Hoka Clifton 4 รีวิว Pantip: รองเท้าวิ่งสายซัพพอร์ตในตำนาน ยังน่าใช้อยู่ไหม?

สวัสดีครับทุกคน! วันนี้มาเม้าท์มอยเรื่องรองเท้าวิ่งกันหน่อย หัวข้อที่เราจะคุยกันวันนี้คือรองเท้าที่เคยเป็นตำนานสายซัพพอร์ตอย่าง Hoka Clifton 4 นั่นเอง! หลายคนคงเคยได้ยินชื่อ หรือบางคนอาจจะเคยมีไว้ในครอบครองด้วยซ้ำ แต่ประเด็นคือ...ในยุคที่รองเท้าวิ่งใหม่ๆ ออกมากันเพียบ ยังน่าใช้อยู่ไหมเนี่ย? วันนี้แหละ เราจะมาเจาะลึกแบบบ้านๆ สไตล์คนรักการวิ่ง (แต่ก็ชอบของดีราคาโดนๆ!) เพื่อหาคำตอบไปด้วยกันครับ!

1. ภาพรวมของสินค้า: รู้จัก Hoka Clifton 4 แบบไวๆ

แบรนด์: Hoka One One (ตอนนี้เรียกสั้นๆ ว่า Hoka)

รุ่น: Clifton 4

ปีที่วางขาย: เปิดตัวปี 2017 ครับ เก๋าพอตัวเลย

ช่วงราคาขาย (อ้างอิงราคาเปิดตัว): ประมาณ 130 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราวๆ 4,xxx บาท (สมัยนั้นนะ) แต่ปัจจุบันถ้าหาเจออาจจะอยู่ในตลาดมือสอง หรือร้านที่ยังมีค้างสต็อก ซึ่งราคาก็จะแตกต่างกันไป อาจจะมีตั้งแต่หลักร้อยถึงสองพันบาทครับ

การวางตำแหน่งสินค้า: เป็นรองเท้าวิ่งสาย Neutral Cushion หรือรองเท้าวิ่งที่เน้นความนุ่ม รองรับแรงกระแทกได้ดี เหมาะกับการวิ่งซ้อมทุกวัน วิ่งระยะไกล

จุดเด่นหลักๆ ที่เคยเป็นที่กล่าวขวัญ:

• ความนุ่มแบบจัดเต็ม (Maximal Cushioning): นี่คือจุดเด่นของ Hoka เขาล่ะ พื้นหนานุ่มเหมือนเหยียบมาร์ชแมลโลว์
• น้ำหนักเบาเกินคาด: เมื่อเทียบกับรองเท้าสายซัพพอร์ตหนาๆ ในยุคเดียวกัน Clifton 4 ถือว่าทำน้ำหนักได้ดีมากๆ
• เทคโนโลยี Meta-Rocker: ทรงพื้นรองเท้าที่โค้งคล้ายเก้าอี้โยก ช่วยให้การถ่ายเทน้ำหนักจากการลงเท้าไปสู่การยกเท้าทำได้ลื่นไหล
• อัปเปอร์ระบายอากาศดี: ผ้าตาข่าย Engineered Mesh ช่วยให้เท้าไม่อบ
• พื้น Outsole ทนทานขึ้น: มีการเพิ่มยางในจุดที่สึกหรอได้ง่ายเมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า

2. ดีไซน์ & รูปลักษณ์ภายนอก: ใหญ่แต่น่ารัก?

Hoka ขึ้นชื่อเรื่องพื้นหนาเตอะอยู่แล้ว Clifton 4 ก็เช่นกันครับ เห็นครั้งแรกอาจจะตกใจกับความหนาของพื้น แต่ดีไซน์โดยรวมถือว่าดูดีขึ้นกว่ารุ่นแรกๆ สีสันมีให้เลือกเยอะเลย ตัวอัปเปอร์เป็นผ้าตาข่ายดูโปร่งๆ มีลวดลาย 3D Puff Print ช่วยเสริมความแข็งแรง วัสดุโดยรวมดูแข็งแรงใช้ได้

ขนาดและน้ำหนัก: อย่างที่บอกว่าพื้นหนา ตัวรองเท้าก็เลยดูใหญ่ตาม แต่เรื่องน้ำหนักถือว่าทำได้ดีสำหรับรองเท้าสายนี้ ผู้ชายไซส์ 9 US อยู่ที่ประมาณ 264-265 กรัม ส่วนผู้หญิงไซส์ 7 US ประมาณ 215 กรัม ไม่ได้เบาหวิวเท่าพวกรองเท้าแข่งนะ แต่ก็ไม่หนักจนเป็นภาระครับ

อุปกรณ์เสริมในกล่อง: หลักๆ ก็ตัวรองเท้า คู่มือ (ที่ส่วนใหญ่อ่านบ้างไม่อ่านบ้าง) แล้วก็อาจจะมีเชือกสำรองมาให้ (อันนี้ไม่ชัวร์ในทุกแพ็คเกจนะ)

3. ประสบการณ์ในการใช้งานฟังก์ชันหลัก: นุ่ม เด้ง ไหลๆ

หัวใจหลักของ Clifton 4 คือเรื่อง "ความนุ่ม" ครับ! โฟม EVA เต็มๆ พื้น หนาสะใจ รองรับแรงกระแทกได้ดีมากๆ ใส่วิ่งแล้วรู้สึกสบายเท้า โดยเฉพาะตอนวิ่งยาวๆ หรือวันที่ต้องการฟื้นฟูร่างกาย นอกจากความนุ่มแล้ว รุ่นนี้ยังมีการปรับปรุงโฟมให้มีความเด้งและตอบสนองได้ดีขึ้นกว่ารุ่นก่อนๆ ด้วย

เทคโนโลยี Meta-Rocker นี่ช่วยให้การวิ่งรู้สึกไหลลื่นครับ มันจะช่วยให้เท้าเรากลิ้งไปข้างหน้าได้ง่ายขึ้น ไม่ต้องออกแรงงัดมาก ทำให้วิ่งได้เพลินขึ้น

เหมาะกับ: วิ่งถนนเป็นหลัก วิ่งซ้อมทั่วไป วิ่งยาว วิ่งเพื่อสุขภาพ หรือคนที่มีปัญหาข้อเข่า ข้อเท้า ต้องการรองรับแรงกระแทกเป็นพิเศษ

4. ประสบการณ์การใช้งาน & ความง่ายในการใช้: ใส่สบาย หายห่วงเรื่องความสูง?

หลายคนกังวลว่าพื้นสูงๆ แบบนี้จะทำให้ไม่มั่นคงรึเปล่า? สำหรับ Clifton 4 การวางเท้าค่อนข้างมั่นคงครับ แม้พื้นจะสูงแต่ฐานรองเท้าค่อนข้างกว้าง แถมทรง Meta-Rocker ก็ช่วยให้จังหวะลงเท้าและการก้าวต่อไปเป็นธรรมชาติ

ความสบาย: โดยรวมถือว่าใส่สบายครับ อัปเปอร์ Engineered Mesh ระบายอากาศได้ดี ปัญหาส่วนใหญ่ที่เคยเจอในรุ่นก่อนๆ คือเรื่องหน้าเท้าแคบ แต่ในรุ่น 4 มีการปรับปรุงให้หน้าเท้ากว้างขึ้น และบางรุ่นมีหน้ากว้าง (Wide fit) ให้เลือกด้วย ถ้าเลือกไซส์และหน้าเท้าที่เหมาะสมก็จะใส่สบายไม่บีบครับ

การปรับตัว: สำหรับคนที่ไม่เคยใส่รองเท้าพื้นหนาๆ อาจจะต้องใช้เวลาปรับตัวเล็กน้อยให้คุ้นชินกับความสูงและความรู้สึกที่แตกต่างออกไป แต่ส่วนใหญ่ใช้เวลาไม่นานครับ

5. แบตเตอรี่ / พลังงาน / ความคุ้มค่าในระยะยาว: ความทนทานของตำนาน

สำหรับรองเท้าวิ่ง เรื่อง "แบตเตอรี่" ก็คือ "ความทนทาน" นั่นเองครับ พื้นโฟมของ Clifton 4 มีการปรับสูตรให้ทนทานและยุบตัวช้าลงกว่ารุ่นเก่า ส่วนพื้นยาง Outsole ก็มีการเพิ่มในจุดสำคัญๆ เพื่อยืดอายุการใช้งาน

อายุการใช้งาน: รองเท้าวิ่งโดยทั่วไปมักจะมีอายุการใช้งานประมาณ 500-800 กิโลเมตร ขึ้นอยู่กับน้ำหนักตัว ท่าวิ่ง และสภาพพื้นผิวที่วิ่ง สำหรับ Clifton 4 ถ้าดูแลรักษาดีๆ วิ่งบนพื้นถนนปกติ ก็น่าจะใช้งานได้ตามมาตรฐานครับ

ความคุ้มค่าในปี 2025: ในเมื่อเป็นรุ่นเก่า ราคาเปิดตัว 4 พันกว่าบาท ถ้าหาเจอในตลาดมือสองหรือลดราคาหนักๆ แล้วสภาพยังดีมากๆ ได้มาในราคาหลักร้อยปลายๆ ถึงพันนิดๆ ถือว่า โคตรคุ้ม เลยครับ! คุณได้รองเท้าซัพพอร์ตดีๆ ในราคาที่หาไม่ได้แล้วในรองเท้าวิ่งรุ่นใหม่ๆ

6. สรุปข้อดีข้อเสีย

ข้อดีเด็ดๆ ที่คนไทยน่าจะชอบ:

• นุ่มสบายเท้าขั้นสุด: ใครชอบความนุ่ม รองรับแรงกระแทกเยอะๆ ไม่มีผิดหวัง
• วิ่งเพลิน ไหลลื่น: เทคโนโลยี Meta-Rocker ช่วยให้วิ่งได้สนุกขึ้น
• น้ำหนักดีเมื่อเทียบกับคู่แข่งสายซัพพอร์ต: ไม่ได้เบาเท่ารองเท้าแข่ง แต่ก็ไม่หนักอึ้งจนเกินไป
• หาซื้อได้ในราคาถูก (ถ้าเจอ): ในตลาดมือสองราคาดีๆ มีเพียบ!
• ทนทานขึ้นกว่ารุ่นก่อนๆ: ปรับปรุงเรื่องอายุการใช้งานของโฟมและพื้นยางมาแล้ว

ข้อเสียที่อาจทำให้ลังเลใจ:

• เป็นรุ่นเก่า เทคโนโลยีอาจจะไม่ใหม่เท่ารุ่นปัจจุบัน: รุ่นใหม่ๆ อาจจะมีโฟมที่ดีกว่า น้ำหนักเบากว่า หรือเด้งกว่านี้
• อาจจะหาซื้อ "ของใหม่" ยากแล้ว: ส่วนใหญ่ที่เจอจะเป็นมือสองหรือของค้างสต็อก
• ความรู้สึก "เด้ง" อาจจะไม่เท่ารองเท้าสายทำความเร็ว: เน้นนุ่มสบายมากกว่าส่งแรงกลับ
• หน้าเท้าเดิมอาจจะแคบสำหรับบางคน: ต้องลองไซส์หรือหารุ่นหน้ากว้าง (ถ้ามี)
• ดีไซน์อาจจะดูใหญ่เทอะทะไปนิดสำหรับบางคน: แล้วแต่คนชอบเนอะ

7. เหมาะกับใคร & คำแนะนำในการซื้อ

Hoka Clifton 4 เหมาะกับ:

• นักวิ่งสายสุขภาพ หรือเพิ่งเริ่มต้น: ต้องการรองเท้าที่รองรับแรงกระแทกได้ดี ลดความเสี่ยงอาการบาดเจ็บ
• นักวิ่งที่ชอบวิ่งยาวๆ หรือวิ่งซ้อมทุกวัน: ต้องการความสบายเท้าตลอดระยะทาง
• คนที่มีปัญหาข้อเข่า ข้อเท้า: ต้องการรองเท้าที่ช่วยซับแรงกระแทกได้ดีเป็นพิเศษ
• คนที่งบจำกัด แต่อยากได้รองเท้าซัพพอร์ตดีๆ: ถ้าเจอในตลาดมือสองสภาพดี ราคาดี คือตอบโจทย์เลย

คำแนะนำในการซื้อ:

ถ้าคุณเป็นคนที่เข้าข่ายข้างบน แล้ว เจอ Hoka Clifton 4 สภาพดีมากๆ ในราคาที่ไม่แรง เช่น หลักร้อยปลายๆ ถึงประมาณ 1,500 บาท (อันนี้กะเอาจากตลาดมือสองนะ) ก็น่าซื้อมาลองใช้ดูครับ โดยเฉพาะถ้าไม่เคยใส่ Hoka มาก่อน รุ่นนี้เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีที่จะได้สัมผัสความนุ่มในตำนาน

แต่ถ้าเน้นเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด อยากได้รองเท้าที่เด้งปรื๊ดๆ วิ่งเร็ว หรือมีงบประมาณสูงพอสมควร อาจจะมองข้ามไปดูรุ่นใหม่ๆ อย่าง Clifton 9 หรือ 10 แทนครับ

8. เปรียบเทียบกับสินค้าคล้ายๆ กัน (ในยุคนั้นและปัจจุบัน)

ในยุคที่ Clifton 4 ออกมา คู่แข่งสายซัพพอร์ตตัวดังๆ ก็มีอย่าง ASICS GEL-Nimbus หรือ Brooks Glycerin ซึ่ง Hoka Clifton 4 จะได้เปรียบเรื่องน้ำหนักที่เบากว่า และความรู้สึกนุ่มที่แตกต่างออกไป

ถ้าเทียบกับ Hoka รุ่นใหม่ๆ อย่าง Clifton 10 รุ่นใหม่ก็จะมีการปรับโฟมให้ทันสมัยขึ้น อาจจะเด้งกว่า หรือมีการเพิ่มความหนาของพื้นเข้าไปอีก อัปเปอร์ก็อาจจะใช้วัสดุที่แตกต่างกันไป แต่คาแรคเตอร์หลักในเรื่องความนุ่มและ Meta-Rocker ก็ยังคงอยู่

สำหรับ Clifton 4 คือรุ่นที่ปรับปรุงความทนทานและหน้าเท้าให้ดีขึ้นเมื่อเทียบกับ Clifton 1-3 ครับ

9. บริการหลังการขายและช่องทางการซื้อ: ล่าขุมทรัพย์รองเท้ามือสอง!

เนื่องจากเป็นรุ่นปี 2017 การรับประกันศูนย์ หรือการหาซื้อของใหม่แบบมีประกันเต็มรูปแบบแทบจะไม่มีแล้วครับ ช่องทางหลักๆ ที่คุณจะเจอ Hoka Clifton 4 ในปี 2025 คือ:

• ตลาดรองเท้าวิ่งมือสองออนไลน์: ตามกลุ่ม Facebook หรือแอปขายของมือสองต่างๆ อันนี้ต้องดูสภาพดีๆ คุยกับผู้ขายให้ละเอียด ขอรูปหลายๆ มุม หรือถ้าเป็นไปได้ควรนัดดูของจริง
• ร้านรองเท้าที่อาจจะมีของค้างสต็อก: นานๆ จะเจอที และไซส์อาจจะไม่ครบ

คำแนะนำ: ถ้าซื้อมือสอง ให้ตรวจสอบสภาพพื้น Outsole และ Midsole ให้ดีว่ายังไม่แข็งหรือยุบจนเสียสภาพ ลองใส่ดูก่อนถ้าทำได้ เพื่อเช็คความพอดีและอาการผิดปกติ

10. บทสรุปและคำแนะนำในการซื้อ: ยังน่าตำไหมในปี 2025?

มาถึงบทสรุปแล้วครับ สำหรับ Hoka Clifton 4 รองเท้าวิ่งสายซัพพอร์ตในตำนาน...ในปี 2025 นี้ ยังน่าใช้อยู่ไหม?

ถ้าคุณเป็น นักวิ่งสายเน้นความนุ่มสบาย งบน้อย หรืออยากลองสัมผัสความนุ่มแบบ Hoka ในราคาประหยัด แล้ว เจอ Clifton 4 สภาพดี ในราคาที่สมเหตุสมผล (ย้ำว่าสภาพดีและราคาดีนะ!) ถือว่า แนะนำให้ซื้อครับ! มันยังเป็นรองเท้าที่ให้ความนุ่ม การรองรับแรงกระแทก และความสบายในการวิ่งได้ดีเยี่ยมสำหรับการซ้อมทั่วไปหรือวิ่งยาว

แต่ถ้าคุณเป็นสายเทคโนโลยีจ๋า ต้องการรองเท้าที่น้ำหนักเบาสุดๆ เด้งมากๆ สำหรับทำความเร็ว หรืออยากได้ของใหม่แกะกล่องพร้อมประกัน ก็อาจจะต้องมองข้ามรุ่นนี้ไป และไปดูรุ่นใหม่ๆ แทนครับ

สรุปคือ Hoka Clifton 4 ยังมีคุณค่าของมันอยู่ โดยเฉพาะในแง่ของความคุ้มค่าเมื่อเจอในราคาดีๆ และความสบายในการวิ่งซ้อมครับ แค่ต้องยอมรับว่าเป็นเทคโนโลยีเมื่อหลายปีก่อนเท่านั้นเอง ลองพิจารณาดูนะครับว่าเหมาะกับความต้องการและงบประมาณของคุณรึเปล่า!

วิดีโอที่เกี่ยวข้อง

• รีวิว รองเท้าวิ่ง HOKA 2024 แต่ละรุ่นเหมาะกับใคร เลือกรุ่นไหนดี? l ...
• รีวิว รองเท้าวิ่ง HOKA ARAHI 6 (2E) สายซัพพอร์ตที่เบาเป็นอันดับ ...
• รีวิว รองเท้าวิ่ง Hoka Skyward X เมื่อสายคาร์บอนซัพพอร์ตแบบขั้น ...
• รีวิว รองเท้าวิ่ง Hoka Clifton 10 ครบทศวรรษของฮีโร่แห่งสาย ...
• 5 รองเท้าวิ่งเด็ดแห่งปี 2024 ราคาคุ้มคุณภาพดี