รถมอเตอร์ไซค์วิบาก Kawasaki KLX140G ปี 2019 ราคาล่าสุดในตลาดมือสอง


สวัสดีชาวสองล้อสายลุยทุกคน! วันนี้เราจะพาไปเจาะลึกรถมอเตอร์ไซค์วิบากขวัญใจสายฝุ่นอีกหนึ่งรุ่นที่น่าสนใจในตลาดมือสอง นั่นก็คือ Kawasaki KLX140G ปี 2019 นั่นเอง ใครที่กำลังมองหารถวิบากคู่ใจสักคันที่ขี่ง่าย ควบคุมสบาย เหมาะกับการเริ่มต้นลุยเส้นทางออฟโร้ด หรือจะใช้ฝึกฝีมือ บอกเลยว่ารุ่นนี้เป็นตัวเลือกที่ไม่ควรมองข้าม!
1. ทำความรู้จัก Kawasaki KLX140G ปี 2019: พลังสีเขียวสำหรับสายลุย
Kawasaki KLX140G คือรถมอเตอร์ไซค์วิบาก (Dirt Bike) ที่ผลิตโดย Kawasaki แบรนด์จักรยานยนต์ยักษ์ใหญ่จากประเทศญี่ปุ่น ซึ่งมีประวัติยาวนานและเป็นที่รู้จักในวงการรถมอเตอร์ไซค์ทั่วโลก โดยเฉพาะรถสายสมรรถนะสูงและรถวิบากตระกูล KX ที่โด่งดัง (KX คือซีรีส์รถแข่ง Motocross ของคาวาซากิ)
รุ่น KLX140G นี้ถูกออกแบบมาเพื่อเป็นรถสำหรับ การขับขี่แบบเอนดูโร่ (Enduro) และสายเทรล (Trail Riding) โดยเฉพาะ แม้จะมีเครื่องยนต์ขนาด 144 ซีซี 4 จังหวะ 1 สูบ ระบายความร้อนด้วยอากาศ แต่ด้วยน้ำหนักที่เบาเพียงประมาณ 99 กิโลกรัม และการออกแบบที่เน้นความคล่องตัว ทำให้เป็นรถที่ ควบคุมง่าย เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้น ผู้ขี่ที่มีสรีระไม่ใหญ่มาก (หรือผู้หญิง) และวัยรุ่นที่ต้องการก้าวข้ามจากรถเล็กไปสู่รถไซส์ใหญ่ขึ้น จุดเด่นคือการใช้ล้อขนาดใหญ่แบบรถแข่งวิบากจริงจัง โดยล้อหน้าขนาด 21 นิ้ว และล้อหลัง 18 นิ้ว ช่วยให้สามารถลุยผ่านอุปสรรคต่างๆ บนเส้นทางวิบากได้อย่างมั่นใจ
2. ราคา Kawasaki KLX140G ปี 2019 ในตลาดมือสองไทย
สำหรับราคาของ Kawasaki KLX140G ปี 2019 ในตลาดมือสองของประเทศไทยนั้น มีความหลากหลายขึ้นอยู่กับสภาพรถและของแต่ง ที่ติดมาด้วย เนื่องจากเป็นรถที่ไม่ได้เน้นการจดทะเบียนเพื่อวิ่งบนถนนหลวง ทำให้การซื้อขายมักจะอยู่ในกลุ่มผู้เล่นวิบากโดยตรง หรือร้านค้าที่เชี่ยวชาญด้านรถมือสองประเภทนี้
จากการสำรวจข้อมูลในตลาดมือสอง ราคาของ Kawasaki KLX140G ปี 2019 อาจอยู่ในช่วงประมาณ 70,000 - 90,000 บาท (฿) โดยประมาณ อย่างไรก็ตาม บางคันที่มีการปรับแต่งเครื่องยนต์ (เช่น โมโช้ค ลูกสูบ) หรือมีการดูแลรักษาอย่างดี อาจมีราคาสูงกว่านี้เล็กน้อย หากเป็นรถที่สภาพเดิมๆ ไม่ได้โมดิฟายอะไรมาก ก็จะมีราคาที่เข้าถึงได้ง่ายขึ้น
แหล่งที่มักจะพบเห็นการซื้อขายรุ่นนี้คือตาม กลุ่มซื้อขายรถวิบากมือสองใน Facebook, เว็บไซต์ประกาศขายรถมือสองอย่าง Kaidee, หรือร้านขายมอเตอร์ไซค์มือสองเฉพาะทาง สำหรับแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซอย่าง Lazada หรือ Shopee มักจะเน้นขายอะไหล่หรืออุปกรณ์เสริมมากกว่าตัวรถโดยตรง ดังนั้น การซื้อรถวิบากมือสองส่วนใหญ่จึงมักเป็นการติดต่อซื้อขายตรงกับผู้ขายหรือร้านค้าที่เชี่ยวชาญ
3. เปรียบเทียบราคากับรถวิบากรุ่นใกล้เคียง
หากนำ Kawasaki KLX140G ปี 2019 มาเปรียบเทียบกับรถวิบากรุ่นอื่นๆ ที่มีขนาดเครื่องยนต์ใกล้เคียงกันในตลาดมือสอง จะเห็นได้ว่า KLX140G มีจุดยืนที่น่าสนใจ เนื่องจากเป็นรถที่มาพร้อม ล้อขนาดใหญ่ (21/18 นิ้ว) แบบรถวิบากสำหรับผู้ใหญ่ ซึ่งต่างจาก KLX140 รุ่นปกติ (17/14 นิ้ว) หรือ KLX140L (19/16 นิ้ว) ที่เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นหรือเด็กเล็กกว่า
คู่แข่งในตลาดอาจมีเช่น Honda CRF150L หรือ Yamaha WR155R ซึ่งเป็นรถเอนดูโร่ที่สามารถจดทะเบียนได้ และมักจะมีราคามือสองสูงกว่า KLX140G เล็กน้อย (ในกรณีที่เป็นรถปีใกล้เคียงกัน) ในขณะที่ KLX140G ซึ่งเป็นรถ "Playbike" ที่เน้นการใช้งานในสนามหรือทางเทรลโดยเฉพาะ ทำให้ ราคาในตลาดมือสองมักจะย่อมเยากว่า และเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการรถวิบากเพื่อการฝึกฝนหรือการขับขี่แบบลำลอง โดยไม่จำเป็นต้องจดทะเบียนวิ่งบนถนน
นอกจากนี้ หากเทียบกับรถวิบากงานสร้างหรือรถประกอบจากจีนที่มีเครื่องยนต์ 125-150 ซีซี ซึ่งมีราคาถูกกว่ามากในตลาดออนไลน์ KLX140G ของ Kawasaki จะมีความน่าเชื่อถือในด้าน คุณภาพวัสดุ ความทนทาน และประสิทธิภาพของเครื่องยนต์และช่วงล่าง ที่เหนือกว่าอย่างชัดเจน
4. อุปกรณ์เสริมและบริการที่มาพร้อมรถ (ในตลาดมือสอง)
สำหรับการซื้อ Kawasaki KLX140G ปี 2019 ในตลาดมือสอง สิ่งที่ผู้ซื้อจะได้รับมักจะเป็น ตัวรถมอเตอร์ไซค์พร้อมเครื่องยนต์ เป็นหลัก เนื่องจากเป็นรถวิบากที่ไม่ได้ออกแบบมาเพื่อการใช้งานบนถนน จึงมัก ไม่มีอุปกรณ์มาตรฐาน เช่น ไฟหน้า ไฟท้าย กระจกมองข้าง หรือแตร ที่ครบครันเหมือนรถที่จดทะเบียนได้
ในบางกรณี ผู้ขายอาจมีการ แถมของแต่งหรืออะไหล่ที่เปลี่ยนใหม่ เช่น ท่อไอเสียแต่ง แฮนด์ หรือยางใหม่ ซึ่งผู้ซื้อควรสอบถามรายละเอียดให้ชัดเจนก่อนตัดสินใจซื้อ
เรื่อง ค่าขนส่ง โดยส่วนใหญ่แล้วผู้ซื้อจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบเอง หรือต้องไปรับรถด้วยตนเองที่จุดนัดหมาย การจัดส่งรถมอเตอร์ไซค์วิบากมักจะต้องใช้บริการขนส่งเฉพาะทางสำหรับมอเตอร์ไซค์ หรือใช้รถกระบะ/รถพ่วงในการขนย้าย
ที่สำคัญคือ การรับประกัน รถวิบากมือสองโดยทั่วไป จะไม่มีการรับประกันจากศูนย์บริการ แล้ว อย่างไรก็ตาม ร้านค้ามือสองบางแห่งอาจมี การรับประกันเครื่องยนต์ให้ในช่วงระยะเวลาสั้นๆ เช่น 7 วัน หรือ 1 เดือน เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้ซื้อ ซึ่งควรสอบถามรายละเอียดและเงื่อนไขการรับประกันจากผู้ขายโดยตรงเพื่อความสบายใจ
5. โปรโมชั่นและคำแนะนำการซื้อ
ในตลาดรถมอเตอร์ไซค์วิบากมือสองอย่าง Kawasaki KLX140G นั้น โปรโมชั่นใหญ่ๆ เหมือนกับสินค้าเทคโนโลยีบนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ (เช่น 11.11 หรือ 12.12) จะไม่พบเห็นโดยตรง อย่างไรก็ตาม ผู้ขายรายย่อยหรือร้านค้ามือสองอาจมีการ จัดโปรโมชั่นลดราคา หรือเสนอของแถมพิเศษ ในช่วงเทศกาลต่างๆ เช่น ปีใหม่ไทย (สงกรานต์) หรือช่วงที่มีการปรับสต็อก
คำแนะนำในการซื้อคือ ควรรีบตัดสินใจหากเจอรถสภาพดีในราคาที่ถูกใจ เนื่องจากรถวิบากมือสองที่มีสภาพสมบูรณ์และราคาสมเหตุสมผลมักจะถูกขายออกไปอย่างรวดเร็ว การติดตามข่าวสารจากกลุ่มผู้ใช้งานโดยตรง หรือเพจของร้านค้ามือสองที่น่าเชื่อถือ จะช่วยให้ไม่พลาดโอกาสดีๆ
อีกหนึ่งข้อแนะนำคือ การต่อรองราคาเป็นเรื่องปกติในการซื้อขายรถมือสอง หากพิจารณาแล้วว่ารถมีจุดที่ต้องซ่อมบำรุงเพิ่มเติม หรือมีตำหนิเล็กน้อย สามารถใช้เป็นข้อมูลในการขอส่วนลดได้
6. รีวิวและฟีดแบ็กจากผู้ใช้ในไทย
จากรีวิวและฟีดแบ็กของผู้ใช้งาน Kawasaki KLX140G ในประเทศไทย (รวมถึงรุ่น KLX140 ซีรีส์โดยรวม) มีเสียงตอบรับที่ดีในหลายๆ ด้าน โดยเฉพาะในกลุ่มผู้เริ่มต้นและผู้ที่ต้องการรถวิบากสำหรับขับขี่แบบลำลอง หรือเพื่อฝึกทักษะ
- ขี่ง่าย ควบคุมง่าย: นี่คือจุดเด่นที่สำคัญที่สุด ผู้ใช้หลายคนชื่นชมว่า KLX140G มีน้ำหนักเบาและมีความคล่องตัวสูง ทำให้ พลิกเลี้ยวง่าย และควบคุมรถได้มั่นใจ แม้จะเพิ่งเริ่มต้นขี่วิบาก
- กำลังเครื่องยนต์เหมาะสม: แม้จะไม่ได้แรงจัดจ้านเท่ารถแข่งโมโตครอสขนาดใหญ่ แต่เครื่องยนต์ 144 ซีซี ก็ให้ พละกำลังที่เพียงพอต่อการใช้งานบนเส้นทางเทรลและสนามเล็กๆ และมีรอบเครื่องที่นุ่มนวล คาดเดาได้
- ช่วงล่างรองรับดี: ระบบกันสะเทือนหน้าแบบเทเลสโคปิกและหลังแบบ Uni-Trak พร้อมโช้คเดี่ยวปรับระดับได้ ช่วยให้การซับแรงกระแทกเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ การขับขี่บนพื้นผิวขรุขระเป็นไปอย่างสบายตัว
- ระบบเบรกดีเยี่ยม: การใช้ดิสก์เบรกทั้งหน้าและหลัง (ซึ่งเป็นจุดเด่นกว่ารถวิบากรุ่นใกล้เคียงบางรุ่นที่อาจใช้ดรัมเบรกหลัง) ทำให้ การหยุดรถทำได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ เพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่
- อะไหล่หาง่าย: เนื่องจาก KLX140G เป็นรถที่อยู่ในตลาดมานานและมีฐานผู้ใช้พอสมควร ทำให้อะไหล่ทั้งแท้และเทียบหาได้ไม่ยากนัก
โดยรวมแล้ว ผู้ใช้งานในไทยมักจะเน้นย้ำถึง ความคุ้มค่าและความเป็นมิตรกับผู้ขับขี่ ของ KLX140G ในฐานะรถวิบากสำหรับเริ่มต้นและใช้งานทั่วไป
7. ช่องทางการซื้อที่แนะนำ
สำหรับการซื้อ Kawasaki KLX140G ปี 2019 ในตลาดมือสอง ช่องทางที่แนะนำและน่าเชื่อถือมีดังนี้:
- กลุ่มซื้อขายรถวิบากมือสองใน Facebook: นี่คือแหล่งที่ได้รับความนิยมสูงสุด เนื่องจากมีผู้ขายทั้งที่เป็นเจ้าของโดยตรงและร้านค้าย่อยเข้ามาประกาศขายจำนวนมาก ข้อดีคือมีตัวเลือกหลากหลาย สามารถสอบถามรายละเอียดและรูปภาพเพิ่มเติมได้โดยตรง และอาจได้ราคาที่ดีจากการต่อรอง แต่ควรระมัดระวังเรื่องมิจฉาชีพ ควรนัดเจอเพื่อตรวจสอบสภาพรถและเอกสารด้วยตัวเองก่อนชำระเงิน
- เว็บไซต์ประกาศขายรถมือสอง (เช่น Kaidee, Truck2Hand): เป็นแพลตฟอร์มที่มีรถมอเตอร์ไซค์มือสองจำนวนมาก รวมถึงรถวิบากด้วย ผู้ขายมักจะเป็นรายย่อยหรือเต็นท์รถ ซึ่งมีระบบการลงประกาศที่ชัดเจน ช่วยให้เปรียบเทียบข้อมูลได้ง่ายขึ้น
- ร้านมอเตอร์ไซค์มือสองเฉพาะทาง: ในบางจังหวัดหรือพื้นที่ อาจมีร้านที่เชี่ยวชาญการซื้อขายรถมอเตอร์ไซค์วิบากมือสองโดยเฉพาะ การซื้อจากร้านเหล่านี้มักจะมีความน่าเชื่อถือสูงกว่า เพราะสามารถเข้าไปดูรถจริง ลองสตาร์ทเครื่อง และบางร้านอาจมีการรับประกันหลังการขายให้เล็กน้อย รวมถึงดูแลเรื่องเอกสารการโอน (หากมี)
สำหรับช่องทางทางการของ Kawasaki ในประเทศไทย จะเน้นการจำหน่ายรถรุ่นใหม่เป็นหลัก ดังนั้น KLX140G ปี 2019 จึงต้องอาศัยการซื้อขายในตลาดมือสองเป็นหลัก
8. สรุปและคำแนะนำเรื่องราคา
สรุปแล้ว Kawasaki KLX140G ปี 2019 ในตลาดมือสองยังคงเป็น ตัวเลือกที่น่าสนใจและคุ้มค่าอย่างยิ่ง โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่:
- ต้องการเริ่มต้นเข้าสู่วงการขับขี่รถวิบาก หรือกำลังมองหารถสำหรับฝึกทักษะ
- มีงบประมาณจำกัด แต่ต้องการรถที่มีคุณภาพและความน่าเชื่อถือจากแบรนด์ญี่ปุ่น
- มองหารถที่ขี่ง่าย ควบคุมง่าย ไม่หนักหรือแรงจนเกินไป เหมาะกับสรีระที่ไม่ใหญ่มาก หรือวัยรุ่น
- เน้นการใช้งานบนเส้นทางออฟโร้ดหรือในสนาม ไม่ได้ต้องการจดทะเบียนวิ่งบนถนน
ด้วยโครงสร้างที่แข็งแรง เครื่องยนต์ที่ไว้ใจได้ และช่วงล่างที่รองรับการใช้งานแบบออฟโร้ดได้ดี ในช่วงราคาประมาณ 70,000 - 90,000 บาท ถือว่า Kawasaki KLX140G ปี 2019 เป็นรถที่ให้ความคุ้มค่าสูงมาก เมื่อเทียบกับประสิทธิภาพและประสบการณ์การขับขี่ที่จะได้รับ
สำหรับคำแนะนำว่าควรซื้อรุ่นสูงหรือต่ำนั้น หากคุณเป็นผู้เริ่มต้นและต้องการความมั่นใจในการควบคุม KLX140G ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีเยี่ยม เพราะมันถูกออกแบบมาให้เป็นมิตรกับผู้ขับขี่ แต่หากคุณเป็นผู้ที่มีประสบการณ์และต้องการกำลังที่มากขึ้น หรือฟังก์ชันที่ทันสมัยกว่า ก็อาจจะต้องพิจารณารถรุ่นอื่นๆ ในพิกัดที่สูงขึ้นไปอย่าง KLX230 หรือ KLX250 ซึ่งจะมีราคาและค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาที่สูงขึ้นตามไปด้วย
หวังว่าข้อมูลนี้จะเป็นประโยชน์ในการตัดสินใจสำหรับผู้ที่กำลังมองหา Kawasaki KLX140G ปี 2019 มาเป็นเพื่อนร่วมทางสายฝุ่นคันใหม่ ขอให้สนุกกับการขับขี่ครับ!
วิดีโอที่เกี่ยวข้อง
แนะนำสำหรับคุณ
ราคา Johnnie Walker Platinum Label ล่าสุด (อัปเดตปี 2025)
Apple AirPort Time Capsule ราคาเท่าไหร่? คุ้มไหมที่จะซื้อปี 2024?
เหล้า White Label ราคาล่าสุด ขวดละเท่าไหร่? ซื้อที่ไหนถูกสุด?
แหล่งรวม เช่ารถขับเอง กรุงเทพ ราคาถูก: เที่ยวสะดวก ประหยัดงบ
ราคา Peugeot 3008 ในไทย: SUV สไตล์ยุโรป ไม่เหมือนใคร
Vivo V23 5G ราคาเท่าไหร่?: สเปกกล้องหน้าเทพ ถ่ายเซลฟี่สวย