logo

ผลัดเซลล์ผิวหน้าใส: ทำเองได้ไหม? เลือกใช้ผลิตภัณฑ์แบบไหนดี? ข้อควรระวัง?

user avatar
ธนวัฒน์ อัครธนากุล·06/28/2025 14:33
点赞
ผลัดเซลล์ผิวหน้าใส: ทำเองได้ไหม? เลือกใช้ผลิตภัณฑ์แบบไหนดี? ข้อควรระวัง?

โอ๊ยยยย... ทำไมหน้าหมอง หน้าไม่ใสเหมือนเมื่อก่อน แถมสิวผด สิวอุดตันก็บุกไม่หยุด! สกินแคร์ดีแค่ไหนทาก็ไม่เห็นผล... คุณกำลังเจอปัญหานี้อยู่หรือเปล่าคะซิส? ถ้าใช่! ถึงเวลาแล้วที่เราต้องมาทำความรู้จักกับ "การผลัดเซลล์ผิวหน้า" ตัวช่วยกู้ชีพผิวหมองคล้ำ เผยหน้าใสปิ๊ง! แต่จะทำเองที่บ้านได้ไหม? ต้องเลือกใช้ผลิตภัณฑ์แบบไหน? แล้วมีอะไรต้องระวังบ้าง? วันนี้เรามาเม้าท์มอยเรื่องนี้กันแบบหมดเปลือกสไตล์ภาษาบ้านๆ เข้าใจง่าย รับรองอ่านจบปุ๊บ พุ่งตัวไปดูแลผิวทันที!


1. ภาพรวม: ทำความรู้จักการผลัดเซลล์ผิวหน้า คืออะไรน้า?

เอาจริงๆ แล้วร่างกายคนเราฉลาดมากนะซิส! เขามีระบบผลัดเซลล์ผิวตามธรรมชาติอยู่แล้วจ้ะ ปกติจะใช้เวลาประมาณ 28 วัน เซลล์ผิวเก่าที่ตายแล้วก็จะหลุดออกไปเอง เพื่อเปิดทางให้เซลล์ผิวใหม่ใสๆ ได้ขึ้นมาแทนที่. ฟังดูดีใช่ไหมคะ? แต่นั่นมันตอนที่เรายังเอ๊าะๆ วัยใสๆ ไง พออายุอานามมากขึ้น บวกกับเจอมลภาวะ แสงแดด ความเครียดเข้าไปอีก วงจรผลัดเซลล์ผิวตามธรรมชาติของเรามันก็เริ่มเอื่อยเฉื่อย ไม่ปรู๊ดปร๊าดเหมือนเดิมนี่สิ! ทำให้เซลล์ผิวเก่าที่ตายแล้วมันกองๆ สะสมอยู่บนผิวหน้าเรานี่แหละจ้ะ เป็นที่มาของสารพัดปัญหา ไม่ว่าจะเป็นหน้าหมองคล้ำ ไม่กระจ่างใส ผิวหยาบกร้าน รูขุมขนอุดตัน และสิวต่างๆ นาๆ.

ดังนั้น การผลัดเซลล์ผิวหน้าที่เรากำลังจะพูดถึงเนี่ย ก็คือการที่เราไปช่วยเร่งกระบวนการตามธรรมชาตินี้แหละจ้ะ ให้เซลล์ผิวเก่าที่เสื่อมสภาพหลุดออกไปไวขึ้น ผิวใหม่ที่แข็งแรงและกระจ่างใสกว่าจะได้ขึ้นมาแทนที่ไง. พอผิวสะอาดใสปุ๊บ ทาสกินแคร์อะไรเข้าไป มันก็พร้อมดูดซึมไปบำรุงได้อย่างเต็มที่ ผลลัพธ์ที่ได้ก็คือ ผิวดูเนียนเรียบ กระจ่างใส ลดการอุดตันของรูขุมขน และช่วยให้เมคอัพติดทนขึ้นด้วยนะ.


2. กลไกธรรมชาติ vs ตัวช่วยเร่งสปีด

อย่างที่บอกไปว่าผิวเราผลัดเซลล์เองได้ แต่พออายุเยอะขึ้น ความสามารถนี้ก็ลดลง. เหมือนเครื่องยนต์ที่ใช้งานมานานก็มีกำลังถอยลงบ้าง การใช้ตัวช่วยก็เหมือนเป็นการเข้าไปกระตุ้นให้เครื่องยนต์กลับมาทำงานได้ดีขึ้นนั่นเอง. สารพัดปัญหาผิวที่ตามมาจากการที่เซลล์ผิวเก่ากองอยู่บนผิว ก็เพราะผิวขาดการผลัดที่สม่ำเสมอนี่แหละ.

ทีนี้ตัวช่วยเร่งสปีดให้ผิวผลัดเซลล์ไวขึ้นเนี่ย ก็มีหลายรูปแบบให้เลือกใช้ ตามแต่ความถนัดและสภาพผิวของแต่ละคนเลยค่ะ ซึ่งหลักๆ ก็มี 2 สายใหญ่ๆ คือ สาย 'ขัด' กับสาย 'ละลาย'.


3. วิธีผลัดเซลล์ผิว ทำเองได้กี่แบบ?

การผลัดเซลล์ผิวหน้าทำเองได้ที่บ้านสบายๆ เลยค่ะซิส! ไม่ต้องไปคลินิกก็ได้ โดยหลักๆ จะมี 2 วิธีฮิตๆ คือ.

3.1 แบบ Physical (ขัดๆ ถูๆ)

อันนี้เป็นวิธีที่คุ้นเคยกันมานาน ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีเม็ดบีดส์ เม็ดสครับ หรือใช้พวกอุปกรณ์อย่างแปรงขัดหน้า ผ้าขนหนูนุ่มๆ ช่วยในการขัดถูผิวอย่างเบามือ เพื่อให้เซลล์ผิวเก่าที่ตายแล้วหลุดลอกออกไป. ข้อดีคือทำง่าย เห็นผลทันทีหลังทำว่าผิวดูเรียบเนียนขึ้น.

แต่! ต้องระวังมากๆ นะคะซิส ถ้ามือหนักไป หรือใช้เม็ดสครับที่หยาบเกินไป อาจจะทำให้ผิวระคายเคือง เป็นรอยแดง หรือเกิดแผลเล็กๆ บนผิวได้. ใครผิวแพ้ง่าย หรือเป็นสิวอักเสบอยู่ ควรเลี่ยงวิธีนี้ก่อนจ้ะ.

3.2 แบบ Chemical (ใช้สารเคมี/เอนไซม์)

วิธีนี้จะใช้สารที่มีฤทธิ์เป็นกรดอ่อนๆ หรือเอนไซม์ธรรมชาติมาช่วยละลายพันธะที่ยึดเกาะระหว่างเซลล์ผิวเก่า เพื่อให้มันหลุดออกไปง่ายขึ้น. ไม่ต้องออกแรงขัดให้ผิวบอบช้ำ วิธีนี้มักจะอ่อนโยนกว่าแบบ Physical. สารยอดฮิตที่ได้ยินบ่อยๆ ก็คือ AHA, BHA และ PHA นี่แหละจ้ะ.


4. เลือกใช้ผลิตภัณฑ์แบบไหนดี? AHA, BHA, PHA หรือสครับดีคะคุณพี่?

มาถึงคำถามโลกแตก! เลือกตัวไหนดี? อันนี้ต้องบอกว่าแล้วแต่สภาพผิวและความต้องการเลยค่ะซิส.

  • สครับ (Physical Exfoliant): เหมาะกับคนผิวธรรมดา ไม่ค่อยมีปัญหาสิวอักเสบ หรือใช้เฉพาะบริเวณที่ผิวไม่บอบบาง. เลือกเม็ดสครับที่ละเอียดๆ นุ่มๆ จะดีกว่าค่ะ แล้วขัดเบาๆ มือนะ อย่าซาดิสต์กับหน้าตัวเอง!
  • AHA (Alpha Hydroxy Acids): ย่อมาจากกรดผลไม้ต่างๆ เช่น Glycolic Acid, Lactic Acid, Citric Acid. พวกนี้ละลายในน้ำได้ดีค่ะซิส จะเน้นช่วยผลัดเซลล์ผิวชั้นบน ทำให้ผิวดูกระจ่างใส ลดรอยดำรอยแดงจากสิว ปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ และช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนได้ด้วยนะ. เหมาะกับคนผิวแห้ง ผิวธรรมดา หรือผิวที่มีปัญหาจุดด่างดำ ริ้วรอยตื้นๆ.
  • BHA (Beta Hydroxy Acids): ตัวดังคือ Salicylic Acid. ตัวนี้เก่งเรื่องละลายในน้ำมันค่ะซิส! เลยสามารถซึมลึกเข้าไปในรูขุมขน ช่วยละลายไขมัน สิ่งอุดตันในรูขุมขนได้ดี. เหมาะสุดๆ กับคนผิวมัน เป็นสิวง่าย มีปัญหาสิวอุดตัน สิวเสี้ยน รูขุมขนกว้าง เพราะเขาช่วยควบคุมความมันและลดการอักเสบได้ด้วย.
  • PHA (Polyhydroxy Acids): อันนี้ลูกพี่ลูกน้องกับ AHA แต่โมเลกุลใหญ่กว่า ทำให้ซึมเข้าผิวได้ช้ากว่า ระคายเคืองน้อยกว่า. เหมาะกับคนผิวบอบบาง แพ้ง่ายมากๆ ที่ใช้ AHA หรือ BHA แล้วรู้สึกยิบๆ แสบๆ.

บางผลิตภัณฑ์ก็มีทั้ง AHA และ BHA ผสมกันมาเลยก็มีนะคะซิส แต่ต้องเลือกที่เขาคิดค้นสูตรมาอย่างดีแล้วนะ อย่าไปผสมเองมั่วซั่ว เดี๋ยวหน้าพังไม่รู้ด้วย!


5. ผลลัพธ์ระยะยาว & ควรทำบ่อยแค่ไหน?

ผลลัพธ์จากการผลัดเซลล์ผิวเนี่ย มันไม่ได้เห็นแค่ใสปิ๊งหลังทำนะจ๊ะ แต่ถ้าทำอย่างสม่ำเสมอและถูกวิธี มันช่วยให้ผิวเราดูสุขภาพดีในระยะยาวด้วย. ทั้งเรื่องความกระจ่างใส ความเรียบเนียน การลดริ้วรอยตื้นๆ และช่วยให้ผิวแข็งแรงขึ้นเพราะมีการสร้างเซลล์ใหม่ตลอดเวลา.

ส่วนคำถามที่ว่า ควรทำบ่อยแค่ไหน? อันนี้สำคัญมาก! อย่าคิดว่ายิ่งทำบ่อยยิ่งดีนะซิส! การผลัดเซลล์ผิวบ่อยเกินไปคือการทำร้ายผิวโดยไม่รู้ตัว. ผิวอาจจะบางลง ไวต่อแสง แดง แห้ง ลอก หรือแย่กว่านั้นคือผิวอ่อนแอ แพ้ง่ายขึ้นไปอีก.

ความถี่ที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับวิธีและสภาพผิวค่ะ:

  • แบบ Physical (สครับ): แนะนำให้ทำสัปดาห์ละ 1-2 ครั้งก็พอค่ะซิส. ถ้าผิวแห้งหรือแพ้ง่าย อาจจะลดลงเหลือ 1 ครั้งต่อ 2 สัปดาห์.
  • แบบ Chemical (AHA, BHA, PHA): ขึ้นอยู่กับความเข้มข้นของผลิตภัณฑ์ค่ะ.
    • ถ้าความเข้มข้นต่ำ (มักอยู่ในโทนเนอร์ เซรั่มบางตัว) บางทีใช้ได้ทุกวัน (แต่ต้องสังเกตผิวตัวเองดีๆ).
    • ถ้าความเข้มข้นสูง (เช่น Peeling Solution) อาจจะใช้แค่สัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง หรือตามคำแนะนำบนผลิตภัณฑ์และสภาพผิว.

ฟังเสียงผิวตัวเองให้เป็นนะคะซิส! ถ้าใช้แล้วรู้สึกยิบๆ แสบๆ แดง ลอก ให้ลดความถี่ลง หรือหยุดใช้ไปก่อน.


6. ข้อดี๊ดี vs ข้อควรระวัง (ที่ไม่ควรมองข้าม!)

ข้อดีของการผลัดเซลล์ผิวหน้า (ถ้าทำถูกวิธีนะ!)

  • ผิวดูใสขึ้นอย่างเห็นได้ชัด! ช่วยลดความหมองคล้ำ.
  • ผิวเรียบเนียนขึ้น สัมผัสนุ่มมมม.
  • ลดการอุดตันในรูขุมขน ลดปัญหาสิวอุดตัน สิวเสี้ยน.
  • สกินแคร์ซึมดีขึ้น บำรุงได้เต็มที่.
  • ช่วยลดรอยดำ รอยแดงจากสิว จุดด่างดำดูจางลง.
  • กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ช่วยให้ผิวดูอ่อนเยาว์ ริ้วรอยตื้นๆ ดูจางลง.

แต่!!! ข้อควรระวัง (ท่องไว้ให้ขึ้นใจ!)

  • ห้าม! ทำบ่อยเกินไป ผิวจะบาง อ่อนแอ แพ้ง่าย.
  • ห้าม! ขัดถูแรงๆ โดยเฉพาะแบบ Physical ทำให้ผิวเป็นรอย แสบ ระคายเคือง.
  • หลังผลัดเซลล์ผิว ผิวจะไวต่อแสงแดดมาก! ต้องทาครีมกันแดด SPF สูงๆ PA++++ ทุกวัน ห้ามขาดเด็ดขาด! ไม่งั้นฝ้า กระ จุดด่างดำมาเยือนแน่นอน.
  • ต้องเติมความชุ่มชื้นให้ผิวเยอะๆ หลังผลัดเซลล์ผิว. ใช้มอยส์เจอร์ไรเซอร์ดีๆ.
  • หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมที่อาจระคายเคืองซ้ำซ้อน เช่น แอลกอฮอล์ น้ำหอม หรือผลิตภัณฑ์รักษาสิวบางชนิด ในช่วงที่ผลัดเซลล์ผิว.
  • ถ้าผิวมีสิวอักเสบ เป็นแผล หรือกำลังแพ้ ควรหยุดพักการผลัดเซลล์ผิวก่อน.
  • ถ้าไม่แน่ใจว่าจะเลือกแบบไหน หรือมีปัญหาผิวหนักๆ ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญดีที่สุดค่ะ.

7. เหมาะกับใคร & คำแนะนำในการเริ่มต้น

การผลัดเซลล์ผิวเหมาะกับคนที่รู้สึกว่าผิวดูหมองคล้ำ ไม่สดใส ผิวหยาบกร้าน รูขุมขนอุดตัน หรือมีรอยสิวจุดด่างดำที่อยากให้จางลงค่ะ.

สำหรับมือใหม่หัดผลัด:

  • เริ่มต้นจากความเข้มข้นต่ำๆ ก่อน ไม่ว่าจะเป็นสครับที่เม็ดละเอียดๆ หรือผลิตภัณฑ์ AHA/BHA ที่เปอร์เซ็นต์น้อยๆ.
  • ลองทำสัปดาห์ละ 1 ครั้ง แล้วสังเกตอาการผิว. ถ้าผิวโอเค ไม่มีอาการแดง แสบ คัน ค่อยๆ เพิ่มความถี่ขึ้นได้ (แต่ไม่ควรเกิน 2 ครั้ง/สัปดาห์สำหรับสครับ ส่วน Chemical ขึ้นอยู่กับผลิตภัณฑ์).
  • ทำตอนกลางคืน เพราะผิวจะได้พักฟื้นและลดการโดนแสงแดดหลังทำ.
  • ห้ามลืมทาครีมกันแดดตอนกลางวัน เด็ดขาด! (ย้ำอีกรอบเพราะสำคัญมาก!).
  • เติมมอยส์เจอร์ไรเซอร์หลังทำทันที.

ถ้าทำตามนี้ รับรองว่าผิวหน้าใสปิ๊งๆ ไม่ใช่เรื่องยากเกินเอื้อมแน่นอนค่ะ!


8. บทสรุป & คำแนะนำปิดท้าย

สรุปง่ายๆ ว่าการผลัดเซลล์ผิวหน้าเนี่ย เหมือนเป็นการปัดกวาดเช็ดถูบ้านให้สะอาดเอี่ยม พร้อมรับแขก เอ้ย! พร้อมรับสกินแคร์บำรุงให้ได้ผลลัพธ์สูงสุด. สามารถทำเองได้ที่บ้านค่ะซิส! มีทั้งแบบขัดๆ ถูๆ (Physical) และแบบใช้สารเคมี (Chemical) อย่าง AHA, BHA, PHA.

การเลือกใช้ก็ดูที่สภาพผิวและความต้องการเป็นหลัก. ผิวแห้ง/หมองคล้ำ/มีริ้วรอยตื้นๆ ลอง AHA. ผิวมัน/เป็นสิว/รูขุมขนกว้าง พุ่งไปที่ BHA. ผิวบอบบางแพ้ง่าย PHA คือเพื่อนที่ดีที่สุด. หรือถ้าผิวธรรมดา ไม่มีปัญหาอะไรหนักมาก สครับเม็ดละเอียดๆ ก็ใช้ได้ แต่อย่ามือหนักนะจ๊ะ.

ที่สำคัญคือ ต้องทำอย่างถูกวิธีและไม่บ่อยเกินไป และที่สำคัญที่สุดคือ ทาครีมกันแดดเสมอหลังผลัดเซลล์ผิว! ถ้าทำได้ตามนี้ รับรองว่าผิวหน้าใสวิ้งๆ สุขภาพดีอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อมแน่นอนค่ะซิส! ลองเอาไปปรับใช้กับการดูแลผิวของตัวเองดูนะคะ แล้วมาอวดผิวใสกัน!

วิดีโอที่เกี่ยวข้อง

บทความที่เกี่ยวข้อง

โอ้โห! เรื่อง "ผลัดเซลล์ผิวหน้าใส" เนี่ย ฮิตตลอดกาลจริงๆ นะคะคุณสาวๆ ไหนใครอยากมีหน้าใสปิ๊งเหมือนกระจกบ้าง ยกมือขึ้น! 🙌 บอกเลยว่าการผลัดเซลล์ผิวเป็นหนึ่งในเคล็ดลับกู้ชีพผิวหมองคล้ำ สิวอุดตัน รอยดำรอยแดงสารพัดสิ่งให้ออกไปจากชีวิตเราได้ แต่เ
ผลัดเซลล์ผิวหน้าใส: ทำเองได้ไหม? เลือกใช้ผลิตภัณฑ์แบบไหนดี? ข้อควรระวัง?
สวัสดีครับเพื่อนๆ ที่กำลังกลุ้มใจกับปัญหารอยสิวสุดกวนใจ! 😫 สิวว่าแย่แล้ว แต่พอสิวหายแล้วยังทิ้งร่องรอยอารยธรรมไว้ให้ดูต่างหน้า ทั้งรอยดำ รอยแดง จุดด่างดำต่างๆ นานา ทำเอาหน้าหมอง ไม่สดใส จะแต่งหน้ากลบก็ดูไม่เป็นธรรมชาติอีก!ไม่ต้องเศร้าไปครั
10 เซรั่มลดรอยสิว ยี่ห้อไหนดี ปี 2025 ลดรอยสิว ผิวใส
สวัสดีครับเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ สายดูแลผิวหน้าทุกคน! 😊 เคยไหมครับ เดินเข้าโซนสกินแคร์ทีไร โดยเฉพาะชั้นโฟมล้างหน้าญี่ปุ่นเนี่ย มันเยอะไปหมดจนเลือกไม่ถูก! แบรนด์นั้นก็ดี แบรนด์นี้ก็น่าลอง แถมยังมีสูตรนู้นสูตรนี้อีก ปวดหัวตุ้บๆ กันไปเลยใช่มั้ยคร
10 โฟมล้างหน้าญี่ปุ่น ยี่ห้อไหนดี ปี 2025 ฟองนุ่ม ทำความสะอาดล้ำลึก

บทความล่าสุดดูเพิ่มเติม

โอ๊ยยย... ปวดหลัง ปวดคอ ปวดไหล่! เป็นกันมั้ยจ๊ะชาวออฟฟิศ (หรือชาวฟรีแลนซ์ที่นั่งทำงานหน้าคอมนานๆ) อาการปวดเมื่อยมันเหมือนเพื่อนสนิทที่ตามติดไปทุกที่ บางทีก็คิดนะว่าร่างกายเรามันคงจะเบี้ยวๆ บูดๆ ไปแล้วแน่เลย ถึงได้ปวดได้เมื่อยขนาดนี้! แล้วไอ
จัดกระดูก คืออะไร? รีวิว ประสบการณ์ และข้อควรรู้
ลมหนาวเอื่อยๆ เริ่มพัดมา (หรืออาจจะแค่มโนไปเองในบางวัน 🤣) ท้องฟ้าเริ่มเป็นสีชมพูตอนเย็นๆ โอ๊ย...บรรยากาศมันชวนให้คิดถึงอะไรน้า... ใช่แล้ว! หมูจุ่มร้อนๆ น้ำซุปนัวๆ น้ำจิ้มรสเด็ด! ยิ่งถ้าได้มาอยู่เชียงใหม่ เมืองที่เต็มไปด้วยร้านอร่อย บรรยากา
รวมร้านหมูจุ่ม เชียงใหม่ อร่อยเด็ด บรรยากาศดี
โอ๊ยยย... เบื่อจริงจริ๊งงง! ปัญหาขนกวนใจเนี่ย ไม่ว่าจะขนรักแร้ ขนหน้าแข้ง ขนจิมิ สารพัดขนที่ทำให้เสียเซลฟ์ จะใส่บิกินี่ไปทะเลช่วงสงกรานต์ก็ไม่มั่นใจ จะยกแขนก็กลัวคนเห็นตอขน แถมบางทีโกน ถอน แว็กซ์ จนเป็นหนังไก่บ้าง ขนคุดบ้าง คันยุบยิบไปอีก!
รีวิว Beauty Plus Clinic กำจัดขน: เลเซอร์ขนที่นี่ดีไหม ราคาเป็นอย่างไร?