10 หม้อทอดไฟฟ้า ยี่ห้อไหนดี ปี 2025 ทอดอร่อย ใช้งานง่าย

สวัสดีครับเพื่อนๆ สายรักสุขภาพและมนุษย์ยุคใหม่ทุกคน! 👋 ในยุคที่ชีวิตเร่งรีบ แถมจะออกไปหาของทอดอร่อยๆ กินแต่ละทีก็กังวลเรื่องน้ำมันบ้างล่ะ แคลอรี่บ้างล่ะ หรือบางทีก็ขี้เกียจออกจากบ้านไปเผชิญรถติดใช่ไหมครับ?

บอกเลยว่าตอนนี้ไอเทมที่ฮอตสุดๆ และต้องมีติดครัวเรือนไทยไว้เลยก็คือ "หม้อทอดไร้น้ำมัน" นี่แหละครับ! มันไม่ใช่แค่เครื่องใช้ไฟฟ้าธรรมดาๆ แต่มันคือผู้ช่วยชีวิตที่ทำให้เราได้กินของทอดอร่อยๆ กรอบๆ โดยไม่ต้องจมน้ำมัน แถมยังทำอาหารได้หลากหลายมากๆ ทั้งอบ ย่าง เบเกอรี่ คือครบจบในเครื่องเดียวจริงๆ ครับ

แต่ปัญหามันอยู่ตรงที่... พอฮิตมากๆ แบรนด์หม้อทอดไร้น้ำมันก็งอกออกมาเยอะจนเลือกไม่ถูก! มีทั้งแบรนด์นอก แบรนด์ไทย สารพัดขนาด สารพัดราคาไปหมด แล้วจะรู้ได้ไงว่ายี่ห้อไหนดี รุ่นไหนใช่ ที่จะตอบโจทย์การใช้งานของเราได้คุ้มค่าคุ้มราคา?

ไม่ต้องกังวลครับ! ในฐานะที่ผมเองก็เป็นหนึ่งในทาสหม้อทอดไร้น้ำมัน วันนี้ผมจะมาแชร์ข้อมูลและแนะนำ 10 หม้อทอดไร้น้ำมันน่าใช้ในปี 2025 ที่ได้รับความนิยมและเสียงตอบรับดีในหมู่คนไทย จะมีตัวไหนน่าโดนบ้าง ไปดูกันเลย!

ตลาดหม้อทอดไร้น้ำมันในไทย ฮอตแค่ไหนกันนะ?

บอกเลยว่าตลาดหม้อทอดไร้น้ำมันในประเทศไทยตอนนี้กำลัง เติบโตแบบก้าวกระโดด! คนไทยหันมาใส่ใจสุขภาพกันมากขึ้น อยากลดการบริโภคน้ำมันและไขมัน การทำอาหารง่ายๆ สะดวกสบาย แถมยังเฮลท์ตี้ขึ้นได้ในเวลาอันรวดเร็ว ทำให้หม้อทอดไร้น้ำมันกลายเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่หลายบ้านต้องมี ช่วงที่ผ่านมา อย่างตอนโควิด คนอยู่บ้านกันเยอะ ก็ยิ่งทำให้ยอดขายพุ่งกระฉูดไปอีก

แบรนด์ที่เห็นในตลาดก็มีหลากหลายมากๆ ครับ มีทั้งแบรนด์ต่างชาติที่เป็นเจ้าตลาดอยู่แล้ว เช่น Philips, Tefal, Electrolux, Sharp หรือแบรนด์จากจีนที่เข้ามาตีตลาดด้วยฟีเจอร์ล้ำๆ และราคาที่จับต้องได้ เช่น Xiaomi, Haier รวมถึงแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าที่คุ้นหูคนไทยมานานอย่าง Otto, Kashiwa ก็มีหม้อทอดไร้น้ำมันคุณภาพดีออกมาให้เลือกใช้ในราคาเป็นมิตร

พฤติกรรมผู้บริโภคไทยเวลามองหาหม้อทอดไร้น้ำมันจะเน้นไปที่ ความจุที่เหมาะสมกับจำนวนสมาชิกในครอบครัว (ส่วนใหญ่อยู่ที่ 3-5 ลิตรสำหรับครอบครัว 3-4 คน) กำลังไฟ ที่ทำให้ทำอาหารได้เร็ว ฟังก์ชันเสริม เช่น โปรแกรมอัตโนมัติ หรือรุ่นที่ทำความสะอาดง่าย และแน่นอนว่า ราคา เป็นปัจจัยสำคัญมากๆ โดยเฉพาะกลุ่มสินค้าที่ขายดีในแพลตฟอร์มออนไลน์อย่าง Lazada และ Shopee มักจะเป็นรุ่นที่มีโปรโมชั่นดีๆ หรือราคาที่เข้าถึงง่าย นอกจากนี้ ช่องทางออฟไลน์ตามห้างสรรพสินค้าใหญ่ๆ อย่าง Power Buy, HomePro หรือ Big C ก็ยังเป็นแหล่งยอดนิยมสำหรับคนที่อยากไปดูเครื่องจริงก่อนตัดสินใจซื้อ

เลือกหม้อทอดไร้น้ำมันยังไงให้โดนใจ ได้ของดีไม่เสียดายเงิน?

ก่อนจะพุ่งตัวไปซื้อ ลองมาดูกันก่อนว่ามีปัจจัยอะไรบ้างที่เราต้องพิจารณา เพื่อให้ได้หม้อทอดไร้น้ำมันที่เหมาะกับการใช้งานของเราที่สุดครับ ลองดูตารางนี้เป็นแนวทางได้เลย:

ปัจจัยสำคัญในการเลือกซื้อหม้อทอดไร้น้ำมัน

จัดไป! 10 หม้อทอดไร้น้ำมัน น่าสอย ปี 2025!

มาถึงช่วงที่ทุกคนรอคอย! ผมคัดมาให้แล้ว 10 รุ่นเด็ดจากหลากหลายแบรนด์ ที่เป็นที่นิยมและน่าสนใจในตลาดไทยปี 2025 นี้ครับ ลองพิจารณาตามสไตล์และความต้องการของตัวเองได้เลย!

1. Philips AirFryer Series

แบรนด์จากเนเธอร์แลนด์ เจ้าตลาดและผู้บุกเบิกหม้อทอดไร้น้ำมันตัวจริง! โดดเด่นด้วยเทคโนโลยี Rapid Air ที่ทำให้ทอดได้กรอบอร่อยโดยใช้น้ำมันน้อยหรือไม่ใช้เลย

• รุ่นแนะนำ: Philips Essential Airfryer (เช่น รุ่น HD9200 Series, HD9220 Series), Philips Airfryer XL/XXL
• จุดเด่น: คุณภาพดี ทนทาน ทำอาหารได้หลากหลายและรวดเร็ว เทคโนโลยี Rapid Air ช่วยรีดไขมันออกจากอาหารได้ดี รุ่นใหม่ๆ มีโปรแกรมอัตโนมัติและทำความสะอาดง่าย
• ข้อเสีย: ราคาสูงกว่าแบรนด์อื่นๆ ในสเปกใกล้เคียงกันเล็กน้อย
• เหมาะกับ: คนที่เน้นคุณภาพ แบรนด์ที่น่าเชื่อถือ อยากได้หม้อทอดที่ใช้งานได้นานและทำอาหารได้ผลลัพธ์ดีเยี่ยม
• ช่องทางซื้อ: ห้างสรรพสินค้าแผนกเครื่องใช้ไฟฟ้า (Power Buy, Central, Robinson), ร้านค้า Official Store ใน Lazada, Shopee
• ราคา: เริ่มต้นประมาณ 3,xxx - 9,xxx บาท (ขึ้นอยู่กับรุ่นและความจุ)
• รีวิว: "ยอมใจ Philips เลย ทอดไก่กรอบเหมือนใช้หม้อทอดน้ำมันเป๊ะ แถมไม่ต้องใช้น้ำมันเลย" - แม่บ้านยุคใหม่. "ซื้อมาหลายปีแล้วยังใช้ดีไม่มีปัญหา คุ้มค่ากับราคาที่จ่ายไป" - ผู้ใช้งานจริง.

2. Tefal Air Fryer Series

แบรนด์จากฝรั่งเศส มีชื่อเสียงด้านเครื่องครัวและเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดเล็ก ดีไซน์สวย ใช้งานง่าย

• รุ่นแนะนำ: Tefal Easy Fry Series (เช่น รุ่น EY501866, EY4018)
• จุดเด่น: ใช้งานง่าย มีทั้งแบบระบบหมุนและดิจิทัล บางรุ่นมีฟังก์ชันย่างในตัว ทำความสะอาดง่ายด้วยสารเคลือบกันติด
• ข้อเสีย: ตัวเลือกความจุอาจไม่หลากหลายเท่าบางแบรนด์
• เหมาะกับ: คนที่มองหาหม้อทอดไร้น้ำมันดีไซน์สวย ใช้งานง่าย เน้นแบรนด์ยุโรปที่น่าเชื่อถือ
• ช่องทางซื้อ: ห้างสรรพสินค้าแผนกเครื่องใช้ไฟฟ้า, ร้านค้า Official Store ใน Lazada, Shopee
• ราคา: เริ่มต้นประมาณ 2,xxx - 5,xxx บาท
• รีวิว: "Tefal รุ่นนี้ทำไก่ย่างอร่อยมากค่ะ ไม่ต้องเปิดเตาอบใหญ่ให้เปลืองไฟ" - คนชอบทำอาหารคลีน. "ใช้ง่ายดี มีโปรแกรมให้เลือกสะดวก เหมาะกับมือใหม่หัดทอด" - พนักงานออฟฟิศ.

3. Xiaomi Mi Smart Air Fryer Series

แบรนด์จากจีน โดดเด่นเรื่องดีไซน์มินิมอล และความสามารถในการเชื่อมต่อกับแอปพลิเคชัน

• รุ่นแนะนำ: Mi Smart Air Fryer 3.5L, Xiaomi Smart Air Fryer 4.5L/6L
• จุดเด่น: ดีไซน์สวยงาม มินิมอล เหมาะกับบ้านสไตล์โมเดิร์น ควบคุมผ่านแอปฯ Mi Home ได้ มีสูตรอาหารให้เลือกเยอะ ตั้งเวลาและอุณหภูมิได้หลากหลาย ทำโยเกิร์ต อบผลไม้ได้ ราคาเป็นมิตรเข้าถึงง่าย
• ข้อเสีย: ความจุ 3.5L อาจจะเล็กไปสำหรับบางครอบครัวใหญ่ การควบคุมบางฟังก์ชันอาจต้องใช้ผ่านแอปฯ
• เหมาะกับ: คนที่ชอบดีไซน์มินิมอล ชอบเทคโนโลยี อยากได้หม้อทอดที่เชื่อมต่อสมาร์ทโฟนได้
• ช่องทางซื้อ: Mi Store, ร้านค้า Official Store ใน Lazada, Shopee
• ราคา: เริ่มต้นประมาณ 2,xxx - 3,xxx บาท
• รีวิว: "หม้อทอด Xiaomi ดีไซน์สวยมาก วางตรงไหนในครัวก็ดูดี แถมใช้แอปฯ ควบคุมได้สะดวกสุดๆ" - คนรักบ้าน. "ทำอาหารได้หลากหลายดี นอกเหนือจากของทอดก็ทำอย่างอื่นได้อีกเยอะ" - ผู้ใช้งานจริง.

4. LocknLock Air Fryer Series

แบรนด์จากเกาหลีใต้ มีชื่อเสียงด้านกล่องถนอมอาหาร แต่เครื่องใช้ไฟฟ้าก็ทำได้ดีเช่นกัน โดดเด่นที่ฟังก์ชันหลากหลายและบางรุ่นมีนวัตกรรมน่าสนใจ

• รุ่นแนะนำ: LocknLock Air Fryer Duo Function (รุ่น EJF946), รุ่น EJF881 (รุ่นนึ่งได้), รุ่นอื่นๆ
• จุดเด่น: มีรุ่นที่หลากหลายฟังก์ชัน เช่น รุ่นที่นึ่งได้ในตัว บางรุ่นมีตะกร้าแบบใส มองเห็นอาหารข้างในได้ขณะทอด มีระบบทำความสะอาดตัวเองด้วยไอน้ำในบางรุ่น วัสดุคุณภาพดี ทนทาน
• ข้อเสีย: ราคาอาจจะสูงกว่าแบรนด์ทั่วไปเล็กน้อยในรุ่นที่มีฟังก์ชันพิเศษ
• เหมาะกับ: คนที่มองหาหม้อทอดไร้น้ำมันฟังก์ชันครบ จบในเครื่องเดียว หรืออยากได้ฟังก์ชันพิเศษที่แตกต่าง
• ช่องทางซื้อ: LocknLock Shop, ห้างสรรพสินค้า, ร้านค้า Official Store ใน Lazada, Shopee
• ราคา: เริ่มต้นประมาณ 2,xxx - 5,xxx+ บาท (ขึ้นอยู่กับรุ่นและฟังก์ชัน)
• รีวิว: "รุ่นนึ่งได้ของ LocknLock ดีจริง! ทำได้ทั้งทอดและนึ่ง ไม่ต้องซื้อหลายเครื่อง" - คุณแม่ลูกสอง. "ตะกร้าใสสะดวกมาก มองเห็นของทอดข้างในตลอด ไม่ต้องดึงออกมาดูบ่อยๆ" - คนขี้ลืม.

5. Otto Air Fryer Series

แบรนด์จากไทย แบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าที่คนไทยคุ้นเคยมายาวนาน โดดเด่นที่ราคาเข้าถึงง่าย คุณภาพคุ้มราคา

• รุ่นแนะนำ: Otto รุ่น CO-725, CO-745, CO-765M
• จุดเด่น: ราคาประหยัดมากๆ เป็นมิตรกับงบประมาณ ใช้งานง่าย ฟังก์ชันพื้นฐานครบครันสำหรับการทอด อบ ย่าง ขนาดความจุหลากหลาย เหมาะกับหลายครอบครัว หาซื้อง่าย มีศูนย์บริการในไทย
• ข้อเสีย: วัสดุอาจจะไม่พรีเมียมเท่าแบรนด์ราคาสูง ฟังก์ชันพิเศษอาจมีไม่เยอะนัก
• เหมาะกับ: นักเรียน นักศึกษา คนที่เพิ่งเริ่มต้นใช้หม้อทอดไร้น้ำมัน หรือคนที่มีงบประมาณจำกัด เน้นความคุ้มค่าเป็นหลัก
• ช่องทางซื้อ: ห้างสรรพสินค้าทั่วไป, ร้านเครื่องใช้ไฟฟ้า, Big C, Makro, Lazada, Shopee
• ราคา: เริ่มต้นเพียงหลักร้อยปลายๆ - 2,xxx บาท
• รีวิว: "Otto ราคาดีงามมาก ซื้อมาลองใช้ติดใจเลย ทอดเฟรนช์ฟรายส์กรอบอร่อยง่ายๆ" - นักศึกษาหอใน. "ใช้มาหลายปีแล้วยังโอเคอยู่ ทำความสะอาดง่ายด้วย" - คุณป้าข้างบ้าน.

6. Electrolux Air Fryer Series

แบรนด์จากสวีเดน แบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าชั้นนำระดับโลก คุณภาพดี เชื่อถือได้

• รุ่นแนะนำ: Electrolux UltimateTaste Series (เช่น E3AF1-100B, E3AF1-200B, E7AF1-700P)
• จุดเด่น: คุณภาพวัสดุดี ทนทาน ทำความร้อนได้สม่ำเสมอ ทำให้อาหารสุกทั่วถึง ดีไซน์สวยงามทันสมัย มีหลายขนาดความจุให้เลือก บางรุ่นมีฟังก์ชันพิเศษ เช่น นึ่งได้
• ข้อเสีย: ราคาสูงกว่าแบรนด์ทั่วไปเล็กน้อย
• เหมาะกับ: คนที่เน้นคุณภาพ แบรนด์ระดับโลกที่เชื่อถือได้ ต้องการหม้อทอดที่ทนทานและทำอาหารได้หลากหลาย
• ช่องทางซื้อ: ห้างสรรพสินค้าแผนกเครื่องใช้ไฟฟ้า (Power Buy, Central), ร้านค้า Official Store ใน Lazada, Shopee
• ราคา: เริ่มต้นประมาณ 2,xxx - 6,xxx+ บาท
• รีวิว: "Electrolux ทำความร้อนดีมากค่ะ อาหารกรอบนอกนุ่มในเป๊ะๆ" - เชฟสมัครเล่น. "ดีไซน์สวย วางในครัวแล้วดูดีขึ้นเยอะเลย" - คนรักการแต่งบ้าน.

7. Sharp Air Fryer Series

แบรนด์จากญี่ปุ่น แบรนด์เก่าแก่ที่คนไทยคุ้นเคย มีสินค้าหลากหลาย คุณภาพมาตรฐาน

• รุ่นแนะนำ: Sharp รุ่น KF-AF Series (เช่น KF-AF42M, KF-AF42MB)
• จุดเด่น: แบรนด์น่าเชื่อถือ คุณภาพมาตรฐานญี่ปุ่น ใช้งานง่าย มีทั้งแบบปุ่มหมุนและดิจิทัล มีระบบความปลอดภัยที่ดี ความจุหลากหลาย ราคาเข้าถึงง่ายในบางรุ่น
• ข้อเสีย: ดีไซน์บางรุ่นอาจจะดูเรียบๆ ไม่หวือหวาเท่าแบรนด์อื่น
• เหมาะกับ: คนที่มองหาหม้อทอดไร้น้ำมันคุณภาพมาตรฐานจากแบรนด์ที่คุ้นเคย เน้นความทนทานและความปลอดภัย
• ช่องทางซื้อ: ห้างสรรพสินค้าทั่วไป, ร้านเครื่องใช้ไฟฟ้า, Big C, Thaiwatsadu, Lazada, Shopee
• ราคา: เริ่มต้นประมาณ 1,xxx - 3,xxx บาท
• รีวิว: "ใช้ Sharp มาหลายอย่างแล้ว ไว้ใจในคุณภาพ หม้อทอดก็ใช้ดีตามมาตรฐาน" - คุณลุงใจดี. "ราคาไม่แพงเกินไปสำหรับแบรนด์ญี่ปุ่น ใช้ทำอาหารให้ลูกง่ายดี" - คุณแม่มือใหม่.

8. Haier Air Fryer Series

แบรนด์จากจีน แบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าที่กำลังมาแรงในไทย มีหม้อทอดไร้น้ำมันดีไซน์สวย ราคาเป็นมิตร

• รุ่นแนะนำ: Haier รุ่น HAF-K Series, HAF-XM Series
• จุดเด่น: ราคาคุ้มค่าสบายกระเป๋า ดีไซน์สวยงาม มีสีสันน่ารัก ใช้งานง่าย มีเทคโนโลยี Air Boost ช่วยรีดไขมัน ทำความสะอาดง่าย
• ข้อเสีย: อาจจะยังไม่หลากหลายรุ่นเท่าแบรนด์เจ้าตลาด ประกันอาจจะสั้นกว่าบางแบรนด์
• เหมาะกับ: คนรุ่นใหม่ที่มองหาหม้อทอดไร้น้ำมันดีไซน์สวย ราคาไม่แรง เน้นฟังก์ชันพื้นฐานที่ใช้งานได้ดี
• ช่องทางซื้อ: ห้างสรรพสินค้าบางแห่ง, ร้านเครื่องใช้ไฟฟ้า, Lazada, Shopee
• ราคา: เริ่มต้นประมาณ 1,xxx - 2,xxx บาท
• รีวิว: "ชอบสี Haier มากค่ะ น่ารักมากๆ ใช้ทอดของง่ายดี ไม่ยุ่งยาก" - สาวออฟฟิศ. "ราคานี้ได้หม้อทอดไซส์ 4 ลิตร ถือว่าคุ้มอยู่นะ" - พ่อครัวจำเป็น.

9. Kashiwa Air Fryer Series

แบรนด์จากไทย เน้นสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดเล็กราคาประหยัด เป็นอีกตัวเลือกที่คุ้มค่า

• รุ่นแนะนำ: Kashiwa รุ่น KW-811, KW-824, KW-835
• จุดเด่น: ราคาถูกมาก! ฟังก์ชันพื้นฐานครบครันสำหรับคนงบน้อย มีหลายขนาดความจุให้เลือก ทำความสะอาดง่าย
• ข้อเสีย: คุณภาพวัสดุอาจไม่แข็งแรงเท่าแบรนด์ราคาสูงมากนัก ฟังก์ชันเสริมอาจมีน้อย
• เหมาะกับ: คนที่มีงบจำกัดมากๆ นักศึกษา หรือคนที่อยากได้หม้อทอดเครื่องแรกไว้ลองใช้ก่อน
• ช่องทางซื้อ: Big C, Lotus's (บางสาขา), ร้านเครื่องใช้ไฟฟ้าทั่วไป, Lazada, Shopee
• ราคา: เริ่มต้นเพียงหลักร้อย - 1,xxx บาท
• รีวิว: "งบไม่เยอะ จัด Kashiwa มาลอง ทอดไส้กรอกนักเก็ตสบายเลย คุ้มเกินราคา!" - น้องนักศึกษา. "ซื้อมาให้แม่ใช้ที่ต่างจังหวัด ใช้ง่ายดี ไม่ซับซ้อน" - ลูกสาวกตัญญู.

10. Ninja Air Fryer Series

แบรนด์จากอเมริกา โดดเด่นด้านนวัตกรรมและประสิทธิภาพในการทำอาหาร มักจะมีฟังก์ชันพิเศษที่ไม่เหมือนใคร

• รุ่นแนะนำ: Ninja Foodi Dual Zone Air Fryer (รุ่น AF300)
• จุดเด่น: ฟังก์ชัน Dual Zone ทำอาหารสองอย่างพร้อมกันได้โดยใช้เวลาเสร็จเท่ากัน ประสิทธิภาพสูง ทำอาหารได้รวดเร็วและกรอบ มีหลายฟังก์ชันในเครื่องเดียว (ทอด, อบ, ย่าง, อุ่น, อบแห้ง)
• ข้อเสีย: ราคาสูงกว่าหม้อทอดทั่วไปพอสมควร ขนาดค่อนข้างใหญ่
• เหมาะกับ: คนที่จริงจังกับการทำอาหาร อยากได้หม้อทอดที่มีฟังก์ชันหลากหลาย ประสิทธิภาพสูง ทำอาหารได้ครั้งละมากๆ หรือพร้อมกันสองอย่าง
• ช่องทางซื้อ: ห้างสรรพสินค้าแผนกเครื่องใช้ไฟฟ้า (Power Buy), ร้านค้าออนไลน์บางแห่ง
• ราคา: เริ่มต้นประมาณ 6,xxx+ บาท
• รีวิว: "Ninja Dual Zone คือดีงามมาก ทำกับข้าวพร้อมกันสองอย่างในมื้อเดียวได้เลย ประหยัดเวลาสุดๆ" - คนทำอาหารเลี้ยงครอบครัว. "เครื่องเดียวทำได้สารพัดเมนู คุ้มสำหรับคนชอบทำอาหาร" - ฟู้ดบล็อกเกอร์.

คำถามที่พบบ่อย (FAQ) สไตล์คนไทย!

Q: หม้อทอดไร้น้ำมันยี่ห้อไหนดีสำหรับคนโสด หรืออยู่คอนโดพื้นที่จำกัด?
A: แนะนำรุ่นความจุเล็กๆ ประมาณ 2-3 ลิตรครับ เช่น Philips Essential Airfryer (รุ่นเล็ก), Xiaomi Mi Smart Air Fryer 3.5L, Haier รุ่นเล็ก หรือ Otto บางรุ่น ขนาดกะทัดรัดไม่เปลืองพื้นที่ครับ

Q: หม้อทอดไร้น้ำมันทำความสะอาดง่ายไหม? ยี่ห้อไหนทำความสะอาดง่ายสุด?
A: ส่วนใหญ่ทำความสะอาดง่ายครับ เพราะมีสารเคลือบกันติด แค่ล้างตะแกรงกับหม้อทอดด้วยน้ำยาล้างจาน รุ่นที่เคลือบดีๆ อาหารจะไม่ค่อยติด ส่วนยี่ห้อที่เคลมว่าทำความสะอาดง่ายและมีฟังก์ชันเสริมก็มี Philips, Electrolux, LocknLock (บางรุ่นมีระบบทำความสะอาดตัวเอง)

Q: หม้อทอดไร้น้ำมันทำอาหารไทยได้หลากหลายแค่ไหน?
A: ทำได้เยอะกว่าที่คิดครับ! นอกจากไก่ทอด หมูกรอบ เฟรนช์ฟรายส์ ก็ทำเมนูอย่าง หมูย่าง ไก่ย่าง ปลาเผา (แบบไม่มีควัน) ผักอบ ทอดมัน (ถ้าผสมดีๆ) หรือแม้แต่ขนมไทยบางอย่างก็ทำได้

Q: ซื้อหม้อทอดไร้น้ำมันใน Lazada/Shopee เชื่อถือได้ไหม? กลัวได้ของปลอม?
A: ถ้าซื้อจากร้านค้าที่เป็น Official Store ของแบรนด์นั้นๆ หรือร้านที่มีเรตติ้งและรีวิวดีๆ บนแพลตฟอร์มใหญ่ๆ อย่าง Lazada, Shopee ก็ค่อนข้างเชื่อถือได้ครับ แต่ถ้าเจอร้านที่ไม่คุ้นเคย ราคาถูกจนน่าตกใจ ให้เช็คดีๆ อ่านรีวิวเยอะๆ หรือซื้อจากตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการจะปลอดภัยที่สุดครับ

Q: จำเป็นต้อง "วอร์มเครื่อง" หม้อทอดไร้น้ำมันก่อนใช้ทุกครั้งไหม?
A: การวอร์มเครื่อง (Preheat) ประมาณ 3-5 นาที จะช่วยให้อุณหภูมิคงที่และอาหารสุกกรอบทั่วถึงมากขึ้นครับ โดยเฉพาะถ้าทำอาหารที่ต้องการความกรอบเป็นพิเศษ การวอร์มเครื่องก็จะช่วยให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีขึ้นครับ

สรุปส่งท้าย เลือกหม้อทอดไร้น้ำมันให้ใช่ ตอบโจทย์ชีวิตเฮลท์ตี้!

เป็นยังไงกันบ้างครับกับ 10 หม้อทอดไร้น้ำมันน่าใช้ในปี 2025 ที่ผมคัดมาให้? เห็นไหมว่ามีหลากหลายสไตล์ หลากหลายราคา ให้เลือกตามความต้องการและงบประมาณของเราเลย

• ถ้า งบจำกัด หรือเพิ่งเริ่มต้นใช้ แนะนำ Otto หรือ Kashiwa ครับ ราคาเป็นมิตร ฟังก์ชันพื้นฐานครบ
• ถ้าเน้น คุณภาพ ทำอาหารได้ดี ทนทาน และมีงบประมาณหน่อย แนะนำ Philips หรือ Electrolux ครับ
• ถ้าชอบ ดีไซน์สวย เทคโนโลยีล้ำๆ และเชื่อมต่อแอปฯ ได้ ต้อง Xiaomi เลย
• ถ้าต้องการ ฟังก์ชันหลากหลาย ทำได้สารพัดเมนู หรือมีนวัตกรรมพิเศษ แนะนำ LocknLock หรือ Ninja ครับ
• ถ้าชอบ แบรนด์ญี่ปุ่น ที่คุ้นเคย คุณภาพมาตรฐาน ราคาเข้าถึงง่าย แนะนำ Sharp ครับ
• ถ้าชอบ ดีไซน์น่ารัก ราคาคุ้มๆ แบรนด์ที่กำลังมาแรง แนะนำ Haier ครับ

สิ่งสำคัญคืออย่าลืมพิจารณา ความจุ ให้เหมาะกับจำนวนคนในบ้านและประเภทอาหารที่ชอบทำด้วยนะครับ และที่สำคัญสุดๆ คือ การทำความสะอาด เลือกแบบที่ล้างง่ายๆ จะได้ไม่ท้อกับการเข้าครัวครับ

ช่วงเทศกาล หรือโปรโมชั่นใหญ่ๆ อย่าง 11.11, 12.12 บน Lazada Shopee เนี่ย ของลดราคาเยอะมาก ถ้าเล็งรุ่นไหนไว้ ลองจับจังหวะซื้อช่วงนั้นดูนะครับ อาจจะได้ราคาดีจนยิ้มแก้มปริเลยทีเดียว! 😉

มาเมาท์มอยกันหน่อย! แชร์ประสบการณ์หน่อยจ้า!

เพื่อนๆ คนไหนใช้หม้อทอดไร้น้ำมันยี่ห้อไหน รุ่นไหนอยู่บ้าง? เป็นยังไง เล่าสู่กันฟังหน่อยสิครับ! ชอบตรงไหน ไม่ชอบตรงไหน หรือมีเคล็ดลับการใช้หม้อทอดไร้น้ำมันให้เด็ดกว่าเดิม คอมเมนต์มาคุยกันได้เลยนะ! 👇

ถ้าใครถูกใจบทความนี้ อยากให้กำลังใจ หรืออยากได้พิกัดร้าน/ลิงก์โปรโมชั่นดีๆ ของรุ่นที่สนใจ รบกวนพิมพ์คำว่า "ขอพิกัดหน่อย!" เดี๋ยวผมรวบรวมให้เป็นพิเศษเลยจ้าาา! แล้วเจอกันใหม่บทความหน้า สวัสดีครับ! 👋

วิดีโอที่เกี่ยวข้อง

• 10 อันดับ หม้อทอดไร้น้ำมัน ยี่ห้อไหนดี 2025
• 3 หม้อทอดไร้น้ำมัน ยี่ห้อไหนดี 2025??
• รีวิวหม้อทอดไร้น้ำมัน 2025: เลือกหม้อไหนดีที่สุด?
• 7 แบรนด์ หม้อทอดไร้น้ำมัน ยอดนิยมในไทย
• 5 เรื่องหม้อทอดไร้น้ำมัน อย่าเพิ่งซื้อ..ถ้ายังไม่รู้