10 อันดับ DRUNK ELEPHANT ตัวไหนดี ปี 2025 แก้ปัญหาผิว ส่วนผสมปัง


สวัสดีครับเพื่อนๆ สายสกินแคร์ตัวจริง! 👋 เคยเป็นกันไหมครับ เวลาเดินเข้าโซนสกินแคร์แล้วตาลาย เพราะมีผลิตภัณฑ์เยอะแยะเต็มไปหมด โดยเฉพาะแบรนด์ดังๆ ที่เห็นรีวิวแน่นโซเชียลอย่าง DRUNK ELEPHANT ที่ฮิตแบบฉุดไม่อยู่จริงๆ!
ในยุคที่มลภาวะก็เยอะ แดดก็แรง แถมบางทีผิวก็งอแงง่ายกว่าปกติ การมีสกินแคร์ดีๆ คู่ใจสักตัวสองตัวนี่แหละคือทางรอด! แต่พอเห็นราคาแต่ละชิ้นของน้องช้างเมา (ชื่อเล่นของแบรนด์ Drunk Elephant ที่มาจากเรื่องเล่าสนุกๆ เกี่ยวกับช้างกินผลมารูล่าแล้วเมา ซึ่งน้ำมันมารูล่าก็เป็นส่วนผสมเด่นของแบรนด์เค้าล่ะ) ก็อาจมีเหงื่อตกกันบ้าง 😂
ปัญหาคือ Drunk Elephant เค้ามีผลิตภัณฑ์เยอะมากกกก แล้วแต่ละตัวก็มีส่วนผสมที่เน้นแก้ปัญหาผิวที่แตกต่างกันไป แล้วเราจะรู้ได้ยังไงว่า DRUNK ELEPHANT ตัวไหนดี ปี 2025 ที่เหมาะกับผิวเราจริงๆ ไม่ต้องเสียเงินฟรี?
ไม่ต้องกังวลไปครับ! ในฐานะที่ชอบลองสกินแคร์ใหม่ๆ และสิงอยู่ในกลุ่มรีวิวมานาน วันนี้ผมจะมาเป็นเพื่อนคู่คิด มิตรคู่ผิว พาไปเจาะลึกผลิตภัณฑ์ตัวเด็ดของ Drunk Elephant ที่ฮิตติดลมบนในไทย พร้อมแนะนำ 10 อันดับที่น่าจับตามองในปี 2025 นี้ รับรองว่าอ่านจบปุ๊บ เลือกซื้อได้ปั๊บ ผิวปังแน่นอน!
ตลาด DRUNK ELEPHANT ในไทย ฮอตแค่ไหนกันนะ?
บอกเลยว่า Drunk Elephant เนี่ย ถึงจะเป็นแบรนด์นำเข้าจากอเมริกา แต่ก็มาแรงในไทยมากๆ ครับ กลายเป็นหนึ่งในแบรนด์โปรดของเหล่าบิวตี้เลิฟเวอร์หลายคน ด้วยคอนเซ็ปต์ Clean Skincare ที่เน้นส่วนผสมประสิทธิภาพสูง และปราศจากสารที่แบรนด์เรียกว่า "Suspicious 6" (น้ำมันหอมระเหย, แอลกอฮอล์แห้ง, ซิลิโคน, สารกันแดดเคมี, น้ำหอม/สีสังเคราะห์, SLS) ทำให้โดนใจคนไทยที่ผิวแพ้ง่าย หรือมองหาสกินแคร์ที่อ่อนโยนแต่เห็นผลครับ
แบรนด์นี้มีวางขายอย่างเป็นทางการในไทยส่วนใหญ่ที่ Sephora ทั้งหน้าร้านและออนไลน์ ซึ่งถือเป็นช่องทางหลักที่เชื่อถือได้ นอกจากนี้ก็เริ่มมีให้เห็นในแพลตฟอร์มออนไลน์ใหญ่อย่าง Lazada และ Shopee บ้าง แต่ต้องระวังเลือกร้าน Official หรือร้านที่น่าเชื่อถือนะครับ เพราะของปลอมก็มีเกลื่อนอยู่เหมือนกัน!
พฤติกรรมคนไทยเวลาซื้อสกินแคร์แพงๆ แบบนี้ ส่วนใหญ่จะทำการบ้านหนักมาก! อ่านรีวิวใน Pantip, ดูคลิปใน YouTube, หรือเช็คใน Lemon8 ก่อนตัดสินใจ เพราะอยากได้ของที่ใช่จริงๆ ในราคาที่ต้องลงทุน
ปัจจัยเด็ดในการเลือก DRUNK ELEPHANT ตัวไหนดี?
ก่อนจะพุ่งตัวไปช้อป มาดูกันก่อนว่ามีอะไรที่เราต้องพิจารณาบ้าง เพื่อให้น้องช้างเมามาอยู่ในรูทีนแล้วผิวปัง ไม่พัง ไม่เฟล!
- สภาพผิวและปัญหาผิวของเรา: เป็นสิว? รูขุมขนกว้าง? ผิวแห้ง? ผิวมัน? มีริ้วรอย? หมองคล้ำ? ผิวแพ้ง่ายสุดๆ? Drunk Elephant มีผลิตภัณฑ์ที่เน้นแก้แต่ละปัญหาโดยเฉพาะ การรู้ปัญหาผิวตัวเองคือข้อแรกและสำคัญที่สุดครับ
- ส่วนผสมปังๆ ที่ต้องมี: Drunk Elephant ดังเรื่องส่วนผสม active ที่เข้มข้น เช่น วิตามินซี (L-Ascorbic Acid) ช่วยเรื่องความกระจ่างใส, เรตินอล ช่วยเรื่องริ้วรอยและสิว, AHA/BHA ช่วยผลัดเซลล์ผิว, เปปไทด์ ช่วยเสริมผิวแข็งแรง, เซราไมด์ ช่วยเรื่องเกราะป้องกันผิว ควรดูว่าส่วนผสมหลักในผลิตภัณฑ์นั้นตอบโจทย์ปัญหาเราไหม
- ผลิตภัณฑ์เข้ากันได้ไหม หรือผสมกันได้หรือเปล่า: จุดเด่นของ Drunk Elephant คือเค้าออกแบบมาให้ "ผสม" กันได้ หรือที่เรียกว่าทำ Skincare Smoothie! ลองศึกษาดูว่าตัวที่เราสนใจสามารถใช้ร่วมกับตัวอื่นที่เรามีอยู่ หรือจะผสมกับผลิตภัณฑ์ Drunk Elephant ตัวอื่นเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพได้ยังไง
- ราคาและงบประมาณ: ยอมรับว่า Drunk Elephant ราคาสูงตามคุณภาพ แต่เค้าก็มีไซส์เล็ก (The Littles) หรือเซ็ตขนาดทดลองออกมาบ่อยๆ ลองซื้อไซส์เล็กมาทดลองก่อนลงทุนไซส์จริงก็เป็นไอเดียที่ดีครับ ช่วงโปรโมชั่นใน Sephora หรือในแพลตฟอร์มออนไลน์ก็เป็นโอกาสลดค่าใช้จ่ายได้เยอะ
- รีวิวจากผู้ใช้จริงในไทย: ดูว่าคนที่สภาพผิวใกล้เคียงกับเรา ใช้แล้วเป็นยังไงบ้าง รีวิวใน Pantip หรือ Lemon8 เป็นแหล่งข้อมูลชั้นดีเลยครับ
- แหล่งซื้อที่เชื่อถือได้: อันนี้สำคัญมาก! เพื่อให้มั่นใจว่าได้ของแท้และปลอดภัย ควรซื้อจากเคาน์เตอร์ Sephora หรือ Sephora Online เป็นหลัก หรือถ้าซื้อใน Lazada/Shopee ให้เลือกจากร้าน Official เท่านั้น
จัดอันดับ 10 ผลิตภัณฑ์ DRUNK ELEPHANT ตัวท็อป ปี 2025 ที่ต้องมี!
ได้เวลามาดูกันแล้วว่า 10 ตัวเด็ดของ Drunk Elephant ที่ยืนหนึ่งเรื่องการแก้ปัญหาผิวและเป็นที่นิยมในไทย มีตัวไหนบ้าง! เตรียมจดลิสต์ไว้ช้อปได้เลย!
1. Protini™ Polypeptide Cream
ครีมเจลเนื้อนุ่ม ที่เป็นเหมือนโปรตีนชงดื่มให้ผิว! ตัวนี้ฮิตตลอดกาล ยอดขายดีทั่วโลก
- เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์: มอยส์เจอไรเซอร์เนื้อเจลครีม บางเบา ซึมง่าย มีส่วนผสมของ Peptide Complex 9 ชนิด, Amino Acids และสารสกัดจาก Pygmy Waterlily
- ข้อดี: ช่วยเสริมเกราะป้องกันผิวให้แข็งแรง ผิวดูอิ่มฟู เรียบเนียนขึ้น ลดเลือนริ้วรอยตื้นๆ ได้ดี เนื้อไม่หนัก เหมาะกับอากาศร้อนๆ ของไทย ใช้ได้ทุกสภาพผิว แม้ผิวแพ้ง่าย
- ข้อเสีย: อาจไม่ให้ความชุ่มชื้นเพียงพอสำหรับคนผิวแห้งมากๆ ในบางครั้ง
- เหมาะกับใคร: ทุกสภาพผิวที่ต้องการเสริมความแข็งแรงให้ผิว ลดเลือนริ้วรอย คนที่เริ่มใช้สกินแคร์ Anti-aging เป็นตัวแรกๆ
- ช่องทางซื้อ: Sephora (ออนไลน์และหน้าร้าน), Lazada (Official Store), Shopee (Official Store)
- ช่วงราคา: ประมาณ 2,900 - 4,150 บาท (สำหรับไซส์จริง 50ml)
- รีวิว: "ใช้ Protini แล้วผิวแข็งแรงขึ้นจริงๆ รอยแดงจางไว ไม่งอแงแล้ว" - ผู้ใช้ Pantip. "เนื้อดีมาก ซึมไว ไม่เหนอะเลย ทาตอนเช้าสบายผิว" - บิวตี้บล็อกเกอร์. "ตัวนี้ยืนพื้นในรูทีนตลอด ใช้แล้วผิวนุ่มอิ่มฟู" - รีวิวใน Sephora.
2. C-Firma™ Fresh Day Serum
เซรั่มวิตามินซีตัวดัง ที่ช่วยกู้ผิวหมองคล้ำให้กระจ่างใส สู้แดดไทย!
- เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์: เซรั่มวิตามินซีเข้มข้น 15% (L-Ascorbic Acid) พร้อม Ferulic Acid และ Vitamin E ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ดี
- ข้อดี: ช่วยให้ผิวกระจ่างใส สีผิวสม่ำเสมอขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ปกป้องผิวจากอนุมูลอิสระและมลภาวะ ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน
- ข้อเสีย: บางคนอาจรู้สึกยิบๆ เล็กน้อยช่วงแรกๆ ที่ใช้ วิตามินซีรูปแบบ L-Ascorbic Acid ค่อนข้างไวต่อแสงและอากาศ อาจเปลี่ยนสีได้เมื่อเวลาผ่านไป (แต่รุ่น Fresh สามารถผสมเองได้เมื่อจะใช้ เพื่อความสดใหม่)
- เหมาะกับใคร: คนที่ต้องการผิวกระจ่างใส ลดจุดด่างดำ รอยสิว ต้องการการปกป้องผิวจากแสงแดดและมลภาวะ (***ย้ำว่าต้องทากันแดดตามทุกครั้ง!)
- ช่องทางซื้อ: Sephora (ออนไลน์และหน้าร้าน), Lazada (Official Store), Shopee (Official Store)
- ช่วงราคา: ประมาณ 2,640 - 3,300 บาท (สำหรับไซส์จริง 30ml)
- รีวิว: "ใช้ C-Firma แล้วหน้าใสขึ้นจริงๆ รอยดำจางไวมาก!" - ผู้ใช้ Lemon8. "เนื้อซึมง่ายดี มีกลิ่นวิตามินซีชัดเจน แต่เห็นผลเรื่องความใสเลยยอม" - รีวิวออนไลน์. "ต้องมีติดบ้าน ใช้ตอนเช้าคู่กับกันแดดคือคอมโบกู้ผิวหมองคล้ำ" - บล็อกเกอร์ความงาม.
3. T.L.C. Framboos™ Glycolic Night Serum
เซรั่มผลัดเซลล์ผิวสำหรับกลางคืน ตัวช่วยเรื่องสิว รูขุมขน และผิวไม่เรียบเนียน!
- เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์: เซรั่มที่มี AHA 12% (Glycolic, Lactic, Tartaric, Citric Acids) และ BHA 2% (Salicylic Acid) ช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่า พร้อมส่วนผสมปลอบประโลมผิว
- ข้อดี: ช่วยให้ผิวเรียบเนียนขึ้นอย่างชัดเจน ลดสิวอุดตัน รูขุมขนดูกระชับ ลดรอยดำ รอยแดงจากสิว ทำให้ผิวดูใสขึ้น
- ข้อเสีย: อาจทำให้ผิวแห้งหรือระคายเคืองได้ในช่วงแรกๆ ควรเริ่มใช้น้อยๆ หรือใช้แบบวันเว้นวัน และต้องทากันแดดในตอนเช้าอย่างเคร่งครัด! ไม่เหมาะกับคนผิวบอบบางแพ้ง่ายมากๆ
- เหมาะกับใคร: คนที่ปัญหาสิวอุดตัน รูขุมขนกว้าง ผิวไม่เรียบเนียน มีรอยสิว ต้องการผลัดเซลล์ผิว
- ช่องทางซื้อ: Sephora (ออนไลน์และหน้าร้าน), Lazada (Official Store), Shopee (Official Store)
- ช่วงราคา: ประมาณ 3,340 - 3,800 บาท (สำหรับไซส์จริง 30ml)
- รีวิว: "ใช้ T.L.C. Framboos แล้วสิวอุดตันลดลงอย่างเห็นได้ชัด ผิวเรียบขึ้นเยอะเลย" - ผู้ใช้ Pantip. "ตัวนี้แรงแต่เห็นผลจริง! รูขุมขนกระชับขึ้น หน้าใสขึ้นด้วย" - รีวิวใน Lemon8. "ต้องใช้คู่กับ B-Hydra คือดีงาม ไม่แห้งไม่ลอกเลย" - บิวตี้กูรู.
4. B-Hydra™ Intensive Hydration Serum
เซรั่มเติมน้ำให้ผิวฉ่ำฟู ตัวช่วยกู้ผิวขาดน้ำในสภาพอากาศร้อนๆ ของไทย!
- เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์: เซรั่มเนื้อเจลบางเบา มี Vitamin B5 (Panthenol), Pineapple Ceramide และ Sodium Hyaluronate Crosspolymer ช่วยเติมน้ำและล็อกความชุ่มชื้นให้ผิว
- ข้อดี: เติมความชุ่มชื้นให้ผิวได้ดีเยี่ยม เนื้อบางเบา ซึมง่าย ไม่เหนอะหนะ ช่วยปลอบประโลมผิวที่แห้งหรือระคายเคือง สามารถผสมกับผลิตภัณฑ์ตัวอื่นๆ ได้ดีเยี่ยม
- ข้อเสีย: สำหรับคนผิวแห้งมากๆ อาจต้องใช้คู่กับมอยส์เจอไรเซอร์ที่เข้มข้นขึ้น
- เหมาะกับใคร: ทุกสภาพผิวที่ต้องการความชุ่มชื้น คนที่ผิวขาดน้ำ ผิวมันที่ต้องการความชุ่มชื้นแบบไม่หนักผิว หรือคนที่ใช้ผลิตภัณฑ์กลุ่มผลัดเซลล์ผิว/เรตินอล แล้วผิวแห้ง
- ช่องทางซื้อ: Sephora (ออนไลน์และหน้าร้าน), Lazada (Official Store), Shopee (Official Store)
- ช่วงราคา: ประมาณ 1,880 - 2,000 บาท (สำหรับไซส์จริง 50ml)
- รีวิว: "B-Hydra คือลูกรัก! ใช้แล้วผิวอิ่มน้ำฟูขึ้นทันที เนื้อเบามากกกก ชอบสุดๆ" - ผู้ใช้ Lemon8. "ผสมกับ T.L.C. Framboos แล้วดีงาม ไม่แสบไม่แห้งเลย" - รีวิวใน Sephora. "ใช้ตอนเช้าสบายผิวมาก ไม่ทำให้หน้ามันเพิ่ม" - ผู้ใช้จริง.
5. Virgin Marula™ Luxury Facial Oil
น้ำมันมารูล่า 100% ส่วนผสมซิกเนเจอร์ของแบรนด์ ที่ช่วยบำรุงผิวให้ยืดหยุ่น นุ่มเนียน
- เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์: น้ำมันสกัดจากเมล็ดมารูล่า 100% ที่อุดมไปด้วย Omega-6 และ Omega-9 รวมถึงสารต้านอนุมูลอิสระ
- ข้อดี: ให้ความชุ่มชื้นและบำรุงผิวได้ล้ำลึก ช่วยให้ผิวดูยืดหยุ่นและเรียบเนียนขึ้น ปลอบประโลมผิว สามารถใช้ได้ทั้งผิวหน้า ผิวตัว และเส้นผม ซึมค่อนข้างไว ไม่ทิ้งความมันเยิ้มมากถ้าใช้ปริมาณที่พอเหมาะ
- ข้อเสีย: เป็นน้ำมัน คนผิวมันมากๆ อาจต้องระวังปริมาณการใช้
- เหมาะกับใคร: คนผิวแห้ง ผิวขาดความยืดหยุ่น ต้องการบำรุงผิวเป็นพิเศษ หรือต้องการน้ำมันดีๆ ที่ใช้ได้อเนกประสงค์
- ช่องทางซื้อ: Sephora (ออนไลน์และหน้าร้าน), Lazada (Official Store), Shopee (Official Store)
- ช่วงราคา: ประมาณ 1,540 - 2,900 บาท (ขึ้นอยู่กับขนาด)
- รีวิว: "ชอบ Marula Oil มาก ทาแล้วผิวนุ่มเด้งดี ใช้ผสมกับครีมหรือเซรั่มก็ได้" - ผู้ใช้ Pantip. "น้ำมันดี ซึมไว ไม่เหนียวอย่างที่คิด ใช้แล้วผิวดูสุขภาพดีขึ้น" - รีวิวออนไลน์. "ขวดเล็กใช้ได้นาน คุ้มค่าอยู่นะ" - ผู้ใช้จริง.
6. A-Passioni™ Retinol Cream
ครีมเรตินอลเข้มข้น 1.0% ตัวท็อปเรื่องลดริ้วรอยและรอยสิว!
- เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์: ครีมที่มี Vegan Retinol เข้มข้น 1.0% ผสมผสานกับ Superfood Complex และส่วนผสมปลอบประโลมผิว
- ข้อดี: เห็นผลดีเรื่องลดเลือนริ้วรอยตื้นๆ และริ้วรอยที่ชัดขึ้น ช่วยปรับผิวให้เรียบเนียนขึ้น ลดรอยดำ รอยแดงจากสิวได้ดี ช่วยเรื่องปัญหาสิวได้ในบางคน
- ข้อเสีย: เรตินอลเข้มข้น อาจทำให้เกิดการระคายเคือง แสบ แดง ลอกได้ในช่วงแรกๆ ที่ใช้ ต้องเริ่มใช้น้อยๆ และค่อยๆ เพิ่มความถี่ ห้ามใช้ขณะตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร และ ต้องทากันแดดที่เพียงพอในตอนเช้าอย่างเคร่งครัดที่สุด
- เหมาะกับใคร: คนที่มีปัญหาริ้วรอย รอยสิว ต้องการผลัดเซลล์ผิวอย่างมีประสิทธิภาพ คนที่เคยใช้เรตินอลมาบ้างแล้ว และผิวค่อนข้างทน
- ช่องทางซื้อ: Sephora (ออนไลน์และหน้าร้าน)
- ช่วงราคา: ประมาณ 2,980 - 3,200 บาท (สำหรับไซส์จริง 30ml)
- รีวิว: "A-Passioni ใช้แล้วผิวเนียนขึ้นจริง รอยสิวจางไวมาก ประทับใจ!" - ผู้ใช้ Lemon8. "ต้องใช้แบบค่อยเป็นค่อยไป แต่ผลลัพธ์คุ้มค่ากับการอดทน" - รีวิวออนไลน์. "เป็นเรตินอลที่ใช้ง่ายกว่าที่คิด ไม่แสบผิวมากถ้าใช้ถูกวิธี" - ผู้ใช้จริง.
7. F-Balm™ Electrolyte Waterfacial
มาสก์สำหรับกลางคืน ที่ช่วยเติมน้ำให้ผิวดูอิ่มฟูในข้ามคืน!
- เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์: สลีปปิ้งมาสก์เนื้อเจลเย็นสบาย มีส่วนผสมของ Electrolytes, Vitamin F และ Niacinamide ช่วยเติมความชุ่มชื้นและเสริมเกราะป้องกันผิว
- ข้อดี: เติมความชุ่มชื้นให้ผิวได้ดีเยี่ยม ทำให้ผิวดูอิ่มฟูในตอนเช้า เนื้อเจลให้ความรู้สึกเย็นสดชื่น สบายผิว ช่วยให้ผิวที่อ่อนล้ากลับมาดูสดใส
- ข้อเสีย: บางคนอาจรู้สึกว่าผลลัพธ์ไม่ได้โดดเด่นเท่าที่คาดหวังเมื่อเทียบกับราคา
- เหมาะกับใคร: คนที่ผิวขาดน้ำ ต้องการบูสต์ความชุ่มชื้นเร่งด่วน ผิวที่ดูอ่อนล้า ต้องการมาสก์ที่ช่วยปลอบประโลมและฟื้นฟูผิวขณะนอนหลับ
- ช่องทางซื้อ: Sephora (ออนไลน์และหน้าร้าน), Lazada (Official Store), Shopee (Official Store)
- ช่วงราคา: ประมาณ 2,030 - 2,260 บาท (สำหรับไซส์จริง 50ml)
- รีวิว: "โบก F-Balm ก่อนนอน ตื่นมาผิวอิ่มฟูมาก แต่งหน้าง่ายขึ้นเยอะ" - ผู้ใช้ Lemon8. "ชอบเนื้อเจลมาก สบายผิวสุดๆ ใช้แล้วผิวดูสดใสขึ้น" - รีวิวใน Sephora. "เป็นมาสก์กู้ผิวที่ชอบมาก ใช้เวลาเดินทาง ผิวไม่โทรมเลย" - บล็อกเกอร์ท่องเที่ยว.
8. Lala Retro™ Whipped Cream
มอยส์เจอไรเซอร์เนื้อวิปครีม ที่เน้นเสริมเกราะป้องกันผิวให้แข็งแรง!
- เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์: ครีมเนื้อเข้มข้นแต่ตีขึ้นฟูคล้ายวิปครีม มีส่วนผสมของ Ceramide Complex 6 ชนิด, African Oils และ Phytosphingosine ช่วยเสริมเกราะป้องกันผิวและให้ความชุ่มชื้น
- ข้อดี: ให้ความชุ่มชื้นได้ดีเยี่ยม ช่วยเสริมและฟื้นฟูเกราะป้องกันผิวที่อ่อนแอ ทำให้ผิวแข็งแรง ลดการระคายเคือง เนื้อสัมผัสสบายผิว ไม่หนักเท่าที่คิด
- ข้อเสีย: อาจจะยังเข้มข้นไปหน่อยสำหรับคนผิวมันมากๆ ในช่วงกลางวัน
- เหมาะกับใคร: คนผิวแห้ง ผิวขาดน้ำ ผิวบอบบางแพ้ง่าย ผิวที่เกราะป้องกันอ่อนแอ ต้องการมอยส์เจอไรเซอร์ที่ช่วยให้ผิวแข็งแรง
- ช่องทางซื้อ: Sephora (ออนไลน์และหน้าร้าน), Lazada (Official Store), Shopee (Official Store)
- ช่วงราคา: ประมาณ 2,310 - 2,700 บาท (สำหรับไซส์จริง 50ml)
- รีวิว: "Lala Retro คือที่สุดของมอยส์เจอไรเซอร์! ผิวแข็งแรงขึ้นจริงๆ สิวผดลดลงเยอะมาก" - ผู้ใช้ Pantip. "เนื้อนุ่มเหมือนวิปครีม ทาแล้วสบายผิว ให้ความชุ่มชื้นดีมาก" - รีวิวใน Sephora. "ตัวนี้เหมาะกับคนที่ผิวแพ้ง่ายเลย ช่วยปลอบประโลมได้ดี" - บิวตี้กูรู.
9. Slaai™ Makeup-Melting Butter Cleanser
คลีนซิ่งบาล์มเนื้อนุ่มละลายเมคอัพได้ดีเยี่ยม!
- เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์: คลีนซิ่งบาล์มที่เปลี่ยนเป็นออยล์เมื่อนวดบนผิวแห้ง และกลายเป็นน้ำนมเมื่อโดนน้ำ ช่วยละลายเมคอัพ สิ่งสกปรก และครีมกันแดด มีส่วนผสมของ African Oils หลายชนิด
- ข้อดี: ทำความสะอาดเมคอัพ (แม้แบบกันน้ำ) และสิ่งสกปรกได้หมดจด ไม่ทำให้ผิวแห้งตึงหลังล้าง เนื้อสัมผัสนุ่ม ลื่น นวดสบายผิว
- ข้อเสีย: ต้องใช้คู่กับคลีนเซอร์แบบน้ำ (Second Cleanser) อีกครั้งเพื่อความสะอาดหมดจดจริงๆ
- เหมาะกับใคร: คนที่แต่งหน้าเป็นประจำ ใช้ครีมกันแดดแบบกันน้ำ ต้องการคลีนเซอร์ที่ทำความสะอาดได้ดีโดยไม่ทำให้ผิวแห้ง
- ช่องทางซื้อ: Sephora (ออนไลน์และหน้าร้าน)
- ช่วงราคา: ประมาณ 1,450 - 1,600 บาท
- รีวิว: "Slaai™ ล้างเมคอัพได้สะอาดมาก! นวดๆ แล้วเหมือนสิ่งสกปรกหลุดออกมาเลย" - ผู้ใช้ Lemon8. "ชอบเนื้อบาล์มมาก ใช้แล้วผิวไม่เอี๊ยดหลังล้าง" - รีวิวใน Sephora. "คุ้มค่า ใช้ได้นาน ทำความสะอาดได้ดีจริงๆ" - ผู้ใช้จริง.
10. D-Bronzi™ Anti-Pollution Sunshine Drops
ดรอปผสมที่ช่วยเพิ่มความโกลว์ให้ผิวดูบ่มแดดแบบสุขภาพดี!
- เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์: เซรั่มเนื้อลิควิดสีบรอนซ์ทอง ที่มีส่วนผสมของ Peptides, Fatty Acids และสารต้านอนุมูลอิสระ สามารถใช้เดี่ยวๆ หรือผสมกับเซรั่ม ครีม หรือน้ำมันตัวอื่นได้
- ข้อดี: ช่วยให้ผิวดูโกลว์บ่มแดดแบบธรรมชาติ ปรับสีผิวให้ดูสุขภาพดีขึ้นทันที ให้สารต้านอนุมูลอิสระช่วยปกป้องผิวจากมลภาวะ
- ข้อเสีย: ไม่ใช่ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหลัก เป็นเหมือนเมคอัพเบสผสมสกินแคร์ ไม่ได้แก้ปัญหาผิวโดยตรง
- เหมาะกับใคร: คนที่ต้องการผิวดูบ่มแดด โกลว์สวยแบบไม่ต้องตากแดด คนที่ชอบผสมผลิตภัณฑ์ต่างๆ เข้าด้วยกันเพื่อสร้างสรรค์ลุคผิวที่ต้องการ
- ช่องทางซื้อ: Sephora (ออนไลน์และหน้าร้าน), King Power (Duty Free)
- ช่วงราคา: ประมาณ 1,380 - 1,600 บาท
- รีวิว: "ชอบ D-Bronzi มาก ผสมกับมอยส์เจอไรเซอร์แล้วทา ผิวดูโกลว์สวยมาก เหมือนเพิ่งกลับจากทะเล" - บิวตี้บล็อกเกอร์. "ใช้แล้วหน้าดูสุขภาพดีขึ้นทันที ไม่ได้ช่วยเรื่องบำรุงเท่าไหร่ แต่ให้ลุคสวยดี" - รีวิวออนไลน์.
คำถามโลกแตกเกี่ยวกับ DRUNK ELEPHANT (สไตล์คนไทย!)
Q: Drunk Elephant เหมาะกับคนผิวแพ้ง่ายจริงๆ เหรอ เห็นส่วนผสมเข้มข้นจัง?
A: โดยทั่วไปแล้ว Drunk Elephant เคลมว่าเป็น Clean Skincare ที่ไม่มีสารที่อาจก่อการระคายเคือง 6 ชนิด ซึ่งเหมาะกับคนผิวแพ้ง่ายครับ แต่! ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสม active เข้มข้นอย่าง AHA/BHA (T.L.C. Framboos™) หรือ เรตินอล (A-Passioni™) ก็ยังอาจทำให้ผิวระคายเคืองได้ในบางคน โดยเฉพาะช่วงที่เริ่มใช้ ควรทดสอบกับผิวบริเวณเล็กๆ ก่อน หรือเริ่มใช้น้อยๆ และค่อยๆ เพิ่มความถี่ครับ
Q: ซื้อ Drunk Elephant ที่ไหนได้ของแท้ชัวร์ๆ ในไทย?
A: ปลอดภัยที่สุดคือซื้อที่เคาน์เตอร์ Sephora หรือ Sephora Online (sephora.co.th) ครับ หากซื้อใน Lazada หรือ Shopee ให้มองหาร้านที่เป็น Official Store เท่านั้นนะครับ พวกร้านหิ้ว หรือร้านที่ราคาถูกกว่าปกติมากๆ ให้ระวังไว้ก่อนเลยครับ ของปลอมระบาดหนัก
Q: ผลิตภัณฑ์ Drunk Elephant ตัวไหนช่วยเรื่องสิวและรูขุมขนได้ดีที่สุด?
A: สำหรับปัญหาสิวและรูขุมขน ตัวที่ฮิตและเห็นผลดีคือ T.L.C. Framboos™ Glycolic Night Serum ครับ ที่มี AHA/BHA ช่วยผลัดเซลล์ผิว ลดการอุดตัน และ A-Passioni™ Retinol Cream ก็ช่วยเรื่องสิวและรอยสิวได้ดีเช่นกัน แต่ต้องระวังเรื่องการระคายเคืองครับ
Q: Drunk Elephant แพงไหม? คุ้มค่าที่จะลงทุนหรือเปล่า?
A: Drunk Elephant ถือเป็นสกินแคร์กลุ่ม Premium ราคาก็ค่อนข้างสูงครับ ความคุ้มค่าขึ้นอยู่กับว่าผลิตภัณฑ์นั้นๆ แก้ปัญหาผิวเราได้ตรงจุดและเห็นผลตามที่คาดหวังไหม หลายคนใช้แล้วเห็นผลชัดเจนก็บอกว่าคุ้ม แต่ถ้าไม่แน่ใจ แนะนำให้ลองซื้อขนาดทดลอง (The Littles) หรือเซ็ตเล็กๆ มาลองใช้ก่อนลงทุนไซส์จริงครับ
Q: อากาศร้อนๆ แบบเมืองไทย ควรใช้ Drunk Elephant ตัวไหนดี?
A: ในสภาพอากาศร้อนชื้นแบบไทย ผลิตภัณฑ์เนื้อบางเบาที่ให้ความชุ่มชื้นแต่ไม่เหนอะหนะจะเหมาะมากครับ เช่น B-Hydra™ Intensive Hydration Serum ที่เป็นเซรั่มเติมน้ำ หรือ Protini™ Polypeptide Cream ที่เป็นมอยส์เจอไรเซอร์เนื้อเจลครีม และอย่าลืม C-Firma™ Fresh Day Serum คู่กับกันแดดตอนเช้า เพื่อปกป้องผิวจากแดดและมลภาวะครับ
สรุปสั้นๆ เลือก DRUNK ELEPHANT ยังไงดี?
การเลือก Drunk Elephant ให้เหมาะกับเรา ไม่ใช่แค่ตามกระแส แต่ต้องดูที่ปัญหาผิวและความต้องการของเราเป็นหลักครับ!
- ถ้า ผิวแพ้ง่าย แต่อยากลอง แนะนำให้เริ่มจากกลุ่มเสริมเกราะป้องกันผิวและให้ความชุ่มชื้น เช่น Protini™ Polypeptide Cream หรือ Lala Retro™ Whipped Cream และ B-Hydra™ Intensive Hydration Serum ส่วนกลุ่มผลัดเซลล์ผิว/เรตินอล ต้องระวังมากๆ หรือเลี่ยงไปเลยถ้าผิวยังไม่แข็งแรงพอ
- ถ้า ปัญหาสิว รูขุมขนกว้าง ลองดู T.L.C. Framboos™ Glycolic Night Serum หรือ A-Passioni™ Retinol Cream (ถ้าผิวทน)
- ถ้า ผิวหมองคล้ำ มีรอยสิว จุดด่างดำ C-Firma™ Fresh Day Serum คือตัวช่วยหลัก
- ถ้า ผิวแห้ง ขาดน้ำ B-Hydra™ Intensive Hydration Serum และ Lala Retro™ Whipped Cream จะช่วยเติมความชุ่มชื้นได้ดี
- ถ้าเน้น Anti-aging มองหา Protini™ Polypeptide Cream และ A-Passioni™ Retinol Cream ครับ
สิ่งที่สำคัญที่สุดในการใช้สกินแคร์ที่มีส่วนผสม active โดยเฉพาะในสภาพอากาศแบบไทย คือ การทากันแดดที่เพียงพอและสม่ำเสมอทุกวัน ครับ! โดยเฉพาะหลังใช้ผลิตภัณฑ์กลุ่มผลัดเซลล์ผิวหรือเรตินอล เพราะผิวจะไวต่อแสงแดดเป็นพิเศษ ถ้าไม่ทากันแดด อาจทำให้ผิวหมองคล้ำ ฝ้า กระ จุดด่างดำ หรือเกิดการระคายเคืองได้ง่ายกว่าเดิม!
และสุดท้าย ย้ำอีกครั้งว่า ระวังของปลอม! ซื้อจากแหล่งที่เชื่อถือได้เท่านั้นนะครับ
มาเมาท์มอย แชร์ประสบการณ์กันหน่อยจ้า!
เพื่อนๆ คนไหนใช้ Drunk Elephant ตัวไหนอยู่บ้าง? เป็นยังไง เล่าสู่กันฟังหน่อยสิครับ! ตัวไหนคือลูกรัก ใช้แล้วปังมาก หรือตัวไหนใช้แล้วเฉยๆ ไม่เห็นผลเท่าที่คาดหวัง? หรือมีคำถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Drunk Elephant ตัวไหนอีก ถามมาได้เลยนะ! 👇
ถ้าใครถูกใจบทความนี้ หรืออยากให้กำลังใจ หรืออยากได้พิกัดร้าน/ลิงก์โปรโมชั่นดีๆ (ถ้ามีนะ อิอิ) รบกวนพิมพ์คำว่า "ป้ายยามาเลย!" เดี๋ยวผมจะพยายามรวบรวมข้อมูลและหามาให้เป็นพิเศษเลยจ้าาา! แล้วเจอกันใหม่บทความหน้า สวัสดีครับ! 👋
วิดีโอที่เกี่ยวข้อง
แนะนำสำหรับคุณ
จัดกระดูก คืออะไร? รีวิว ประสบการณ์ และข้อควรรู้
รวมร้านหมูจุ่ม เชียงใหม่ อร่อยเด็ด บรรยากาศดี
รีวิว Beauty Plus Clinic กำจัดขน: เลเซอร์ขนที่นี่ดีไหม ราคาเป็นอย่างไร?
รีวิวหนัง "ฮาวทูทิ้ง..ทิ้งอย่างไรไม่ให้เหลือเธอ" ประทับใจแค่ไหน?
รีวิว Adidas Edge Lux Clima: รองเท้าวิ่ง Adidas ระบายอากาศดี น่าใส่ไหม?
รีวิว Hisense 55B7700UW ทีวี 55 นิ้ว ภาพสวย คุ้มราคาไหม?