รีวิว Honda Jazz 2017 S CVT รถซิตี้คาร์สุดอเนกประสงค์ ยังน่าใช้อยู่มั้ย

หากพูดถึงรถยนต์ซิตี้คาร์ในตำนานที่ครองใจคนไทยมาอย่างยาวนาน ชื่อของ Honda Jazz หรือ Honda Fit ในตลาดโลก ย่อมเป็นหนึ่งในอันดับต้น ๆ ด้วยภาพลักษณ์ของรถยนต์แฮทช์แบ็ก 5 ประตูที่อเนกประสงค์เกินตัว ใช้งานได้หลากหลาย และมีพื้นที่ภายในที่น่าทึ่ง แม้ว่า Honda Jazz จะยุติการทำตลาดรถยนต์ใหม่ในประเทศไทยไปแล้ว แต่ในตลาดรถยนต์มือสอง Honda Jazz 2017 S CVT ก็ยังคงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจไม่น้อย แล้วในปี 2025 นี้ มันยังน่าใช้อยู่หรือไม่ เราจะมาเจาะลึกทุกแง่มุมกันในบทความนี้

1. ภาพรวมผลิตภัณฑ์: รู้จัก Honda Jazz 2017 S CVT กันก่อน

แบรนด์: Honda
รุ่น: Jazz (หรือ Fit ในตลาดสากล) โฉม GK (เจเนอเรชันที่ 3)
ปีที่วางจำหน่ายรุ่น Minorchange: 2017
ราคาเปิดตัว (รุ่น S CVT): 594,000 บาท
ช่วงราคาขายในตลาดมือสอง (ปี 2025): ประมาณ 300,000 – 400,000 บาท ขึ้นอยู่กับสภาพและระยะทาง

การวางตำแหน่งสินค้า: Honda Jazz 2017 S CVT ถือเป็นรุ่นเริ่มต้นของเกียร์อัตโนมัติในตระกูล Jazz ที่ปรับโฉม Minorchange โดยเน้นความคุ้มค่าและอเนกประสงค์เป็นหลัก เหมาะสำหรับผู้ที่กำลังมองหารถยนต์ซิตี้คาร์ที่ใช้งานในชีวิตประจำวันได้อย่างคล่องตัว ขนของได้เยอะ และดูแลรักษาง่าย

จุดเด่นหลัก:

• เบาะนั่ง Ultra Seat: จุดเด่นอันเป็นเอกลักษณ์ที่ปรับพับได้ 4 รูปแบบ (Utility, Long, Tall, Refresh Mode) เพิ่มพื้นที่เก็บสัมภาระและความยืดหยุ่นในการใช้งานได้สูงสุด
• เครื่องยนต์ 1.5 ลิตร i-VTEC: ให้สมรรถนะการขับขี่ที่เพียงพอต่อการใช้งานทั้งในเมืองและนอกเมือง พร้อมความประหยัดน้ำมันในระดับน่าพอใจ
• ขนาดกะทัดรัด คล่องตัว: ด้วยมิติรถที่เหมาะสม ทำให้ขับขี่และหาที่จอดในเมืองได้ง่าย
• ดีไซน์สปอร์ต ทันสมัย: แม้จะผ่านมาหลายปี แต่ดีไซน์ของ Jazz GK ยังคงดูโฉบเฉี่ยวและเป็นที่นิยม
• ค่าบำรุงรักษาไม่แพง อะไหล่หาง่าย: เป็นรถที่ได้รับความนิยมสูง ทำให้การดูแลรักษาและหาอะไหล่เป็นเรื่องง่าย

2. ดีไซน์ & รูปลักษณ์ภายนอก

Honda Jazz 2017 รุ่น Minorchange ได้รับการปรับดีไซน์ให้ดูสปอร์ตและทันสมัยยิ่งขึ้น ด้วยกระจังหน้าและกันชนหน้า-หลังที่ออกแบบใหม่ ให้เส้นสายที่คมชัดและดุดันขึ้น ตัวถังใช้แนวคิด "Low Wide Gravity" ที่เน้นความกว้างและเตี้ยลงเล็กน้อย เพื่อเพิ่มความรู้สึกสปอร์ต

ในรุ่น S CVT จะมาพร้อมไฟหน้าฮาโลเจน (ในรุ่น RS จะเป็น DRL แบบ LED) และล้ออัลลอยดีไซน์ใหม่ที่ดูเข้ากับตัวรถ วัสดุที่ใช้ในการประกอบภายนอกมีความแข็งแรงทนทานตามมาตรฐานของ Honda ตัวรถมีขนาดกำลังดี ไม่เล็กหรือใหญ่จนเกินไป ทำให้การขับขี่ในสภาพการจราจรหนาแน่นเป็นเรื่องง่าย และการจอดรถก็ไม่ใช่ปัญหา

สีที่มีให้เลือกสำหรับรุ่น S CVT ในปี 2017 มักจะเป็นสีพื้นฐานอย่างสีดำคริสตัล สีเทาโมเดิร์นสตีล และสีเงินลูนาร์เมทัลลิก ซึ่งเป็นสีที่ดูแลรักษาง่ายและคงความนิยม

3. ประสบการณ์ในการใช้งานฟังก์ชันหลัก

เครื่องยนต์และสมรรถนะ: Honda Jazz 2017 S CVT มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 16 วาล์ว i-VTEC ขนาด 1.5 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 117 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุด 146 นิวตันเมตร ที่ 4,700 รอบต่อนาที เครื่องยนต์บล็อกนี้ทำงานร่วมกับเกียร์อัตโนมัติ CVT (Continuously Variable Transmission) ที่พัฒนาภายใต้เทคโนโลยี Earth Dreams ทำให้การเปลี่ยนเกียร์มีความนุ่มนวลและต่อเนื่อง

ในด้านอัตราเร่ง การตอบสนองของเครื่องยนต์ถือว่าเพียงพอต่อการใช้งานในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นการออกตัวจากจุดหยุดนิ่งหรือการเร่งแซงในเมือง แต่หากบรรทุกผู้โดยสารเต็มคัน หรือต้องการอัตราเร่งที่ทันใจเพื่อการขับขี่ที่ดุดันบนทางหลวง อาจรู้สึกว่ามีอาการ "อืดไปเสียหน่อย" ในบางจังหวะ

อัตราสิ้นเปลืองน้ำมัน: Jazz S CVT รองรับพลังงานทางเลือก E85 โดยทั่วไปแล้ว อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันของ Honda Jazz จัดอยู่ในเกณฑ์ที่ดีสำหรับรถเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร โดยมีผู้ใช้งานหลายรายรายงานว่าวิ่งได้ประมาณ 13-15 กิโลเมตรต่อลิตรในการขับขี่แบบผสมผสาน ซึ่งอาจแตกต่างกันไปตามพฤติกรรมการขับขี่และความหนาแน่นของการจราจร อย่างไรก็ตาม หากเทียบกับรถอีโคคาร์เครื่องยนต์ 1.2 ลิตร อาจไม่ได้ประหยัดเท่า แต่ก็แลกมาด้วยสมรรถนะที่ดีกว่า

ระบบช่วงล่างและการควบคุม: การควบคุมพวงมาลัยมีความเบาและคล่องตัวสูง ทำให้ขับขี่ในเมืองได้อย่างสบาย และเปลี่ยนเลนได้อย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตาม บางผู้ใช้อาจรู้สึกว่าพวงมาลัยไวเกินไปเล็กน้อยเมื่อใช้ความเร็วสูง หรือเวลาเข้าโค้งด้วยความเร็วสูงอาจไม่ให้ความรู้สึกมั่นคงเท่าที่ควร

ระบบความปลอดภัย: Honda Jazz 2017 S CVT มาพร้อมโครงสร้างตัวถังนิรภัย G-CON (G-Force Control) และระบบความปลอดภัยเชิงรุกที่ครบครัน เช่น ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก (ABS), ระบบกระจายแรงเบรก (EBD), ระบบช่วยควบคุมการทรงตัวขณะเข้าโค้ง (VSA), ระบบช่วยการออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน (HSA) และสัญญาณไฟฉุกเฉินอัตโนมัติขณะเบรกกะทันหัน (ESS) ส่วนถุงลมนิรภัยสำหรับรุ่น S CVT คือถุงลมคู่หน้า

4. ประสบการณ์การใช้งาน & ความง่ายในการใช้

ภายในห้องโดยสารของ Honda Jazz 2017 S CVT ยังคงโดดเด่นด้วยดีไซน์ที่เน้นความทันสมัยและสปอร์ต ด้วยโทนสีดำตัดกับสีเงินเมทัลลิกบนแผงคอนโซล การจัดวางอุปกรณ์ต่าง ๆ ทำได้อย่างเป็นระเบียบและใช้งานง่าย ไม่ซับซ้อน ทำให้ผู้ใช้งานใหม่สามารถปรับตัวได้ไม่ยาก

หัวใจสำคัญของความอเนกประสงค์คือ เบาะนั่ง Ultra Seat ที่สามารถปรับพับได้ถึง 4 โหมดการใช้งาน (Utility Mode, Long Mode, Tall Mode, Refresh Mode) ทำให้สามารถปรับเปลี่ยนพื้นที่ภายในรถให้เหมาะสมกับการบรรทุกสัมภาระหรือการพักผ่อนได้หลากหลายรูปแบบ ซึ่งเป็นจุดแข็งที่ทำให้ Jazz เหนือกว่าคู่แข่งหลายราย นอกจากนี้ ยังมีช่องเก็บของและที่วางแก้วน้ำจำนวนมาก (สูงสุด 9 ตำแหน่ง) ที่ตอบโจทย์การใช้งานจริงได้อย่างดี

ระบบเครื่องเสียงในรุ่น S CVT มาพร้อมหน้าจอสัมผัสขนาด 6.8 นิ้ว ซึ่งรองรับการเชื่อมต่อ Bluetooth, USB และ HDMI ทำให้สามารถเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนเพื่อฟังเพลงหรือดูวิดีโอได้ แม้จะไม่มี Apple CarPlay หรือ Android Auto ในตัว แต่ก็ถือว่าเพียงพอต่อการใช้งานพื้นฐาน และพวงมาลัยแบบมัลติฟังก์ชันช่วยให้ควบคุมเครื่องเสียงและรับ-วางสายโทรศัพท์ได้สะดวก

ในด้านความสบาย ตัวรถมีความกว้างขวางเมื่อเทียบกับขนาดภายนอก ทำให้ผู้โดยสารนั่งได้อย่างไม่อึดอัด อย่างไรก็ตาม จุดที่อาจเป็นข้อสังเกตคือเรื่องการเก็บเสียงภายในห้องโดยสาร ซึ่งอาจไม่เงียบสงบนักเมื่อขับขี่ด้วยความเร็วสูง หรือเมื่อเจอสภาพถนนที่ไม่เรียบ

5. แบตเตอรี่ / พลังงาน / ความคุ้มค่าในระยะยาว

สำหรับ Honda Jazz 2017 S CVT ไม่ได้เป็นรุ่นไฮบริด จึงไม่มีแบตเตอรี่ขับเคลื่อนที่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนในระยะยาว การดูแลรักษาหลักๆ จะเป็นไปตามรอบการบำรุงรักษาปกติของรถยนต์สันดาปภายใน ซึ่งอะไหล่สิ้นเปลืองต่าง ๆ เช่น น้ำมันเครื่อง, ไส้กรอง, ผ้าเบรก ฯลฯ หาได้ง่ายและมีราคาไม่แพง เนื่องจากเป็นรถยนต์ที่ได้รับความนิยมสูงในประเทศไทย

ในแง่ของความคุ้มค่าในระยะยาว Honda Jazz มีชื่อเสียงเรื่องความทนทาน ไม่จุกจิก และมีราคาขายต่อที่ดี ทำให้เป็นรถที่น่าลงทุนในระยะยาว หากมีการดูแลรักษาตามกำหนดอย่างสม่ำเสมอ ค่าใช้จ่ายในการเป็นเจ้าของโดยรวมถือว่าอยู่ในระดับที่น่าพอใจ เมื่อเทียบกับประโยชน์ใช้สอยและความอเนกประสงค์ที่ได้รับ

6. ข้อดี-ข้อเสีย

ข้อดี:

• ความอเนกประสงค์จากเบาะ Ultra Seat: ปรับพับได้หลากหลาย ขนของได้เยอะกว่าที่คิด
• ห้องโดยสารกว้างขวาง: นั่งสบาย ไม่อึดอัดเมื่อเทียบกับขนาดภายนอก
• คล่องตัวสูง: เหมาะกับการขับขี่ในเมือง การจอดรถในพื้นที่จำกัด
• เครื่องยนต์ 1.5 ลิตร ตอบสนองดี: เพียงพอต่อการใช้งานในชีวิตประจำวัน
• ค่าบำรุงรักษาไม่แพง อะไหล่หาง่าย: เป็นรถตลาด ดูแลง่าย
• ราคาขายต่อดี: ไม่ขาดทุนมากนักหากต้องการเปลี่ยนรถในอนาคต

ข้อเสีย:

• การเก็บเสียงห้องโดยสาร: อาจมีเสียงลมและเสียงยางเข้ามาบ้างเมื่อใช้ความเร็วสูง
• พวงมาลัยไวไปเมื่อใช้ความเร็วสูง: บางคนอาจไม่คุ้นชินและรู้สึกว่าขาดความมั่นคง
• เบาะหลังนั่งไม่สบายเท่าที่ควร: สำหรับการเดินทางไกล อาจไม่นุ่มสบายนัก
• อัตราเร่งอาจไม่ทันใจเมื่อบรรทุกเต็มที่: หรือต้องการเร่งแซงแบบฉับพลัน
• ถุงลมนิรภัย 2 ตำแหน่ง: ในรุ่น S CVT มีเพียงถุงลมคู่หน้า ในขณะที่รุ่นย่อยที่สูงกว่ามี 6 ตำแหน่ง

7. เหมาะกับใคร & คำแนะนำในการซื้อ

Honda Jazz 2017 S CVT เหมาะกับ:

• คนเมือง: ที่ต้องการรถขนาดกะทัดรัด ขับง่าย หาที่จอดสะดวก และคล่องตัวสูง
• ครอบครัวขนาดเล็ก: ที่มีสมาชิกไม่เกิน 4-5 คน และต้องการพื้นที่เก็บสัมภาระที่ยืดหยุ่น
• นักศึกษา หรือ First Jobber: ที่มองหารถคันแรกที่คุ้มค่า ดูแลง่าย และมีฟังก์ชันครบครันสำหรับการใช้งานทั่วไป
• ผู้ที่ต้องการรถยนต์อเนกประสงค์: สำหรับการขนของ ขนอุปกรณ์กีฬา หรือทำกิจกรรมที่ต้องการพื้นที่ภายในรถที่ปรับเปลี่ยนได้

คำแนะนำในการซื้อ: ในปี 2025 นี้ Honda Jazz 2017 S CVT ยังคงเป็นรถที่น่าใช้ หากคุณรับได้กับข้อจำกัดบางประการของรถอายุ 7-8 ปี การเลือกรถในตลาดมือสองควรพิจารณาสภาพรถ ระยะทางที่วิ่ง ประวัติการบำรุงรักษา และควรนำรถเข้าตรวจสภาพโดยช่างผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจซื้อ เพื่อให้มั่นใจว่าจะได้รถที่มีสภาพดีและใช้งานได้อย่างสบายใจ

8. เปรียบเทียบกับสินค้าคล้ายๆ กัน

ในกลุ่มซิตี้คาร์แฮทช์แบ็กขนาด 1.5 ลิตร Honda Jazz 2017 มีคู่แข่งสำคัญในตลาดมือสอง เช่น Toyota Yaris และ Mazda 2 Hatchback

• เทียบกับ Toyota Yaris (รุ่นปีใกล้เคียง): Yaris อาจมีจุดเด่นเรื่องความทนทานเป็นเลิศและค่าบำรุงรักษาที่ประหยัด แต่ Jazz จะเหนือกว่าในเรื่องของพื้นที่ภายในห้องโดยสารที่กว้างขวางกว่า และความอเนกประสงค์ของเบาะ Ultra Seat
• เทียบกับ Mazda 2 Hatchback (รุ่นปีใกล้เคียง): Mazda 2 โดดเด่นเรื่องดีไซน์ที่โฉบเฉี่ยว ระบบ SkyActiv ที่ประหยัดน้ำมัน และสมรรถนะการขับขี่ที่ให้ความรู้สึกสปอร์ตมากกว่า แต่ Jazz จะได้เปรียบเรื่องพื้นที่ภายในที่กว้างกว่า และความยืดหยุ่นในการปรับเบาะนั่ง

หากพิจารณาจากความอเนกประสงค์และพื้นที่ใช้สอย Honda Jazz ยังคงเป็นตัวเลือกที่โดดเด่นที่สุดในกลุ่ม

9. บริการหลังการขายและช่องทางการซื้อ

แม้จะเป็นรถมือสอง แต่การดูแลรักษา Honda Jazz 2017 S CVT ไม่ใช่เรื่องยาก เนื่องจาก Honda มีเครือข่ายศูนย์บริการที่ครอบคลุมทั่วประเทศ และช่างส่วนใหญ่มีความคุ้นเคยกับรถรุ่นนี้เป็นอย่างดี อะไหล่ต่าง ๆ ก็มีจำหน่ายอย่างแพร่หลาย ทั้งอะไหล่แท้ อะไหล่เทียบ และอะไหล่มือสอง ทำให้ค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาอยู่ในระดับที่สมเหตุสมผล

สำหรับช่องทางการซื้อ ปัจจุบันสามารถหาซื้อ Honda Jazz 2017 S CVT มือสองได้หลากหลายช่องทาง ไม่ว่าจะเป็น:

• เต็นท์รถมือสอง: มีตัวเลือกให้เลือกมากมาย พร้อมบริการจัดไฟแนนซ์ และบางแห่งอาจมีแพ็กเกจการรับประกันหลังการขาย
• แพลตฟอร์มออนไลน์: เช่น One2car, Chobrod, Kaidee Auto, Taladrod.com ที่รวบรวมประกาศขายรถจากทั้งเต็นท์และเจ้าของโดยตรง ทำให้มีตัวเลือกหลากหลายและสามารถเปรียบเทียบราคาได้ง่าย

สำหรับตัวเลือกการผ่อนชำระ รถมือสองส่วนใหญ่มีบริการไฟแนนซ์รองรับ โดยมีอัตราดอกเบี้ยและเงื่อนไขที่แตกต่างกันไปในแต่ละสถาบันการเงิน ควรสอบถามและเปรียบเทียบเงื่อนไขก่อนตัดสินใจ

10. บทสรุปและคำแนะนำในการซื้อ

จากทั้งหมดที่กล่าวมา Honda Jazz 2017 S CVT ยังคงเป็นรถซิตี้คาร์ที่น่าสนใจและคุ้มค่าอย่างยิ่งในตลาดมือสอง ด้วยจุดเด่นด้านความอเนกประสงค์จากเบาะ Ultra Seat ที่ทำให้มีพื้นที่ใช้สอยเหลือเฟือ เครื่องยนต์ 1.5 ลิตรที่ให้สมรรถนะเพียงพอต่อการใช้งานทั่วไป และความคล่องตัวในการขับขี่ในเมือง

แนะนำให้ซื้อ: หากคุณเป็นคนเมือง หรือครอบครัวขนาดเล็ก ที่ต้องการรถยนต์คันแรก หรือรถยนต์คันที่สองที่เน้นความอเนกประสงค์สูงสุด ใช้งานในชีวิตประจำวันได้ดี ขนของได้เยอะ และมีงบประมาณจำกัด Honda Jazz 2017 S CVT ถือเป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดี ด้วยค่าบำรุงรักษาที่ไม่แพงและราคาขายต่อที่ดี.

ข้อควรพิจารณา: หากคุณเป็นคนที่ชอบการขับขี่ที่ดุดัน ต้องการอัตราเร่งที่รวดเร็วทันใจ หรือให้ความสำคัญกับการเก็บเสียงภายในห้องโดยสารเป็นพิเศษ อาจจะต้องพิจารณารถรุ่นอื่น หรือยอมรับข้อจำกัดของ Jazz รุ่นนี้

วิดีโอที่เกี่ยวข้อง

• เคลียร์ทุกปัญหา Honda Jazz รถสุดฮิตในไทย มากความอเนกประสงค์ ...
• รีวิว 2017 Honda Jazz 1.5 S CVT รุ่นใหม่ล่าสุด ราคา 5.94 แสนบาท
• ทำไม Honda Jazz GK RS 2017 ถึงยังน่าใช้ในปีนี้? ดูจบ ตัดสินใจได้ ...
• รีวิว HONDA JAZZ 1.5 S ปี 2017 (ฮอนด้า แจ๊ส) เก๋งมือสอง เดิมทั้ง ...
• รีวิว HONDA JAZZ 1.5 V+ ปี 2017 (ฮอนด้า แจ๊ส) เก๋งมือสอง รถสวย ...