10 โซดา ยี่ห้อไหนดี ปี 2025 ซ่าถึงใจ ไม่มีแคลอรี

สวัสดีครับเพื่อนๆ สายเครื่องดื่มซ่า ๆ ที่ไม่ต้องการแคลอรี! 👋 ในยุคที่ผู้คนหันมาใส่ใจสุขภาพกันมากขึ้น การเลือกเครื่องดื่มที่ตอบโจทย์ทั้งความอร่อย ความสดชื่น และไม่ทำให้น้ำหนักขึ้น จึงกลายเป็นเรื่องสำคัญ “โซดาไม่มีแคลอรี” หรือเครื่องดื่มน้ำอัดลมไร้น้ำตาล จึงเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันของใครหลายคนมากขึ้นเรื่อยๆ ครับ

แต่ปัญหาคือ... ตอนนี้ในตลาดมีโซดาและเครื่องดื่มน้ำอัดลมไม่มีแคลอรีออกมาเยอะมากกกก หลายยี่ห้อ หลายรสชาติจนเลือกไม่ถูก! จะเลือกยังไงให้ได้รสชาติที่ถูกใจ ซ่าถึงใจ และมั่นใจว่าดีต่อสุขภาพจริง ๆ?

ไม่ต้องห่วงครับ! ในฐานะที่ผมคลุกคลีกับเรื่องเครื่องดื่มและเทรนด์สุขภาพ วันนี้ผมจะมาเป็นกูรูส่วนตัว พาเพื่อนๆ ไปเจาะลึกโลกของโซดาไม่มีแคลอรีในไทย พร้อมแนะนำ 10 ยี่ห้อเด็ดที่น่าจับตามองในปี 2025 นี้ บอกเลยว่าอ่านจบปุ๊บ เลือกซื้อได้ปั๊บ ซ่าถึงใจได้แบบไม่รู้สึกผิดแน่นอน!

ตลาดโซดาและเครื่องดื่มน้ำอัดลมไม่มีน้ำตาลในไทย ฮอตแค่ไหนกันนะ?

บอกเลยว่าตลาดเครื่องดื่มน้ำอัดลม "ไม่มีน้ำตาล" ในไทยช่วงนี้กำลัง มาแรงแซงทางโค้ง! ด้วยปัจจัยหลักอย่าง "ภาษีความหวาน" ที่เริ่มเก็บมาตั้งแต่ปี 2560 และปรับขึ้นเป็นขั้นบันไดมาเรื่อยๆ ทำให้ผู้ผลิตต้องปรับตัว นอกจากนี้ เทรนด์สุขภาพที่คนไทยใส่ใจมากขึ้น โดยเฉพาะหลังสถานการณ์โควิด-19 ทำให้เครื่องดื่ม “No Sugar” เติบโตอย่างก้าวกระโดด

ข้อมูลจากนีลเส็นไอคิวระบุว่าในปี 2565 ตลาดน้ำอัดลมไทยมีมูลค่า 56,000 ล้านบาท และกลุ่ม “ไม่มีน้ำตาล” เติบโตสูงถึง 30% และในปี 2566 ตลาดรวมเติบโต 16% สู่ 62,000 ล้านบาท โดยกลุ่มไม่มีน้ำตาลยังคงเติบโตต่อเนื่องถึงกว่า 30% คาดการณ์ว่าภายใน 5 ปี น้ำอัดลมไม่มีน้ำตาลอาจกินส่วนแบ่งเกือบครึ่งหนึ่งของตลาดน้ำอัดลมรวมเลยทีเดียว

แบรนด์ที่ครองตลาดส่วนใหญ่ยังคงเป็นแบรนด์ยักษ์ใหญ่ระดับโลกเช่น โคคา-โคล่า และเป๊ปซี่โค ที่ต่างก็เร่งผลักดันผลิตภัณฑ์ Zero Sugar ของตนเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง "น้ำดำ" หรือโคล่า ที่ยังคงเป็นหมวดเครื่องดื่มที่ใหญ่ที่สุด และกลุ่มไม่มีน้ำตาลในหมวดนี้ก็ดึงดูดผู้บริโภคได้ดี คนไทยส่วนใหญ่จะเน้นไปที่ รสชาติที่ใกล้เคียงกับสูตรปกติ ความซ่าที่ถึงใจ และแน่นอนว่าต้องไม่มีแคลอรี

แหล่งช้อปปิ้งยอดฮิตก็หนีไม่พ้นแพลตฟอร์มออนไลน์อย่าง Lazada และ Shopee ที่มีโปรโมชั่นเด็ดๆ ออกมาตลอด หรือถ้าใครอยากไปลองชิมก่อนตัดสินใจซื้อ ก็ต้องไปที่ร้านสะดวกซื้ออย่าง 7-Eleven หรือซูเปอร์มาร์เก็ตชั้นนำอย่าง Big C และ Tops ที่มีให้เลือกมากมายเช่นกัน

ปัจจัยสำคัญในการเลือกซื้อโซดาไม่มีแคลอรี

ก่อนจะวิ่งไปช้อป เรามาดูกันก่อนว่ามีปัจจัยอะไรบ้างที่เราต้องพิจารณา เพื่อให้ได้โซดาไม่มีแคลอรีที่เหมาะกับความชอบของเราที่สุดครับ ลองดูตารางนี้เป็นแนวทางได้เลย:

จัดไป! 10 โซดา ยี่ห้อไหนดี ปี 2025 ซ่าถึงใจ ไม่มีแคลอรี!

ถึงช่วงที่ทุกคนรอคอย! ผมคัดมาให้แล้ว 10 ยี่ห้อเด็ดจากหลากหลายประเภทและแบรนด์ ที่เป็นที่นิยมในตลาดไทย และมีสูตรไม่มีแคลอรีให้เลือกครับ ลองพิจารณาตามสไตล์และความต้องการของตัวเองได้เลย!

1. Coca-Cola Zero Sugar (โค้ก ไม่มีน้ำตาล)

เกี่ยวกับแบรนด์: แบรนด์น้ำอัดลมระดับโลกจากสหรัฐอเมริกา ผู้ผลิตเครื่องดื่มโคล่าอันดับหนึ่ง

• สินค้ารุ่นเด่น: โค้ก ไม่มีน้ำตาล (Coca-Cola Zero Sugar) หรือที่รู้จักกันในชื่อโค้กซีโร่ และ โค้ก ไม่มีน้ำตาล กลิ่นต่างๆ (เช่น กลิ่นวานิลลา, กลิ่นไลม์)
• วิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย:
  • ข้อดี: รสชาติใกล้เคียงกับโค้กออริจินัลมากที่สุด หาซื้อง่าย มีรสชาติใหม่ๆ ออกมาสร้างสีสันเสมอ ไม่มีน้ำตาล ไม่มีแคลอรี
  • ข้อเสีย: บางคนอาจรู้สึกว่ารสชาติหวานโดดกว่า Pepsi Max
• เหมาะกับใคร: ผู้ที่ชื่นชอบรสชาติโคล่าแบบดั้งเดิม แต่ต้องการหลีกเลี่ยงน้ำตาลและแคลอรี
• ช่องทางการซื้อ:
  • ออนไลน์: Lazada, Shopee, Central Online
  • ออฟไลน์: 7-Eleven, Big C, Tops, Lotus's และร้านค้าทั่วไป
• ช่วงราคา: ประมาณ 15 - 20 บาท (สำหรับกระป๋อง/ขวดเล็ก)
• รีวิวผู้ใช้งาน: "รสชาติเหมือนโค้กปกติเลยค่ะ ดื่มได้ไม่รู้สึกผิด!" "มีกลิ่นแปลกใหม่มาเรื่อยๆ ไม่เบื่อดี"

2. Pepsi Max Taste (เป๊ปซี่ แมกซ์ เทสต์)

เกี่ยวกับแบรนด์: แบรนด์น้ำอัดลมระดับโลกอีกหนึ่งเจ้าจากสหรัฐอเมริกา คู่แข่งสำคัญของโค้กในตลาดโคล่า

• สินค้ารุ่นเด่น: เป๊ปซี่ แมกซ์ เทสต์ (Pepsi Max Taste) และ เป๊ปซี่ รสมะนาว ไม่มีน้ำตาล
• วิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย:
  • ข้อดี: ให้รสชาติโคล่าที่ออกเปรี้ยวเล็กน้อย ซึ่งหลายคนชอบ ความซ่าถึงใจ มีส่วนแบ่งตลาดน้ำอัดลมไม่มีน้ำตาลสูง
  • ข้อเสีย: บางคนอาจไม่ชอบรสที่ออกเปรี้ยว หรือรู้สึกว่ารสชาติไม่เข้มข้นเท่าโค้ก
• เหมาะกับใคร: ผู้ที่ชอบรสชาติโคล่าที่มีมิติความเปรี้ยวผสมอยู่ด้วย หรือต้องการเครื่องดื่มที่ซ่าถึงใจ
• ช่องทางการซื้อ:
  • ออนไลน์: Lazada, Shopee, Central Online
  • ออฟไลน์: 7-Eleven, Big C, Tops, Lotus's และร้านค้าทั่วไป
• ช่วงราคา: ประมาณ 15 - 20 บาท (สำหรับกระป๋อง/ขวดเล็ก)
• รีวิวผู้ใช้งาน: "ชอบ Pepsi Max มากกว่า โค้กซีโร่ เพราะมันมีรสเปรี้ยวอมหวานลงตัวดี" "ซ่าสะใจมาก ดื่มแล้วสดชื่นสุดๆ"

3. Singha Soda (โซดาสิงห์)

เกี่ยวกับแบรนด์: แบรนด์โซดาและเครื่องดื่มจากประเทศไทย เป็นที่รู้จักมายาวนานในเรื่องความซ่า

• สินค้ารุ่นเด่น: โซดาสิงห์ (Singha Soda) ทั้งแบบขวดและกระป๋อง
• วิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย:
  • ข้อดี: ซ่าจัด ฟองละเอียดและคงความซ่าได้นาน รสนุ่มนวลไม่บาดคอ เหมาะสำหรับนำไปผสมเครื่องดื่มต่างๆ เป็นแบรนด์ไทยที่หาซื้อง่าย ราคาไม่แพง
  • ข้อเสีย: เป็นโซดาเปล่า ไม่มีรสชาติ หากไม่ชอบดื่มเพียวๆ ต้องนำไปผสม
• เหมาะกับใคร: ผู้ที่ต้องการโซดาสำหรับผสมเครื่องดื่ม ไม่ว่าจะน้ำหวาน น้ำผลไม้ หรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และผู้ที่ชื่นชอบความซ่าแบบจัดเต็ม
• ช่องทางการซื้อ:
  • ออนไลน์: Lazada, Shopee (มีแบบยกแพ็ค)
  • ออฟไลน์: 7-Eleven, Big C, Tops, Lotus's และร้านค้าทั่วไป
• ช่วงราคา: ประมาณ 8 - 10 บาท (สำหรับขวดเล็ก)
• รีวิวผู้ใช้งาน: "สิงห์คือโซดาอันดับหนึ่งในใจ ซ่าไม่หายจริงๆ" "เอาไปผสมอะไรก็อร่อย ไม่เสียรสชาติ"

4. Singha Lemon Soda (สิงห์ เลมอนโซดา)

เกี่ยวกับแบรนด์: แบรนด์ลูกจากสิงห์ ที่เน้นเครื่องดื่มโซดากลิ่นผลไม้ไม่มีน้ำตาล

• สินค้ารุ่นเด่น: สิงห์ เลมอนโซดา, สิงห์ ยูซุ เลมอนโซดา, สิงห์ เรดเลมอนโซดา, สิงห์ พิงก์เลมอนโซดา
• วิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย:
  • ข้อดี: รสชาติเปรี้ยวหวานลงตัว สดชื่น มีหลากหลายกลิ่นให้เลือก ไม่มีน้ำตาล ไม่มีแคลอรี หาซื้อง่าย สะดวกดื่ม
  • ข้อเสีย: บางรสชาติอาจมีความหวานจากสารให้ความหวานเด่นชัดไปบ้างสำหรับบางคน
• เหมาะกับใคร: ผู้ที่มองหาเครื่องดื่มโซดามีรสชาติที่ดื่มง่าย ไม่ต้องการผสมเอง และใส่ใจสุขภาพ
• ช่องทางการซื้อ:
  • ออนไลน์: Singha Online, Lazada, Shopee
  • ออฟไลน์: 7-Eleven, Lotus's, Makro และร้านค้าชั้นนำทั่วประเทศ
• ช่วงราคา: ประมาณ 17 - 20 บาท (สำหรับกระป๋อง)
• รีวิวผู้ใช้งาน: "สิงห์เลมอนโซดาอร่อยทุกรสเลยค่ะ ดื่มแล้วสดชื่น ไม่รู้สึกผิด" "ชอบรสยูซุมาก หอมสดชื่นเป็นพิเศษ"

5. Schweppes Mixer Soda (ชเวปส์ มิกเซอร์ โซดา)

เกี่ยวกับแบรนด์: แบรนด์เครื่องดื่มมิกเซอร์และน้ำอัดลมจากอังกฤษ

• สินค้ารุ่นเด่น: ชเวปส์ มิกเซอร์ โซดา (Schweppes Mixer Soda) และ ชเวปส์น้ำอัดลมโซดา รสชาติต่างๆ เช่น บลูเบอร์รี่และเลมอน
• วิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย:
  • ข้อดี: ฟองซ่าแบบนุ่มละมุน ไม่บาดคอ มีทั้งแบบโซดาเปล่าและโซดาแต่งกลิ่นรส หาซื้อง่ายในรูปแบบกระป๋อง
  • ข้อเสีย: ความซ่าอาจจะไม่จัดจ้านเท่าโซดาแบรนด์ไทยบางยี่ห้อ
• เหมาะกับใคร: ผู้ที่ชอบโซดาที่มีความซ่าแบบนุ่มนวล สามารถดื่มได้เพียวๆ หรือนำไปผสมเครื่องดื่ม
• ช่องทางการซื้อ:
  • ออนไลน์: Lazada, Shopee
  • ออฟไลน์: 7-Eleven, Big C, Tops, Lotus's และร้านค้าทั่วไป
• ช่วงราคา: ประมาณ 15 - 20 บาท (สำหรับกระป๋อง)
• รีวิวผู้ใช้งาน: "ชเวปส์ซ่ากำลังดี ไม่แรงไป เหมาะกับการดื่มเรื่อยๆ" "รสบลูเบอร์รี่เลมอนอร่อยมากค่ะ"

6. Rock Mountain Soda (โซดาร็อค เมาเท็น)

เกี่ยวกับแบรนด์: แบรนด์โซดาจากไทยเบฟ (ในเครือเดียวกับเบียร์ช้าง)

• สินค้ารุ่นเด่น: โซดาร็อค เมาเท็น (Rock Mountain Soda)
• วิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย:
  • ข้อดี: ฟองละเอียด ให้ความซ่าที่ยาวนานด้วยเทคโนโลยี Cold Infusion ราคาประหยัด หาซื้อง่าย
  • ข้อเสีย: บางคนอาจรู้สึกว่าความซ่าไม่จัดจ้านเท่าสิงห์
• เหมาะกับใคร: ผู้ที่มองหาโซดาคุณภาพดีในราคาประหยัด สำหรับนำไปผสมเครื่องดื่ม หรือดื่มเพียวๆ
• ช่องทางการซื้อ:
  • ออนไลน์: Lazada, Shopee
  • ออฟไลน์: 7-Eleven, Big C, Tops, Lotus's และร้านค้าทั่วไป
• ช่วงราคา: ประมาณ 7 - 9 บาท (สำหรับขวดเล็ก)
• รีวิวผู้ใช้งาน: "ใช้ Rock Mountain ผสมกับน้ำผลไม้ ซ่าดีเลยค่ะ ราคาถูกด้วย" "ฟองละเอียดจริง ไม่บาดคอ"

7. OOHA (อู-ฮ่า)

เกี่ยวกับแบรนด์: แบรนด์น้องใหม่จากกลุ่มโคคา-โคล่า เน้นเครื่องดื่มโซดากลิ่นผลไม้ไม่มีน้ำตาล เจาะกลุ่ม Gen Z

• สินค้ารุ่นเด่น: อู-ฮ่า โซดากลิ่นลิ้นจี่และโยเกิร์ต, อู-ฮ่า โซดากลิ่นเลมอนผสมซีซอล์ท
• วิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย:
  • ข้อดี: รสชาติแปลกใหม่และน่าสนใจ ไม่มีน้ำตาล ไม่มีแคลอรี ดีไซน์กระป๋องดูทันสมัย
  • ข้อเสีย: เป็นแบรนด์ค่อนข้างใหม่ อาจจะยังไม่มีรสชาติให้เลือกมากเท่าแบรนด์อื่น
• เหมาะกับใคร: ผู้ที่ชอบลองเครื่องดื่มรสชาติแปลกใหม่ ไม่จำเจ และผู้ที่อยู่ในกลุ่ม Gen Z
• ช่องทางการซื้อ:
  • ออนไลน์: Lazada, Shopee
  • ออฟไลน์: 7-Eleven เป็นหลัก และซูเปอร์มาร์เก็ตบางแห่ง
• ช่วงราคา: ประมาณ 16 - 20 บาท (สำหรับกระป๋อง)
• รีวิวผู้ใช้งาน: "รสลิ้นจี่โยเกิร์ตหอมอร่อย ไม่เหมือนใครเลย" "ซ่ากำลังดี แถมไม่มีน้ำตาลด้วย"

8. Chang Soda (โซดาช้าง)

เกี่ยวกับแบรนด์: แบรนด์โซดาจากประเทศไทย ในเครือไทยเบฟ เป็นที่คุ้นเคยในตลาดเครื่องดื่ม

• สินค้ารุ่นเด่น: โซดาช้าง (Chang Soda) ทั้งแบบขวดและกระป๋อง
• วิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย:
  • ข้อดี: รสสัมผัสที่ใส ไม่มีกลิ่น ไม่มีความขมฝาด ให้ความซ่ากับฟองเนียนละเอียด เหมาะสำหรับผสมเครื่องดื่ม ราคาประหยัด
  • ข้อเสีย: ในอดีตเคยถูกมองว่าซ่าน้อยกว่าสิงห์ แต่ปัจจุบันพัฒนาดีขึ้น บางพื้นที่อาจหาซื้อแบบขวดได้ยากขึ้น (มี Rock Mountain มาแทนที่ในบางช่องทาง)
• เหมาะกับใคร: ผู้ที่ต้องการโซดาคุณภาพดีในราคาเข้าถึงง่าย สำหรับการผสมเครื่องดื่ม หรือดื่มเพื่อความสดชื่น
• ช่องทางการซื้อ:
  • ออนไลน์: Lazada, Shopee
  • ออฟไลน์: 7-Eleven, Big C, Tops, Lotus's และร้านค้าทั่วไป
• ช่วงราคา: ประมาณ 7 - 9 บาท (สำหรับขวดเล็ก)
• รีวิวผู้ใช้งาน: "โซดาช้างซ่าดีนะ ไม่ได้แย่อย่างที่คิด" "ราคาถูกดี เอาไว้ชงเหล้าอร่อยเลย"

9. 7UP Free / Lemon Soda No Sugar (เซเว่นอัพ ฟรี / เลมอนโซดา ไม่มีน้ำตาล)

เกี่ยวกับแบรนด์: แบรนด์น้ำอัดลมกลิ่นมะนาว-มะนาวจากสหรัฐอเมริกา ในเครือ Suntory PepsiCo

• สินค้ารุ่นเด่น: 7UP Free (ไม่มีน้ำตาล), 7UP Lemon Soda No Sugar, 7UP Pineapple Peach Soda Zero Sugar
• วิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย:
  • ข้อดี: รสชาติเลมอน-ไลม์ที่คุ้นเคย หอมสดชื่น มีรสชาติผลไม้ผสมผสานแบบใหม่ๆ ไม่มีน้ำตาล ไม่มีแคลอรี
  • ข้อเสีย: อาจหาซื้อรสชาติพิเศษบางรสได้ยากกว่ารสออริจินัลไม่มีน้ำตาล
• เหมาะกับใคร: ผู้ที่ชื่นชอบเครื่องดื่มกลิ่นเลมอน-ไลม์ที่สดชื่น ต้องการความซ่าแบบเบาๆ และปราศจากน้ำตาล
• ช่องทางการซื้อ:
  • ออนไลน์: Lazada, Shopee
  • ออฟไลน์: 7-Eleven, Big C, Tops, Lotus's และซูเปอร์มาร์เก็ตทั่วไป
• ช่วงราคา: ประมาณ 16 - 20 บาท (สำหรับกระป๋อง)
• รีวิวผู้ใช้งาน: "เซเว่นอัพฟรีรสชาติกำลังดีค่ะ ไม่หวานบาดคอ" "รสสับปะรดพีชหอมมาก ไม่คิดว่าจะมีแบบไม่มีน้ำตาล"

10. Sprite No Sugar (สไปรท์ ไม่มีน้ำตาล)

เกี่ยวกับแบรนด์: แบรนด์น้ำอัดลมกลิ่นมะนาว-มะนาวจากสหรัฐอเมริกา ในเครือโคคา-โคล่า

• สินค้ารุ่นเด่น: สไปรท์ ไม่มีน้ำตาล (Sprite No Sugar) หรือ สไปรท์ พลัส
• วิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย:
  • ข้อดี: รสชาติเปรี้ยวจี๊ด ซ่าถึงใจ ให้ความสดชื่น ไม่มีน้ำตาล ไม่มีแคลอรี บางรุ่นมีวิตามิน B3 สูง
  • ข้อเสีย: บางคนอาจรู้สึกว่ารสชาติเปรี้ยวโดดเกินไปหากไม่ชอบความเปรี้ยว
• เหมาะกับใคร: ผู้ที่ชื่นชอบเครื่องดื่มรสเลมอน-ไลม์ที่เปรี้ยวจี๊ดจ๊าดและซ่าจัดเต็ม ต้องการความสดชื่นแบบไร้น้ำตาล
• ช่องทางการซื้อ:
  • ออนไลน์: Lazada, Shopee, Central Online
  • ออฟไลน์: 7-Eleven, Big C, Tops, Lotus's และร้านค้าทั่วไป
• ช่วงราคา: ประมาณ 15 - 20 บาท (สำหรับกระป๋อง/ขวดเล็ก)
• รีวิวผู้ใช้งาน: "สไปรท์ไม่มีน้ำตาลซ่ามากค่ะ ดื่มแล้วตื่นเลย" "รสชาติเหมือนสไปรท์ปกติเลย แต่ไม่ต้องกังวลเรื่องน้ำตาล"

คำถามที่พบบ่อย (FAQ) สไตล์คนไทย!

Q: โซดาไม่มีแคลอรีกับน้ำอัดลมไม่มีน้ำตาลต่างกันยังไง?
A: "โซดาไม่มีแคลอรี" มักจะหมายถึง "โซดาเปล่า" (Soda Water) ที่เป็นน้ำอัดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์โดยไม่มีการปรุงแต่งรสชาติหรือเพิ่มสารให้ความหวานใดๆ ซึ่งจะไม่มีแคลอรีโดยธรรมชาติ ส่วน "น้ำอัดลมไม่มีน้ำตาล" หมายถึงเครื่องดื่มน้ำอัดลมที่มีการแต่งกลิ่น แต่งรส และใช้สารให้ความหวานทดแทนน้ำตาล (เช่น แอสปาร์แตม, ซูคราโลส, หญ้าหวาน) เพื่อให้มีรสหวานแต่ไม่มีแคลอรีหรือมีน้อยมาก

Q: ดื่มโซดาไม่มีแคลอรี หรือน้ำอัดลมไม่มีน้ำตาลบ่อยๆ เป็นอันตรายไหม?
A: โดยทั่วไปการดื่มในปริมาณที่เหมาะสม เช่น 1 กระป๋องต่อวัน ถือว่าปลอดภัยสำหรับคนทั่วไป อย่างไรก็ตาม แม้จะไม่มีน้ำตาลและแคลอรี แต่สารให้ความหวานบางชนิดอาจมีผลต่อสุขภาพในระยะยาวหากบริโภคมากเกินไป เช่น อาจส่งผลต่อจุลินทรีย์ในลำไส้ หรือทำให้บางคนปวดศีรษะได้ และอาจทำให้ติดนิสัยชอบรสหวาน ซึ่งอาจนำไปสู่การบริโภคอาหารที่มีพลังงานสูงมากขึ้นโดยไม่รู้ตัว ควรดื่มในปริมาณที่พอเหมาะ และผู้ป่วยเบาหวานหรือผู้ที่มีข้อจำกัดทางสุขภาพควรปรึกษาแพทย์

Q: โซดายี่ห้อไหนซ่าที่สุดในตลาดไทย?
A: จากการรีวิวและประสบการณ์ของผู้ใช้งานในไทย โซดาสิงห์ มักจะถูกยกให้เป็นอันดับต้นๆ ในเรื่องความซ่าที่จัดจ้านและคงอยู่ได้นาน รองลงมาคือ Rock Mountain และช้าง ที่ก็ให้ความซ่าที่ดีเช่นกัน

Q: สารให้ความหวานในโซดาไม่มีแคลอรีมีอะไรบ้าง และปลอดภัยไหม?
A: สารให้ความหวานที่นิยมใช้และได้รับการรับรองความปลอดภัยจาก อย. หรือ FDA ได้แก่ แอสปาร์แตม (Aspartame), ซูคราโลส (Sucralose), อะซีซัลเฟม-เค (Acesulfame K), สตีวิออลไกลโคไซด์ (สารสกัดจากหญ้าหวาน) และน้ำตาลหล่อฮังก้วย (Luo han guo) สารเหล่านี้ให้ความหวานสูงกว่าน้ำตาลหลายเท่าตัว ทำให้ใช้ในปริมาณน้อยมากและไม่ให้พลังงาน อย่างไรก็ตาม ควรบริโภคตามปริมาณที่แนะนำ และอ่านฉลากสินค้าเพื่อตรวจสอบชนิดของสารให้ความหวานที่ใช้

สรุปส่งท้าย เลือกโซดาไม่มีแคลอรีให้ใช่ ในสไตล์เรา!

เห็นไหมครับว่าโซดาและเครื่องดื่มน้ำอัดลมไม่มีแคลอรีมีตัวเลือกเยอะแยะเต็มไปหมด! การจะเลือกรุ่นที่ใช่ ก็ต้องเริ่มจากถามตัวเองก่อนว่า เราจะเอาไปทำอะไร? และเน้นรสชาติแบบไหนเป็นพิเศษ?

• ถ้า ชอบรสชาติโคล่าแบบดั้งเดิม แต่ไม่อยากได้น้ำตาล แนะนำ Coca-Cola Zero Sugar หรือ Pepsi Max Taste ครับ
• ถ้า เน้นความซ่าจัดจ้าน สำหรับผสมเครื่องดื่ม หรือดื่มเพียวๆ ต้อง Singha Soda หรือ Rock Mountain Soda เลยครับ
• ถ้าเป็น สายเครื่องดื่มมีรสชาติ ดื่มง่าย ไม่ต้องการผสมเอง แนะนำ Singha Lemon Soda, OOHA, 7UP Lemon Soda No Sugar หรือ Sprite No Sugar ครับ
• ถ้าชอบ ความซ่านุ่มนวล และมีกลิ่นหอม แนะนำ Schweppes Mixer Soda ครับ

สิ่งสำคัญอีกอย่างคือ อย่าลืมเช็ค ข้อมูลโภชนาการและชนิดของสารให้ความหวาน บนฉลากสินค้าเสมอ และระวังของปลอม หรือร้านค้าที่ไม่น่าเชื่อถือหากซื้อผ่านช่องทางออนไลน์ และที่สำคัญ! ในช่วงเทศกาลหรือโปรโมชั่นใหญ่ๆ บน Lazada Shopee หรือใน 7-Eleven มักจะมีดีลเด็ดๆ ออกมาให้ช้อปกันแบบจัดเต็ม อย่าพลาดเชียวล่ะ! 😉

มาเมาท์มอยกันหน่อย! แชร์ประสบการณ์หน่อยจ้า!

เพื่อนๆ คนไหนกำลังดื่มโซดาหรือน้ำอัดลมไม่มีแคลอรีรุ่นไหนอยู่บ้าง? เป็นยังไง เล่าสู่กันฟังหน่อยสิครับ! ชอบตรงไหน ไม่ชอบตรงไหน หรือมีรุ่นไหนอยากแนะนำเพิ่มเติม คอมเมนต์มาคุยกันได้เลยนะ! 👇

ถ้าใครถูกใจบทความนี้ อยากให้กำลังใจ หรืออยากได้พิกัดร้าน/ลิงก์โปรโมชั่นดีๆ รบกวนพิมพ์คำว่า "จัดลิงก์มาเลย!" เดี๋ยวผมรวบรวมให้เป็นพิเศษเลยจ้าาา! แล้วเจอกันใหม่บทความหน้า สวัสดีครับ! 👋

วิดีโอที่เกี่ยวข้อง

• 10 อันดับ โซดา ยี่ห้อไหนดี 2023
• ลืมภาพจำโฆษณาแบบเดิมๆไปได้เลยย ขอยกให้เป็นโฆษณายุคใหม่ ...
• ของแท้ที่สดชื่นกับ Singha Lemon Soda
• ความสดชื่นที่แตกต่างกับ Singha Lemon Soda
• ริวิวน้ำโซดา...ยี่ห้อไหนอร่อยที่สุด?