รีวิว ครีม Exxe Phytocell: ครีมบำรุงผิวผสมสเต็มเซลล์ ช่วยเรื่องอะไรบ้าง?

สวัสดีค่าทุกคน! วันนี้เมย์จะมารีวิวของเล่นใหม่ที่ได้ลองใช้มาสักพัก นั่นก็คือ ครีม Exxe Phytocell ที่เค้าเคลมว่าเป็นครีมบำรุงผิวผสมสเต็มเซลล์! ฟังแล้วดูว้าวมากใช่มั้ยคะ? หลายคนคงสงสัยว่า "สเต็มเซลล์" ในครีมเนี่ย มันช่วยอะไรได้บ้าง แล้วใช้แล้วหน้าจะเด้ง หน้าเด็กเหมือนย้อนวัยได้จริงมั้ย? วันนี้เมย์จะมาเล่าประสบการณ์แบบหมดเปลือก สไตล์เพื่อนคุยกับเพื่อน พร้อมแล้วไปดูกันเลยจ้า!

1. ภาพรวมผลิตภัณฑ์: ทำความรู้จักกับ Exxe Phytocell Cream

แบรนด์: Exxe
ชื่อสินค้า: PhytocellTec Cream (หรือที่เรียกกันติดปากว่า Exxe Phytocell)
ช่วงราคา: กลางๆ ค่อนไปทางสูงนิดนึง แล้วแต่โปรโมชั่นตามร้านค้าออนไลน์และร้านขายยาค่ะ

ตำแหน่งในตลาด: ครีมบำรุงผิวกลุ่ม Anti-Aging ที่เน้นเรื่องการฟื้นฟูและลดเลือนริ้วรอย เหมาะกับคนที่มีปัญหาผิวเสื่อมสภาพตามวัย หรืออยากบำรุงผิวให้แข็งแรงดูอ่อนเยาว์

จุดเด่นที่เค้าเคลมมา:

• มีส่วนผสมของ Plant Stem Cell (สเต็มเซลล์จากพืช) ช่วยฟื้นฟูผิว
• ช่วยลดเลือนริ้วรอยร่องลึกและริ้วรอยตื้นๆ
• บำรุงให้ผิวเนียนนุ่ม ชุ่มชื้น
• ช่วยให้ผิวดูกระจ่างใสขึ้น
• รู้สึกได้ถึงผิวที่แข็งแรง ยืดหยุ่นขึ้น

2. ดีไซน์ & รูปลักษณ์ภายนอก: เรียบหรู ดูดี!

แพ็คเกจเค้ามาในโทนสีเขียวๆ ขาวๆ ดูเป็นธรรมชาติและน่าเชื่อถือค่ะ กระปุกครีมเป็นแก้วหนาๆ ดูแข็งแรง ขนาดกำลังดี ไม่เล็กไม่ใหญ่เกินไป เหมาะกับการวางบนโต๊ะเครื่องแป้ง หรือจะพกพาไปต่างจังหวัดก็พอได้อยู่นะคะ (แต่ต้องระวังแตกนิดนึง)

วัสดุ: กระปุกแก้ว + ฝาพลาสติก
ขนาด: ประมาณกระปุกครีมทั่วไป ไม่เทอะทะ
สี: โทนเขียว-ขาว ดูคลีนๆ
อุปกรณ์ในกล่อง: ตัวกระปุกครีม พร้อมกล่องและคู่มือเล็กน้อย (ส่วนใหญ่มีแต่ภาษาอังกฤษ แต่ใช้ง่ายอยู่แล้วค่ะ)

โดยรวมดีไซน์ดูมินิมอล แต่แฝงความพรีเมียมไว้ค่ะ เปิดฝามาเจอเนื้อครีมแล้วอยากใช้ทันที!

3. ประสบการณ์ในการใช้งานฟังก์ชันหลัก: ทาแล้วรู้สึกยังไง? สเต็มเซลล์ทำงานจริงมั้ย?

เนื้อครีมเป็นสีขาวนวลๆ ไม่ข้นมาก ไม่เหลวไป กลิ่นหอมอ่อนๆ แนวธรรมชาติ ไม่ฉุนเลยค่ะ พอทาลงบนผิวแล้วเกลี่ยง่ายมาก ซึมไวพอสมควร ไม่ทิ้งความเหนอะหนะไว้เลย ซึ่งอันนี้ถูกใจมาก เพราะเมย์ไม่ชอบครีมที่ทาแล้วรู้สึกหนักหน้าเหมือนมีอะไรมาเคลือบ

ความรู้สึกตอนทา: เนื้อครีมเบา ซึมไว ไม่เหนอะหนะ
กลิ่น: หอมอ่อนๆ สบายจมูก
ผลลัพธ์ทันที: รู้สึกได้เลยว่าผิวดูชุ่มชื้นขึ้น นุ่มขึ้นทันทีหลังทา

หลังจากใช้มาสักพัก (ประมาณ 2-3 อาทิตย์) รู้สึกว่าผิวดูอิ่มฟูขึ้นค่ะ พวกร่องเล็กๆ ตรงใต้ตาหรือมุมปากเหมือนจะดูตื้นขึ้นนิดนึง (อาจจะคิดไปเองก็ได้นะ 555) แต่ที่เห็นได้ชัดคือผิวดูแข็งแรงขึ้น ไม่ค่อยแพ้ง่ายเหมือนเมื่อก่อน แต่งหน้าแล้วเครื่องสำอางติดทนขึ้นด้วย อันนี้ปลื้ม!

4. ใช้งานง่ายไหม? เหมาะกับไลฟ์สไตล์คนไทยหรือเปล่า?

ใช้ง่ายมากค่ะ ไม่ต้องมีขั้นตอนอะไรซับซ้อนเลย แค่ทาหลังล้างหน้าและลงโทนเนอร์/เซรั่มตามปกติ ใช้ได้ทั้งเช้าและก่อนนอน เมย์ชอบที่เนื้อครีมซึมไว ทำให้ไม่เสียเวลาตอนเช้ารีบๆ แต่งหน้าต่อได้เลย

ความง่ายในการใช้: ง๊ายง่าย! แค่เปิดฝาแล้วตัก/ปาดทา
เข้ากับชีวิตประจำวัน: ใช้ได้ทั้งเช้า-เย็น ไม่รบกวนขั้นตอนอื่น
ความรู้สึกหลังใช้: สบายผิว ไม่เหนียวเหนอะหนะแม้ในอากาศร้อนๆ ของบ้านเรา!

ไม่ว่าจะไปเที่ยวสงกรานต์ เล่นน้ำมาผิวแห้งๆ หรือนั่งทำงานในห้องแอร์นานๆ ผิวขาดน้ำ ตัวนี้ช่วยได้ดีเลยค่ะ ทาแล้วรู้สึกผิวเฟรชขึ้นทันที

5. แบตเตอรี่ / พลังงาน / ความคุ้มค่าในระยะยาว: ครีมไม่มีแบตฯ แต่คุ้มมั้ย?

แน่นอนว่าครีมไม่มีแบตเตอรี่หรือพลังงานให้วัด แต่เรามาดูเรื่องความคุ้มค่ากันดีกว่าค่ะ แม้ราคาจะไม่ได้ถูกเหมือนครีมซองในร้านสะดวกซื้อ แต่ปริมาณที่ให้มาก็ถือว่าใช้ได้นานพอสมควรค่ะ (ขึ้นอยู่กับปริมาณการใช้ของแต่ละคนด้วยนะ)

ปริมาณ: กระปุกนึงใช้ได้ประมาณ 1-2 เดือน (ถ้าใช้เช้า-เย็น)
ค่าใช้จ่ายต่อการใช้: เมื่อหารออกมาต่อวัน ถือว่าไม่แพงจนเกินไป ถ้าเทียบกับผลลัพธ์ที่ได้
ความคุ้มค่า: ถ้ามองว่าเป็นครีมที่ช่วยฟื้นฟูและลดริ้วรอยได้จริง ถือว่าคุ้มค่ากับการลงทุนค่ะ ไม่ต้องไปเสียเงินทำทรีทเมนต์แพงๆ บ่อยๆ

เปรียบเทียบกับครีม Anti-Aging แบรนด์อื่นๆ ในระดับเดียวกัน ราคาถือว่ากลางๆ ค่ะ แต่ผลลัพธ์ที่ได้ก็ถือว่าน่าพอใจเลยทีเดียว

6. สรุปข้อดี-ข้อเสีย: แบบไม่อวย!

ข้อดีที่ชอบมากๆ:

• เนื้อครีมซึมไว ไม่เหนอะหนะ
• ผิวดูชุ่มชื้น อิ่มฟูขึ้นจริง
• รู้สึกว่าผิวแข็งแรงขึ้น ไม่แพ้ง่าย
• กลิ่นหอมอ่อนๆ สบายผิว
• แพ็คเกจดูดี น่าใช้

ข้อเสียที่ต้องพิจารณา:

• ราคาอาจจะสูงไปนิดสำหรับบางคน
• ผลลัพธ์เรื่องริ้วรอยชัดเจนอาจจะต้องใช้เวลานานกว่านี้
• กระปุกแก้วอาจจะไม่สะดวกกับการพกพาเดินทางบ่อยๆ
• อาจจะต้องซื้อตอนมีโปรโมชั่นถึงจะคุ้มสุดๆ

7. เหมาะกับใคร & คำแนะนำในการซื้อ: ใครควรตำ? ใครควรรอ?

เหมาะกับ:

• คนที่เริ่มมีปัญหาริ้วรอยเล็กๆ หรือผิวดูไม่ค่อยสดใส
• คนที่อยากได้ครีมที่ช่วยฟื้นฟูผิวให้แข็งแรงขึ้น
• คนที่ชอบเนื้อครีมที่ไม่เหนอะหนะ ซึมไว
• คนที่มองหาครีม Anti-Aging ในราคาที่จับต้องได้ (เมื่อเทียบกับเคาน์เตอร์แบรนด์)

เหมาะกับการใช้งาน: ใช้เป็นสกินแคร์รูทีนประจำวันได้เลยค่ะ เหมาะมากๆ สำหรับการใช้บำรุงก่อนนอน ให้ผิวได้ฟื้นฟูเต็มที่

ควรซื้อเลยไหม? ถ้ากำลังมีปัญหาผิวตามที่กล่าวมา แล้วเจอช่วงมีโปรโมชั่น กดใส่ตะกร้าโลดค่ะ! แต่ถ้ายังไม่มีปัญหาอะไรมาก อาจจะลองใช้เทสเตอร์ดูก่อน หรือรอช่วงโปรโมชั่นใหญ่ๆ เช่น 11.11, 12.12 หรือช่วงปีใหม่ไทย/สงกรานต์ จะคุ้มกว่าเยอะเลยค่ะ

8. เปรียบเทียบกับสินค้าคล้ายๆ กัน: มีตัวอื่นน่าสนใจอีกมั้ย?

ในตลาดครีม Anti-Aging ก็มีหลายแบรนด์ที่ใช้ส่วนผสมคล้ายๆ กัน หรือเน้นเรื่องการฟื้นฟูผิวค่ะ แต่ Exxe Phytocell จะเด่นเรื่องการใช้ Plant Stem Cell ซึ่งเป็นจุดขายที่น่าสนใจเมื่อเทียบกับแบรนด์ในเรทราคาใกล้เคียงกัน บางแบรนด์อาจจะเน้นเรื่องส่วนผสมวิตามินซี หรือเรตินอลมากกว่า อันนี้ก็ขึ้นอยู่กับว่าผิวเราต้องการอะไรเป็นพิเศษค่ะ

ถ้าเทียบกับครีม Exxe รุ่นอื่นๆ ตัวนี้จะเน้นเรื่องการฟื้นฟูและ Anti-Aging เป็นหลัก ถ้าต้องการเน้นเรื่องสิว หรือผิวกระจ่างใสมากๆ อาจจะต้องดูรุ่นอื่นของ Exxe ที่เน้นตรงจุดนั้นไปเลย

9. บริการหลังการขายและช่องทางการซื้อ: ซื้อที่ไหนดี?

Exxe Phytocell Cream หาซื้อง่ายมากๆ ค่ะ มีขายทั่วไปตามร้านขายยาชั้นนำ (เช่น Watsons, Boots บางสาขา) หรือในโรงพยาบาล/คลินิกเสริมความงามบางแห่ง แต่ช่องทางที่เมย์แนะนำคือร้านค้าออนไลน์ค่ะ

แหล่งซื้อยอดฮิต: Shopee, Lazada, JD Central, ร้านขายยาออนไลน์, เว็บไซต์อย่างเป็นทางการของแบรนด์
โปรโมชั่น: บอกเลยว่าจัดหนักจัดเต็มบ่อยมากค่ะ ทั้งส่วนลดจากร้านค้า, โค้ดส่วนลดจากแพลตฟอร์ม, คูปองส่งฟรี, หรือแม้แต่โปรโมชั่น 1 แถม 1 ก็มีมาให้เห็นเรื่อยๆ
การผ่อนชำระ: ในแอป Shopee, Lazada ก็มีตัวเลือกผ่อนชำระ 0% กับบัตรเครดิตที่ร่วมรายการด้วยค่ะ (เหมาะมากถ้าอยากซื้อตุนช่วงลดราคา)
การรับประกัน/คืนสินค้า: ส่วนใหญ่ร้านค้าออนไลน์จะมีนโยบายรับประกันความพอใจ หรือสามารถคืน/เปลี่ยนสินค้าได้ภายในระยะเวลาที่กำหนด (ลองเช็ครายละเอียดกับร้านค้านั้นๆ ก่อนสั่งซื้อ)
ระยะเวลาจัดส่ง: ปกติถ้าสั่งจากร้านค้าในไทย ก็ใช้เวลาประมาณ 1-3 วันทำการค่ะ ค่าส่งก็มีตั้งแต่ฟรีไปจนถึงคิดตามระยะทาง

แนะนำให้ลองเปรียบเทียบราคาและโปรโมชั่นจากหลายๆ ร้านก่อนตัดสินใจซื้อนะคะ บางทีร้านเล็กๆ อาจจะมีโค้ดส่วนลดที่คุ้มกว่าร้านใหญ่ๆ ก็ได้!

10. บทสรุปและคำแนะนำในการซื้อ: ฟันธง!

จากประสบการณ์การใช้ Exxe Phytocell Cream ของเมย์ ถ้าถามว่า "ควรซื้อไหม?" เมย์ให้คำตอบแบบฟันธงว่า "เหมาะสำหรับคนที่กำลังมองหาครีม Anti-Aging ที่ช่วยฟื้นฟูผิวให้แข็งแรงขึ้น ในราคาที่สมเหตุสมผล และไม่ติดกับเนื้อครีมที่เหนอะหนะ"

สำหรับ ผู้เริ่มต้น ที่เพิ่งเข้าสู่วงการ Anti-Aging ตัวนี้เป็นตัวเลือกที่ดีเลยค่ะ เพราะใช้ง่าย เห็นผลเบื้องต้นได้เร็ว และหาซื้อง่าย

ถ้า งบประมาณจำกัด ลองรอดูช่วงโปรโมชั่นใหญ่ๆ แล้วกดซื้อทีเดียวจะคุ้มกว่าค่ะ หรืออาจจะลองซื้อขนาดทดลองมาก่อน ถ้ามีวางขาย

แต่ถ้า ต้องการผลลัพธ์เรื่องริ้วรอยที่ชัดเจนมากๆ ในเวลาอันรวดเร็ว หรือมีปัญหาริ้วรอยลึกมากๆ อาจจะต้องปรึกษาแพทย์ผิวหนัง หรือลองดูผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมที่เน้นเรื่องริ้วรอยโดยเฉพาะอย่างเรตินอลในความเข้มข้นสูงขึ้นค่ะ

หวังว่ารีวิวนี้จะเป็นประโยชน์ในการตัดสินใจของทุกคนนะคะ ใครเคยใช้ Exxe Phytocell Cream แล้วเป็นยังไงบ้าง มาเล่าสู่กันฟังในคอมเมนต์ได้เลยนะ!

วิดีโอที่เกี่ยวข้อง

• รีวิว Exxe phytocell เพื่อผิวหน้ากระจ่างใส คุณประโยชน์จากสเต็ม ...
• ผิวจริงหลังจากทดลองใช้มา 28 วัน++ เซรั่มสเต็มเซลล์ EXXE ...
• เซรั่มสเต็มเซลล์ EXXE PHYTOCELL คืนความเยาว์ให้ผิว
• เคล็ดลับทำความสะอาดผิวหน้าพร้อมกับบำรุงครบจบ Exxe ...
• เคล็ดลับอัพผิวเด็กด้วย EXXE' PHYTOCELL ซีรั่ม