โทรศัพท์ Huawei Y6II ราคามือสองล่าสุด สภาพดีน่าซื้อไหมตอนนี้

สวัสดีเพื่อนๆ ที่กำลังมองหาสมาร์ทโฟนดีๆ ในงบประมาณที่คุ้มค่าทุกคน วันนี้เราจะมาพูดถึงโทรศัพท์รุ่นหนึ่งที่เคยสร้างชื่อในอดีตและยังคงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจในตลาดมือสอง นั่นก็คือ Huawei Y6II! ถ้าคุณกำลังชั่งใจว่าสมาร์ทโฟนรุ่นนี้ยังน่าซื้ออยู่ไหมในตอนนี้ บทความนี้มีคำตอบให้คุณอย่างแน่นอน พร้อมเจาะลึกทุกประเด็นที่คุณควรรู้ก่อนตัดสินใจซื้อ เตรียมตัวให้พร้อม แล้วไปดูกันเลย!

1. ทำความรู้จัก Huawei Y6II: อดีตดาวเด่นในราคาประหยัด

Huawei Y6II เป็นสมาร์ทโฟนที่เปิดตัวเมื่อปี 2016 โดย หัวเว่ย (Huawei) ซึ่งเป็นแบรนด์เทคโนโลยีระดับโลกจากประเทศจีน ก่อตั้งขึ้นในปี 1987 โดย Ren Zhengfei หัวเว่ยเริ่มต้นจากการเป็นผู้จำหน่ายอุปกรณ์โทรคมนาคม และเติบโตอย่างรวดเร็วจนกลายเป็นหนึ่งในผู้นำด้านเทคโนโลยีและสมาร์ทโฟนระดับโลก แข่งขันกับแบรนด์ใหญ่ๆ อย่าง Apple และ Samsung เลยทีเดียว หัวเว่ยขึ้นชื่อเรื่องการลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนาอย่างมหาศาล ทำให้ผลิตภัณฑ์ของพวกเขามักมาพร้อมนวัตกรรมและคุณภาพที่ดี สำหรับ Huawei Y6II นั้น ถูกวางตำแหน่งให้เป็นสมาร์ทโฟนระดับเริ่มต้นที่เน้นความคุ้มค่าและฟังก์ชันการใช้งานที่ครบครันในราคาที่เข้าถึงง่าย เหมาะสำหรับผู้ใช้งานที่ต้องการสมาร์ทโฟนจอใหญ่ แบตอึด และกล้องถ่ายรูปที่ใช้งานได้ดีในชีวิตประจำวัน

ฟังก์ชันเด่นของ Huawei Y6II คือหน้าจอขนาด 5.5 นิ้ว แบบ IPS LCD ความละเอียด HD (1280x720 พิกเซล) ที่ให้ภาพคมชัดและมุมมองกว้าง มาพร้อมกล้องหลังความละเอียด 13 ล้านพิกเซล และกล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล ซึ่งถือว่าให้ความละเอียดสูงทีเดียวสำหรับสมาร์ทโฟนในยุคนั้น ทำให้ถ่ายภาพเซลฟี่และภาพทั่วไปได้สวยงาม นอกจากนี้ยังรองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด และการเชื่อมต่อ 4G LTE ทำให้ไม่พลาดทุกการสื่อสารและการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ขับเคลื่อนด้วยหน่วยประมวลผล Octa-Core และ RAM 2GB พร้อมหน่วยความจำภายใน 16GB (รองรับ microSD เพิ่มได้สูงสุด 128GB) แม้จะรันระบบปฏิบัติการ Android 6.0 Marshmallow (EMUI 4.1) ซึ่งเป็นเวอร์ชันเก่า แต่ก็ยังสามารถใช้งานแอปพลิเคชันพื้นฐานต่างๆ ได้ดี เหมาะสำหรับนักเรียน นักศึกษา ผู้สูงอายุ หรือผู้ที่มองหาสมาร์ทโฟนเครื่องสำรองที่ราคาไม่แพง แต่ยังคงตอบโจทย์การใช้งานทั่วไปได้อย่างน่าพอใจ

2. ช่วงราคา Huawei Y6II ในตลาดไทย (มือสอง)

เนื่องจาก Huawei Y6II เป็นสมาร์ทโฟนที่เปิดตัวมานานแล้ว จึงไม่มีการวางจำหน่ายเป็นเครื่องใหม่จากร้านค้าปลีกหลักๆ อย่าง JIB, Banana IT หรือ Power Buy แล้วในปัจจุบัน การซื้อ Huawei Y6II ในปีนี้จึงเป็นการมองหาใน ตลาดมือสอง เป็นหลัก ซึ่งราคาจะมีความหลากหลายและขึ้นอยู่กับสภาพของเครื่องเป็นสำคัญ

จากข้อมูลในตลาดมือสองออนไลน์ในไทย ราคาของ Huawei Y6II สภาพดีในปัจจุบันจะอยู่ประมาณ 900 - 1,500 บาท (฿) โดยประมาณ ซึ่งถือเป็นราคาที่จับต้องได้ง่ายมากๆ เมื่อเทียบกับประสิทธิภาพการใช้งานที่ยังคงพอไปได้ ตัวอย่างเช่น บนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซยอดนิยมอย่าง Lazada และ Shopee คุณสามารถค้นหาร้านค้าที่นำเครื่องมือสองมาจำหน่ายได้ โดยราคาจะแตกต่างกันไปตามสภาพภายนอก ความสมบูรณ์ของฟังก์ชัน และอุปกรณ์เสริมที่แถมมาด้วย นอกจากนี้ ในเว็บไซต์ซื้อขายสินค้ามือสองอย่าง Kaidee หรือกลุ่มซื้อขายโทรศัพท์มือถือมือสองใน Facebook ก็เป็นอีกช่องทางหนึ่งที่มักจะพบ Huawei Y6II ในราคาที่น่าสนใจ

ในบางกรณีอาจพบผู้ขายที่เสนอราคาต่ำกว่า 900 บาทสำหรับเครื่องที่มีตำหนิหรือสภาพใช้งาน แต่โดยรวมแล้ว ราคาในช่วง 900-1,500 บาท มักจะเป็นราคาของเครื่องที่อยู่ในสภาพดี พร้อมใช้งาน.

3. เปรียบเทียบราคากับสมาร์ทโฟนใกล้เคียง

เมื่อเทียบกับสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ๆ ในตลาดปัจจุบันที่มักจะมีราคาเริ่มต้นหลายพันบาท หรือแม้กระทั่งสมาร์ทโฟนระดับเริ่มต้นจากแบรนด์อื่นๆ ที่ราคาอาจจะยังอยู่ที่ 2,000-3,000 บาทขึ้นไป การเลือกซื้อ Huawei Y6II มือสอง ในช่วงราคาประมาณ 900 - 1,500 บาท ถือว่าได้ ความคุ้มค่าด้านราคาที่โดดเด่น อย่างชัดเจน หากงบประมาณเป็นปัจจัยสำคัญที่สุด Huawei Y6II จะมอบฟังก์ชันการใช้งานพื้นฐานที่จำเป็นครบครัน ในราคาที่ถูกกว่าสมาร์ทโฟนมือหนึ่งรุ่นใหม่ๆ ที่มีสเปกใกล้เคียงกันถึงเท่าตัวหรือมากกว่า

สมาร์ทโฟนในเรทราคาใกล้เคียงกัน (มือสอง) อาจจะเป็นรุ่นเก่าๆ จากแบรนด์อื่น เช่น Samsung Galaxy J Series หรือ Vivo/Oppo รุ่นเริ่มต้นเก่าๆ ซึ่ง Huawei Y6II ยังคงโดดเด่นในเรื่องของกล้องหน้า-หลังที่ให้ความละเอียดค่อนข้างดี (13MP/8MP) และหน้าจอขนาด 5.5 นิ้วที่ใหญ่เต็มตาในสมัยนั้น เมื่อเทียบกับคู่แข่งในระดับราคาเดียวกันที่อาจมีกล้องความละเอียดต่ำกว่าหรือจอที่เล็กกว่า ทำให้ Huawei Y6II ยังคงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่เน้นการใช้งานทั่วไปและคุณภาพกล้องพอใช้ในงบที่จำกัดมากๆ

4. อุปกรณ์เสริมและบริการที่มาพร้อมเครื่อง (มือสอง)

การซื้อ Huawei Y6II มือสอง สิ่งสำคัญที่ต้องตรวจสอบคือสิ่งที่ผู้ขายจะมอบให้พร้อมกับตัวเครื่อง ซึ่งมักจะแตกต่างกันไปในแต่ละรายการ โดยทั่วไปแล้วสิ่งที่อาจจะได้รับคือ:

• ตัวเครื่องโทรศัพท์: ตรวจสอบสภาพภายนอก รอยขีดข่วน รอยบุบ ปุ่มกดต่างๆ ว่ายังใช้งานได้ดีหรือไม่
• แบตเตอรี่: อาจจะเป็นแบตเตอรี่เดิมที่เสื่อมสภาพตามการใช้งาน หรือบางร้านอาจมีการเปลี่ยนแบตเตอรี่ใหม่ให้ (ควรสอบถาม)
• สายชาร์จและอะแดปเตอร์: บางครั้งผู้ขายอาจจะแถมมาให้ หรืออาจจะต้องซื้อแยกเอง
• กล่องและคู่มือ: ส่วนใหญ่มักจะไม่เหลือแล้ว แต่ถ้าได้มาด้วยก็ถือเป็นข้อดี
• ของแถมอื่นๆ: อาจมีเคส ฟิล์มกันรอย หรือหูฟังแถมมาให้ ขึ้นอยู่กับผู้ขาย

ในส่วนของ ค่าจัดส่ง หากซื้อผ่านแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ มักจะมีค่าจัดส่งเพิ่มเติม ยกเว้นร้านค้าจะมีโปรโมชั่นจัดส่งฟรี

สำหรับเรื่อง การรับประกัน นี่คือจุดที่คนไทยให้ความสำคัญเป็นพิเศษ! โทรศัพท์มือสอง โดยส่วนใหญ่จะไม่มีประกันศูนย์ แล้ว แต่ร้านค้าบางแห่งที่ขายมือสองอาจมี "ประกันร้าน" ให้ เช่น 7 วัน หรือ 30 วัน เพื่อให้ผู้ซื้อมีเวลาทดสอบเครื่อง หากพบปัญหาสามารถเคลมได้ การซื้อจากผู้ใช้งานโดยตรงมักจะไม่มีการรับประกันใดๆ ดังนั้นควรตรวจสอบสภาพเครื่องอย่างละเอียดก่อนตัดสินใจซื้อ

5. โปรโมชั่นและคำแนะนำการซื้อ

แม้จะเป็นโทรศัพท์มือสอง แต่ก็ยังมีโอกาสได้ราคาที่ดีขึ้นในช่วง โปรโมชั่น โดยเฉพาะบนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซอย่าง Lazada และ Shopee ซึ่งมักจะจัดแคมเปญลดราคาครั้งใหญ่ในช่วงเทศกาลต่างๆ ตลอดทั้งปี เช่น โปรโมชั่น Double Digit Sale (เลขเบิ้ล) อย่าง 9.9, 10.10, 11.11, 12.12 รวมถึงเทศกาลสำคัญของไทยอย่าง สงกรานต์ หรือ ปีใหม่ ในช่วงเหล่านี้ ร้านค้าที่จำหน่ายโทรศัพท์มือสองอาจเข้าร่วมโปรโมชั่นด้วยการลดราคาเพิ่มเติม หรือมีการแจกโค้ดส่วนลดและคูปองส่งฟรี ทำให้ได้ราคาที่คุ้มค่ายิ่งขึ้น

คำแนะนำการซื้อ: หากคุณไม่รีบใช้งานมากนัก การรอช่วงโปรโมชั่นใหญ่ๆ ของแพลตฟอร์มเหล่านี้จะช่วยให้คุณประหยัดเงินได้อีกเล็กน้อย ควรหมั่นเข้าไปเช็คหน้าร้านค้า หรือตั้งการแจ้งเตือนสำหรับสินค้าที่คุณสนใจ เพื่อไม่ให้พลาดดีลเด็ด นอกจากนี้ ควรอ่านรีวิวจากผู้ซื้อคนอื่นๆ ของร้านนั้นๆ เพื่อดูความน่าเชื่อถือและคุณภาพของสินค้าที่เคยจำหน่ายไปก่อนหน้า

6. รีวิวและฟีดแบ็กจากผู้ใช้ในไทย

จากการสำรวจความคิดเห็นและรีวิวจากผู้ใช้งานชาวไทยเกี่ยวกับ Huawei Y6II พบว่ามีฟีดแบ็กในเชิงบวกหลายด้าน โดยเฉพาะในเรื่องของ ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา จุดเด่นที่ผู้ใช้ไทยมักกล่าวถึงมีดังนี้:

• แบตเตอรี่อึด: หลายคนชื่นชอบที่แบตเตอรี่ 3000 mAh (บางข้อมูล 3100 mAh) ยังคงใช้งานได้นานพอสมควรสำหรับการใช้งานทั่วไปในแต่ละวัน
• กล้องถ่ายภาพดีเกินคาด: ทั้งกล้องหน้า 8MP และกล้องหลัง 13MP ให้ภาพถ่ายที่สวยงามและคมชัดในระดับที่น่าพอใจสำหรับสมาร์ทโฟนในเรทราคานี้ โดยเฉพาะการถ่ายเซลฟี่
• หน้าจอใหญ่เต็มตา: ขนาด 5.5 นิ้วที่ให้ความละเอียด HD ทำให้การรับชมคอนเทนต์ต่างๆ ทำได้อย่างสบายตา
• ดีไซน์สวยงาม งานประกอบแน่นหนา: ผู้ใช้หลายคนประทับใจดีไซน์ที่ดูเรียบหรู และวัสดุที่ดูดีพร้อมลวดลายเมทัลลิกบนฝาหลัง ทำให้การจับถือถนัดมือ
• ความลื่นไหลในการใช้งาน: แม้จะเป็นเครื่องที่ออกมานานแล้ว แต่ยังคงสามารถใช้งานแอปพลิเคชันพื้นฐานทั่วไปได้อย่างลื่นไหลพอสมควร ไม่พบอาการค้างหรือกระตุกบ่อยนัก
• รองรับ 2 ซิมและ 4G: เป็นฟังก์ชันพื้นฐานที่ผู้ใช้ไทยชื่นชอบ ทำให้สะดวกในการใช้งานหลายเบอร์หรือใช้ดาต้าจากเครือข่ายที่หลากหลาย

โดยรวมแล้ว ผู้ใช้งานในไทยมองว่า Huawei Y6II เป็นสมาร์ทโฟนที่ คุ้มค่า สำหรับผู้ที่ต้องการฟังก์ชันครบครันในราคาประหยัด เน้นการใช้งานทั่วไป โทรเข้า-ออก เล่นโซเชียลมีเดีย ถ่ายรูปเล็กน้อย ถือว่าตอบโจทย์ได้ดีเยี่ยม

7. ช่องทางการซื้อที่แนะนำ

สำหรับการซื้อ Huawei Y6II มือสอง ในปัจจุบัน ช่องทางที่แนะนำและสะดวกที่สุดคือ:

• แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซขนาดใหญ่: เช่น Shopee และ Lazada
  • เหตุผลที่แนะนำ: เป็นแหล่งรวมร้านค้าและผู้ขายรายย่อยจำนวนมาก ทำให้มีตัวเลือกหลากหลาย สามารถเปรียบเทียบราคาได้ง่าย มีระบบการชำระเงินที่ปลอดภัย และมักจะมีโปรโมชั่นหรือโค้ดส่วนลดต่างๆ ให้ใช้บ่อยครั้ง
  • คำแนะนำ: ควรอ่านรีวิวจากลูกค้าที่เคยซื้อกับร้านนั้นๆ อย่างละเอียด ตรวจสอบคะแนนร้านค้า และสอบถามรายละเอียดสินค้าจากผู้ขายให้แน่ใจก่อนตัดสินใจซื้อ
• เว็บไซต์ซื้อขายสินค้ามือสอง: เช่น Kaidee หรือกลุ่มซื้อขายโทรศัพท์มือถือมือสองบน Facebook
  • เหตุผลที่แนะนำ: เป็นช่องทางที่ผู้ใช้งานโดยตรงนำมาประกาศขาย อาจได้ราคาที่ดีกว่า หรือมีโอกาสต่อรองได้โดยตรง สามารถพูดคุยสอบถามรายละเอียดและขอดูรูปภาพเพิ่มเติมได้
  • คำแนะนำ: หากเป็นไปได้ ควรนัดรับสินค้าเพื่อตรวจสอบสภาพเครื่องจริงก่อนชำระเงิน เพื่อความปลอดภัยและมั่นใจในคุณภาพสินค้า
• ร้านโทรศัพท์มือสองโดยเฉพาะ: ในบางพื้นที่ โดยเฉพาะในกรุงเทพฯ หรือตามหัวเมืองใหญ่ อาจมีร้านที่รับซื้อขายโทรศัพท์มือสองโดยตรง
  • เหตุผลที่แนะนำ: สามารถไปดูเครื่องจริง ลองจับ ลองเล่น และสอบถามข้อมูลจากพนักงานได้โดยตรง ทำให้มั่นใจในคุณภาพมากขึ้น
  • ข้อสังเกต: ราคามักจะสูงกว่าการซื้อขายผ่านช่องทางออนไลน์เล็กน้อย เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานของร้านค้า

เนื่องจากเป็นรุ่นเก่า จึงไม่สามารถหาซื้อได้จากร้านค้าปลีกอย่างเป็นทางการของ Huawei หรือร้านค้าไอทีชั้นนำในห้างสรรพสินค้าแล้ว

8. สรุปความคุ้มค่าและคำแนะนำการซื้อ

สรุปแล้ว Huawei Y6II ยังคงเป็นสมาร์ทโฟนมือสองที่ น่าซื้อมาก ในปีนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณมีงบประมาณที่จำกัดมากๆ และต้องการสมาร์ทโฟนที่ยังคงตอบโจทย์การใช้งานพื้นฐานได้ครบถ้วนในราคาที่คุ้มค่าสูงสุด

Huawei Y6II เหมาะสำหรับใคร?

• ผู้มีงบประมาณจำกัด: ต้องการสมาร์ทโฟนที่ราคาไม่เกิน 1,500 บาท
• ผู้ที่ต้องการเครื่องสำรอง: สำหรับใช้งานทั่วไป หรือเป็นเครื่องที่สอง
• นักเรียน/นักศึกษา: ที่ต้องการสมาร์ทโฟนสำหรับเรียนออนไลน์ เล่นโซเชียล หรือความบันเทิงพื้นฐาน
• ผู้สูงอายุ: ที่ต้องการสมาร์ทโฟนจอใหญ่ ใช้งานง่าย โทรเข้า-ออก เล่นไลน์ ดู YouTube
• ผู้ที่เน้นการใช้งานโทรศัพท์ ถ่ายรูปทั่วไป และโซเชียลมีเดีย: โดยไม่เน้นการเล่นเกมกราฟิกสูง หรือใช้งานแอปพลิเคชันที่ซับซ้อนมากนัก

ถึงแม้ว่าจะเป็นรุ่นที่ออกมานานแล้ว ฟังก์ชันบางอย่างอาจจะไม่ทันสมัยเท่าสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ๆ เช่น ไม่มีเซ็นเซอร์ลายนิ้วมือ หรือไม่รองรับการชาร์จเร็ว แต่ด้วยราคาในตลาดมือสองที่เข้าถึงง่ายมากๆ และประสิทธิภาพที่ยังคงตอบโจทย์การใช้งานทั่วไปได้อย่างดีเยี่ยม ทั้งหน้าจอใหญ่ กล้องสวย และแบตเตอรี่ที่ยังพอใช้งานได้ ทำให้ Huawei Y6II เป็นตัวเลือกที่ไม่ควรมองข้าม หากคุณกำลังมองหาสมาร์ทโฟน สภาพดีน่าซื้อ ในราคาที่ คุ้มค่า ที่สุดในตอนนี้

หวังว่าข้อมูลเหล่านี้จะเป็นประโยชน์ในการตัดสินใจของคุณนะ!

วิดีโอที่เกี่ยวข้อง

• รีวิว : Huawei Y6ii ราคาไม่เกิน 5000.- แบบโหด
• รีวิว Huawei Y6ii : จอใหญ่ๆ เซลฟี่สวย งานประกอบดีเยี่ยม ในงบ ...
• รีวิว huawei y6ii ปี 2018 มันยังน่าใช้อยู่ไหม?
• เปลี่ยนจอทัชสกรีนสมาร์ทโฟน HUAWEI Y6II Y62 | ป๋าร๊อคฅนทำเพลง
• TH review รีวิว Huawei Y6II สมาร์ทโฟนจอใหญ่ 5.5นิ้ว สุดคุ้ม