช่วงนี้ และยอมรับเงื่อนไขของการเป็นเจ้าของรถคลาสสิกได้ Nissan Figaro เป็นรถที่น่าลงทุนอย่างยิ่ง และจะสร้างความสุขให้กับคุณทุกครั้งที่ได้ขับขี่หรือแม้แต่เพียงได้มองมันจอดอยู่เฉยๆ ค่ะ
วิดีโอที่เกี่ยวข้อง
แนะนำสำหรับคุณ
โทรศัพท์ Samsung Galaxy A9s ราคามือสองล่าสุดตอนนี้เท่าไหร่
แหวนทอง 2 กรัม ราคาเท่าไหร่? อัปเดตราคาล่าสุดและลายยอดนิยม
อังกะลุงราวและอังกะลุงเดี่ยว ราคาเท่าไหร่? ซื้อที่ไหนได้มาตรฐาน
น้ำหวานเฮลซ์บลูบอย ราคาเท่าไหร่? ขวดเล็ก ขวดใหญ่ อัปเดตล่าสุด
ปรีแอมป์คาราโอเกะ Proeuro Tech PRE-777USB ราคาล่าสุด เสียงดีไหม
หุ่นยนต์สุนัข Sony Aibo ราคาเท่าไหร่? มีขายในไทยหรือไม่