รีวิว adidas Pureboost RBL รองเท้าวิ่งสำหรับหน้าหนาว กันละอองน้ำดีมั้ย

หน้าหนาวทีไร... นักวิ่งหลายคนอาจจะเจอกับปัญหาเลือก “รองเท้าวิ่ง” ยากเป็นพิเศษใช่ไหมครับ? จะวิ่งลุยลมหนาว หรือเจอกับละอองฝนปรอยๆ ก็ต้องกังวลว่ารองเท้าจะเปียกชื้น ไม่สบายเท้า แถมยังลื่นง่ายอีกต่างหาก! วันนี้เราจะพาไปเจาะลึก adidas Pureboost RBL รองเท้าวิ่งที่เคลมว่าออกแบบมาเพื่อหน้าหนาวโดยเฉพาะ แถมยังกันละอองน้ำได้ดีจริงไหม? เหมาะกับสายวิ่งในเมืองอย่างเราหรือเปล่า? มาดูกันเลย!

1. ภาพรวมผลิตภัณฑ์: รู้จัก adidas Pureboost RBL

แบรนด์: adidas
รุ่น: Pureboost RBL (หรือ Pureboost RBL LTD)
ปีที่วางจำหน่าย: ราวปี 2019 – 2020
ช่วงราคา: จัดอยู่ในกลุ่มราคาปานกลางถึงสูง (แต่ปัจจุบันอาจหาซื้อได้ในราคาพิเศษเนื่องจากเป็นรุ่นที่ออกมาสักพักแล้ว)

การวางตำแหน่งสินค้า: รองเท้าวิ่งสำหรับนักวิ่งทั่วไปที่เน้นการวิ่งในเมือง หรือวิ่งในสภาพอากาศเย็น/หน้าหนาว เหมาะกับผู้ที่ต้องการรองเท้าที่มีการตอบสนองดี ยึดเกาะพื้นผิวได้หลากหลาย และมีคุณสมบัติกันละอองน้ำ

สรุปจุดเด่นหลัก:

• อัปเปอร์กันละอองน้ำ: มีการเคลือบสารกันน้ำ และดีไซน์ที่ช่วยป้องกันละอองน้ำและลมหนาว
• พื้น Boost เต็มแผ่น: ให้ความนุ่ม ตอบสนองดี และส่งคืนพลังงานได้ยอดเยี่ยม
• พื้น All-Terrain (ATR) Outsole: ยึดเกาะได้ดีเยี่ยมบนพื้นผิวที่เปียกหรือลื่น
• ดีไซน์ Adapt-Knit: อัปเปอร์แบบผ้าถักที่ปรับเข้ากับรูปเท้า ให้ความกระชับสบายเหมือนใส่ถุงเท้า
• รายละเอียดสะท้อนแสง: เพิ่มความปลอดภัยสำหรับการวิ่งในที่แสงน้อย

2. ดีไซน์ & รูปลักษณ์ภายนอก: วิ่งลุยแต่ยังดูดี

adidas Pureboost RBL มาพร้อมดีไซน์ที่ดูทันสมัย เน้นฟังก์ชันการใช้งานสำหรับหน้าหนาวโดยเฉพาะ ตัวรองเท้ามีลักษณะแบบ Mid-Cut หรือหุ้มข้อขึ้นมาเล็กน้อยพร้อมปกหุ้มข้อเท้า (Protective Collar) ที่ช่วยป้องกันลมหนาวและเศษสิ่งสกปรกเข้าสู่รองเท้าได้ดี

การออกแบบและวัสดุ: อัปเปอร์ทำจากผ้าถักแบบ Adapt-Knit ที่มีความยืดหยุ่นสูง ปรับเข้ากับรูปเท้าได้ดี ให้ความรู้สึกกระชับเหมือนสวมถุงเท้า ตัวผ้าถักมีการเคลือบสาร กันละอองน้ำ (Splash-Resistant / Water-Repellent) มาให้ด้วย พร้อมเสริมรายละเอียดสะท้อนแสง (Reflective Details) ทั่วทั้งรองเท้าและเชือกผูกรองเท้า เพื่อความปลอดภัยในการวิ่งตอนกลางคืนหรือในที่แสงน้อย

ขนาดและน้ำหนัก: จัดเป็นรองเท้าที่ค่อนข้าง น้ำหนักเบา โดยมีน้ำหนักประมาณ 11.3 ออนซ์ หรือ 319 กรัม สำหรับไซส์ US 9 / UK 8.5 ทำให้วิ่งได้อย่างคล่องตัว ไม่รู้สึกหนักเท้า

สีที่มีให้เลือก: มีหลากหลายสี เช่น Core Black/Grey Three/Scarlet, Carbon/Core Black/Action Red, Clear Brown/Carbon/Cloud White และ Raw White/Grey ซึ่งส่วนใหญ่จะเน้นโทนสีเข้มที่เหมาะกับการวิ่งหน้าหนาว

อุปกรณ์เสริมในกล่อง: โดยทั่วไปแล้ว รองเท้าจะมาพร้อมเชือกผูกรองเท้า ซึ่งอาจมีคุณสมบัติสะท้อนแสงมาให้ด้วย และป้ายแท็กสินค้า

3. ประสบการณ์ในการใช้งานฟังก์ชันหลัก: กันละอองน้ำได้จริงไหม?

นี่คือหัวใจสำคัญของการรีวิว Pureboost RBL ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อการวิ่งในสภาพอากาศที่ท้าทาย

การกันละอองน้ำ: จากการทดสอบและข้อมูลพบว่า Pureboost RBL มีคุณสมบัติ "กันละอองน้ำ" (Splash-Resistant / Water-Repellent) ได้ดีเยี่ยมสำหรับการวิ่งผ่านละอองฝนปรอยๆ หรือพื้นผิวที่เปียกชื้นเล็กน้อย อัปเปอร์ผ้าถักที่เคลือบสารกันน้ำช่วยให้น้ำกลิ้งออกไป ไม่ซึมเข้ารองเท้าได้ง่ายๆ อย่างไรก็ตาม "ไม่แนะนำให้ลุยแอ่งน้ำลึก" หรือวิ่งในฝนที่ตกหนักมากๆ เพราะรองเท้าไม่ได้ออกแบบมาให้กันน้ำได้ 100% เหมือนรองเท้า Gore-Tex

การยึดเกาะ (Traction): พื้นรองเท้าด้านนอกแบบ All-Terrain (ATR) Outsole และ Stretchweb rubber outsole ทำงานร่วมกันได้อย่างยอดเยี่ยม ให้การยึดเกาะที่มั่นคงบนพื้นผิวที่เปียกหรือลื่น เช่น ถนนเปียก หรือพื้นผิวที่มีกรวดเล็กน้อย ทำให้รู้สึกมั่นใจในการวิ่ง ไม่ต้องกังวลเรื่องการลื่นไถล

การรองรับแรงกระแทกและการตอบสนอง: ด้วยเทคโนโลยี Boost Midsole ที่เป็นเอกลักษณ์ของ adidas Pureboost RBL มอบการรองรับแรงกระแทกที่นุ่มนวลแต่ยังคงให้การตอบสนองที่ยอดเยี่ยม ทุกย่างก้าวจะรู้สึกถึงการส่งคืนพลังงาน ทำให้การวิ่งมีประสิทธิภาพมากขึ้น และ Boost ยังคงความนุ่มนวลได้ดีแม้ในสภาพอากาศที่หนาวเย็น

ความอบอุ่น: การออกแบบอัปเปอร์ผ้าถักแบบ Adaptive Knit และปกหุ้มข้อเท้า ช่วยให้เท้าอบอุ่นขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับรองเท้าวิ่งทั่วไปที่เน้นการระบายอากาศสูงสุด เหมาะกับการวิ่งในหน้าหนาวหรือตอนเช้าตรู่ที่อากาศเย็นสบาย

4. ประสบการณ์การใช้งาน & ความง่ายในการใช้

ความสบายในการสวมใส่: ด้วยอัปเปอร์ผ้าถักแบบ Adaptive Knit รองเท้าให้ความรู้สึก กระชับและโอบรับรูปเท้าได้ดี เหมือนสวมถุงเท้า ทำให้การสวมใส่สบายตั้งแต่ครั้งแรก สำหรับผู้ที่มีเท้ากว้าง Pureboost RBL ก็มีบริเวณปลายเท้าที่ค่อนข้างกว้าง ทำให้ไม่อึดอัด

ความง่ายในการใช้งาน: การสวมใส่และถอดรองเท้าทำได้ง่าย ด้วยดีไซน์แบบ Mid-Cut และการหุ้มข้อเท้าที่ยืดหยุ่น เชือกผูกรองเท้าช่วยให้ปรับความกระชับได้ตามต้องการ

การระบายอากาศและอุณหภูมิ: แม้จะออกแบบมาสำหรับหน้าหนาวและมีคุณสมบัติกันละอองน้ำ แต่อัปเปอร์ผ้าถักก็ยังคง ระบายอากาศได้ดี ในระดับหนึ่ง ทำให้เท้าไม่รู้สึกอับชื้นหรือร้อนจนเกินไปสำหรับการวิ่งระยะสั้นถึงปานกลาง อย่างไรก็ตาม อาจไม่ได้โปร่งสบายเท่ารองเท้าวิ่งสำหรับหน้าร้อน

เสียงและสัมผัส: พื้น Boost ให้ความรู้สึกนุ่มนวลและเงียบขณะวิ่ง ไม่มีเสียงเอี๊ยดอ๊าดกวนใจ การยึดเกาะของพื้น ATR ก็ทำงานได้อย่างมั่นคง

5. แบตเตอรี่ / พลังงาน / ความคุ้มค่าในระยะยาว

รองเท้าวิ่งไม่ได้ใช้แบตเตอรี่ แต่เราจะมาวิเคราะห์เรื่องความทนทานและคุ้มค่าในระยะยาวแทน

ความทนทาน: adidas Pureboost RBL ถูกสร้างมาให้มี ความทนทานที่ดี สำหรับการใช้งานวิ่งในเมืองเป็นประจำ วัสดุ Boost ขึ้นชื่อเรื่องความทนทานและไม่ยุบตัวง่าย พื้นยาง ATR ก็ช่วยต้านทานการสึกหรอจากการวิ่งบนพื้นแข็งได้ดี

อย่างไรก็ตาม มีผู้ใช้งานบางรายรายงานว่าพบปัญหาเรื่อง ห่วงเชือกบริเวณส้นรองเท้าขาด หรือบริเวณห่วงด้านหน้าเริ่มปริหลังจากใช้งานไม่กี่ครั้ง ซึ่งอาจเป็นข้อควรพิจารณาในด้านคุณภาพการประกอบในบางล็อตการผลิต

ค่าใช้จ่ายระยะยาว: โดยทั่วไปแล้ว รองเท้าวิ่งไม่มีค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษามากนัก นอกจากการทำความสะอาดและการเปลี่ยนรองเท้าเมื่อถึงอายุการใช้งานที่เหมาะสม (ประมาณ 500-800 กิโลเมตรขึ้นอยู่กับผู้ใช้งาน)

ความคุ้มค่า: เมื่อพิจารณาจากเทคโนโลยี Boost ที่ส่งคืนพลังงานได้ดี คุณสมบัติกันละอองน้ำ และพื้นยึดเกาะเยี่ยม ทำให้ Pureboost RBL เป็นรองเท้าที่ คุ้มค่าสำหรับนักวิ่งที่ต้องการรองเท้าสำหรับวิ่งในสภาพอากาศเย็นหรือเปียกชื้นเล็กน้อย และเน้นการวิ่งในเมือง หากคุณวิ่งเป็นประจำและเจอกับสภาพอากาศดังกล่าวบ่อยๆ การลงทุนกับคู่นี้ถือว่าตอบโจทย์

6. ข้อดี-ข้อเสีย

ข้อดี:

• พื้น Boost นุ่มสบายและตอบสนองดีมาก: ให้การวิ่งที่สนุกและส่งคืนพลังงานได้ยอดเยี่ยม
• กันละอองน้ำได้ดีเยี่ยม: เหมาะกับสภาพอากาศชื้นหรือฝนปรอยๆ
• การยึดเกาะยอดเยี่ยมบนพื้นเปียก/ลื่น: พื้น ATR ให้ความมั่นใจในการวิ่ง
• ดีไซน์ Adapt-Knit กระชับเท้า: ให้ความสบายและรู้สึกเหมือนใส่ถุงเท้า
• รายละเอียดสะท้อนแสง: เพิ่มความปลอดภัยสำหรับการวิ่งในที่แสงน้อย

ข้อเสีย:

• ไม่กันน้ำ 100%: ไม่เหมาะกับการลุยแอ่งน้ำลึกหรือฝนตกหนักจัด
• อาจไม่เหมาะกับวิ่งระยะไกลมาก: การรองรับแรงกระแทกอาจไม่เพียงพอสำหรับระยะทางที่ไกลมากๆ สำหรับบางคน
• มีรายงานปัญหาเรื่องความทนทานบางจุด: เช่น ห่วงเชือกบริเวณส้นรองเท้า
• อัปเปอร์อาจกระชับข้อเท้ามากเกินไป: บางคนอาจรู้สึกว่ากระชับแน่นไปหน่อย โดยเฉพาะผู้ที่ชอบใส่ถุงเท้าข้อสั้น

7. เหมาะกับใคร & คำแนะนำในการซื้อ

เหมาะกับ:

• นักวิ่งในเมือง: ที่ส่วนใหญ่จะวิ่งบนพื้นถนนคอนกรีต หรือทางเท้า
• นักวิ่งที่ต้องการรองเท้าสำหรับหน้าหนาว/อากาศเย็น: ผู้ที่ต้องการความอบอุ่นและการป้องกันละอองน้ำ
• นักวิ่งที่เน้นการตอบสนองและความนุ่มนวล: ผู้ที่ชื่นชอบพื้น Boost และการส่งคืนพลังงาน
• ผู้ที่มองหารองเท้าวิ่งที่ใส่เป็น Daily Trainer: สำหรับวิ่งในระยะสั้นถึงปานกลาง

ไม่เหมาะกับ:

• นักวิ่งระยะไกลมากๆ ที่ต้องการการรองรับแรงกระแทกสูงสุด
• นักวิ่งที่มีน้ำหนักตัวมากที่ต้องการการซัพพอร์ตและความมั่นคงที่สูงเป็นพิเศษ
• ผู้ที่ต้องการรองเท้าวิ่งที่กันน้ำได้ 100% สำหรับการลุยน้ำอย่างแท้จริง

ควรซื้อเลยไหม? หรือรอช่วงโปรโมชั่นจะดีกว่า?
เนื่องจากเป็นรุ่นที่ออกมาสักพักแล้ว Pureboost RBL มักจะมีราคาที่น่าสนใจในช่วงโปรโมชั่นต่างๆ ดังนั้น หากไม่รีบร้อน การรอซื้อในช่วงลดราคา หรือตามร้านค้าออนไลน์ที่จัดโปรโมชัน จะช่วยให้ได้รองเท้าคู่นี้ในราคาที่คุ้มค่าเป็นอย่างมาก

8. เปรียบเทียบกับสินค้าคล้ายๆ กัน (เลือกใส่ก็ได้)

เมื่อเทียบกับรองเท้าวิ่ง adidas ในตระกูล Pureboost ด้วยกัน หรือรุ่นอื่นที่เน้นการใช้งานคล้ายกัน

• เทียบกับ Pureboost ทั่วไป: Pureboost RBL จะโดดเด่นกว่าในเรื่องของอัปเปอร์ที่กันละอองน้ำได้ดีกว่า และมีดีไซน์ที่หุ้มข้อเท้าเพื่อความอบอุ่นและการป้องกันเศษสิ่งสกปรก ซึ่ง Pureboost รุ่นปกติจะเน้นการระบายอากาศที่สูงกว่า
• เทียบกับ Ultraboost Winter.RDY: ถ้าต้องการการกันน้ำที่จริงจังขึ้น และรองรับการวิ่งระยะไกลได้ดีกว่า Ultraboost Winter.RDY อาจเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า แต่ก็มาพร้อมกับราคาที่สูงกว่ามากเช่นกัน

โดยสรุปคือ Pureboost RBL เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับนักวิ่งในเมืองที่ต้องการคุณสมบัติกันละอองน้ำและยึดเกาะพื้นเปียกได้ดี โดยที่ยังคงความนุ่มและเด้งของ Boost ไว้ในราคาที่เข้าถึงได้ง่ายกว่ารุ่นพรีเมียมอื่นๆ

9. บริการหลังการขายและช่องทางการซื้อ

การรับประกัน: โดยปกติแล้ว ผลิตภัณฑ์จาก adidas จะมีการรับประกันสินค้าตามเงื่อนไขของแบรนด์ ซึ่งสามารถสอบถามได้จากร้านค้าตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ หรือทางเว็บไซต์ adidas โดยตรง การรับคืนสินค้า/เปลี่ยนสินค้าก็เป็นไปตามนโยบายของร้านค้า/แพลตฟอร์มที่คุณซื้อ

ช่องทางการซื้อ: คุณสามารถหาซื้อ adidas Pureboost RBL ได้จากหลากหลายช่องทาง ทั้งร้านค้าออนไลน์และออฟไลน์:

• ร้านค้าออนไลน์อย่างเป็นทางการ: เว็บไซต์ adidas Thailand หรือแพลตฟอร์มใหญ่ๆ อย่าง Lazada, Shopee, JD Central ที่มีร้านค้าทางการของ adidas มักจะมีโปรโมชั่น Flash Sale, โค้ดส่วนลด, หรือดีลพิเศษต่างๆ เช่น ผ่อน 0% และส่งฟรี
• ร้านค้าอุปกรณ์กีฬาชั้นนำ: เช่น Supersports, JD Sports, หรือร้านค้าเฉพาะทางด้านรองเท้าวิ่ง
• ตลาดรองเท้ามือสอง/แพลตฟอร์ม resale: เช่น eBay, GOAT ซึ่งอาจเจอราคาที่ถูกลงไปอีก (แต่ต้องพิจารณาเรื่องสภาพและความน่าเชื่อถือ)

ระยะเวลาการจัดส่งและค่าจัดส่ง: โดยทั่วไปหากสั่งออนไลน์จะขึ้นอยู่กับนโยบายของแต่ละแพลตฟอร์มหรือร้านค้า ซึ่งมักจะมีตัวเลือกส่งฟรีเมื่อซื้อถึงยอดที่กำหนด และใช้เวลาจัดส่งประมาณ 1-3 วันทำการสำหรับในประเทศ

10. บทสรุปและคำแนะนำในการซื้อ

จากผลการทดสอบและการรีวิว adidas Pureboost RBL เป็นรองเท้าวิ่งที่ “แนะนำให้ซื้อ” อย่างยิ่ง สำหรับกลุ่มนักวิ่งที่เหมาะสม

เหมาะสำหรับ:

• นักวิ่งที่กำลังมองหารองเท้าคู่ใจสำหรับ วิ่งในสภาพอากาศเย็น หรือมีละอองน้ำ/ฝนปรอยๆ เป็นประจำ
• ผู้ที่ชื่นชอบ ความนุ่ม เด้ง ตอบสนองดี ของพื้น Boost
• นักวิ่งในเมืองที่ต้องการ การยึดเกาะที่ดีเยี่ยม บนพื้นถนนทั่วไป หรือพื้นผิวที่เปียกชื้น
• นักวิ่งที่วิ่งในระยะสั้นถึงปานกลาง (ไม่เกิน 10-15 กม.) เป็นหลัก

คำแนะนำเพิ่มเติม:

• หากคุณกังวลเรื่องความกระชับบริเวณข้อเท้า แนะนำให้ลองสวมใส่ดูก่อน หรือพิจารณาใส่กับถุงเท้าวิ่งแบบข้อสั้น
• แม้จะกันละอองน้ำได้ดี แต่ หลีกเลี่ยงการลุยน้ำขังโดยตรง เพื่อยืดอายุการใช้งานและป้องกันเท้าเปียก
• หากเจอโปรโมชั่นดีๆ ถือว่าคุ้มค่ามากที่จะมีไว้ในครอบครองเพื่อเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกในวันที่อากาศไม่เป็นใจ

วิดีโอที่เกี่ยวข้อง

• YouTube
• แกะกล่องรอรีวิวรองเท้าวิ่ง adidas Pureboost 5
• รีวิวรองเท้าวิ่ง adidas Pureboost 5 | วิ่งไหนกัน ปั่นไหนดี
• รีวิวรองเท้าวิ่ง adidas Pureboost 5 | วิ่งไหนกัน ปั่นไหนดี
• รีวิวรองเท้าวิ่ง adidas Pureboost 5