logo

รีวิวกล้องฟิล์ม Ricoh XR500 กล้องแมนนวลสำหรับมือใหม่หัดถ่ายฟิล์ม

user avatar
กฤตภาส ศรีสมวงศ์·07/21/2025T07:58Z
点赞
รีวิวกล้องฟิล์ม Ricoh XR500 กล้องแมนนวลสำหรับมือใหม่หัดถ่ายฟิล์ม

กำลังมองหากล้องฟิล์มตัวแรกที่ใช้งานง่าย ไม่ซับซ้อน และช่วยให้คุณเข้าใจพื้นฐานการถ่ายภาพได้อย่างแท้จริงอยู่ใช่ไหม? กล้องฟิล์ม Ricoh XR500 คือหนึ่งในตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับมือใหม่หัดถ่ายฟิล์มที่อยากเริ่มต้นแบบแมนนวล วันนี้เราจะพาทุกคนไปเจาะลึกรีวิว Ricoh XR500 กล้อง SLR ที่อาจเป็นคู่หูในโลกฟิล์มใบแรกของคุณ!


1. ภาพรวมผลิตภัณฑ์: รู้จัก Ricoh XR500 กล้องแมนนวลเพื่อนซี้มือใหม่

แบรนด์: Ricoh
รุ่น: XR500 (หรือบางครั้งอาจพบรุ่น XR500 Auto ซึ่งมีโหมดกึ่งอัตโนมัติเพิ่มเข้ามา แต่รุ่น XR500 จะเน้นความเป็นแมนนวลแท้จริงกว่า)
ปีที่วางขาย: เปิดตัวในปี 1978
ช่วงราคาขายมือสอง: โดยทั่วไปอยู่ระหว่าง 1,000 – 3,000 บาท (ขึ้นอยู่กับสภาพและเลนส์ที่มาพร้อมกล้อง)

การวางตำแหน่งสินค้า: จัดเป็นกล้องฟิล์ม SLR ระดับเริ่มต้นถึงกลาง เหมาะสำหรับนักเรียน นักศึกษา หรือผู้ที่สนใจอยากเรียนรู้การถ่ายภาพด้วยกล้องฟิล์มแบบแมนนวลอย่างจริงจัง

สรุปจุดเด่นหลัก:

  • ระบบกลไกล้วน: กล้องทำงานได้โดยไม่ต้องใช้แบตเตอรี่สำหรับสปีดชัตเตอร์หลัก ทำให้คุณไม่พลาดการถ่ายภาพแม้แบตเตอรี่หมด (แต่ยังคงต้องใช้แบตเตอรี่สำหรับวัดแสง)
  • เมาท์เลนส์ Pentax K-Mount: รองรับเลนส์ K-Mount หลากหลายรุ่น ทำให้หาเลนส์มาใช้งานได้ง่ายและมีราคาไม่แพง
  • ใช้งานง่ายสำหรับมือใหม่: แม้จะเป็นระบบแมนนวล แต่การควบคุมไม่ซับซ้อน ช่วยให้เรียนรู้ความสัมพันธ์ระหว่างรูรับแสง, สปีดชัตเตอร์ และ ISO ได้อย่างรวดเร็ว
  • น้ำหนักเบาและแข็งแรง: ด้วยน้ำหนักประมาณ 540 กรัม (เฉพาะบอดี้) ถือว่าพกพาสะดวกสำหรับกล้อง SLR และมีโครงสร้างที่ทนทาน
  • ราคาเข้าถึงง่าย: เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่มีงบประมาณจำกัดและอยากเริ่มต้นถ่ายฟิล์ม

2. ดีไซน์ & รูปลักษณ์ภายนอก: ความคลาสสิกที่คงทน

Ricoh XR500 มาพร้อมดีไซน์แบบ SLR ยุค 70-80s ที่เน้นความเรียบง่ายและฟังก์ชันการใช้งาน ตัวกล้องมีสีดำด้านเป็นหลัก ให้ความรู้สึกคลาสสิกและทนทาน

วัสดุที่ใช้: โครงสร้างหลักเป็นโลหะที่แข็งแรง ทำให้กล้องมีความทนทานสูง แม้ว่าบางส่วน เช่น ส่วนครอบปริซึมอาจเป็นพลาสติกเพื่อลดน้ำหนักก็ตาม
ขนาดและน้ำหนัก: ขนาดกะทัดรัดสำหรับกล้อง SLR ฟิล์ม โดยมีน้ำหนักตัวกล้อง (บอดี้) อยู่ที่ประมาณ 540 กรัม ทำให้การพกพาไปในทริปต่างๆ หรือใช้งานในชีวิตประจำวันไม่เป็นภาระมากนัก
ความสะดวกในการพกพา: ด้วยขนาดและน้ำหนักที่ไม่มากจนเกินไป Ricoh XR500 จึงเป็นกล้องที่เหมาะกับการพกพาติดตัวไปถ่ายรูปในโอกาสต่างๆ ทั้งการท่องเที่ยว ถ่ายภาพสตรีท หรือพอร์ตเทรต
อุปกรณ์เสริมในกล่อง (เมื่อซื้อเป็นกล้องมือสอง): โดยทั่วไปแล้ว กล้องมือสองมักจะมาพร้อมบอดี้และเลนส์ติดกล้อง เช่น Ricoh Rikenon 50mm f/2 หรือ f/1.7 นอกจากนี้ อาจมีสายคล้องกล้องและซองหนัง Ever-Ready Case มาให้ด้วย


3. ประสบการณ์ในการใช้งานฟังก์ชันหลัก: แมนนวลคือหัวใจ

การใช้งาน Ricoh XR500 เป็นประสบการณ์ที่เน้นการควบคุมแบบแมนนวลล้วนๆ ซึ่งเป็นสิ่งที่มือใหม่ควรให้ความสำคัญเพื่อการเรียนรู้ที่ถูกต้อง:

  • การตั้งค่ารูรับแสง (Aperture): คุณจะต้องหมุนวงแหวนรูรับแสงบนเลนส์เพื่อควบคุมปริมาณแสงที่เข้าสู่เซ็นเซอร์ และยังส่งผลต่อระยะชัดลึก (Depth of Field) ของภาพ
  • การตั้งค่าสปีดชัตเตอร์ (Shutter Speed): กล้องรุ่นนี้มีสปีดชัตเตอร์ตั้งแต่ 1/8 วินาที ไปจนถึง 1/500 วินาที รวมถึงโหมด B (Bulb) สำหรับการเปิดชัตเตอร์ค้างไว้ คุณต้องหมุนแป้นสปีดชัตเตอร์ด้านบนกล้องด้วยตัวเอง เพื่อควบคุมความเร็วในการเปิดรับแสง
  • ระบบวัดแสง (Light Meter): Ricoh XR500 มีระบบวัดแสงแบบ TTL (Through The Lens) แบบเฉลี่ยหนักกลาง (Center-weighted) ที่แม่นยำพอสมควร ซึ่งต้องใช้แบตเตอรี่ LR44 หรือ SR44 จำนวน 2 ก้อนในการทำงาน เมื่อมองผ่านช่องมองภาพ คุณจะเห็นเข็มวัดแสงที่ช่วยแนะนำการตั้งค่าให้ได้แสงที่พอดี การเปิดระบบวัดแสงทำได้ง่ายๆ เพียงดึงก้านขึ้นฟิล์มออกจากตัวกล้องเล็กน้อยจนเห็นจุดแดง
  • การโฟกัส (Focus): เป็นระบบแมนนวลโฟกัสแบบ Split-Image ที่ช่วยให้การหาโฟกัสทำได้ง่าย เพียงหมุนวงแหวนโฟกัสบนเลนส์จนภาพในวงกลมกลางช่องมองภาพต่อกันเป็นเส้นเดียว ภาพก็จะคมชัด
  • การขึ้นฟิล์มและกรอฟิล์ม: ทุกอย่างเป็นกลไก คุณต้องขึ้นฟิล์มด้วยก้านขึ้นฟิล์มด้วยตัวเองก่อนถ่ายภาพทุกครั้ง และกรอฟิล์มกลับด้วยการหมุนก้านกรอฟิล์มเมื่อถ่ายหมดม้วน

การใช้งานจริงจะให้ความรู้สึกที่เชื่อมโยงกับกระบวนการถ่ายภาพ คุณจะต้องคิดและตัดสินใจด้วยตัวเองว่าจะตั้งค่าอย่างไรให้ได้ภาพตามที่ต้องการ ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญของการเรียนรู้การถ่ายภาพ


4. ประสบการณ์การใช้งาน & ความง่ายในการใช้: เรียนรู้ได้เร็ว ไม่ซับซ้อน

Ricoh XR500 ถูกออกแบบมาให้ใช้งานง่าย ไม่ซับซ้อน เหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับผู้เริ่มต้นที่ต้องการเรียนรู้พื้นฐานการถ่ายภาพฟิล์ม:

  • ใช้ง่ายไหม? ต้องเรียนรู้อะไรเยอะไหม?: การเรียนรู้ Ricoh XR500 นั้นไม่ยากเลย กล้องมีปุ่มและแป้นหมุนที่จำเป็นเท่านั้น ไม่มีโหมดอัตโนมัติหรือฟังก์ชันซับซ้อนมากมายให้กังวล สิ่งที่คุณต้องเรียนรู้หลักๆ คือการควบคุมรูรับแสง สปีดชัตเตอร์ และ ISO เพื่อให้ได้ภาพที่พอดี ซึ่งกล้องจะช่วยแนะนำด้วยระบบวัดแสงภายใน
  • ระบบกลไกที่เชื่อถือได้: จุดเด่นที่สำคัญคือกลไกการทำงานของชัตเตอร์ที่ไม่ต้องพึ่งพาแบตเตอรี่ (สำหรับสปีดชัตเตอร์ตั้งแต่ 1/8 ถึง 1/500 วินาที) ทำให้คุณมั่นใจได้ว่าจะยังสามารถถ่ายภาพได้แม้แบตเตอรี่สำหรับวัดแสงจะหมดไปแล้ว เหมาะสำหรับการพกพาไปในที่ที่หาแบตเตอรี่สำรองยาก
  • เสียงดังไหม ร้อนเร็วไหม สบายเวลาถือ/สวมใส่หรือไม่: เสียงชัตเตอร์ของกล้องเป็นเสียงกลไกที่หนักแน่นแต่ไม่ดังจนรบกวนมากนัก ด้วยน้ำหนักที่กำลังพอดี (540 กรัม) และรูปทรงที่ออกแบบมาให้จับถือได้กระชับ ทำให้ใช้งานได้นานโดยไม่เมื่อยมือ กล้องฟิล์มประเภทนี้ไม่มีปัญหาเรื่องความร้อนสะสม

โดยรวมแล้ว Ricoh XR500 มอบประสบการณ์การใช้งานที่ตรงไปตรงมาและเป็นมิตรกับผู้ใช้ ทำให้มือใหม่สามารถโฟกัสกับการเรียนรู้หลักการถ่ายภาพได้อย่างเต็มที่ โดยไม่ต้องกังวลกับฟังก์ชันที่มากเกินไป


5. แบตเตอรี่ / พลังงาน / ความคุ้มค่าในระยะยาว: ความทนทานของกลไก

กล้องฟิล์ม Ricoh XR500 มีลักษณะการใช้พลังงานที่แตกต่างจากกล้องดิจิทัลอย่างสิ้นเชิง:

  • แบตเตอรี่: Ricoh XR500 ใช้แบตเตอรี่ชนิด LR44 หรือ SR44 จำนวน 2 ก้อน ซึ่งหาซื้อได้ง่ายตามร้านสะดวกซื้อหรือร้านอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ แบตเตอรี่เหล่านี้ใช้สำหรับระบบวัดแสงเท่านั้น
  • การใช้งานโดยไม่มีแบตเตอรี่: นี่คือจุดเด่นสำคัญของกล้องรุ่นนี้! ตัวกล้องสามารถทำงานได้โดยใช้กลไกล้วนๆ สำหรับสปีดชัตเตอร์หลักตั้งแต่ 1/8 ถึง 1/500 วินาที นั่นหมายความว่าคุณยังคงสามารถถ่ายภาพได้แม้แบตเตอรี่หมด เพียงแต่จะต้องกะประมาณแสงเอง (Sunny 16 Rule) หรือใช้แอปวัดแสงภายนอก
  • ความคุ้มค่าในระยะยาว:
    • ตัวกล้อง: เนื่องจากเป็นกล้องกลไกล้วน การบำรุงรักษาจึงไม่ซับซ้อนมากนัก ส่วนใหญ่จะเป็นการทำความสะอาด เปลี่ยนซีลกันแสง (Light Seal) หรือปรับแต่งเล็กน้อย ซึ่งค่าใช้จ่ายไม่สูงเมื่อเทียบกับการซ่อมกล้องดิจิทัล
    • ค่าใช้จ่ายแฝง: ค่าใช้จ่ายหลักๆ ในระยะยาวจะมาจากค่าฟิล์มและค่าล้างอัดภาพ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการถ่ายภาพฟิล์มทุกรุ่น
  • การวิเคราะห์ความคุ้มค่า: เมื่อเทียบกับกล้องฟิล์มแมนนวลรุ่นอื่นๆ ในตลาดมือสอง Ricoh XR500 มีราคาเริ่มต้นที่เข้าถึงง่ายมาก และด้วยความทนทานของกลไก ทำให้เป็นการลงทุนที่คุ้มค่าสำหรับผู้ที่ต้องการเรียนรู้และใช้งานกล้องฟิล์มไปอีกนาน

6. ข้อดี-ข้อเสีย: มุมมองที่สมดุล

เพื่อช่วยในการตัดสินใจ นี่คือข้อดีและข้อเสียของ Ricoh XR500:

ข้อดี:

  • เหมาะสำหรับมือใหม่หัดถ่ายฟิล์ม: ด้วยการควบคุมแบบแมนนวลล้วน ช่วยให้เข้าใจพื้นฐานการถ่ายภาพได้อย่างลึกซึ้ง
  • ราคาประหยัด: หาซื้อได้ในราคามือสองที่ไม่แพง ทำให้เริ่มต้นได้ง่าย
  • กลไกทนทาน: ตัวกล้องทำงานด้วยระบบกลไกเป็นหลัก ทำให้มีความน่าเชื่อถือสูงและไม่จุกจิกเรื่องระบบอิเล็กทรอนิกส์
  • ใช้เลนส์ K-Mount ได้หลากหลาย: มีเลนส์มือสอง K-Mount คุณภาพดีให้เลือกใช้มากมายในราคาไม่แพง
  • ทำงานได้โดยไม่ต้องมีแบตเตอรี่ (สำหรับชัตเตอร์): ไม่ต้องกังวลว่าแบตจะหมดกลางคัน ทำให้คุณยังสามารถถ่ายภาพได้

ข้อเสีย:

  • สปีดชัตเตอร์สูงสุดจำกัด: สูงสุดที่ 1/500 วินาที อาจไม่เพียงพอในสถานการณ์แสงจ้าจัด หรือเมื่อต้องการหยุดวัตถุเคลื่อนไหวเร็วๆ
  • ระบบวัดแสงต้องใช้แบตเตอรี่: หากแบตหมดจะต้องกะแสงเอง ซึ่งอาจเป็นความท้าทายสำหรับมือใหม่
  • ฟังก์ชันพื้นฐาน: ไม่มีฟีเจอร์อำนวยความสะดวกเหมือนกล้องรุ่นใหม่ๆ หรือรุ่นระดับสูง เช่น โหมดตั้งเวลาอัตโนมัติ (Aperture Priority) หรือระบบโฟกัสอัตโนมัติ
  • สภาพมือสอง: เนื่องจากเป็นกล้องเก่า อาจต้องตรวจเช็คสภาพของกล้อง ซีลกันแสง หรือความแม่นยำของระบบวัดแสงก่อนซื้อ

7. เหมาะกับใคร & คำแนะนำในการซื้อ: เริ่มต้นจริงจังด้วยแมนนวล

Ricoh XR500 เหมาะกับผู้ใช้แบบไหน:

  • นักเรียน/นักศึกษา หรือผู้เริ่มต้น: ที่ต้องการเรียนรู้พื้นฐานการถ่ายภาพแบบแมนนวลอย่างจริงจัง และอยากทำความเข้าใจความสัมพันธ์ขององค์ประกอบสามเหลี่ยมแห่งการเปิดรับแสง (Exposure Triangle)
  • ผู้ที่ชื่นชอบกล้องฟิล์มกลไก: และอยากได้กล้องที่มีความทนทาน ใช้งานง่าย ไม่ต้องพึ่งพาแบตเตอรี่มากนัก
  • ผู้ที่มีงบประมาณจำกัด: แต่ต้องการกล้อง SLR คุณภาพดีเพื่อเริ่มต้น

เหมาะกับการใช้งานแบบไหน:

  • การเรียนรู้และฝึกฝน: เป็นกล้องที่ยอดเยี่ยมสำหรับการฝึกฝนการใช้โหมดแมนนวลและทำความเข้าใจเรื่องแสง
  • ภาพสตรีท/ภาพบุคคล: ด้วยเลนส์ติดกล้อง 50mm ทำให้เหมาะกับการถ่ายภาพทั่วไปในชีวิตประจำวัน
  • การท่องเที่ยว: ด้วยน้ำหนักที่เบาและกลไกที่เชื่อถือได้ ทำให้เป็นเพื่อนร่วมทางที่ดีในการเดินทาง

ควรซื้อเลยไหม? หรือรอช่วงโปรโมชั่นจะดีกว่า?: สำหรับกล้อง Ricoh XR500 ที่เป็นกล้องฟิล์มมือสอง การรอโปรโมชั่นอาจไม่ใช่ปัจจัยหลักในการตัดสินใจซื้อ สิ่งสำคัญกว่าคือสภาพของกล้องและเลนส์ที่คุณเจอ หากพบตัวที่สภาพดี ใช้งานได้สมบูรณ์ ในราคาที่เหมาะสม แนะนำให้ซื้อได้เลย เพราะกล้องรุ่นนี้หาได้ไม่ยากและราคาค่อนข้างคงที่ในตลาดมือสอง


8. เปรียบเทียบกับสินค้าคล้ายๆ กัน: ทางเลือกยอดนิยม

Ricoh XR500 มักถูกนำไปเปรียบเทียบกับกล้องฟิล์ม SLR รุ่นยอดนิยมสำหรับมือใหม่อื่นๆ:

  • Pentax K1000: เป็นกล้องฟิล์มแมนนวลยอดนิยมอันดับต้นๆ สำหรับนักเรียนและผู้เริ่มต้น มีความทนทานสูงและใช้งานง่ายเช่นกัน แต่โดยทั่วไปแล้ว Pentax K1000 มักจะมีราคามือสองที่สูงกว่า Ricoh XR500 อย่างเห็นได้ชัด หากงบประมาณเป็นข้อจำกัด Ricoh XR500 คือทางเลือกที่คุ้มค่ากว่ามากในฟังก์ชันที่คล้ายกัน
  • Minolta SR-T 101 / Canon AE-1 (Program): กล้องสองรุ่นนี้ก็เป็นที่นิยม แต่ Minolta SR-T 101 ยังคงเป็นแมนนวล ส่วน Canon AE-1 Program มีโหมด Program (อัตโนมัติเต็มรูปแบบ) และ Aperture Priority ซึ่งอาจให้ความสะดวกสบายมากกว่า Ricoh XR500 แต่ก็อาจทำให้การเรียนรู้พื้นฐานแบบ "แมนนวลแท้ๆ" น้อยลง และราคาก็สูงกว่าเช่นกัน

หากคุณเน้นที่ความคุ้มค่าและความเป็นกลไกแมนนวลเพื่อการเรียนรู้ Ricoh XR500 ถือว่าตอบโจทย์ได้ดีเยี่ยมและเป็นทางเลือกที่ยอดเยี่ยมเมื่อเทียบกับกล้องฟิล์มแมนนวลยอดนิยมอื่นๆ


9. บริการหลังการขายและช่องทางการซื้อ: กล้องวินเทจในโลกออนไลน์

เนื่องจาก Ricoh XR500 เป็นกล้องฟิล์มวินเทจที่หยุดผลิตไปนานแล้ว จึงไม่มีการรับประกันจากผู้ผลิตใหม่โดยตรง อย่างไรก็ตาม คุณยังสามารถหาซื้อได้จากช่องทางต่างๆ:

  • ร้านกล้องฟิล์มมือสอง: ร้านค้าที่มีความเชี่ยวชาญด้านกล้องฟิล์มวินเทจ มักจะมีการตรวจสอบสภาพกล้อง ทำความสะอาด เปลี่ยนซีลกันแสง และให้ข้อมูลที่น่าเชื่อถือ บางร้านอาจมีประกันร้านให้ในระยะเวลาสั้นๆ (เช่น 7 วัน หรือ 30 วัน)
  • แพลตฟอร์มออนไลน์: เป็นแหล่งรวมกล้องฟิล์มมือสองที่ใหญ่ที่สุด ไม่ว่าจะเป็น Shopee, Lazada, eBay หรือกลุ่มซื้อขายกล้องฟิล์มใน Facebook Marketplace คุณสามารถเปรียบเทียบราคาและสภาพได้ง่าย
    • คำแนะนำในการซื้อออนไลน์: ตรวจสอบรูปภาพอย่างละเอียด สอบถามประวัติการใช้งาน สภาพของชัตเตอร์ ระบบวัดแสง และซีลกันแสง รวมถึงขอตัวอย่างภาพถ่ายหากเป็นไปได้ เลือกผู้ขายที่มีรีวิวดีและให้ข้อมูลครบถ้วน
    • ราคา: ราคาบนแพลตฟอร์มออนไลน์มักจะผันผวน ขึ้นอยู่กับผู้ขาย สภาพ และความหายากในขณะนั้น
    • การจัดส่ง: ระยะเวลาการจัดส่งและค่าจัดส่งจะขึ้นอยู่กับผู้ขายและที่ตั้ง

การเลือกซื้อจากช่องทางที่น่าเชื่อถือและสอบถามข้อมูลอย่างละเอียดจะช่วยให้คุณได้กล้อง Ricoh XR500 ที่พร้อมใช้งานและตรงตามความต้องการ


10. บทสรุปและคำแนะนำในการซื้อ: เพื่อนแท้สำหรับสายแมนนวล

จากการรีวิวทั้งหมด Ricoh XR500 เป็นกล้องฟิล์ม SLR ที่แนะนำให้ซื้ออย่างยิ่งสำหรับผู้เริ่มต้นที่ต้องการเรียนรู้และสัมผัสประสบการณ์การถ่ายภาพฟิล์มแบบแมนนวลอย่างแท้จริง

ทำไมถึงควรซื้อ:

  • เป็นเครื่องมือการเรียนรู้ที่ยอดเยี่ยม ช่วยให้คุณเข้าใจหลักการพื้นฐานของการถ่ายภาพได้อย่างลึกซึ้งโดยไม่ต้องมีฟังก์ชันซับซ้อนมาเบี่ยงเบนความสนใจ
  • มีราคาที่เข้าถึงง่าย ทำให้การเริ่มต้นกับกล้องฟิล์มไม่ใช่เรื่องยากสำหรับงบประมาณที่จำกัด
  • ด้วยระบบกลไกที่เชื่อถือได้ คุณสามารถมั่นใจได้ว่ากล้องจะยังคงใช้งานได้ไปอีกนาน แม้ในยามที่แบตเตอรี่สำหรับวัดแสงหมดไปก็ตาม
  • เลนส์ K-Mount ที่มีให้เลือกหลากหลาย ทำให้คุณสามารถปรับเปลี่ยนเลนส์เพื่อลองถ่ายภาพในสไตล์ต่างๆ ได้อย่างอิสระ

คำแนะนำเฉพาะสำหรับกลุ่มผู้ใช้งาน:

  • สำหรับผู้ที่งบจำกัดและอยากเรียนรู้: ไม่ต้องลังเลเลย Ricoh XR500 คือตัวเลือกที่คุ้มค่าที่สุด
  • สำหรับผู้ที่ต้องการความสะดวกสบายมากขึ้น: หากคุณอยากได้โหมดกึ่งอัตโนมัติ (เช่น Aperture Priority) อาจจะต้องมองหารุ่น XR500 Auto หรือรุ่นอื่นๆ ที่มีฟังก์ชันเสริม แต่โปรดทราบว่ามันอาจจะไม่ได้ "แมนนวลจ๋า" เท่ากับ XR500 รุ่นปกติ

Ricoh XR500 อาจไม่ใช่กล้องที่มีฟีเจอร์ล้ำสมัย แต่เป็นกล้องที่สอนให้คุณคิด สอนให้คุณเข้าใจแสง และที่สำคัญ...มันจะอยู่กับคุณไปอีกนานตราบเท่าที่คุณยังรักการถ่ายภาพฟิล์ม!

วิดีโอที่เกี่ยวข้อง

บทความที่เกี่ยวข้อง

ฮัลโหลลล! มาแล้วจ้า มารีวิวไอเทมสุดคลาสสิกที่ช่วงนี้กลับมาฮิตติดลมบนอีกแล้ว นั่นก็คือ กล้องฟิล์ม! ซึ่งวันนี้เราหยิบเอารุ่นในตำนานที่หลายคนน่าจะคุ้นชื่อ หรืออาจจะเคยเห็นผ่านตา นั่นก็คือ Konica EFJ Auto Date มารีวิวแบบเจาะลึกสไตล์บ้านๆ ใช้จริ
รีวิวกล้องฟิล์ม Konica EFJ Auto Date ใช้งานง่าย ถ่ายสวยไหม?
สวัสดีค่าทุกคน! วันนี้จะมารีวิวกล้องฟิล์มตัวนึงที่ช่วงนี้เห็นคนพูดถึงกันหนาหูในกลุ่มคนเล่นกล้องฟิล์ม นั่นก็คือ Konica Autoreflex ACOM-1 หรือชื่อสากลคือ Autoreflex TC นั่นเองค่ะ! กล้องฟิล์มยุคเก๋ามันยังน่าใช้อยู่ไหมในยุคดิจิทัลที่อะไรๆ ก็ง่า
รีวิวกล้องฟิล์ม Konica Autoreflex ACOM-1: ยังน่าใช้ถ่ายรูปอยู่ไหม?
สวัสดีค่าทุกคน! วันนี้เม้าท์มอยเรื่องกล้องฟิล์มกันหน่อย ใครเป็นสายเที่ยว สายคาเฟ่ สายถ่ายรูปเก๋ๆ ฟิล์มๆ ต้องมาฟังทางนี้! เคยได้ยินชื่อ Fuji Cardia Travel Mini Dual-P ไหมคะ? แค่ชื่อก็บอกแล้วว่าเน้น Travel แถมมีคำว่า Dual-P เข้ามาอีก เอ๊ะ...
Fuji Cardia Travel Mini Dual-P รีวิว: กล้องฟิล์มท่องเที่ยว เปลี่ยนเลนส์ได้ น่าสนใจไหม?

บทความล่าสุดดูเพิ่มเติม

กำลังมองหาที่พักในเชียงใหม่ที่เดินทางสะดวกสบาย อยู่ใจกลางเมืองเก่า และราคาดีอยู่ใช่ไหม? โรงแรมรอยัล พรรณราย เชียงใหม่ อาจเป็นคำตอบที่คุณตามหา! ในบทความนี้ เราจะพาคุณเจาะลึกทุกซอกทุกมุมของโรงแรมแห่งนี้ ตั้งแต่ห้องพัก สิ่งอำนวยความสะดวก ไปจนถ
รีวิวโรงแรม รอยัล พรรณราย เชียงใหม่ ที่พักใจกลางเมืองเก่า เดินทางสะดวก
กำลังมองหาทีวีใหม่ที่ให้ภาพสวยคมชัด เสียงกระหึ่มเหมือนโรงหนัง แต่ราคาไม่แรงเกินไปอยู่ใช่ไหม? วันนี้เราจะพาทุกคนไปเจาะลึก LG 55SK8000PTA ทีวี 4K Super UHD ที่มาพร้อมเทคโนโลยี Nano Cell Display อันเป็นเอกลักษณ์ของ LG ที่เคยสร้างความฮือฮาเมื่อ
รีวิวทีวี LG 55SK8000PTA Nano Cell Display 4K ภาพสวยเสียงดี คุ้มค่ามั้ย
เบื่อไหมกับใต้ตาคล้ำเป็นหมีแพนด้า? นอนดึกตาบวมจนเพื่อนทัก? ถ้าคุณกำลังมองหาตัวช่วยกอบกู้ใต้ตาให้กลับมาสดใส มีชีวิตชีวาอีกครั้ง บทความนี้มีคำตอบ! วันนี้เราจะพามารีวิวเจาะลึก Origins Ginzing Eye Cream อายครีมตัวดังที่ใครๆ ก็พูดถึง ว่าจะช่วยลด
รีวิว Origins Ginzing Eye Cream อายครีมลดบวมและความหมองคล้ำรอบดวงตา

บทความที่แนะนำ