10 เครื่องชงกาแฟแคปซูล ยี่ห้อไหนดี ปี 2025 ชงกาแฟอร่อย คุณภาพดี

สวัสดีครับเพื่อนๆ สายช้อปออนไลน์และคอกาแฟทุกคน! 👋 ในยุคที่ชีวิตเร่งรีบ แถมบางทีก็อยากทำงานนอกสถานที่ ชิลๆ ที่คาเฟ่ หรือต้องพกพาสะดวกไปเที่ยวช่วงวันหยุดยาว การได้จิบกาแฟรสชาติดีๆ เหมือนชงจากร้านโปรดนี่มันช่วยเติมพลังได้ดีจริงๆ ครับ

แต่จะออกไปซื้อกาแฟสดที่ร้านทุกวันก็เปลืองเงินน่าดู 🤔 แถมบางทีก็ไม่มีเวลาแวะ วันหยุดยาวก็อยากพักผ่อนอยู่บ้านสบายๆ นี่แหละครับ เครื่องชงกาแฟแคปซูลนี่แหละคือคำตอบ! เพียงแค่มีเครื่องกับแคปซูล ก็สามารถยกคาเฟ่มาไว้ที่บ้านได้ง่ายๆ ในไม่กี่นาที

แต่ปัญหาคือ... ตอนนี้ในตลาดมีเครื่องชงกาแฟแคปซูลออกมาเยอะมากกกก หลายยี่ห้อ หลายราคา จนตาลายไปหมด! จะเลือกยังไงให้ได้เครื่องที่ใช่ ชงกาแฟอร่อย คุณภาพดี คุ้มค่ากับเงินในกระเป๋า ไม่ต้องมานั่งเสียใจทีหลัง?

ไม่ต้องห่วงครับ! ในฐานะที่ผมคลุกคลีกับการช้อปปิ้ง (และดื่มกาแฟ) มานาน วันนี้ผมจะมาเป็นกูรูส่วนตัว พาเพื่อนๆ ไปเจาะลึกโลกของเครื่องชงกาแฟแคปซูลในไทย พร้อมแนะนำ 10 รุ่นเด็ดที่น่าจับตามองในปี 2025 นี้ บอกเลยว่าอ่านจบปุ๊บ เลือกซื้อได้ปั๊บ ได้กาแฟอร่อยๆ ดื่มแน่นอน!

ตลาดเครื่องชงกาแฟแคปซูลในไทย ฮอตแค่ไหนกันนะ?

บอกเลยว่าตลาดเครื่องชงกาแฟแคปซูลในไทยช่วงนี้กำลัง มาแรงแซงทางโค้ง! ด้วยความที่คนไทยนิยมดื่มกาแฟสดมากขึ้น และเทรนด์ Work From Home หรือการใช้ชีวิตแบบ New Normal ก็ทำให้ผู้บริโภคหันมาชงกาแฟดื่มเองที่บ้านมากขึ้นเพื่อความสะดวกและประหยัดค่าใช้จ่าย

แบรนด์ที่เห็นส่วนใหญ่ในตลาดก็จะเป็นแบรนด์ต่างชาตินำเข้าเจ้าใหญ่ๆ ที่ครองตลาดอยู่ ไม่ว่าจะเป็น Nespresso และ NESCAFÉ Dolce Gusto ซึ่งทั้งคู่ถือเป็นผู้นำในตลาดนี้ นอกจากนี้ก็มีแบรนด์อื่นๆ ที่น่าสนใจ เช่น Xiaomi, Illy, Krups, Tefal, Hafele, Simplus, Oggi, Baliza, Beno และแบรนด์ไทยอย่าง Duchess ที่โดดเด่นเรื่องราคาเข้าถึงง่ายและมีฐานการผลิตในประเทศ

พฤติกรรมผู้บริโภคคนไทยในการเลือกซื้อเครื่องชงกาแฟแคปซูลจะเน้นไปที่ ความสะดวก ใช้งานง่าย ชงรวดเร็ว ได้รสชาติกาแฟที่สม่ำเสมอ และดีไซน์สวยงาม เข้ากับบ้านได้ นอกจากแคปซูลกาแฟของแบรนด์เองแล้ว ผู้บริโภคยังนิยมมองหาเครื่องที่สามารถใช้กับแคปซูลแบรนด์อื่นๆ ได้ด้วย เช่น แคปซูล Nespresso หรือ Dolce Gusto ที่หาซื้อง่ายและมีหลากหลายรสชาติ รวมถึงแคปซูล Starbucks ก็เป็นที่นิยมเช่นกัน แหล่งช้อปปิ้งยอดฮิตก็หนีไม่พ้นแพลตฟอร์มออนไลน์อย่าง Lazada และ Shopee ที่มีตัวเลือกเยอะและมีโปรโมชั่นตลอด หรือถ้าใครอยากไปดูของจริงก็ต้องไปที่ห้างสรรพสินค้า แผนกเครื่องใช้ไฟฟ้า หรือร้านจำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้าชั้นนำครับ

ปัจจัยสำคัญในการเลือกซื้อเครื่องชงกาแฟแคปซูล

ก่อนจะพุ่งตัวไปช้อป เรามาดูกันก่อนว่ามีปัจจัยอะไรบ้างที่เราต้องพิจารณา เพื่อให้ได้เครื่องชงกาแฟแคปซูลที่เหมาะกับการใช้งานของเราที่สุดครับ ลองดูตารางนี้เป็นแนวทางได้เลย:

จัดไป! 10 เครื่องชงกาแฟแคปซูลน่าสอย ปี 2025!

ถึงช่วงที่ทุกคนรอคอย! ผมคัดมาให้แล้ว 10 รุ่นเด็ดจากหลากหลายแบรนด์ ที่เป็นที่นิยมและน่าสนใจในตลาดไทยปี 2025 ครับ ลองพิจารณาตามสไตล์และความต้องการของตัวเองได้เลย!

1. Nespresso Essenza Mini / Inissia

• เกี่ยวกับแบรนด์: แบรนด์จากสวิตเซอร์แลนด์ในเครือ Nestlé เป็นผู้นำตลาดเครื่องชงและแคปซูลกาแฟแบบพรีเมียม
• สินค้ารุ่นเด่น: Essenza Mini, Inissia (รุ่นเริ่มต้นยอดนิยม)
• วิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย:
  • ข้อดี: ขนาดเล็กกะทัดรัด ดีไซน์สวยงาม มีหลายสีให้เลือก ใช้งานง่ายและรวดเร็ว แรงดันสูง 19 บาร์ ได้ Crema ดี แคปซูล Nespresso มีรสชาติให้เลือกเยอะมากและหาซื้อง่าย
  • ข้อเสีย: ทำได้เฉพาะกาแฟดำ (Espresso/Lungo) หากต้องการเมนูนมต้องซื้อเครื่องตีฟองนมแยก ใช้ได้เฉพาะแคปซูลระบบ Nespresso เท่านั้น ราคากลางๆ แต่แคปซูลมีราคาสูงกว่าบางยี่ห้อ
• เหมาะกับใคร: คนที่เน้นดื่มกาแฟดำ (Espresso, Lungo) เป็นหลัก ต้องการเครื่องขนาดเล็ก ประหยัดพื้นที่ และให้ความสำคัญกับคุณภาพของกาแฟจากแคปซูลที่มีให้เลือกหลากหลาย
• แนะนำช่องทางการซื้อ: Nespresso Boutique, ห้างสรรพสินค้าชั้นนำ, Power Buy, Central Online, Lazada, Shopee
• ช่วงราคา: ประมาณ 4,000 - 7,000 บาท (สำหรับรุ่น Essenza Mini / Inissia)
• รีวิวผู้ใช้งาน (ไทย): "เครื่องเล็กน่ารักมาก วางตรงไหนก็ได้ ชงกาแฟได้เร็วทันใจ รสชาติเข้มข้นดี" "ชอบตรงที่แคปซูลมีให้เลือกเยอะมาก ไม่เบื่อเลย" "ใช้มาหลายปีแล้วทนดี ไม่มีปัญหาจุกจิก"

2. NESCAFÉ Dolce Gusto Genio S Plus / Mini Me

• เกี่ยวกับแบรนด์: แบรนด์จากสวิตเซอร์แลนด์ในเครือ Nestlé เช่นกัน เป็นผู้นำตลาดเครื่องชงแคปซูลที่เน้นเมนูกาแฟและเครื่องดื่มที่หลากหลาย
• สินค้ารุ่นเด่น: Genio S Plus, Mini Me
• วิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย:
  • ข้อดี: สามารถทำเครื่องดื่มได้หลากหลายกว่า Nespresso มีทั้งกาแฟดำ กาแฟนม ชา โกโก้ ทั้งแบบร้อนและเย็น หลายรุ่นมีฟังก์ชันปรับปริมาณน้ำและอุณหภูมิได้ ดีไซน์ทันสมัย สีสันน่ารัก แคปซูลหาซื้อง่ายตามซูเปอร์มาร์เก็ตทั่วไปและออนไลน์
  • ข้อเสีย: แรงดันน้ำส่วนใหญ่ 15 บาร์ ซึ่งอาจให้ Crema น้อยกว่า Nespresso ใช้ได้เฉพาะแคปซูลระบบ Dolce Gusto เท่านั้น
• เหมาะกับใคร: คนที่ชอบดื่มเครื่องดื่มหลากหลาย ไม่ได้จำกัดแค่กาแฟดำ ชอบเมนูกาแฟนม ชา หรือโกโก้ด้วย และต้องการความสะดวกในการหาซื้อแคปซูล
• แนะนำช่องทางการซื้อ: ห้างสรรพสินค้าชั้นนำ, ซูเปอร์มาร์เก็ต (Big C, Tops), Power Buy, Central Online, Lazada, Shopee
• ช่วงราคา: ประมาณ 2,500 - 5,000 บาท (สำหรับรุ่น Mini Me, Genio S Basic/Plus)
• รีวิวผู้ใช้งาน (ไทย): "ชอบที่มีเมนูให้เลือกเยอะมากค่ะ ทำคาปูชิโน่กินเองที่บ้านได้เลย" "ใช้งานง่ายมากค่ะ เติมน้ำ ใส่แคปซูล กดปุ่ม จบ!" "ดีไซน์น่ารัก วางตรงไหนก็น่าใช้"

3. Xiaomi Mi Capsule Coffee Machine / SCISHARE

• เกี่ยวกับแบรนด์: แบรนด์จากจีน โดดเด่นเรื่องดีไซน์มินิมอล ฟังก์ชันครบครัน และราคาเข้าถึงง่าย
• สินค้ารุ่นเด่น: Mi Capsule Coffee Machine (S1301, N1), SCISHARE (S1104, S1201)
• วิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย:
  • ข้อดี: ราคาเป็นมิตรกับงบประมาณมากๆ ดีไซน์สวยงาม มินิมอล เข้ากับบ้านยุคใหม่ แรงดันสูงถึง 20 บาร์ในหลายรุ่น ใช้งานง่าย ไม่ซับซ้อน บางรุ่นสามารถใช้กับแคปซูล Nespresso ได้
  • ข้อเสีย: บางรุ่นรองรับเฉพาะแคปซูล Nespresso หรือมีตัวเลือกแคปซูลของแบรนด์เองไม่มากเท่า Nespresso/Dolce Gusto ความจุแท็งก์น้ำอาจจะเล็กกว่าบางยี่ห้อ
• เหมาะกับใคร: คนที่มองหาเครื่องชงกาแฟแคปซูลราคาประหยัด ดีไซน์สวย เน้นใช้งานง่าย และดื่มกาแฟดำเป็นหลัก หรือใช้กับแคปซูล Nespresso อยู่แล้ว
• แนะนำช่องทางการซื้อ: Lazada, Shopee, ร้านค้าออนไลน์อื่นๆ
• ช่วงราคา: ประมาณ 1,500 - 3,000 บาท
• รีวิวผู้ใช้งาน (ไทย): "ราคาดีมากกก คุ้มสุดๆ ชงกาแฟได้เข้มข้นดี" "ดีไซน์สวยมินิมอลมาก วางในครัวแล้วดูดีสุดๆ" "ใช้งานง่ายตามสไตล์ Xiaomi แค่เสียบปลั๊ก เติมน้ำ ใส่แคปซูล กดปุ่ม"

4. Duchess Capsule Coffee Maker

• เกี่ยวกับแบรนด์: แบรนด์ไทย โดดเด่นเรื่องดีไซน์สวย ฟังก์ชันครบ ราคาเข้าถึงง่าย และมีแคปซูลของตัวเองที่ผลิตในประเทศ
• สินค้ารุ่นเด่น: CM6350B, CM6400, CM6500B, CM6300R
• วิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย:
  • ข้อดี: ราคาไม่แพง เข้าถึงง่าย ดีไซน์สวยงาม หลากหลายรุ่นให้เลือก บางรุ่นรองรับแคปซูลได้หลายแบบ ทั้ง Nespresso และ Dolce Gusto หรือแม้กระทั่งกาแฟคั่วบด มีแคปซูลกาแฟของแบรนด์เองที่รสชาติดีและราคาไม่แรง
  • ข้อเสีย: คุณภาพและความทนทานอาจจะไม่เท่าแบรนด์ยุโรปบางยี่ห้อ ความจุแท็งก์น้ำในบางรุ่นอาจจะเล็ก
• เหมาะกับใคร: คนที่มองหาเครื่องชงกาแฟแคปซูลราคาประหยัด อยากลองใช้แคปซูลกาแฟแบรนด์ไทย หรือต้องการเครื่องที่รองรับแคปซูลได้หลากหลายแบบในเครื่องเดียว
• แนะนำช่องทางการซื้อ: Lazada, Shopee, เว็บไซต์ Duchess, ร้านจำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้า
• ช่วงราคา: ประมาณ 2,000 - 4,000 บาท
• รีวิวผู้ใช้งาน (ไทย): "ซื้อ Duchess มาใช้แล้วคุ้มค่ามากค่ะ ราคาก็ดี เครื่องก็สวย" "ชอบตรงที่ใช้ได้หลายแคปซูลในเครื่องเดียว ไม่ต้องง้อยี่ห้อเดียว" "แคปซูลของ Duchess เองก็อร่อย ราคาไม่แรงด้วย"

5. Oggi Multi – Capsule Coffee Machine

• เกี่ยวกับแบรนด์: แบรนด์ที่โดดเด่นด้วยคอนเซ็ปต์ Multi-Capsule รองรับแคปซูลได้หลากหลายชนิด
• สินค้ารุ่นเด่น: MC2, MC2 PLUS
• วิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย:
  • ข้อดี: จุดเด่นที่สุดคือรองรับแคปซูลได้เกือบทุกระบบ ทั้ง Nespresso, Dolce Gusto, กาแฟบด และ Coffee Pod ทำให้เรามีตัวเลือกแคปซูลเยอะมากๆ ไม่ต้องกังวลเรื่องหาแคปซูลไม่ได้ ใช้งานง่าย มีอะแดปเตอร์มาให้ครบ
  • ข้อเสีย: ดีไซน์อาจจะไม่โดดเด่นเท่าบางแบรนด์.
• เหมาะกับใคร: คนที่ชอบลองกาแฟหลากหลายแบรนด์ ไม่ยึดติดกับระบบใดระบบหนึ่ง ต้องการเครื่องเดียวที่ใช้ได้กับแคปซูลเกือบทุกประเภท
• แนะนำช่องทางการซื้อ: Lazada, Shopee, ร้านค้าออนไลน์
• ช่วงราคา: ประมาณ 2,500 - 3,500 บาท
• รีวิวผู้ใช้งาน (ไทย): "ซื้อ Oggi มาแล้วชีวิตง่ายขึ้นเยอะ ใช้แคปซูลได้ทุกยี่ห้อเลย ไม่ต้องซื้อเครื่องหลายเครื่อง" "ชอบที่ใช้กาแฟบดก็ได้ด้วยค่ะ บางทีอยากเปลี่ยนแนว"

6. Illy Y3.3 / X7.1

• เกี่ยวกับแบรนด์: แบรนด์กาแฟชื่อดังจากอิตาลี ที่มีเครื่องชงและแคปซูลกาแฟเป็นของตัวเอง เน้นคุณภาพและรสชาติกาแฟสไตล์อิตาเลียนแท้ๆ
• สินค้ารุ่นเด่น: Y3.3, X7.1
• วิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย:
  • ข้อดี: ได้ดื่มกาแฟ Illy คุณภาพดี สไตล์อิตาเลียนแท้ๆ จากแคปซูลของแบรนด์โดยตรง ดีไซน์เครื่องสวยงาม เป็นเอกลักษณ์ รุ่น Y3.3 ขนาดกะทัดรัด ใช้งานง่าย รุ่น X7.1 ดีไซน์คลาสสิกเหมือนเครื่องชงแบบดั้งเดิม
  • ข้อเสีย: ใช้ได้เฉพาะแคปซูลระบบ Illy Iperespresso เท่านั้น ซึ่งแคปซูลอาจจะหาซื้อยากกว่า Nespresso/Dolce Gusto และมีราคาสูง ตัวเครื่องราคาสูงกว่าบางยี่ห้อในสเปกใกล้เคียงกัน
• เหมาะกับใคร: คอกาแฟตัวจริงที่ชื่นชอบรสชาติและเอกลักษณ์ของกาแฟ Illy เป็นพิเศษ และต้องการเครื่องชงที่ออกแบบมาเพื่อดึงรสชาติที่ดีที่สุดของแคปซูล Illy ออกมา
• แนะนำช่องทางการซื้อ: ห้างสรรพสินค้าชั้นนำ (บางสาขา), ร้านจำหน่ายเครื่องชงกาแฟเฉพาะทาง, Lazada, Shopee (ร้านค้าที่นำเข้า)
• ช่วงราคา: ประมาณ 5,000 - 10,000+ บาท
• รีวิวผู้ใช้งาน (ไทย): "กาแฟ Illy รสชาติดีจริงๆ ครับ เครื่อง Y3.3 ก็ใช้งานง่าย ไม่ยุ่งยาก" "เครื่องสวยมากค่ะ วางตรงไหนก็ดูดี"

7. Krups NESCAFE Dolce Gusto / Nespresso Series

• เกี่ยวกับแบรนด์: แบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าจากฝรั่งเศส เป็นผู้ผลิตเครื่องชงกาแฟให้กับ Nestlé ทั้งระบบ Dolce Gusto และ Nespresso
• สินค้ารุ่นเด่น: MINI ME KP120866, Genio S Series, Essenza Mini by Krups
• วิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย:
  • ข้อดี: เป็นเครื่องผลิตโดยแบรนด์ที่เชี่ยวชาญด้านเครื่องใช้ไฟฟ้า คุณภาพดี ทนทาน มีรุ่นให้เลือกหลากหลายทั้งสำหรับระบบ Dolce Gusto และ Nespresso ดีไซน์ทันสมัย ใช้งานง่าย
  • ข้อเสีย: ข้อดีข้อเสียส่วนใหญ่จะคล้ายคลึงกับเครื่องของ Nespresso และ Dolce Gusto โดยตรง ขึ้นอยู่กับรุ่นว่าเป็นระบบไหน
• เหมาะกับใคร: คนที่ต้องการเครื่องชงแคปซูลระบบ Nespresso หรือ Dolce Gusto ที่ผลิตโดยแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีชื่อเสียงด้านคุณภาพและความทนทาน
• แนะนำช่องทางการซื้อ: ห้างสรรพสินค้าชั้นนำ, Power Buy, Central Online, Lazada, Shopee
• ช่วงราคา: ประมาณ 3,000 - 6,000 บาท ขึ้นอยู่กับรุ่นและระบบ
• รีวิวผู้ใช้งาน (ไทย): "ใช้ Krups Dolce Gusto มานานแล้ว ทนมากๆ ยังใช้งานได้ดีอยู่เลย" "เครื่องสวยดีไซน์คล้ายหุ่นยนต์น่ารักค่ะ"

8. Tefal NESCAFE Dolce Gusto Series

• เกี่ยวกับแบรนด์: แบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าจากฝรั่งเศส เป็นอีกหนึ่งผู้ผลิตเครื่องชงกาแฟให้กับ Nestlé ในระบบ Dolce Gusto
• สินค้ารุ่นเด่น: KP340566, KP340866 Genio S Plus
• วิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย:
  • ข้อดี: เป็นเครื่องระบบ Dolce Gusto ที่ผลิตโดย Tefal ซึ่งมีชื่อเสียงด้านเครื่องใช้ไฟฟ้า คุณภาพมาตรฐาน ใช้งานง่าย ทำเมนูหลากหลายได้เหมือนเครื่อง Dolce Gusto ทั่วไป
  • ข้อเสีย: เหมือนกับ Krups คือข้อดีข้อเสียจะคล้ายเครื่อง Dolce Gusto โดยตรง.
• เหมาะกับใคร: คนที่ต้องการเครื่องชงแคปซูลระบบ Dolce Gusto ที่ผลิตโดยแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าที่คุ้นเคยและเชื่อถือได้
• แนะนำช่องทางการซื้อ: ห้างสรรพสินค้าชั้นนำ, Power Buy, Central Online, Lazada, Shopee
• ช่วงราคา: ประมาณ 3,000 - 5,000 บาท ขึ้นอยู่กับรุ่น
• รีวิวผู้ใช้งาน (ไทย): "ซื้อ Tefal Dolce Gusto มาใช้คู่กับแคปซูล Starbucks อร่อยเหมือนไปร้านเลยค่ะ"

9. Hafele Capsule Coffee Maker

• เกี่ยวกับแบรนด์: แบรนด์อุปกรณ์และเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านจากเยอรมนี ที่มีสินค้าหลากหลาย รวมถึงเครื่องชงกาแฟแคปซูล
• สินค้ารุ่นเด่น: Capsule Coffee Maker
• วิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย:
  • ข้อดี: ดีไซน์เรียบหรู มินิมอล แรงดันสูงถึง 20 บาร์ ใช้งานง่ายไม่ซับซ้อน รองรับแคปซูลแบบ Nespresso ได้
  • ข้อเสีย: อาจจะยังมีรุ่นให้เลือกไม่มากเท่าแบรนด์ที่เน้นเครื่องชงกาแฟโดยเฉพาะ ความพร้อมของศูนย์บริการอาจจะไม่เท่าแบรนด์หลัก
• เหมาะกับใคร: คนที่มองหาเครื่องชงแคปซูล Nespresso ที่ดีไซน์สวยงาม เรียบหรู และเน้นฟังก์ชันพื้นฐานที่ให้กาแฟคุณภาพดี
• แนะนำช่องทางการซื้อ: Hafele Gallery, ห้างสรรพสินค้า, Lazada, Shopee
• ช่วงราคา: ประมาณ 3,000 - 5,000 บาท
• รีวิวผู้ใช้งาน (ไทย): "ชอบดีไซน์ Hafele มากค่ะ สวยน้อยแต่มาก วางในครัวแล้วดูแพง" "ชงกาแฟได้รสชาติดีค่ะ แรงดันถึงใจ"

10. Simplus QuickBrew / Beno Capsule Coffee Machine

• เกี่ยวกับแบรนด์: แบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าที่กำลังได้รับความนิยมในตลาดออนไลน์ เน้นราคาคุ้มค่า ฟังก์ชันครบครัน
• สินค้ารุ่นเด่น: Simplus QuickBrew, Beno BN3 Milk Touch / BN-2
• วิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย:
  • ข้อดี: ราคาเป็นมิตรกับงบประมาณมากๆ แรงดันสูงถึง 20 บาร์ บางรุ่นเป็นแบบ Multi-capsule รองรับได้ทั้ง Nespresso, Dolce Gusto และกาแฟบด รุ่น Beno BN3 Milk Touch มีฟังก์ชันตีฟองนมในตัว ทำเมนูนมได้
  • ข้อเสีย: แบรนด์อาจจะยังไม่คุ้นหูเท่าแบรนด์ใหญ่ๆ ในตลาด ความทนทานระยะยาวต้องรอดู รีวิวผู้ใช้อาจจะยังไม่เยอะเท่าแบรนด์หลัก
• เหมาะกับใคร: คนที่มองหาเครื่องชงกาแฟแคปซูลราคาถูกที่สุด ฟังก์ชันครบครัน เน้นความคุ้มค่า และอยากลองใช้เครื่องที่รองรับแคปซูลได้หลากหลาย หรือมีฟังก์ชันทำนมในตัวในราคาไม่แพง
• แนะนำช่องทางการซื้อ: Lazada, Shopee เป็นหลัก
• ช่วงราคา: ประมาณ 1,500 - 3,500 บาท
• รีวิวผู้ใช้งาน (ไทย): "ราคาดีมากค่ะ ลองซื้อมาใช้ดู ชงได้ทั้ง Dolce Gusto กับ Nespresso เลย คุ้มเกินราคา" "Beno รุ่นทำนมได้ดีมากค่ะ ทำลาเต้ได้ง่ายๆ เลย"

คำถามที่พบบ่อย (FAQ) สไตล์คอกาแฟไทย!

Q: เครื่องชงกาแฟแคปซูลยี่ห้อไหนดีสุด?
A: ไม่มีคำว่า "ดีที่สุด" ครับ ขึ้นอยู่กับความต้องการและงบประมาณของคุณมากกว่า ถ้าเน้นกาแฟดำ แคปซูลเยอะๆ Nespresso ก็ดี ถ้าชอบหลากหลายเมนูทั้งร้อนเย็น นม ชา Dolce Gusto ก็ตอบโจทย์ ถ้าเน้นคุ้มค่า ดีไซน์สวย Xiaomi หรือ Duchess ก็น่าสนใจ ถ้าอยากได้เครื่องเดียวชงได้ทุกแคปซูล ลองดู Oggi หรือ Beno บางรุ่น

Q: ระหว่าง Nespresso กับ Dolce Gusto ต่างกันยังไง เลือกแบบไหนดี?
A: ต่างกันหลักๆ ที่ ระบบแคปซูลและชนิดเครื่องดื่ม ครับ Nespresso เน้นกาแฟดำ Espresso/Lungo แรงดันสูงกว่า ส่วนใหญ่ 19 บาร์ แคปซูลมีกลิ่นและรสให้เลือกเยอะมากจากแบรนด์เอง ส่วน Dolce Gusto ทำได้หลากหลายเมนู ทั้งกาแฟดำ กาแฟนม ชา โกโก้ ร้อน/เย็น แรงดันส่วนใหญ่ 15 บาร์ แคปซูลหาซื้อง่ายตามร้านค้าทั่วไป ถ้าชอบกาแฟดำหลากหลายรสชาติเน้นๆ ไป Nespresso ถ้าชอบลองหลายๆ เมนูและหาแคปซูลง่ายไป Dolce Gusto ครับ

Q: แคปซูล Starbucks ใช้กับเครื่องยี่ห้อไหนได้บ้าง?
A: แคปซูล Starbucks มีผลิตออกมาสำหรับ ทั้งระบบ Nespresso และ Dolce Gusto ครับ ดังนั้น ถ้าคุณมีเครื่องชงกาแฟระบบ Nespresso หรือ Dolce Gusto ก็สามารถซื้อแคปซูล Starbucks มาชงได้เลยครับ

Q: เครื่องชงกาแฟแคปซูลแบบ Multi-capsule ดีไหม?
A: ดีสำหรับคนที่ ชอบความยืดหยุ่นและมีแคปซูลหลากหลายยี่ห้อ เครื่องเดียวใช้ได้เกือบทุกแบบ ไม่ต้องกังวลเรื่องหาแคปซูลยาก แต่ต้องดูคุณภาพการสกัดของแต่ละระบบในเครื่องนั้นๆ ด้วยนะครับ

Q: ซื้อเครื่องชงกาแฟแคปซูลจากร้านค้าออนไลน์เชื่อถือได้แค่ไหน?
A: โดยทั่วไปร้านค้า Official Store หรือร้านที่มีเรตติ้งดีและมีผู้รีวิวเยอะๆ บน Lazada/Shopee ค่อนข้างเชื่อถือได้ครับ แต่ถ้าเจอร้านที่ไม่คุ้นเคย หรือราคาถูกจนน่าตกใจ ให้เช็คดีๆ อ่านรีวิวเยอะๆ หรือสอบถามผู้ขายก่อนตัดสินใจครับ ทางที่ดีซื้อจากร้านตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ หรือร้านใหญ่ๆ จะปลอดภัยที่สุดครับ

สรุปส่งท้าย เลือกเครื่องชงกาแฟแคปซูลให้ใช่ ในสไตล์เรา!

เห็นไหมครับว่าเครื่องชงกาแฟแคปซูลมีตัวเลือกเยอะแยะเต็มไปหมด! การจะเลือกรุ่นที่ใช่ ก็ต้องเริ่มจากถามตัวเองก่อนว่า เราจะเอาไปทำอะไร? งบประมาณเท่าไหร่? และเน้นฟังก์ชันอะไรเป็นพิเศษ?

• ถ้า งบจำกัด แต่อยากได้เครื่องดีๆ ลองดู Xiaomi, Duchess หรือ Simplus/Beno รุ่นเริ่มต้นครับ
• ถ้าเน้น กาแฟดำ คุณภาพดี ตัวเลือกแคปซูลเยอะ ต้อง Nespresso Essenza Mini/Inissia เลยครับ
• ถ้าชอบ หลากหลายเมนูทั้งร้อนเย็น นม ชา และหาแคปซูลง่าย แนะนำ NESCAFÉ Dolce Gusto Genio S Plus/Mini Me
• ถ้าอยากได้เครื่องเดียว ชงได้ทุกแคปซูล ไม่ว่าจะเป็น Nespresso, Dolce Gusto, กาแฟบด ลองดู Oggi MC2/MC2 PLUS หรือ Beno บางรุ่น
• ถ้าเน้น ดีไซน์สวย พรีเมียม ลองดู Nespresso, Illy หรือ Hafele ครับ
• ถ้าต้องการ ฟังก์ชันทำนมในตัว ในราคาที่เข้าถึงง่าย ลองดู Beno BN3 Milk Touch หรือขยับงบไป Nespresso Lattissima One

สิ่งสำคัญอีกอย่างคือ อย่าลืมเช็ค ประกันศูนย์ในไทย และระวังของปลอม โดยเฉพาะหากซื้อผ่านร้านที่ไม่น่าเชื่อถือ ที่สำคัญ! ในช่วงเทศกาลหรือโปรโมชั่นใหญ่ๆ บน Lazada Shopee มักจะมีดีลเด็ดๆ ออกมาให้ช้อปกันแบบจัดเต็ม อย่าพลาดเชียวล่ะ! 😉

มาเมาท์มอยกันหน่อย! แชร์ประสบการณ์หน่อยจ้า!

เพื่อนๆ คนไหนกำลังใช้เครื่องชงกาแฟแคปซูลรุ่นไหนอยู่บ้าง? เป็นยังไง เล่าสู่กันฟังหน่อยสิครับ! ชอบตรงไหน ไม่ชอบตรงไหน หรือมีรุ่นไหนอยากแนะนำเพิ่มเติม คอมเมนต์มาคุยกันได้เลยนะ! 👇

ถ้าใครถูกใจบทความนี้ อยากให้กำลังใจ หรืออยากได้พิกัดร้าน/ลิงก์โปรโมชั่นดีๆ รบกวนพิมพ์คำว่า "จัดลิงก์มาเลย!" เดี๋ยวผมรวบรวมให้เป็นพิเศษเลยจ้าาา! แล้วเจอกันใหม่บทความหน้า สวัสดีครับ! 👋

วิดีโอที่เกี่ยวข้อง

• 10 เครื่องชงกาแฟ ยี่ห้อไหนดี ขายดีที่สุด SHOPEE ล่าสุด 2025 ...
• เครื่องชงกาแฟแคปซูล 10 อันดับ ยอดนิยม ดีไซน์สวย ใช้งานง่าย ราคา ...
• เลือกแบบไหนดี! รวมเครื่องชงกาแฟสดทุกแบบที่เคยใช้มาราคาตั้งแต่ ...
• 10 อันดับ เครื่องชงกาแฟราคาถูก ยี่ห้อไหนดี 2023
• ไขข้อสงสัย เครื่องชงกาแฟมีกี่ระดับและเลือกซื้ออย่างไรดี? | Coffee ...