ทำสีผม Freshlight สี Green Ash รีวิว: ทำเองได้ไหม? สีตรงปกหรือเปล่า?


โอ้โหหห! เห็นสีผมสวยๆ ตามอินฟลูเอนเซอร์แล้วใจมันสั่น อยากเปลี่ยนสีผมรับเทศกาลสงกรานต์ (หรือจะเทศกาลไหนๆ ก็เหอะ!) แต่ติดที่งบน้อยนิดกับเวลาที่ไม่ค่อยมี จะเข้าร้านก็คิดแล้วคิดอีก! อ่ะ! ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว ขอลองวิชาช่างทำผมจำเป็นหน่อยละกัน กับยาย้อมผมในตำนานอย่าง Freshlight สี Green Ash หรือที่หลายคนเรียก "สีหม่นเขียว" นั่นแหละ! แต่คำถามคาใจคือ...ทำเองมันจะรอดไหม? สีจะตรงปกเหมือนหน้ากล่องรึเปล่า? วันนี้แหละ! จะมาเปิดประสบการณ์ทำสีผมเองที่บ้านให้ดูกันไปเลย!
1.ภาพรวมผลิตภัณฑ์: รู้จักน้อง Freshlight Green Ash กันก่อน!
แบรนด์: Freshlight (เฟรชไลท์)
รุ่น/สี: Green Ash (สีเขียวหม่น)
ช่วงราคา: ประมาณ 200 – 300 บาท (แล้วแต่โปรโมชั่นและร้านค้า)
ตำแหน่งในตลาด: ยาย้อมผมแฟชั่นสำหรับทำเองที่บ้าน ราคาเข้าถึงง่าย เหมาะกับวัยรุ่น วัยเรียน หรือคนที่อยากเปลี่ยนสีผมบ่อยๆ
จุดเด่นคร่าวๆ ที่เคลมไว้:
- สีสวยชัด (อันนี้ต้องพิสูจน์!)
- กลิ่นหอม ไม่ฉุน (เค้าว่างั้นนะ)
- มีอาฟเตอร์ทรีทเมนต์ บำรุงผมหลังทำสี
- ทำเองง่าย ไม่ยุ่งยาก (จริงเหรอ?)
- ราคาเป็นมิตร กับเงินในกระเป๋า
2.ดีไซน์และอุปกรณ์ในกล่อง: แพ็กเกจน่ารักน่าใช้!
แพ็กเกจจิ้งของ Freshlight คือน่ารักมากกกก มีน้องตุ๊กตาบลายธ์เป็นพรีเซนเตอร์ กล่องสีเขียวอ่อนๆ เห็นแล้วสบายตา ของในกล่องมีครบเซ็ตพร้อมรบ!
สิ่งที่อยู่ในกล่อง:
- ครีมเปลี่ยนสีผม (หลอด)
- ดีเวลลอปเปอร์ (ขวด)
- ฝาหวีสำหรับย้อมผม (ช่วยให้ทาง่ายขึ้น!)
- ถุงมือ 1 คู่
- แผ่นพับวิธีใช้ (สำคัญมาก! อ่านก่อนทำ!)
- อาฟเตอร์คัลเลอร์ทรีทเมนต์ (ซองเล็กๆ หลังทำสีเสร็จ)
ขนาดกล่องกำลังดี พกพาง่าย ถ้าไปค้างคืนบ้านเพื่อนแล้วอยากมีกิจกรรมทำก็พกไปด้วยได้เลยนะ!
3.ประสบการณ์การใช้งาน: ลงมือทำเอง ครั้งแรกจะรอดไหม?!
เอาล่ะ! ถึงเวลาลงสนามจริง! เตรียมอุปกรณ์ให้พร้อม หาเสื้อเก่าๆ มาใส่ เอาวาสลีนทาตามไรผม กันสีเปื้อน จัดไป!
ขั้นตอนการทำ: ไม่ยากเลย แค่บีบครีมเปลี่ยนสีผมลงในขวดดีเวลลอปเปอร์ ปิดฝา เขย่าๆๆ ให้เข้ากัน แล้วเปลี่ยนเป็นฝาหวี จากนั้นก็ค่อยๆ บีบแล้วใช้หวีแบ่งผมป้ายๆๆ ให้ทั่วศีรษะ
ความรู้สึกตอนทำ: กลิ่นไม่ฉุนอย่างที่คิดนะ มีกลิ่นหอมอ่อนๆ ด้วย แต่ตอนป้ายเองนี่แหละคือชาเลนจ์! ยิ่งถ้าผมยาวหรือผมหนา อาจจะต้องใช้สองกล่องเพื่อให้ทั่วถึง และต้องใจเย็นๆ ค่อยๆ ทำทีละช่อ
ระยะเวลาในการทิ้งสี: ทำตามข้างกล่องเป๊ะๆ ประมาณ 20-30 นาที แล้วแต่สภาพเส้นผม (อย่าทิ้งนานเกินไปนะ ผมจะเสียเอา!)
ตอนล้างออก: ล้างน้ำเปล่าจนกว่าน้ำจะใส แล้วก็สระผมตามปกติ จากนั้นก็ตามด้วยอาฟเตอร์ทรีทเมนต์ที่ให้มา นวดๆ ทิ้งไว้แป๊บนึงแล้วล้างออก ผมจะนุ่มขึ้นทันทีเลย!
ผลลัพธ์หลังจากทำเสร็จ: เอาล่ะ! ถึงเวลาส่องกระจก! บนผมที่ผ่านการฟอกสีมา สี Green Ash ติดชัดมากกกกก! ออกเป็นสีเขียวหม่นสวยเลย! แต่ตรงโคนผมที่เป็นสีดำธรรมชาติอาจจะติดแค่ประกายหม่นๆ หรือแทบไม่ติดเลย... อ่ะ! นี่แหละคือความท้าทายของการทำสีเอง! สีจะตรงปกหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับ "พื้นสีผมเดิม" ของแต่ละคน ถ้าพื้นผมสว่าง หรือเคยฟอกสีมา สีก็จะออกมาชัดและตรงปกเหมือนหน้ากล่อง แต่ถ้าพื้นผมดำสนิท สีที่ได้อาจจะเป็นแค่ประกายหม่นๆ หรือออกน้ำตาลหม่นๆ เท่านั้นนะจ๊ะ!
4.ใช้งานง่ายไหม? มือใหม่หัดทำผมเองรอดไหม?
ถามว่าใช้ง่ายไหม? ถ้าเทียบกับการผสมสีย้อมผมแบบหลอดคู่กับขวด ต้องบอกว่า Freshlight แบบฝาหวีคือใช้งานง่ายกว่าเยอะ! เหมือนแปรงผมไปย้อมผมไปในตัว แต่สำหรับมือใหม่ที่เพิ่งทำสีผมเองครั้งแรก อาจจะยังงงๆ กับการแบ่งผม หรือการป้ายสีให้ทั่วถึง อาจจะต้องมีตัวช่วยอย่างเพื่อนมาช่วยดูด้านหลังให้ หรือใช้กระจกสองบานช่วยส่องเอา
ระบบ/กลไกการใช้งาน: เป็นแบบครีมย้อมผมทั่วไป ผสมแล้วย้อมได้เลย ไม่มีซอฟต์แวร์หรือแอปพลิเคชันใดๆ มาเกี่ยวข้องจ้า
กลิ่น: มีกลิ่นเคมีตามปกติของยาย้อมผม แต่ถือว่าไม่ฉุนแสบจมูกเท่าบางยี่ห้อ
อาการแพ้/ระคายเคือง: ส่วนตัวไม่แพ้ แต่ก่อนทำ ควรทดสอบการแพ้ที่ข้อพับแขนก่อน 48 ชั่วโมงเสมอ นะจ๊ะ!
เลอะเทอะไหม: มีโอกาสเลอะเทอะได้ง่ายมาก! ควรหาผ้าคลุมไหล่กันเปื้อน ใส่ถุงมือ และระวังอย่าให้เปื้อนเสื้อผ้าหรือพื้น
5.ความคุ้มค่าในระยะยาว: สีจะติดทนนานแค่ไหน? ผมจะเสียไหม?
เรื่องความทนทานของสีแฟชั่นอย่าง Green Ash ต้องทำใจไว้เลยว่า สีจะค่อยๆ เฟด ลงเรื่อยๆ ทุกครั้งที่สระผม ปกติสีจะเริ่มเฟดเป็นสีเขียวตุ่นๆ หรือออกหม่นๆ แล้วค่อยๆ กลายเป็นสีพื้นผมเดิม หรือสีที่อ่อนลง ระยะเวลาขึ้นอยู่กับความถี่ในการสระผมและผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมที่ใช้ ส่วนใหญ่จะอยู่ได้ประมาณ 2-4 สัปดาห์ สีก็เริ่มเปลี่ยนชัดแล้ว
ค่าใช้จ่ายระยะยาว: ถ้าอยากให้สีสวยเป๊ะตลอด ก็อาจจะต้องย้อมซ้ำทุกเดือน ซึ่งก็ต้องซื้อกล่องใหม่ทุกครั้ง
ความคุ้มค่าเทียบกับเข้าร้าน: ถือว่า ประหยัดกว่าเข้าร้านทำผมเยอะมาก! เข้าร้านทำสีแบบนี้ทีมีหลักพัน แต่ทำเองแค่หลักร้อย ถือว่าคุ้มค่ามากๆ สำหรับคนที่งบน้อยและอยากเปลี่ยนสีผมบ่อยๆ แต่ถ้าผมเสียมาก แนะนำให้เข้าร้านให้ช่างประเมินจะดีกว่านะ
6.สรุปข้อดีข้อเสีย: ก่อนตัดสินใจซื้อ!
ข้อดี:
- ราคาถูก ประหยัดเงินในกระเป๋า
- หาซื้อง่าย มีขายทั่วไปตามห้างสรรพสินค้า ร้านสะดวกซื้อ
- แพ็กเกจน่ารัก ใช้งานง่าย (โดยเฉพาะฝาหวี)
- สีสวยชัด ถ้าพื้นผมสว่างพอ
- มีอาฟเตอร์ทรีทเมนต์ ช่วยบำรุงผมหลังทำ
ข้อเสีย:
- สีอาจไม่ตรงปก หากพื้นผมเดิมสีเข้ม
- สีเฟดค่อนข้างเร็ว ตามสไตล์สีแฟชั่น
- ต้องทำเอง อาจจะไม่สะดวกหรือไม่ทั่วถึงสำหรับบางคน
- มีกลิ่น และอาจทำให้ผมแห้งเสียได้ (ต้องดูแลดีๆ)
- เหมาะกับผมสั้น-ประบ่า ถ้าผมยาวหรือหนาต้องใช้หลายกล่อง
7.เหมาะกับใคร & คำแนะนำในการซื้อ: ใครควรสอย? ใครควรรอ?
Freshlight สี Green Ash เหมาะกับ:
- นักเรียน/นักศึกษา: งบน้อย แต่อยากเปลี่ยนลุคบ่อยๆ
- คนที่ชอบทำสีผมเอง: มีประสบการณ์ในการทำสีผมเองมาบ้างแล้ว
- คนที่มีพื้นผมสว่างอยู่แล้ว: หรือเคยฟอกสีผมมาก่อน อยากได้สีตรงปก
- คนที่อยากลองสีแฟชั่น: แต่ไม่อยากลงทุนกับร้านแพงๆ
คำแนะนำในการซื้อ:
- ถ้าอยากได้สีตรงปกเป๊ะๆ แนะนำให้ฟอกสีผมก่อน (แต่ต้องยอมรับความเสี่ยงที่ผมจะเสียนะ!)
- ถ้าเพิ่งทำสีผมเองครั้งแรก อาจจะลองสีที่อ่อนกว่านี้ หรือโทนน้ำตาลก่อนก็ได้ เพื่อฝึกฝีมือ
- ซื้อช่วงมีโปรโมชั่นคุ้มสุด! ราคาจะลดลงเยอะเลย ลองเช็กตามแอปส้ม แอปน้ำเงินดู
- ถ้าผมยาวหรือหนา ซื้อเผื่อไว้ 2 กล่อง รับรองว่าทั่วถึงชัวร์ๆ!
8.เทียบกับยาย้อมผมยี่ห้ออื่น: Freshlight ต่างจากชาวบ้านยังไง?
ถ้าเทียบกับยาย้อมผมแบบครีมซองๆ ทั่วไปตามร้านสะดวกซื้อ Freshlight จะมีราคาสูงกว่า แต่ก็มาพร้อมอุปกรณ์ที่ครบกว่า และตัวสีเองก็มักจะเป็นสีแฟชั่นที่น่าสนใจกว่า
เทียบกับยาย้อมผมแบบโฟม: แบบโฟมจะใช้ง่ายกว่าเกลี่ยง่ายกว่า เหมาะกับคนที่ผมยาวมากๆ หรือทำเองไม่ถนัด แต่บางทียี่ห้อแบบโฟมอาจจะไม่มีสีแฟชั่นให้เลือกเยอะเท่าแบบครีม
เทียบกับเข้าร้านทำผม: แน่นอนว่าเข้าร้านได้สีที่สม่ำเสมอและอาจจะติดทนนานกว่า รวมถึงได้รับคำแนะนำจากช่างผู้เชี่ยวชาญ แต่ราคาก็สูงกว่าลิบลับ
สรุปคือ Freshlight เป็นตัวเลือกที่ดีตรงกลางระหว่างยาย้อมผมราคาถูกมากๆ กับการเข้าร้านทำผม คือได้สีแฟชั่นในราคาที่จับต้องได้และทำเองได้ไม่ยากเกินไป
9.ช่องทางการซื้อและบริการหลังการขาย: ซื้อที่ไหนดี? มีปัญหาทำไง?
ช่องทางการซื้อ:
- ห้างสรรพสินค้าทั่วไป: แผนกบิวตี้ ในซูเปอร์มาร์เก็ต
- ร้านสะดวกซื้อ: บางสาขาที่มีโซนบิวตี้ใหญ่ๆ
- ร้านวัตสัน, บู๊ทส์: มีโปรโมชั่นบ่อยๆ
- ช่องทางออนไลน์: Lazada, Shopee, JD Central หรือร้านค้าออนไลน์อย่างเป็นทางการของแบรนด์ ราคาออนไลน์มักมีโปรโมชั่นและโค้ดส่วนลดเยอะมากก บางทีลดเหลือไม่ถึงสองร้อยก็มีนะ!
โปรโมชั่นและส่วนลด:
- แนะนำให้ซื้อช่วงเทศกาล หรือช่วงแคมเปญลดราคาของแพลตฟอร์มออนไลน์
- มักมีโปรโมชั่น ซื้อ 1 แถม 1 หรือ ลดราคาพิเศษ
- ใช้โค้ดส่วนลด, คูปองส่งฟรี, หรือรับเงินคืน (Cashback) จากร้านค้าและแพลตฟอร์มได้อีกด้วย
- ลองเปรียบเทียบราคาออนไลน์กับหน้าร้านดู บางทีออนไลน์ถูกกว่าเยอะ แถมส่งถึงบ้านไม่ต้องออกไปเอง
บริการหลังการขาย: ยาย้อมผมเป็นสินค้าอุปโภคบริโภค ไม่ได้มีการรับประกันเหมือนสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ ถ้าสินค้ามีปัญหา เช่น ซีลขาด กล่องชำรุด หรือได้ของไม่ครบ สามารถติดต่อร้านค้าที่ซื้อเพื่อขอเปลี่ยนหรือคืนสินค้าได้ตามนโยบายของร้านนั้นๆ แต่เรื่องสีไม่ตรงปกจากการทำเอง อันนี้อยู่นอกเหนือการรับประกันนะจ๊ะ!
10.บทสรุปและคำแนะนำในการซื้อ: สรุปแล้ว ควรซื้อดีไหม?
จากประสบการณ์ที่ลองทำ Freshlight สี Green Ash เองที่บ้าน สรุปเลยว่า... เป็นยาย้อมผมที่น่าลองสำหรับคนที่อยากได้สีแฟชั่นในราคาเบาๆ และสนุกกับการทำสีผมด้วยตัวเอง!
ถ้าคุณ:
- มีพื้นผมสว่าง หรือเคยฟอกสีมา
- งบน้อย แต่อยากเปลี่ยนสีผมบ่อยๆ
- ชอบความท้าทายในการทำสีผมเอง
- รับได้ถ้าสีที่ได้อาจจะไม่ตรงปก 100%
จัดไปเลยจ้า! Freshlight สี Green Ash ตอบโจทย์แน่นอน ยิ่งซื้อช่วงโปรโมชั่นคือคุ้มสุดๆ!
แต่ถ้าคุณ:
- มีพื้นผมสีดำสนิท และไม่อยากฟอกสี
- ต้องการสีที่เป๊ะ สม่ำเสมอเหมือนทำที่ร้าน
- ผมแห้งเสียมากๆ อยู่แล้ว
- ไม่ถนัดในการทำอะไรเอง เลอะเทอะง่าย
อาจจะต้องพิจารณาดีๆ หรือยอมลงทุนเข้าร้านทำผมเพื่อผลลัพธ์ที่ดีกว่านะจ๊ะ!
หวังว่ารีวิวนี้จะเป็นประโยชน์กับทุกคนที่กำลังเล็ง Freshlight สี Green Ash หรือยาย้อมผมแบบทำเองที่บ้านนะคะ ใครมีประสบการณ์ใช้สีนี้ หรือยี่ห้ออื่น สีอื่น มาแชร์กันได้เลยนะ! อยากรู้ว่ามีใครทำแล้วสีตรงปกเป๊ะๆ บ้างไหม? 😉
วิดีโอที่เกี่ยวข้อง
แนะนำสำหรับคุณ
จัดกระดูก คืออะไร? รีวิว ประสบการณ์ และข้อควรรู้
รวมร้านหมูจุ่ม เชียงใหม่ อร่อยเด็ด บรรยากาศดี
รีวิว Beauty Plus Clinic กำจัดขน: เลเซอร์ขนที่นี่ดีไหม ราคาเป็นอย่างไร?
รีวิวหนัง "ฮาวทูทิ้ง..ทิ้งอย่างไรไม่ให้เหลือเธอ" ประทับใจแค่ไหน?
รีวิว Adidas Edge Lux Clima: รองเท้าวิ่ง Adidas ระบายอากาศดี น่าใส่ไหม?
รีวิว Hisense 55B7700UW ทีวี 55 นิ้ว ภาพสวย คุ้มราคาไหม?