รีวิวเจาะลึก Honda HR-V 2020 รถ SUV อเนกประสงค์ ยังน่าใช้งานอยู่ไหม

หากคุณกำลังมองหารถ SUV ขนาดกะทัดรัดที่ยังคงความอเนกประสงค์ คุ้มค่า และน่าใช้งานในปี 2025 นี้ Honda HR-V 2020 ยังคงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจอยู่หรือไม่? แม้จะเป็นรถมือสองไปแล้ว แต่ด้วยดีไซน์ที่ยังคงทันสมัย ฟังก์ชันการใช้งานที่ครบครัน และชื่อชั้นของ Honda ทำให้หลายคนยังคงมองหา บทความนี้จะพาคุณไปเจาะลึกทุกแง่มุมของ Honda HR-V 2020 เพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจได้ว่า รถคันนี้ยังตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคุณอยู่หรือเปล่า!

1. ภาพรวมผลิตภัณฑ์: รู้จัก Honda HR-V 2020 ก่อนตัดสินใจ

แบรนด์: Honda
รุ่น: HR-V (เจเนอเรชันแรก รุ่นปรับโฉมปี 2020 หรือ RU Series)
ปีที่วางขาย: รุ่นปี 2020 เป็นส่วนหนึ่งของเจเนอเรชันแรกที่ได้รับการปรับโฉมในช่วงปลายปี 2018 และวางจำหน่ายต่อเนื่องมา
ช่วงราคา (ปัจจุบันสำหรับรถมือสอง): ราคาผันผวนขึ้นอยู่กับสภาพและรุ่นย่อย ณ ปัจจุบัน สำหรับรุ่น RS 1.8AT มือสองอาจมีราคาเริ่มต้นที่ประมาณ 615,000 บาท (สำหรับไฟแนนซ์)

การวางตำแหน่งสินค้า: Honda HR-V 2020 จัดอยู่ในกลุ่มรถยนต์ SUV ขนาดเล็ก หรือ Compact Crossover ที่เน้นความอเนกประสงค์ เหมาะสำหรับการขับขี่ในเมือง และตอบโจทย์การใช้งานของครอบครัวขนาดเล็กถึงกลาง ด้วยขนาดที่กำลังพอดีและการปรับพื้นที่ใช้สอยที่ยืดหยุ่น

จุดเด่นหลัก:

• พื้นที่ภายในที่ยืดหยุ่นด้วยเบาะนั่งปรับพับได้หลากหลายรูปแบบ (Magic Seats) ทำให้ขนของได้สะดวกและมีพื้นที่เก็บสัมภาระกว้างขวาง
• ประหยัดน้ำมันได้ดีในกลุ่มรถ SUV ขนาดใกล้เคียง ด้วยเครื่องยนต์ 1.8 ลิตร i-VTEC และเกียร์ CVT
• ดีไซน์ภายนอกยังคงดูสปอร์ต ทันสมัย มีเส้นสายที่โฉบเฉี่ยวคล้ายรถคูเป้
• ระบบความปลอดภัยที่ครบครัน เช่น ถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง, ระบบ VSA, HSA, Honda LaneWatch และระบบ City Brake Active System (CBAS) ในรุ่นท็อป
• ขับขี่คล่องตัว เหมาะกับการใช้งานในเมือง

2. ดีไซน์ & รูปลักษณ์ภายนอก: ยังคงความโดดเด่นไม่แพ้ใคร

ดีไซน์ของ Honda HR-V 2020 แม้จะเป็นรุ่นปรับโฉมของเจเนอเรชันแรก แต่ก็ยังคงความทันสมัยและสปอร์ต ด้วยกระจังหน้าโครเมียมรมดำที่เป็นเอกลักษณ์ ไฟหน้าแบบ LED พร้อมไฟ Daytime Running Lights (DRL) และไฟท้าย LED ดีไซน์โฉบเฉี่ยว การออกแบบที่ซ่อนมือจับประตูหลังไว้ที่เสา C ทำให้ตัวรถดูคล้ายรถคูเป้มากขึ้น เพิ่มความสปอร์ตให้กับภาพรวม

วัสดุที่ใช้: ตัวถังใช้เหล็กที่มีความแข็งแรงสูง (Ultra-High-Strength Steel) ในหลายส่วน ช่วยเสริมความแข็งแกร่งและความปลอดภัย ในรุ่น RS จะมีชุดแต่งภายนอกสีดำที่บริเวณชายล่างของตัวรถเพิ่มความดุดัน

ขนาดและน้ำหนัก: Honda HR-V 2020 มีมิติความยาวประมาณ 4,294-4,360 มม. ความกว้างประมาณ 1,772-1,790 มม. ความสูงประมาณ 1,605 มม. และระยะฐานล้อ 2,610 มม. น้ำหนักตัวรถอยู่ในช่วง 1,269-1,328 กก. ซึ่งถือเป็นขนาดที่กำลังดีสำหรับการขับขี่ในเมืองและการเดินทาง

สีที่มีให้เลือก: สำหรับภายใน ในรุ่น RS ของไทยมีตัวเลือกภายในสีแดงสปอร์ต (Oxblood Red) ตัดกับสีดำ ซึ่งเพิ่มความหรูหราและแตกต่างอย่างชัดเจน.

3. ประสบการณ์ในการใช้งานฟังก์ชันหลัก: แรงพอตัว ประหยัดน้ำมัน

อัตราเร่งและสมรรถนะ: Honda HR-V 2020 มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.8 ลิตร SOHC i-VTEC ให้กำลังสูงสุด 141-142 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 172 นิวตันเมตร ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ CVT ซึ่งเน้นความนุ่มนวลและต่อเนื่องในการขับขี่ การขับขี่โดยรวมมีความราบรื่น และเน้นไปที่การประหยัดน้ำมัน ในรุ่น RS ยังมาพร้อมแป้นเปลี่ยนเกียร์ (Paddle Shift) และระบบพวงมาลัยแบบ Variable Gear Ratio (VGR) ที่ช่วยให้การควบคุมที่ความเร็วต่ำและสูงมีความแตกต่างกันเพื่อความคล่องตัว

การประหยัดน้ำมัน: HR-V 2020 ถือว่าทำได้ดีในกลุ่มรถยนต์ประเภทเดียวกัน โดยมีอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเฉลี่ยประมาณ 15 กิโลเมตรต่อลิตร หรือในการใช้งานจริงบางรีวิวทำได้ถึง 7-8 ลิตร/100 กิโลเมตร (ประมาณ 12.5-14.2 กม./ลิตร) ซึ่งถือว่าน่าพอใจสำหรับเครื่องยนต์ 1.8 ลิตร

ระบบต่างๆ และฟังก์ชันอำนวยความสะดวก:

• ระบบ Infotainment: มาพร้อมหน้าจอสัมผัสขนาด 7.0 นิ้ว (ในรุ่น RS) รองรับ Bluetooth, USB, HDMI และมีระบบนำทาง Navigator พร้อมลำโพง 6 ตำแหน่ง
• ระบบความปลอดภัย: จัดเต็มด้วยระบบเบรก ABS/EBD, ระบบควบคุมการทรงตัว VSA (Vehicle Stability Assist), ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HSA (Hill-Start Assist), กล้องมองภาพด้านหลังปรับมุมมอง 3 ระดับ, ระบบแสดงภาพมุมอับสายตา Honda LaneWatch, ถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง, และระบบเตือนการชนและช่วยเบรกที่ความเร็วต่ำ CBAS (City Brake Active System). นอกจากนี้ยังได้รับคะแนนความปลอดภัย 5 ดาวจาก ANCAP
• ฟังก์ชันอำนวยความสะดวก: ปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์, ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ, เบรกมือไฟฟ้าพร้อม Auto Hold, ระบบปัดน้ำฝนอัตโนมัติ, กระจกมองข้างปรับและพับไฟฟ้า, กระจกมองหลังปรับลดแสงอัตโนมัติ, กระจกไฟฟ้า One Touch ขึ้น-ลง (คู่หน้า), เบาะคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง (ในรุ่น RS), และเบาะหลังที่ปรับพับแบบ 60:40 และปรับเอนได้ โดยเฉพาะหลังคา Panoramic Sunroof แบบไฟฟ้าในรุ่น RS ที่ช่วยเพิ่มความโปร่งโล่งให้กับห้องโดยสาร

4. ประสบการณ์การใช้งาน & ความง่ายในการใช้: อเนกประสงค์ ตอบโจทย์ชีวิตจริง

Honda HR-V ขึ้นชื่อเรื่องความอเนกประสงค์ โดยเฉพาะระบบเบาะนั่งด้านหลัง "Magic Seat" ที่สามารถปรับพับได้หลากหลายรูปแบบ ทั้งแบบพับราบ เพิ่มพื้นที่เก็บสัมภาระด้านหลัง หรือพับเบาะรองนั่งขึ้นเพื่อเก็บของสูงในแนวตั้งได้ ทำให้การขนย้ายสัมภาระขนาดใหญ่หรือสิ่งของที่มีรูปร่างแปลกๆ เป็นเรื่องง่าย

• ความง่ายในการใช้งาน: โดยรวมแล้วใช้งานง่าย ไม่ซับซ้อน ปุ่มควบคุมต่างๆ จัดวางในตำแหน่งที่เข้าถึงได้ง่าย ระบบปรับอากาศอัตโนมัติพร้อมแผงควบคุมแบบสัมผัสใช้งานได้สะดวก
• ระบบซอฟต์แวร์: ระบบ Infotainment ตอบสนองได้ดี รองรับการเชื่อมต่อพื้นฐาน แต่มีบางรายงานเกี่ยวกับปัญหาด้านระบบไฟฟ้าเล็กน้อย เช่น ไฟเตือนบนหน้าปัด หน้าจอ Infotainment หรือกล้องมองหลังทำงานผิดปกติ (ซึ่งบางปัญหาอาจมีการเรียกคืนเพื่อแก้ไขแล้ว)
• เสียงรบกวน/ความร้อน: บางรายงานระบุว่าการเก็บเสียงภายในห้องโดยสารอาจทำได้ไม่ดีเท่าที่ควร โดยเฉพาะเสียงจากภายนอกหรือเสียงยางที่อาจเข้ามาได้
• ความสบายในการเดินทาง: ห้องโดยสารมีความกว้างขวาง มีพื้นที่ช่วงไหล่ที่ดี ทำให้ผู้โดยสารนั่งสบาย อย่างไรก็ตาม ข้อสังเกตคือในบางรุ่นอาจไม่มีช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารด้านหลังและไม่มีช่องเสียบ USB ชาร์จไฟสำหรับผู้โดยสารด้านหลัง

5. แบตเตอรี่ / พลังงาน / ความคุ้มค่าในระยะยาว: ยังคุ้มค่าสำหรับรถมือสอง?

สำหรับ Honda HR-V 2020 ที่เป็นเครื่องยนต์เบนซิน ไม่ได้ใช้แบตเตอรี่แบบรถยนต์ไฟฟ้าหรือไฮบริด แต่ใช้พลังงานจากน้ำมันเป็นหลัก โดยมีความจุถังน้ำมัน 50 ลิตร ทำให้สามารถเดินทางได้ไกลประมาณ 758 กิโลเมตรต่อถัง (อิงจากอัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ย)

ค่าใช้จ่ายระยะยาว:

• การบำรุงรักษา: มีรอบการบำรุงรักษาทุก 12 เดือน หรือ 10,000 กิโลเมตร แล้วแต่ระยะใดถึงก่อน ค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาตามระยะของ Honda โดยทั่วไปถือว่าสมเหตุสมผล และมีอะไหล่รองรับในตลาดวงกว้าง
• ปัญหาที่อาจพบ: สำหรับ HR-V 2020 มีรายงานปัญหาทั่วไปที่อาจพบได้ เช่น ปัญหาปั๊มเชื้อเพลิง (มีการเรียกคืน), ปัญหาระบบไฟฟ้า (เช่น กล้องมองหลัง), ปัญหาคุณภาพสีตัวถัง (สีพุพอง ลอก), ปัญหาเกียร์ CVT ที่อาจมีการกระตุก, และปุ่ม Push Start มีปัญหา. บางเจ้าของรถยังรายงานว่าแบตเตอรี่รถยนต์อาจต้องเปลี่ยนเร็วกว่าปกติในช่วงประมาณ 25,000 กิโลเมตร

วิเคราะห์ความคุ้มค่า: ในฐานะรถมือสอง Honda HR-V 2020 ยังคงเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่า ด้วยราคาที่ลดลงจากรถใหม่ ทำให้เข้าถึงได้ง่ายขึ้น คุณยังคงได้รถ SUV ที่มีความอเนกประสงค์สูง ประหยัดน้ำมัน และมีฟังก์ชันความปลอดภัยที่ดีเยี่ยมเมื่อเทียบกับรถในราคาเดียวกัน อย่างไรก็ตาม การตรวจสอบประวัติการซ่อมบำรุงและสภาพรถอย่างละเอียดก่อนซื้อเป็นสิ่งสำคัญเพื่อลดความเสี่ยงจากปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้.

6. ข้อดี-ข้อเสีย: วิเคราะห์แบบกลางๆ

ข้อดี:

• ความอเนกประสงค์เหนือชั้น: เบาะนั่ง Magic Seat สร้างพื้นที่เก็บของได้หลากหลายและกว้างขวางที่สุดในรถระดับเดียวกัน
• ประหยัดน้ำมันดี: อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันอยู่ในเกณฑ์ที่ดีสำหรับรถ SUV ขนาดนี้
• ดีไซน์สปอร์ตทันสมัย: เส้นสายตัวรถยังคงดูดี ไม่ตกยุค โดยเฉพาะรุ่น RS
• ระบบความปลอดภัยครบครัน: ถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง, ระบบควบคุมการทรงตัว, Honda LaneWatch และ CBAS ช่วยให้มั่นใจในการขับขี่
• ศูนย์บริการและอะไหล่หาง่าย: ด้วยความนิยมของ Honda ในไทย การดูแลรักษาจึงไม่ยุ่งยาก

ข้อเสีย:

• ภายในบางส่วนมีพลาสติกแข็ง: คุณภาพวัสดุภายในบางจุดอาจไม่พรีเมียมเท่าคู่แข่งรุ่นใหม่
• ไม่มีช่องแอร์หลัง/USB หลัง: การขาดฟังก์ชันพื้นฐานบางอย่างสำหรับผู้โดยสารตอนหลัง
• ปัญหาจุกจิกที่อาจพบ: มีรายงานปัญหาเกี่ยวกับปั๊มติ๊ก, ระบบไฟฟ้า, คุณภาพสี, และการทำงานของเกียร์ CVT ในบางคัน
• การเก็บเสียงยังไม่ดีเยี่ยม: เสียงรบกวนจากภายนอกหรือเสียงยางอาจเข้าห้องโดยสารได้ค่อนข้างชัด
• เทคโนโลยีบางอย่างอาจล้าสมัย: เมื่อเทียบกับรถ SUV รุ่นใหม่กว่าที่มาพร้อม Honda SENSING เต็มรูปแบบ หรือระบบเชื่อมต่อที่ล้ำหน้ากว่า (HR-V 2020 รุ่น 1.8 ยังไม่มี Honda SENSING เต็มรูปแบบเหมือนรุ่น e:HEV ใหม่)

7. เหมาะกับใคร & คำแนะนำในการซื้อ: SUV ที่ตอบโจทย์คนเมือง

Honda HR-V 2020 เหมาะกับ:

• ผู้ที่ต้องการรถ SUV คันแรก: ด้วยขนาดที่ไม่ใหญ่เกินไป ขับขี่ง่ายในเมือง
• ครอบครัวขนาดเล็กถึงกลาง: ที่ต้องการพื้นที่ใช้สอยยืดหยุ่นสำหรับผู้โดยสารและสัมภาระ
• ผู้ที่มองหารถมือสองที่คุ้มค่า: ในงบประมาณที่ไม่สูงมาก แต่ยังได้รถที่มีฟังก์ชันครบครันและแบรนด์น่าเชื่อถือ
• ผู้ที่ให้ความสำคัญกับการประหยัดน้ำมันและความอเนกประสงค์: เป็นรถที่ตอบโจทย์การใช้งานในชีวิตประจำวันได้ดี

ควรซื้อเลยไหม?: หากคุณกำลังมองหารถมือสองในตลาดตอนนี้ Honda HR-V 2020 ยังคงน่าซื้ออย่างยิ่ง หากคุณยอมรับข้อเสียเล็กน้อยและสามารถตรวจสอบสภาพรถ รวมถึงประวัติการบำรุงรักษาอย่างละเอียดได้ เพราะคุณจะได้รถที่ยังคงดีไซน์สวยงาม ใช้งานได้จริง และมีชื่อเสียงด้านความทนทานจาก Honda. อย่างไรก็ตาม หากคุณมีงบประมาณที่สูงขึ้นและต้องการเทคโนโลยีความปลอดภัยล่าสุดอย่าง Honda SENSING เต็มรูปแบบ หรือระบบไฮบริดที่ประหยัดน้ำมันกว่า อาจต้องพิจารณา Honda HR-V e:HEV รุ่นใหม่ที่เปิดตัวในปี 2021 เป็นต้นไป.

8. เปรียบเทียบกับสินค้าคล้ายๆ กัน: ในตลาดรถมือสอง

ในตลาดรถมือสอง Honda HR-V 2020 มีคู่แข่งที่น่าสนใจหลายรุ่น ได้แก่ Toyota C-HR, Nissan Kicks, MG ZS, Mazda CX-3, Hyundai Kona และ Subaru XV

• จุดเด่นของ HR-V เหนือคู่แข่ง: HR-V มักโดดเด่นเรื่องพื้นที่เก็บสัมภาระสูงสุดที่กว้างขวางกว่า (58.8 ลูกบาศก์ฟุต) ด้วย Magic Seat ซึ่งเหนือกว่า C-HR (37 ลูกบาศก์ฟุต) หรือ Kona (45.8 ลูกบาศก์ฟุต) อย่างเห็นได้ชัด นอกจากนี้ยังขึ้นชื่อเรื่องความประหยัดน้ำมันเมื่อเทียบกับคู่แข่งในกลุ่มเดียวกัน และมีฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยที่ครบครันสำหรับรุ่นท็อป
• สิ่งที่ต้องพิจารณา: เมื่อเทียบกับคู่แข่งรุ่นใหม่กว่าที่เปิดตัวในช่วงปี 2020-2021 บางรุ่นอาจมีแพลตฟอร์มที่ใหม่กว่าและเทคโนโลยีที่ทันสมัยกว่า (เช่น หน้าจอสัมผัสที่รองรับ Apple CarPlay/Android Auto ในบางรุ่นย่อยของคู่แข่ง หรือระบบช่วยเหลือการขับขี่ที่ครบครันกว่า) และบางรุ่นของคู่แข่งอาจมีวัสดุภายในที่ดูพรีเมียมกว่า

9. บริการหลังการขายและช่องทางการซื้อ: อุ่นใจกับแบรนด์ Honda

การรับประกัน: สำหรับ Honda HR-V 2020 ที่เป็นรถมือสอง การรับประกันจากโรงงาน (ปกติ 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง) อาจสิ้นสุดลงแล้วหรือกำลังจะหมดอายุ อย่างไรก็ตาม ผู้จำหน่ายรถยนต์มือสองบางรายอาจมีการรับประกันเพิ่มเติม หรือคุณสามารถเลือกซื้อประกันรถยนต์มือสองจากบริษัทภายนอกเพื่อเพิ่มความอุ่นใจได้

เครือข่ายการให้บริการ: Honda มีเครือข่ายศูนย์บริการที่ครอบคลุมทั่วประเทศ ทำให้การเข้ารับบริการ การตรวจเช็คระยะ หรือการซ่อมบำรุงเป็นไปได้ง่ายและสะดวกสบาย

ช่องทางการซื้อ: คุณสามารถค้นหา Honda HR-V 2020 มือสองได้จาก:

• เต็นท์รถมือสองและโชว์รูมรถยนต์มือสองที่น่าเชื่อถือ: ตรวจสอบสภาพรถและประวัติการซ่อมบำรุง
• แพลตฟอร์มออนไลน์ยอดนิยม: เช่น One2Car, Carsome, Kaidee Auto ซึ่งมีรถให้เลือกหลากหลาย และบางแพลตฟอร์มมีบริการตรวจสอบสภาพรถเบื้องต้นให้ด้วย

ข้อแนะนำเพิ่มเติม:

• ตรวจสอบสภาพรถอย่างละเอียด: ทั้งภายนอก ภายใน ห้องเครื่อง ช่วงล่าง และระบบไฟฟ้า
• ขอลองขับ: เพื่อประเมินสมรรถนะ การตอบสนองของเครื่องยนต์ เกียร์ และช่วงล่าง
• ตรวจสอบประวัติการบำรุงรักษา: หากเป็นไปได้ ควรมีสมุดคู่มือและประวัติการเข้ารับบริการจากศูนย์
• พิจารณาการผ่อนชำระ: หลายสถาบันการเงินและผู้จำหน่ายรถมือสองมีข้อเสนอไฟแนนซ์สำหรับรถมือสอง

10. บทสรุปและคำแนะนำในการซื้อ: HR-V 2020 ยังคงเป็นตัวเลือกที่ "น่าใช้งาน"

จากการรีวิวเจาะลึก Honda HR-V 2020 ถือเป็นรถ SUV ขนาดกะทัดรัดที่ยังคงน่าใช้งานอยู่มากในปี 2025 โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณกำลังมองหารถมือสองที่มีงบประมาณจำกัด แต่ยังคงต้องการความอเนกประสงค์สูงสุดจากฟังก์ชัน Magic Seat, ความประหยัดน้ำมันที่ดีเยี่ยม และความปลอดภัยที่ได้มาตรฐาน.

คำแนะนำสำหรับผู้ซื้อ:

• สำหรับผู้ที่เน้นความคุ้มค่าและใช้งานจริง: HR-V 2020 เป็นตัวเลือกที่ดีเยี่ยม ด้วยราคาที่จับต้องได้ในตลาดมือสอง และยังคงมอบประสบการณ์การขับขี่ที่น่าพอใจสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวันและเดินทางไกลบ้าง.
• สำหรับผู้ที่เน้นเทคโนโลยีล่าสุดและความล้ำสมัย: หากงบประมาณไม่ใช่ปัญหา และคุณต้องการระบบความปลอดภัย Honda SENSING แบบเต็มรูปแบบ รวมถึงเครื่องยนต์ไฮบริด e:HEV ที่ประหยัดน้ำมันกว่ามาก ควรพิจารณา Honda HR-V e:HEV รุ่นใหม่ (เริ่มวางจำหน่ายปลายปี 2021).
• คำแนะนำเฉพาะ: ไม่ว่าคุณจะเลือกซื้อรุ่นย่อยใด การตรวจสอบสภาพรถมือ

สองอย่างละเอียด ทั้งจากผู้เชี่ยวชาญ และตรวจสอบประวัติการเข้ารับบริการเพื่อดูว่ามีปัญหาที่ได้รับการแก้ไขไปแล้วหรือไม่ ถือเป็นสิ่งสำคัญที่สุดที่จะช่วยให้คุณได้รถ Honda HR-V 2020 ที่คุ้มค่าและพร้อมใช้งานได้อย่างยาวนาน.

วิดีโอที่เกี่ยวข้อง

• เจาะลึก Honda HR-V e:HEV รุ่น EL 1.079 ล้าน รองท็อปก็น่าใช้ ได้ ...
• ลองนั่งหลัง 2025 Honda HR-V e:HEV EL ในยุคที่ตัวเลือกมีเยอะ รุ่น ...
• รีวิวก่อนตัดสินใจซื้อ Honda HR-V
• พรีวิว All-New Honda HR-V โฉมใหม่ มีแค่ไฮบริด หรู สปอร์ต แต่นั่ง ...
• [spin9] รีวิว Honda HR-V e:HEV RS รุ่นปรับโฉม — ออปชั่นไม่หวือ ...