บัตร Kansai Thru Pass ราคาล่าสุดสำหรับท่องเที่ยวโอซาก้า เกียวโต โกเบ


สำหรับนักเดินทางที่ใฝ่ฝันอยากจะสัมผัสเสน่ห์ของภูมิภาคคันไซ ไม่ว่าจะเป็นเมืองที่มีชีวิตชีวาอย่างโอซาก้า เมืองหลวงเก่าเปี่ยมวัฒนธรรมอย่างเกียวโต หรือเมืองท่าสวยงามอย่างโกเบ การเดินทางที่สะดวกสบายและคุ้มค่าคือหัวใจสำคัญ และบัตรโดยสารที่หลายคนนึกถึงเป็นอันดับแรก ๆ ก็คือ Kansai Thru Pass ที่เคยเป็นที่รู้จักกันดีในหมู่นักท่องเที่ยวชาวไทย ซึ่งปัจจุบันได้มีการปรับปรุงและเปลี่ยนชื่อเป็น Kansai Railway Pass แล้ว แต่ยังคงมอบความสะดวกสบายในการเดินทางท่องเที่ยวได้อย่างทั่วถึง มาร่วมเจาะลึกไปกับบัตรโดยสารยอดนิยมใบนี้กันเลย!
1. Kansai Railway Pass คืออะไรกันนะ?
Kansai Railway Pass หรือที่รู้จักกันในชื่อเดิมว่า Kansai Thru Pass คือบัตรโดยสารแบบเหมาจ่ายที่ออกแบบมาเป็นพิเศษสำหรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เดินทางมาญี่ปุ่นในระยะสั้น เพื่อให้สามารถเดินทางได้อย่างไม่จำกัดบนรถไฟใต้ดิน รถไฟสายส่วนตัว และรถรางส่วนใหญ่ในภูมิภาคคันไซ บัตรนี้ครอบคลุมพื้นที่กว้างขวางในเมืองท่องเที่ยวยอดนิยม ไม่ว่าจะเป็นโอซาก้า เกียวโต โกเบ นารา วากายามะ และโคยะซัง แตกต่างจากบัตรโดยสารรถไฟ JR ตรงที่บัตรนี้มุ่งเน้นเส้นทางของบริษัทรถไฟเอกชน ซึ่งมักจะเป็นทางเลือกที่สะดวกและครอบคลุมการเดินทางภายในเมืองใหญ่ ๆ ของคันไซได้เป็นอย่างดี
แบรนด์เบื้องหลังบัตรนี้คือ Surutto Kansai ซึ่งเป็นผู้ให้บริการด้านการขนส่งสาธารณะขนาดใหญ่ในภูมิภาคคันไซ มีประวัติอันยาวนานในการอำนวยความสะดวกให้กับการเดินทางของทั้งคนท้องถิ่นและนักท่องเที่ยว บัตรนี้จึงเป็นเสมือนกุญแจสำคัญที่จะเปิดประตูให้คุณสำรวจแหล่งท่องเที่ยวสำคัญได้อย่างอิสระ ไม่ต้องกังวลเรื่องการซื้อตั๋วทีละเที่ยว ช่วยให้การเดินทางราบรื่นและประหยัดเวลาได้อย่างมาก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับนักท่องเที่ยวที่วางแผนจะเดินทางข้ามเมืองหลายแห่งในคันไซ และต้องการความยืดหยุ่นในการใช้งาน เนื่องจากสามารถใช้ได้แบบไม่ต่อเนื่องกันตามจำนวนวันที่เลือก (เช่น ใช้ในวันจันทร์ พุธ และศุกร์ได้ สำหรับบัตร 3 วัน)
2. ราคา Kansai Railway Pass ในตลาดไทยเป็นอย่างไรบ้าง?
สำหรับราคาของ Kansai Railway Pass (ซึ่งเป็นบัตรเวอร์ชันใหม่หลังปี 2024 ที่พัฒนามาจาก Kansai Thru Pass) จะมีให้เลือก 2 ประเภท คือแบบ 2 วัน และ 3 วัน โดยราคาอย่างเป็นทางการในประเทศญี่ปุ่นจะอยู่ที่:
- บัตร Kansai Railway Pass แบบ 2 วัน:
- สำหรับผู้ใหญ่: 5,600 เยน
- สำหรับเด็ก (อายุ 6-11 ปี): 2,800 เยน
- บัตร Kansai Railway Pass แบบ 3 วัน:
- สำหรับผู้ใหญ่: 7,000 เยน
- สำหรับเด็ก (อายุ 6-11 ปี): 3,500 เยน
เมื่อแปลงเป็นเงินบาทไทย (฿) ราคาอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับอัตราแลกเปลี่ยน ณ วันที่ซื้อ โดยประมาณการราคาในตลาดไทยผ่านแพลตฟอร์มการท่องเที่ยวออนไลน์ยอดนิยม เช่น Klook, KKday, Traveloka มักจะเริ่มต้นประมาณ 1,300 - 1,600 บาท สำหรับบัตร 2 วัน และประมาณ 1,700 - 2,100 บาท สำหรับบัตร 3 วัน ซึ่งบางครั้งราคาในแพลตฟอร์มเหล่านี้อาจมีการปรับเปลี่ยนเล็กน้อยหรือมีโปรโมชั่นพิเศษที่ทำให้ราคาถูกลงกว่าการซื้อที่ญี่ปุ่นเล็กน้อย ทั้งนี้ ควรตรวจสอบราคาล่าสุดจากแพลตฟอร์มที่คุณสนใจก่อนตัดสินใจซื้อ
สำหรับแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซอย่าง Lazada หรือ Shopee อาจมีผู้ขายรายย่อยนำบัตร E-voucher มาจำหน่ายเช่นกัน แต่ควรตรวจสอบความน่าเชื่อถือของผู้ขายและเงื่อนไขการใช้งานให้ละเอียดก่อนซื้อเสมอ
3. เปรียบเทียบราคากับบัตรโดยสารประเภทเดียวกัน
เมื่อพูดถึงบัตรโดยสารในภูมิภาคคันไซ นอกจาก Kansai Railway Pass แล้ว ยังมีบัตรอื่น ๆ ที่น่าสนใจ ซึ่งแต่ละบัตรก็มีจุดเด่นและข้อจำกัดที่แตกต่างกันไป การเปรียบเทียบจะช่วยให้คุณเลือกบัตรที่คุ้มค่าที่สุดสำหรับการเดินทางของคุณ
- Kansai Railway Pass (เดิม Kansai Thru Pass):
- ราคา: ผู้ใหญ่ 5,600 เยน (2 วัน), 7,000 เยน (3 วัน)
- จุดเด่น: ใช้ได้กับรถไฟใต้ดิน รถไฟเอกชนส่วนใหญ่ (ยกเว้น JR) ในวงกว้าง ครอบคลุมหลายเมือง (โอซาก้า เกียวโต โกเบ นารา) และ สามารถใช้แบบไม่ต่อเนื่องวันได้ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเดินทางข้ามเมืองบ่อยครั้งโดยไม่ใช้รถไฟ JR
- ข้อจำกัด: ไม่รวมรถบัสและรถไฟบางสาย เช่น Randen (Keifuku Railway) แล้ว ซึ่งอาจทำให้การเดินทางในบางเมือง เช่น เกียวโต ต้องซื้อตั๋วรถบัสเพิ่ม
- JR West Kansai Area Pass:
- ราคา: มีหลายแบบ 1-4 วัน ราคาจะแตกต่างกันไป (เช่น 1 วัน ประมาณ 2,800 เยน, 4 วัน ประมาณ 7,000 เยน)
- จุดเด่น: ครอบคลุมรถไฟและรถบัสในเครือ JR ซึ่งเหมาะสำหรับการเดินทาง ระหว่างเมือง ที่อยู่บนเส้นทาง JR เช่น จากโอซาก้าไปเกียวโต หรือโกเบ
- ข้อจำกัด: ต้องใช้แบบต่อเนื่องวัน และไม่ครอบคลุมรถไฟใต้ดินหรือรถไฟเอกชน ซึ่งเป็นเส้นทางหลักในการเดินทางภายในเมืองส่วนใหญ่
- Osaka Amazing Pass:
- ราคา: 2,800 เยน (1 วัน), 3,600 เยน (2 วัน)
- จุดเด่น: เน้นการเดินทางในโอซาก้าเป็นหลัก พร้อมสิทธิพิเศษเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวฟรี กว่า 50 แห่ง และส่วนลดมากมาย เหมาะสำหรับผู้ที่เน้นเที่ยวในโอซาก้าแบบจัดเต็ม
- ข้อจำกัด: ใช้ได้เฉพาะในโอซาก้า และต้องใช้แบบต่อเนื่องวัน หากจะเดินทางไปเมืองอื่น ๆ จะไม่ครอบคลุม
โดยรวมแล้ว Kansai Railway Pass จะมีความคุ้มค่าสูงสำหรับผู้ที่วางแผนจะเดินทางข้ามเมืองในภูมิภาคคันไซหลายแห่ง และต้องการความยืดหยุ่นในการใช้งานแบบไม่ต่อเนื่องวัน ในขณะที่ JR Pass เหมาะกับผู้ที่เน้นเส้นทาง JR และ Osaka Amazing Pass เหมาะกับผู้ที่เน้นเที่ยวเฉพาะในโอซาก้าแบบเต็มที่พร้อมเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยว
4. สิ่งที่มาพร้อมกับบัตรและบริการ
เมื่อคุณซื้อ Kansai Railway Pass สิ่งที่คุณจะได้รับหลัก ๆ คือ บัตรโดยสารจริง (Physical Pass) ที่สามารถใช้สอดเข้าช่องตรวจตั๋วของรถไฟและรถไฟฟ้าใต้ดินได้ทันที สิ่งที่รวมมากับบัตร ได้แก่:
- การเดินทางไม่จำกัด: สามารถใช้โดยสารรถไฟใต้ดิน รถไฟสายส่วนตัว (ที่ไม่ใช่ JR) ได้อย่างไม่จำกัดจำนวนครั้งภายในระยะเวลาที่กำหนด (2 หรือ 3 วัน) ครอบคลุมพื้นที่โอซาก้า เกียวโต โกเบ นารา วากายามะ และโคยะซัง
- ส่วนลดและสิทธิพิเศษ: บัตรนี้ยังมาพร้อมกับสิทธิพิเศษและส่วนลดมากมายที่ร้านค้าและสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญกว่า 260-350 แห่งทั่วภูมิภาคคันไซ ซึ่งสามารถตรวจสอบรายละเอียดได้จากคู่มือที่มาพร้อมกับบัตร หรือบนเว็บไซต์ทางการของ Kansai Railway Pass
- แผนที่เส้นทาง: โดยทั่วไปแล้ว บัตรจะมาพร้อมกับแผนที่เส้นทางรถไฟและรถไฟฟ้าที่ครอบคลุมการใช้งานของพาส ช่วยให้คุณวางแผนการเดินทางได้ง่ายขึ้น
สำหรับเรื่อง ค่าจัดส่ง หากซื้อบัตรผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ในประเทศไทย เช่น Klook หรือ KKday โดยส่วนใหญ่จะเป็น E-Voucher ที่ส่งให้ทางอีเมลหรือแอปพลิเคชัน จากนั้นคุณจะต้องนำ E-Voucher พร้อมหนังสือเดินทางไปแลกรับบัตรจริงที่จุดแลกรับที่กำหนดไว้ในญี่ปุ่น (เช่น สนามบินคันไซ สถานีรถไฟหลัก หรือศูนย์ข้อมูลนักท่องเที่ยว) จึงจะไม่มีค่าจัดส่งบัตรจริงมายังประเทศไทย
ในด้าน การรับประกัน เนื่องจากเป็นบัตรโดยสาร การรับประกันจะไม่เหมือนสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ แต่หากบัตรมีปัญหา (เช่น แถบแม่เหล็กเสียหาย) คุณสามารถนำไปที่ห้องจำหน่ายตั๋วของสถานีหลักเพื่อขอออกบัตรใหม่ได้ อย่างไรก็ตาม หากบัตรสูญหายหรือไม่สามารถใช้งานได้เนื่องจากความประมาทเลินเล่อส่วนบุคคล อาจไม่สามารถขอคืนเงินหรือออกบัตรใหม่ได้ ซึ่งเป็นข้อควรระวังสำคัญสำหรับผู้ใช้งาน
5. โปรโมชั่นและคำแนะนำการซื้อ
การซื้อ Kansai Railway Pass (หรือ Kansai Thru Pass เดิม) ให้ได้ราคาที่คุ้มค่าที่สุดมักจะอยู่ในช่วงเวลาโปรโมชั่นพิเศษต่าง ๆ ซึ่งผู้ขายบัตรท่องเที่ยวออนไลน์มักจะจัดขึ้นเป็นประจำ
- ช่วงเทศกาลลดราคาใหญ่: แพลตฟอร์มยอดนิยมอย่าง Klook, KKday, Traveloka มักจะจัดโปรโมชั่นลดราคาพิเศษในช่วงเทศกาลช้อปปิ้งใหญ่ ๆ เช่น 11.11, 12.12 หรือช่วงเทศกาลท่องเที่ยวสำคัญของไทยอย่าง สงกรานต์ และ ปีใหม่ การติดตามข่าวสารจากแพลตฟอร์มเหล่านี้อย่างใกล้ชิดจะช่วยให้คุณไม่พลาดดีลดี ๆ
- ส่วนลดโค้ดส่วนลด: นอกจากโปรโมชั่นโดยตรงแล้ว แพลตฟอร์มเหล่านี้ยังมักมีโค้ดส่วนลดเพิ่มเติมที่สามารถนำไปใช้ได้อีก ซึ่งบางครั้งเป็นโค้ดเฉพาะสำหรับผู้ใช้ใหม่ หรือโค้ดที่ให้ส่วนลดสำหรับการซื้อสินค้าหมวดหมู่การเดินทางโดยเฉพาะ
- การซื้อล่วงหน้า: โดยทั่วไปแล้ว การซื้อ Kansai Railway Pass ล่วงหน้าผ่านตัวแทนจำหน่ายในต่างประเทศ (เช่น แพลตฟอร์มออนไลน์) มักจะได้ราคาที่ถูกกว่าการไปซื้อที่ญี่ปุ่นโดยตรงเล็กน้อย
คำแนะนำในการซื้อ: หากคุณมีแผนการเดินทางที่แน่นอนแล้ว การซื้อบัตรล่วงหน้าในช่วงที่มีโปรโมชั่นถือเป็นทางเลือกที่คุ้มค่าที่สุด อย่างไรก็ตาม ควรตรวจสอบเงื่อนไขการยกเลิกหรือเปลี่ยนแปลงให้ดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากแผนการเดินทางยังไม่แน่นอน เพื่อป้องกันปัญหาในภายหลัง นอกจากนี้ ควรเปรียบเทียบราคาจากหลาย ๆ แพลตฟอร์ม เพื่อให้แน่ใจว่าคุณได้รับข้อเสนอที่ดีที่สุด
6. รีวิวและฟีดแบ็กจากผู้ใช้ในไทย
จากประสบการณ์และฟีดแบ็กของผู้ใช้ชาวไทยที่เคยใช้ Kansai Thru Pass (หรือ Kansai Railway Pass ในปัจจุบัน) ส่วนใหญ่ให้การตอบรับที่ดีเยี่ยม โดยมีจุดเด่นที่ตรงใจผู้บริโภคชาวไทยดังนี้:
- ความสะดวกสบายในการเดินทาง: ผู้ใช้หลายคนชื่นชอบความง่ายดายในการเดินทางข้ามเมือง ไม่ต้องเสียเวลาต่อคิวซื้อตั๋วทีละเที่ยว ทำให้ประหยัดเวลาและเพิ่มความยืดหยุ่นในการวางแผนท่องเที่ยวได้อย่างมาก
- ครอบคลุมเส้นทางที่หลากหลาย: บัตรนี้ครอบคลุมรถไฟใต้ดินและรถไฟเอกชนหลัก ๆ ทั่วคันไซ ทำให้สามารถเดินทางไปยังสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในโอซาก้า เกียวโต โกเบ นารา และเมืองอื่น ๆ ได้อย่างทั่วถึง ซึ่งเส้นทางเหล่านี้มักจะเป็นเส้นทางหลักที่นักท่องเที่ยวใช้
- ความคุ้มค่าด้านราคา: หากมีการวางแผนการเดินทางที่ดีและใช้บัตรอย่างสม่ำเสมอ ผู้ใช้หลายคนยืนยันว่าบัตรนี้ช่วยประหยัดค่าเดินทางได้อย่างมากเมื่อเทียบกับการซื้อตั๋วเป็นรายเที่ยว โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากมีการเดินทางระยะไกลระหว่างเมืองบ่อยครั้ง
- ความยืดหยุ่นในการใช้งาน (ไม่ต่อเนื่องวัน): จุดเด่นนี้ได้รับการชื่นชมเป็นพิเศษจากนักท่องเที่ยวไทย เพราะช่วยให้สามารถสลับวันเที่ยวในเมืองหรือไปเที่ยวสวนสนุกอย่าง USJ (ที่ไม่ครอบคลุมพาส) ในวันที่ไม่ใช้บัตรได้ ทำให้วางแผนได้อิสระมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม หลังจากการเปลี่ยนชื่อเป็น Kansai Railway Pass และมีการเปลี่ยนแปลงเรื่องการไม่ครอบคลุมรถบัสแล้ว ผู้ใช้บางรายอาจมีความเห็นว่าความสะดวกสบายในการเดินทางด้วยรถบัสในเมืองเกียวโตลดลง และอาจต้องพิจารณาซื้อบัตรโดยสารรถบัสแยกต่างหากสำหรับบางเส้นทางภายในเมืองนั้น ๆ ดังนั้น การวางแผนเส้นทางและคำนวณค่าใช้จ่ายอย่างละเอียดจึงมีความสำคัญยิ่งขึ้น
7. ช่องทางการซื้อที่แนะนำ
สำหรับการซื้อ Kansai Railway Pass เพื่อเตรียมตัวท่องเที่ยวโอซาก้า เกียวโต โกเบ และเมืองอื่นๆ ในภูมิภาคคันไซ มีช่องทางหลักๆ ที่แนะนำดังนี้:
- แพลตฟอร์มการท่องเที่ยวออนไลน์ขนาดใหญ่:
- Klook, KKday, Traveloka: เป็นช่องทางที่ได้รับความนิยมอย่างมากในหมู่นักท่องเที่ยวชาวไทย ด้วยความสะดวกสบายในการจองล่วงหน้าผ่านเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน คุณจะได้รับ E-Voucher หรือ QR Code ทางอีเมล ซึ่งต้องนำไปแลกรับบัตรจริงที่จุดแลกรับที่กำหนดในประเทศญี่ปุ่น (เช่น สนามบินคันไซ, สถานีรถไฟหลักบางแห่ง) ข้อดีคือมักมีโปรโมชั่นและโค้ดส่วนลดให้ใช้บ่อยครั้ง และมีรีวิวจากผู้ใช้จริงช่วยในการตัดสินใจ
- Lazada / Shopee (ในส่วนของ Travel & Services): แม้จะไม่ใช่ช่องทางหลักเหมือน Klook หรือ KKday แต่บางครั้งก็มีผู้ขายรายย่อยที่นำบัตร Kansai Railway Pass (E-voucher) มาจำหน่ายเช่นกัน การซื้อผ่านช่องทางเหล่านี้ควรตรวจสอบความน่าเชื่อถือของผู้ขาย คะแนนรีวิว และรายละเอียดเงื่อนไขการแลกรับให้ละเอียด
- ช่องทางทางการในประเทศญี่ปุ่น:
- คุณสามารถซื้อบัตรจริงได้โดยตรงที่จุดจำหน่ายหลัก ๆ เมื่อเดินทางถึงญี่ปุ่น เช่น ศูนย์ข้อมูลนักท่องเที่ยวที่สนามบินนานาชาติคันไซ (KIX), สถานีรถไฟสำคัญต่าง ๆ ในโอซาก้า เกียวโต และนารา (เช่น สถานี Umeda, Namba, Shin-Osaka, Kyoto Station Bus Information Center) ข้อดีคือได้บัตรทันที ไม่ต้องรอแลก แต่ราคาอาจสูงกว่าการซื้อล่วงหน้าจากตัวแทนจำหน่ายในต่างประเทศเล็กน้อย
โดยสรุปแล้ว การซื้อผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ยอดนิยมอย่าง Klook หรือ KKday เป็นทางเลือกที่แนะนำสำหรับคนไทย เนื่องจากสะดวก มีโปรโมชั่นบ่อยครั้ง และสามารถจัดการการจองได้ง่ายก่อนออกเดินทาง ส่วนการซื้อที่ญี่ปุ่นเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความยืดหยุ่นในการตัดสินใจซื้อ ณ สถานที่ หรือเดินทางแบบกระทันหัน
8. สรุปความคุ้มค่าและคำแนะนำเรื่องราคา
Kansai Railway Pass (เดิม Kansai Thru Pass) ยังคงเป็นบัตรโดยสารที่น่าสนใจและคุ้มค่าอย่างยิ่งสำหรับนักท่องเที่ยวที่วางแผนจะสำรวจภูมิภาคคันไซแบบเจาะลึก โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่ต้องการเดินทางข้ามเมืองหลายแห่งอย่างโอซาก้า เกียวโต โกเบ นารา โดยไม่ยึดติดกับเส้นทางรถไฟ JR และต้องการความยืดหยุ่นในการใช้บัตรแบบไม่ต่อเนื่องวัน
บัตรนี้คุ้มค่าที่จะซื้อไหม? คำตอบคือ คุ้มค่ามาก หากแผนการเดินทางของคุณครอบคลุมการเดินทางด้วยรถไฟใต้ดินและรถไฟเอกชนหลายครั้งต่อวัน หรือมีการเดินทางข้ามเมืองเป็นประจำในช่วงเวลาที่บัตรครอบคลุม การซื้อบัตรนี้จะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้อย่างเห็นได้ชัดเมื่อเทียบกับการซื้อตั๋วเป็นเที่ยว ๆ
เหมาะกับใคร?
- นักเดินทางที่ชอบความยืดหยุ่น: ผู้ที่ต้องการสลับวันเดินทาง หรือมีแผนแวะพักในแต่ละเมืองโดยไม่จำเป็นต้องใช้บัตรติดต่อกันทุกวัน
- ผู้ที่ต้องการเที่ยวหลายเมืองในคันไซ: ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางจากโอซาก้าไปเกียวโต โกเบ นารา หรือโคยะซัง บัตรนี้ครอบคลุมเส้นทางรถไฟเอกชนและรถไฟใต้ดินหลัก ๆ ได้เป็นอย่างดี
- ผู้ที่ต้องการประหยัดเวลาและลดความยุ่งยาก: ไม่ต้องเสียเวลาต่อคิวซื้อตั๋ว หรือคำนวณค่าโดยสารในแต่ละครั้งที่เดินทาง
- ผู้ที่ต้องการส่วนลดเพิ่มเติม: บัตรมาพร้อมสิทธิพิเศษและส่วนลดที่สถานที่ท่องเที่ยวและร้านค้ามากมาย
ควรซื้อแบบ 2 วัน หรือ 3 วันดี?
- เลือกแบบ 2 วัน: หากคุณมีเวลาท่องเที่ยวในคันไซไม่มากนัก (เช่น 3-4 วัน) และวางแผนจะเน้นเที่ยวในโอซาก้าเป็นหลัก 1-2 วัน แล้วเดินทางไปเกียวโตหรือโกเบอีก 1-2 วัน โดยอาจใช้บัตรนี้สำหรับวันที่มีการเดินทางข้ามเมืองเยอะ ๆ
- เลือกแบบ 3 วัน: หากคุณมีเวลาท่องเที่ยวในคันไซค่อนข้างนาน (5 วันขึ้นไป) และวางแผนจะเดินทางไปยังเมืองต่าง ๆ ในภูมิภาคคันไซหลายแห่ง รวมถึงอาจมีแผนไปถึงนารา โคยะซัง หรือฮิเมจิ ซึ่งการเดินทางระยะไกลเหล่านี้จะช่วยให้คุณใช้บัตรได้คุ้มค่ายิ่งขึ้นไปอีก
ก่อนตัดสินใจซื้อ ควรตรวจสอบแผนการเดินทางของคุณอย่างละเอียด และลองประมาณการค่าใช้จ่ายในการเดินทางแต่ละเที่ยว หากรวมแล้วสูงกว่าราคาบัตร Kansai Railway Pass อย่างมีนัยสำคัญ ก็ถือว่าบัตรนี้เป็นการลงทุนที่คุ้มค่าอย่างแน่นอน ขอให้คุณสนุกกับการเดินทางในภูมิภาคคันไซ!
วิดีโอที่เกี่ยวข้อง
แนะนำสำหรับคุณ
โทรศัพท์ Samsung Galaxy A9s ราคามือสองล่าสุดตอนนี้เท่าไหร่
แหวนทอง 2 กรัม ราคาเท่าไหร่? อัปเดตราคาล่าสุดและลายยอดนิยม
อังกะลุงราวและอังกะลุงเดี่ยว ราคาเท่าไหร่? ซื้อที่ไหนได้มาตรฐาน
น้ำหวานเฮลซ์บลูบอย ราคาเท่าไหร่? ขวดเล็ก ขวดใหญ่ อัปเดตล่าสุด
ปรีแอมป์คาราโอเกะ Proeuro Tech PRE-777USB ราคาล่าสุด เสียงดีไหม
หุ่นยนต์สุนัข Sony Aibo ราคาเท่าไหร่? มีขายในไทยหรือไม่