10 เครื่องฟอกอากาศ ยี่ห้อไหนดี ปี 2025 อากาศสะอาด หายใจสบาย


สวัสดีครับเพื่อนๆ พ่อบ้าน แม่บ้านยุคใหม่ และทาสแมว ทาสหมาทุกคน! 👋 ในยุคที่อากาศบ้านเราเอาแน่เอานอนไม่ได้ เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย แถมเจ้าฝุ่น PM 2.5 ก็ขยันมาทักทายกันอยู่เรื่อยๆ ไอเทมที่เรียกว่ากลายเป็นของจำเป็นพอๆ กับข้าวสารอาหารแห้งไปแล้วก็คือ "เครื่องฟอกอากาศ" นี่แหละครับ!
เคยไหมครับที่รู้สึกว่าอยู่บ้านแล้วยังคันจมูก ไอจามไม่หยุด หรือบางทีมีกลิ่นไม่พึงประสงค์กวนใจในห้อง? นั่นแหละครับสัญญาณว่าอากาศในบ้านเราอาจจะไม่ได้สะอาดอย่างที่คิด ยิ่งบ้านไหนมีเด็กเล็ก ผู้สูงอายุ หรือคนที่เป็นภูมิแพ้ด้วยแล้ว เครื่องฟอกอากาศนี่ไม่ใช่แค่ทางเลือก แต่เป็นสิ่งจำเป็นมากๆ เลยล่ะครับ!
แต่พอจะซื้อจริงๆ ก็ต้องกุมขมับ เพราะในตลาดตอนนี้มีเครื่องฟอกอากาศให้เลือกเยอะม๊ากกกก ทั้งแบรนด์ไทย แบรนด์นอก รุ่นเล็ก รุ่นใหญ่ ฟังก์ชันเพียบจนเลือกไม่ถูกเลยทีเดียวใช่ไหมครับ? 🤔
ไม่ต้องกังวลครับ! วันนี้ผมจะขอรับหน้าที่เป็นเพื่อนซี้คู่ช้อป พาไปเจาะลึกเรื่องเครื่องฟอกอากาศแบบเข้าใจง่าย สไตล์คนไทย พร้อมคัดมาให้เน้นๆ 10 ยี่ห้อเด็ด รุ่นน่าสนใจ ที่กำลังมาแรงในปี 2025 นี้ บอกเลยว่าอ่านจบปุ๊บ หายใจคล่องปั๊บ แถมเลือกเครื่องที่ใช่ คุ้มค่าโดนใจได้แน่นอนครับ!
ตลาดเครื่องฟอกอากาศในไทย: จากออปชัน สู่สิ่งจำเป็น!
ย้อนไปเมื่อไม่กี่ปีที่แล้ว เครื่องฟอกอากาศอาจจะยังดูเป็นของฟุ่มเฟือยสำหรับบางบ้าน แต่พอเจอวิกฤตฝุ่น PM 2.5 ถล่มเมืองกรุงและอีกหลายจังหวัดบ่อยๆ เข้า บวกกับเทรนด์สุขภาพที่มาแรงแซงทุกโค้ง ทำให้ตอนนี้ตลาดเครื่องฟอกอากาศในไทยเติบโตแบบก้าวกระโดดเลยทีเดียวครับ
แบรนด์ที่ครองตลาดส่วนใหญ่ก็จะเป็นแบรนด์นำเข้าจากต่างประเทศ โดยเฉพาะจากญี่ปุ่น เกาหลี และฝั่งยุโรป ที่คนไทยค่อนข้างให้ความเชื่อถือในเรื่องของคุณภาพและเทคโนโลยี เช่น Sharp, Daikin, Philips, Panasonic, Xiaomi, Coway, Electrolux เป็นต้น ส่วนแบรนด์ไทยอย่าง Hatari หรือ Mazuma ก็มีรุ่นที่น่าสนใจและเน้นราคาที่เข้าถึงง่ายออกมาเป็นตัวเลือกด้วยเช่นกันครับ
พฤติกรรมผู้บริโภคชาวไทยเวลาเลือกซื้อเครื่องฟอกอากาศก็มีหลากหลายครับ บางคนเน้นดีไซน์สวยเข้ากับบ้าน บางคนเน้นฟังก์ชันเยอะๆ โดยเฉพาะที่ช่วยกำจัดเชื้อโรค ไวรัส แบคทีเรีย นอกเหนือจากฝุ่น PM 2.5 ส่วนเรื่องราคา คนไทยก็มองหาความคุ้มค่า ทั้งรุ่นประหยัดไปจนถึงรุ่นพรีเมียม ขึ้นอยู่กับงบประมาณและขนาดห้อง ช่องทางช้อปปิ้งยอดฮิตอันดับต้นๆ หนีไม่พ้นแพลตฟอร์มออนไลน์อย่าง Lazada และ Shopee ที่มีโปรโมชันลดแลกแจกแถมตลอดปี ส่วนร้านค้าออฟไลน์ก็มีทั้งร้านเครื่องใช้ไฟฟ้าทั่วไป ห้างสรรพสินค้า หรือร้านตัวแทนจำหน่ายของแต่ละแบรนด์ครับ
เคล็ดลับเลือกเครื่องฟอกอากาศให้เหมือนมีกูรูมาช่วย!
ก่อนจะพุ่งตัวไปช้อป ลองมาเช็คลิสต์ปัจจัยสำคัญที่ต้องพิจารณาในการเลือกเครื่องฟอกอากาศกันก่อนครับ จะได้ไม่พลาด ได้เครื่องที่ตรงใจและตอบโจทย์การใช้งานที่สุด!
ปัจจัยสำคัญ | สิ่งที่ต้องพิจารณา |
---|---|
ขนาดพื้นที่ห้อง | ต้องเลือกเครื่องที่รองรับขนาดห้องของเราได้อย่างเหมาะสม (ดูค่า CADR ควบคู่ไปด้วยยิ่งดี) เครื่องเล็กไปห้องใหญ่ ฟอกไม่ทันนะครับ |
ระบบและชนิดแผ่นกรอง | แผ่นกรอง HEPA จำเป็นมากสำหรับกรองฝุ่น PM 2.5 แผ่นกรองคาร์บอนช่วยเรื่องกลิ่น บางแบรนด์มีเทคโนโลยีพิเศษเพิ่ม เช่น Plasmacluster ของ Sharp หรือ Streamer ของ Daikin |
ค่า CADR (Clean Air Delivery Rate) | บอกประสิทธิภาพการส่งอากาศบริสุทธิ์ ยิ่งค่าสูงยิ่งฟอกได้เร็ว เหมาะกับห้องใหญ่ |
ระดับเสียง | สำคัญมากถ้าจะวางในห้องนอน ควรเลือกรุ่นที่มีโหมด Sleep และเสียงเงียบมากๆ |
ฟังก์ชันเสริม | เซ็นเซอร์ตรวจจับคุณภาพอากาศ (AQI), โหมดอัตโนมัติ, การควบคุมผ่านแอปฯ ในมือถือ, โหมดสำหรับสัตว์เลี้ยง หรือบางรุ่นมีระบบทำความชื้นด้วย |
การดูแลรักษาและไส้กรอง | เปลี่ยนไส้กรองยากไหม? ราคาไส้กรองเท่าไหร่? หาซื้ออะไหล่ได้ง่ายหรือเปล่า? สำคัญมากๆ ในระยะยาวครับ |
ชื่อเสียงและรีวิว | ลองดูรีวิวจากผู้ใช้งานจริงในไทยตามเว็บไซต์หรือโซเชียลต่างๆ เช่น Pantip |
ราคาและการรับประกัน | เทียบราคากับฟังก์ชันที่ได้ และเช็คระยะเวลาการรับประกันสินค้า |
เปิดโผ! 10 เครื่องฟอกอากาศน่าสอย ปี 2025 อากาศสะอาดชัวร์!
มาถึงช่วงที่ทุกคนรอคอย! ผมรวบรวม 10 แบรนด์เครื่องฟอกอากาศยอดนิยมในไทย พร้อมรุ่นเด่นที่น่าจับตามองมาให้แล้ว ลองพิจารณาตามความต้องการและงบประมาณของตัวเองได้เลยครับ!
1. Xiaomi (เสี่ยวหมี่)
เกี่ยวกับแบรนด์: แบรนด์จากจีนที่มาแรงสุดๆ ในไทย ด้วยสินค้าคุณภาพดี ฟังก์ชันครบครัน ในราคาที่เข้าถึงง่าย
- สินค้ารุ่นหรือซีรีส์เด่น: Xiaomi Smart Air Purifier 4 Series (4, 4 Lite, 4 Pro, 4 Compact), 3H
- วิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย:
ข้อดี: ราคาเป็นมิตร ฟังก์ชันครบครัน เชื่อมต่อแอปพลิเคชัน Mi Home ได้สะดวก แสดงค่า PM 2.5 แบบเรียลไทม์ ดีไซน์สวยงาม มีรุ่นกะทัดรัดสำหรับห้องเล็ก/คอนโด
ข้อเสีย: ไส้กรองเทียบมีเยอะ ต้องระวังของปลอม บางรุ่นเสียงดังที่ความแรงสูง - เหมาะกับใคร: คนที่มองหาเครื่องฟอกอากาศฟังก์ชันครบ ราคาคุ้มค่า คนที่ใช้สินค้า Xiaomi อยู่แล้ว และคนที่ต้องการควบคุมผ่านแอปฯ
- แนะนำช่องทางการซื้อ: Xiaomi Store Thailand, Lazada, Shopee, ร้านค้าไอทีชั้นนำ (BaNANA IT, JIB, Advice)
- ช่วงราคา: ประมาณ 2,xxx - 1x,xxx บาท (ขึ้นอยู่กับรุ่นและโปรโมชัน)
- รีวิวผู้ใช้งาน: "คุ้มค่าเกินราคามาก เชื่อมแอปใช้งานง่าย ดูค่าฝุ่นได้ตลอด" "ดีไซน์มินิมอล วางตรงไหนก็สวย" "ใช้รุ่น Compact ในห้องนอนเล็กๆ โอเคเลย เสียงไม่ดังมากในโหมด Auto" "ระวังไส้กรองปลอมในออนไลน์ เช็คดีๆ ก่อนซื้อ"
2. Sharp (ชาร์ป)
เกี่ยวกับแบรนด์: แบรนด์เก่าแก่จากญี่ปุ่น เป็นที่รู้จักดีในไทย มีเทคโนโลยี Plasmacluster อันเป็นเอกลักษณ์
- สินค้ารุ่นหรือซีรีส์เด่น: FP-J30TA, FP-J40TA, FX-S120B (เน้น Plasmacluster), KC-xxxx (รุ่นมีระบบทำไอน้ำ)
- วิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย:
ข้อดี: เทคโนโลยี Plasmacluster ช่วยยับยั้งเชื้อโรค แบคทีเรีย ไวรัส และลดกลิ่นได้ดี มีรุ่นที่หลากหลายตั้งแต่ขนาดเล็กถึงใหญ่ มีรุ่นที่มีระบบทำไอน้ำช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น เป็นแบรนด์ที่คนไทยเชื่อถือ
ข้อเสีย: บางรุ่นอาจจะมีเสียงดังกว่าแบรนด์อื่นในโหมดการทำงานสูง รุ่นเล็ก FP-J30TA ไม่มีเซ็นเซอร์ PM 2.5 - เหมาะกับใคร: คนที่เน้นเรื่องการกำจัดเชื้อโรคและกลิ่น คนที่เป็นภูมิแพ้ และคนที่ต้องการแบรนด์ที่มีความน่าเชื่อถือสูง
- แนะนำช่องทางการซื้อ: ห้างสรรพสินค้า (Power Buy, Central), ร้านเครื่องใช้ไฟฟ้าทั่วไป, Lazada, Shopee, NocNoc
- ช่วงราคา: ประมาณ 2,xxx - 1x,xxx+ บาท
- รีวิวผู้ใช้งาน: "ใช้ Sharp มานาน เชื่อมั่นใน Plasmacluster เรื่องกลิ่นนี่เอาอยู่จริงๆ" "รุ่น FP-J30TA เหมาะกับห้องนอนเล็กๆ เสียงไม่รบกวนตอนนอน" "รู้สึกว่าภูมิแพ้ดีขึ้นหลังใช้ Sharp"
3. Philips (ฟิลิปส์)
เกี่ยวกับแบรนด์: แบรนด์ชั้นนำจากเนเธอร์แลนด์ โดดเด่นด้วยเทคโนโลยีการกรองอากาศขั้นสูงและดีไซน์ที่ทันสมัย
- สินค้ารุ่นหรือซีรีส์เด่น: Series 1000i (AC1715), Series 800 (AC0820, AC0850), Series 2000i, Series 3000i
- วิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย:
ข้อดี: ระบบกรอง NanoProtect HEPA กรองอนุภาคเล็กกว่า PM 2.5 ได้ดีมาก (ถึง 0.003 ไมครอน) บางรุ่นเชื่อมต่อแอปฯ แสดงคุณภาพอากาศแบบเรียลไทม์ได้ เสียงเงียบในโหมด Sleep หาซื้อไส้กรองง่าย
ข้อเสีย: ราคาอาจจะสูงกว่าบางแบรนด์ในสเปกใกล้เคียง - เหมาะกับใคร: คนที่เน้นประสิทธิภาพการกรองอนุภาคขนาดเล็กมากๆ โดยเฉพาะผู้ที่มีอาการภูมิแพ้รุนแรง และคนที่ชอบเทคโนโลยีการควบคุมผ่านแอปฯ
- แนะนำช่องทางการซื้อ: ห้างสรรพสินค้า (Power Buy, Central), ร้านเครื่องใช้ไฟฟ้าทั่วไป, Lazada, Shopee
- ช่วงราคา: ประมาณ 3,xxx - 2x,xxx+ บาท (ขึ้นอยู่กับรุ่นและขนาดพื้นที่)
- รีวิวผู้ใช้งาน: "Philips กรองละเอียดจริง รู้สึกอากาศสะอาดขึ้นชัดเจน" "โหมด Sleep เงียบมาก แทบไม่ได้ยินเสียงเลย" "แอปฯ ใช้งานง่าย ดูค่าฝุ่นได้สะดวก"
4. Coway (โคเวย์)
เกี่ยวกับแบรนด์: แบรนด์ดังจากเกาหลีใต้ มีชื่อเสียงเรื่องเครื่องกรองน้ำและเครื่องฟอกอากาศ จุดเด่นคือบริการ Subscription พร้อมดูแลเครื่อง
- สินค้ารุ่นหรือซีรีส์เด่น: Storm, Noble, Giant
- วิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย:
ข้อดี: ประสิทธิภาพการกรองดี มีระบบกรองหลายขั้นตอน มีโหมดสำหรับสัตว์เลี้ยง จุดเด่นคือบริการ Subscription ที่รวมค่าเครื่อง ค่าไส้กรอง และบริการดูแลรักษา ตรวจเช็ค ทำความสะอาด โดยผู้เชี่ยวชาญ เหมาะกับคนที่ไม่ต้องการดูแลเครื่องเอง
ข้อเสีย: ค่าใช้จ่ายรายเดือน/รายปีในระยะยาว อาจจะสูงกว่าการซื้อขาดบางยี่ห้อ - เหมาะกับใคร: คนที่ต้องการเครื่องฟอกอากาศประสิทธิภาพสูง พร้อมบริการดูแลรักษาครบวงจร ไม่กังวลเรื่องค่าใช้จ่ายรายเดือน/รายปี คนรักสัตว์
- แนะนำช่องทางการซื้อ: ตัวแทนจำหน่าย Coway โดยตรง, เว็บไซต์ Coway Thailand, Shopee, Lazada (ร้าน Official)
- ช่วงราคา: ระบบ Subscription เริ่มต้นประมาณ 7xx บาท/เดือน (สำหรับเครื่องฟอกอากาศ) ซื้อขาดอาจจะ 1x,xxx - 3x,xxx+ บาท
- รีวิวผู้ใช้งาน: "ชอบบริการของ Coway มาก มีคนมาดูแลเครื่องให้ถึงบ้านสะดวกสุดๆ" "รุ่น Storm แรงดี ฟอกอากาศในห้องใหญ่ๆ ได้เร็ว" "มี Pet Mode ช่วยลดขนสัตว์ได้จริง"
5. Daikin (ไดกิ้น)
เกี่ยวกับแบรนด์: แบรนด์เครื่องปรับอากาศยักษ์ใหญ่จากญี่ปุ่น ที่มีเทคโนโลยีฟอกอากาศ Streamer เป็นจุดเด่น
- สินค้ารุ่นหรือซีรีส์เด่น: MCK55, MC80ZV1S (มีระบบทำไอน้ำ/ควบคุมความชื้น), MC40, MC55
- วิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย:
ข้อดี: เทคโนโลยี Streamer และ Active Plasma Ion ช่วยยับยั้งเชื้อโรค ไวรัส แบคทีเรีย สารก่อภูมิแพ้ และกลิ่นได้ดีมาก บางรุ่นมีระบบทำความชื้นช่วยแก้ปัญหาอากาศแห้งจากแอร์ แผ่นกรองบางรุ่นเคลมว่าใช้ได้นานถึง 10 ปี (ภายใต้เงื่อนไข) ฟอกอากาศเร็ว เสียงเงียบในโหมด Sleep
ข้อเสีย: ดีไซน์บางรุ่นอาจจะดูเรียบๆ ไม่หวือหวาเท่าแบรนด์อื่น - เหมาะกับใคร: คนที่เน้นเรื่องการกำจัดเชื้อโรค ไวรัส สารก่อภูมิแพ้ และกลิ่น ต้องการเครื่องที่ฟอกอากาศได้รวดเร็ว และคนที่กังวลเรื่องอากาศแห้ง
- แนะนำช่องทางการซื้อ: ตัวแทนจำหน่าย Daikin, ห้างสรรพสินค้า (HomePro, Power Buy), ร้านเครื่องใช้ไฟฟ้าทั่วไป
- ช่วงราคา: ประมาณ 7,xxx - 2x,xxx+ บาท
- รีวิวผู้ใช้งาน: "ภูมิแพ้ดีขึ้นเยอะตั้งแต่ใช้ Daikin หายใจโล่งขึ้นจริงๆ" "รุ่นที่มีระบบทำไอน้ำดีมาก ช่วยไม่ให้คอแห้งตอนนอน" "เครื่องทำงานเงียบมากจนบางทีลืมว่าเปิดอยู่"
6. Electrolux (อีเลคโทรลักซ์)
เกี่ยวกับแบรนด์: แบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าชั้นนำจากสวีเดน มีสินค้าหลากหลายประเภท รวมถึงเครื่องฟอกอากาศที่เน้นดีไซน์และฟังก์ชันการใช้งาน
- สินค้ารุ่นหรือซีรีส์เด่น: Pure A9 (PA91), Urban Collection (FA31), UltimateHome 700 (EP72)
- วิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย:
ข้อดี: ดีไซน์สวยงาม ทันสมัย เข้ากับบ้านสไตล์โมเดิร์น มีรุ่นที่เชื่อมต่อแอปฯ ได้ ระบบการกรองมีประสิทธิภาพ บางรุ่นเสียงเงียบมาก มีการรับประกันและบริการหลังการขายที่ดีในไทย
ข้อเสีย: บางรุ่นอาจจะมีราคาค่อนข้างสูง - เหมาะกับใคร: คนที่มองหาเครื่องฟอกอากาศที่เน้นดีไซน์สวยงาม คุณภาพดี และมีฟังก์ชันที่ตอบโจทย์การใช้งานในบ้านยุคใหม่
- แนะนำช่องทางการซื้อ: ห้างสรรพสินค้า (HomePro, Power Buy), ร้านเครื่องใช้ไฟฟ้าทั่วไป, Lazada, Shopee
- ช่วงราคา: ประมาณ 3,xxx - 2x,xxx+ บาท
- รีวิวผู้ใช้งาน: "ดีไซน์สวยมาก ถูกใจสุดๆ" "เครื่องเงียบจริงตอนเปิดในห้องนอน" "แอปฯ Pure A9 ใช้งานง่ายดี"
7. Levoit (เลอโวอิท)
เกี่ยวกับแบรนด์: แบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านจากอเมริกา ได้รับความนิยมในไทยช่วงหลัง โดยเฉพาะเครื่องฟอกอากาศที่เน้นประสิทธิภาพและราคาคุ้มค่า
- สินค้ารุ่นหรือซีรีส์เด่น: Core 300S, Core 400S, Core 600S, Core Mini
- วิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย:
ข้อดี: ประสิทธิภาพการกรองดีมาก ด้วย True HEPA H13 มีค่า CADR สูงในหลายรุ่นเมื่อเทียบกับราคา เชื่อมต่อแอปฯ VeSync และสั่งงานด้วยเสียงได้ มีรุ่นขนาดเล็ก (Core Mini) เหมาะกับห้องส่วนตัว เสียงเงียบในโหมด Sleep
ข้อเสีย: เป็นแบรนด์ใหม่ในไทย อาจจะต้องหาซื้อไส้กรองจากร้านค้าออนไลน์เป็นหลัก - เหมาะกับใคร: คนที่เน้นประสิทธิภาพการกรองฝุ่นและสารก่อภูมิแพ้ ต้องการเครื่องที่ค่า CADR สูงในราคาที่สมเหตุสมผล และชอบควบคุมผ่านแอปฯ
- แนะนำช่องทางการซื้อ: Lazada, Shopee (ร้าน Official หรือร้านที่น่าเชื่อถือ)
- ช่วงราคา: ประมาณ 1,xxx - 1x,xxx บาท (ขึ้นอยู่กับรุ่น)
- รีวิวผู้ใช้งาน: "Levoit กรองฝุ่นดีจริง ค่า PM 2.5 ลดลงไวมาก" "รุ่น Core 400S เหมาะกับห้องนั่งเล่นใหญ่ๆ ฟอกเร็วดี" "Core Mini น่ารักมาก วางบนโต๊ะทำงานกำลังดี"
8. Hatari (ฮาตาริ)
เกี่ยวกับแบรนด์: แบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าสัญชาติไทย เป็นที่รู้จักในเรื่องพัดลม แต่ก็มีเครื่องฟอกอากาศที่เน้นราคาเข้าถึงง่าย
- สินค้ารุ่นหรือซีรีส์เด่น: HT-AP12
- วิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย:
ข้อดี: ราคาถูกมากเมื่อเทียบกับแบรนด์อื่นๆ หาซื้อได้ง่ายตามร้านค้าทั่วไปและห้างสรรพสินค้า ใช้งานง่าย ไม่ซับซ้อน
ข้อเสีย: ฟังก์ชันไม่หลากหลายเท่าแบรนด์นำเข้า ประสิทธิภาพการกรองอาจจะไม่สูงเท่ารุ่นราคาสูง และอาจจะไม่เหมาะกับห้องขนาดใหญ่มากนัก วัสดุอาจจะไม่พรีเมียมเท่าแบรนด์อื่น - เหมาะกับใคร: คนที่ต้องการเครื่องฟอกอากาศในงบประมาณจำกัด เน้นใช้งานพื้นฐานในห้องขนาดไม่ใหญ่มาก
- แนะนำช่องทางการซื้อ: ห้างสรรพสินค้า (HomePro, Big C, Tops), ร้านเครื่องใช้ไฟฟ้าทั่วไป, Lazada, Shopee
- ช่วงราคา: ประมาณ 2,xxx - 3,xxx บาท
- รีวิวผู้ใช้งาน: "ซื้อ Hatari มาลองใช้ ราคาดีมาก เหมาะกับห้องนอนเล็กๆ" "ฟังก์ชันพื้นฐานครบตามราคา" "เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับคนงบน้อย"
9. Honeywell (ฮันนี่เวลล์)
เกี่ยวกับแบรนด์: แบรนด์ระดับโลกจากอเมริกา มีสินค้าหลากหลายด้าน รวมถึงเครื่องฟอกอากาศที่เน้นคุณภาพและความทนทาน
- สินค้ารุ่นหรือซีรีส์เด่น: Air Touch Series (I8, Premium)
- วิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย:
ข้อดี: ประสิทธิภาพการกรองดี ได้มาตรฐานสากล ตัวเครื่องแข็งแรงทนทาน มีรุ่นสำหรับห้องขนาดใหญ่
ข้อเสีย: ราคาค่อนข้างสูง ดีไซน์อาจจะดูไม่หวือหวาเท่าบางแบรนด์ - เหมาะกับใคร: คนที่เน้นคุณภาพและความทนทาน ยอมจ่ายในราคาสูงเพื่อให้ได้เครื่องที่ใช้งานได้นาน และเหมาะกับผู้ที่ต้องการเครื่องสำหรับพื้นที่ขนาดใหญ่
- แนะนำช่องทางการซื้อ: ห้างสรรพสินค้า (HomePro, Power Buy), ร้านเครื่องใช้ไฟฟ้าบางแห่ง, NocNoc, Mazuma (ตัวแทนจำหน่ายในไทย)
- ช่วงราคา: ประมาณ 1x,xxx - 2x,xxx+ บาท
- รีวิวผู้ใช้งาน: "Honeywell แข็งแรงทนทานดี ใช้มาหลายปีแล้วยังไม่มีปัญหา" "ฟอกอากาศในห้องนั่งเล่นใหญ่ๆ ได้ดี" "ราคาสูงแต่คุ้มกับคุณภาพที่ได้"
10. Panasonic (พานาโซนิค)
เกี่ยวกับแบรนด์: แบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าชั้นนำจากญี่ปุ่น มีเทคโนโลยี nanoe™ และ nanoe™ X เป็นจุดเด่น
- สินค้ารุ่นหรือซีรีส์เด่น: F-PXM Series (เน้น nanoe™), F-GPT01 (รุ่นพกพา)
- วิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย:
ข้อดี: เทคโนโลยี nanoe™ และ nanoe™ X ช่วยยับยั้งเชื้อโรค แบคทีเรีย ไวรัส และลดกลิ่นได้ มีระบบฟอกอากาศแบบ 3 มิติช่วยกระจายอากาศบริสุทธิ์ได้ทั่วห้อง ดีไซน์เรียบง่าย ใช้งานสะดวก มีรุ่นสำหรับห้องขนาดเล็กและรุ่นพกพา
ข้อเสีย: รุ่นที่มีเทคโนโลยี nanoe™ X อาจมีราคาสูงกว่ารุ่นทั่วไป - เหมาะกับใคร: คนที่มองหาเครื่องฟอกอากาศจากแบรนด์ญี่ปุ่นที่น่าเชื่อถือ เน้นเทคโนโลยีช่วยยับยั้งเชื้อโรคและกลิ่น
- แนะนำช่องทางการซื้อ: ห้างสรรพสินค้า (Power Buy, Central), ร้านเครื่องใช้ไฟฟ้าทั่วไป, Lazada, Shopee
- ช่วงราคา: ประมาณ 3,xxx - 1x,xxx+ บาท
- รีวิวผู้ใช้งาน: "Panasonic nanoe™ ช่วยเรื่องกลิ่นอับได้ดีมาก" "รุ่นเล็กเหมาะกับวางบนโต๊ะทำงานหรือข้างเตียง" "ดีไซน์มินิมอล เข้ากับเฟอร์นิเจอร์ได้ง่าย"
คำถามที่พบบ่อย (FAQ) ฉบับคนอยากอากาศดี!
Q: อยู่คอนโดพื้นที่จำกัด ควรเลือกเครื่องฟอกอากาศแบบไหนดี?
A: สำหรับคอนโดหรือห้องขนาดเล็ก แนะนำให้เลือกรุ่นที่มีขนาดกะทัดรัดและน้ำหนักเบา จะได้ไม่เปลืองพื้นที่และเคลื่อนย้ายสะดวกครับ รุ่นยอดนิยมก็มีพวก Xiaomi Smart Air Purifier 4 Compact, Sharp FP-J30TA, Philips AC0820 หรือ Levoit Core Mini ครับ
Q: เครื่องฟอกอากาศช่วยเรื่องภูมิแพ้ได้จริงไหม?
A: ได้แน่นอนครับ! เครื่องฟอกอากาศที่มีแผ่นกรอง HEPA แท้ (True HEPA) สามารถกรองอนุภาคเล็กๆ ที่เป็นสารก่อภูมิแพ้ เช่น ไรฝุ่น ละอองเกสร สะเก็ดผิวหนังจากสัตว์เลี้ยง หรือแม้แต่เชื้อรา ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงมากๆ ครับ ยิ่งถ้ามีเทคโนโลยีช่วยยับยั้งเชื้อโรคและสลายสารก่อภูมิแพ้ด้วยยิ่งดีครับ เช่น Plasmacluster ใน Sharp หรือ Streamer ใน Daikin
Q: ควรเปลี่ยนไส้กรองบ่อยแค่ไหน? ราคาแพงไหม?
A: อายุไส้กรองขึ้นอยู่กับการใช้งานและสภาพอากาศครับ ส่วนใหญ่จะอยู่ที่ประมาณ 6 เดือน - 2 ปี เครื่องส่วนใหญ่จะมีไฟแจ้งเตือนเมื่อถึงเวลาเปลี่ยนครับ ราคาไส้กรองก็แตกต่างกันไปในแต่ละแบรนด์และรุ่น บางแบรนด์หาซื้อง่าย ราคาไม่แพง แต่บางแบรนด์อาจจะต้องสั่งซื้อเฉพาะและราคาสูงกว่าครับ ก่อนซื้อเครื่อง ลองเช็คราคาและอายุไส้กรองของรุ่นนั้นๆ ด้วยนะครับ
Q: ซื้อเครื่องฟอกอากาศออนไลน์บน Lazada/Shopee เชื่อถือได้ไหม? กลัวเจอของปลอม?
A: ส่วนใหญ่ถ้าซื้อจากร้าน Official Store หรือร้านค้าที่มียอดขายและรีวิวดีๆ บนแพลตฟอร์มใหญ่ๆ ก็น่าเชื่อถือได้ครับ แต่ถ้าเจอร้านที่ราคาถูกจนผิดปกติ หรือเป็นร้านที่ไม่คุ้นเคย ให้ตรวจสอบให้ละเอียด อ่านรีวิวจากผู้ซื้อคนอื่นเยอะๆ หรือสอบถามข้อมูลร้านค้าให้มั่นใจก่อนครับ ทางที่ปลอดภัยที่สุดคือซื้อจากร้านค้าตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการหรือร้านค้าในห้างสรรพสินค้าครับ
Q: เครื่องฟอกอากาศที่มีระบบทำไอน้ำ (Humidifier) ดีไหม? จำเป็นหรือเปล่า?
A: รุ่นที่มีระบบทำไอน้ำจะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นในอากาศได้ครับ เหมาะมากๆ สำหรับคนที่นอนเปิดแอร์เป็นเวลานานๆ แล้วรู้สึกว่าอากาศแห้ง แสบคอ หรือผิวแห้ง แต่ถ้าบ้านไม่ได้มีปัญหาเรื่องอากาศแห้งเป็นพิเศษ หรืออยู่ในพื้นที่ที่มีความชื้นสูงอยู่แล้ว ก็อาจจะไม่จำเป็นครับ
สรุปและคำแนะนำ: เลือกให้ตอบโจทย์ชีวิต ฟอกอากาศให้ฟิน!
เป็นไงบ้างครับ? พอได้เห็นข้อมูลแน่นๆ แบบนี้แล้ว การเลือกเครื่องฟอกอากาศก็น่าจะง่ายขึ้นเยอะเลยใช่ไหมครับ?
- ถ้าเน้น งบประมาณเป็นมิตร ฟังก์ชันพื้นฐานครบๆ ลองดู Xiaomi หรือ Hatari ครับ
- ถ้าอยากได้เครื่องที่ กรองละเอียดสุดๆ เน้นเรื่องภูมิแพ้ ต้อง Philips เลยครับ
- ถ้ากังวลเรื่อง เชื้อโรค ไวรัส และกลิ่น เป็นพิเศษ ลองดู Sharp (Plasmacluster) หรือ Daikin (Streamer) ครับ
- ถ้าชอบ ดีไซน์สวยๆ คุณภาพดี มีฟังก์ชันทันสมัย แนะนำ Electrolux หรือ Philips บางรุ่นครับ
- ถ้าต้องการ บริการหลังการขายแบบครบวงจร มีคนมาดูแลถึงบ้าน ลองดู Coway แบบ Subscription ครับ
- ถ้าเน้น คุณภาพและความทนทาน เหมาะกับห้องใหญ่ๆ ลองดู Honeywell ครับ
สิ่งที่ต้องย้ำเตือนกันอีกครั้งคือ อย่าลืมเช็คขนาดพื้นที่ครอบคลุมของเครื่องให้เหมาะสมกับห้องที่จะใช้งาน และ ศึกษาเรื่องไส้กรอง ทั้งอายุการใช้งาน ราคา และแหล่งที่มา เพื่อความสะดวกในระยะยาวนะครับ และที่สำคัญ ในช่วงที่ฝุ่น PM 2.5 กลับมาอีกครั้ง หรือช่วงเทศกาลที่มีการจุดพลุ จุดประทัด เผาต่างๆ การมีเครื่องฟอกอากาศไว้ในบ้านช่วยให้อุ่นใจและดีต่อสุขภาพปอดมากๆ เลยล่ะครับ!
มาเม้าท์มอย แชร์ประสบการณ์กันหน่อย!
เพื่อนๆ ใช้เครื่องฟอกอากาศยี่ห้อไหน รุ่นไหนอยู่บ้างครับ? เป็นยังไงกันบ้าง เล่าสู่กันฟังหน่อยสิครับ ชอบตรงไหน ไม่ชอบตรงไหน หรือมีรุ่นไหนที่ใช้ดีจนอยากบอกต่อ คอมเมนต์มาแลกเปลี่ยนประสบการณ์กันได้เลยนะครับ!
ถ้าบทความนี้มีประโยชน์กับเพื่อนๆ อยากให้กำลังใจคนเขียน หรืออยากได้พิกัดร้านค้าออนไลน์ดีๆ พร้อมโปรโมชั่นเด็ดๆ รบกวนพิมพ์คำว่า "อยากได้พิกัดร้าน!" ใต้คอมเมนต์ได้เลยครับ เดี๋ยวผมจะรวบรวมลิงก์ช้อปปิ้งจากร้านที่น่าเชื่อถือมาแปะให้เป็นพิเศษเลยจ้าาา! แล้วเจอกันใหม่ในบทความหน้านะครับ ขอให้ทุกคนมีอากาศที่สะอาด หายใจสบายตลอดปี 2025 นี้ครับ! 👋