รองเท้าวิ่ง Puma ราคาล่าสุด รุ่นยอดนิยมสำหรับนักวิ่งมือใหม่

สวัสดีค่าทุกคนนน! วันนี้มาเม้าท์มอยเรื่องรองเท้าวิ่งกันบ้าง เชื่อว่าหลายคนกำลังมองหารองเท้าคู่ใจคู่แรกสำหรับการวิ่งอยู่ใช่ไหมคะ? หรือใครวิ่งอยู่แล้วแต่อยากได้คู่ใหม่ที่ปังกว่าเดิม วันนี้เราจะมาส่อง รองเท้าวิ่ง Puma กันค่ะ! แบรนด์เสือกระโดดที่ไม่ใช่แค่แฟชั่นจ๋าๆ แต่เค้าก็ทำรองเท้าวิ่งดีๆ ออกมาให้เหล่านักวิ่งมือใหม่ (และมือเก๋า) ได้ใส่กันด้วยนะ แถมราคาก็เป็นมิตรกับกระเป๋าสตางค์สุดๆ ไปเลย! ใครกำลังเล็งๆ อยู่ มาทางนี้เลยจ้า เราจะมาเจาะลึกให้ฟังแบบเข้าใจง่าย สไตล์คนไทยใจดี พร้อมบอกเคล็ดลับช้อปยังไงให้ได้ของดีราคาโดนใจที่สุด ไปดูกัน!

1. รองเท้าวิ่ง Puma สำหรับนักวิ่งมือใหม่ มันคืออะไรกันนะ?

ถ้าพูดถึง Puma หลายคนอาจจะนึกถึงรองเท้าแฟชั่น เสื้อผ้าเท่ๆ แต่จริงๆ แล้ว Puma เค้าเป็นแบรนด์กีฬาระดับโลกจากประเทศเยอรมนีที่มีประวัติยาวนานมากๆ นะคะ เค้าไม่ได้มีดีแค่แฟชั่นนะ เรื่องอุปกรณ์กีฬาก็จัดเต็ม โดยเฉพาะรองเท้าวิ่งเนี่ย เค้าก็มีการพัฒนาเทคโนโลยีมาเรื่อยๆ

สำหรับ รองเท้าวิ่ง Puma สำหรับนักวิ่งมือใหม่ เนี่ย เค้าก็จะออกแบบมาให้ ใส่สบาย เป็นหลักค่ะ เน้นเรื่อง การรองรับแรงกระแทกที่ดี เพราะนักวิ่งมือใหม่อาจจะยังไม่ชินกับการลงน้ำหนัก หรือบางทียังวิ่งแบบฟอร์มไม่ถูก ก็ต้องการรองเท้าที่ช่วยซับแรงกระแทกที่ข้อเข่า ข้อเท้าได้ดี พื้นรองเท้าก็จะมีความนุ่ม ยืดหยุ่น ช่วยส่งแรงเล็กๆ น้อยๆ เวลาเราก้าวไปข้างหน้าค่ะ แถมยังออกแบบมาให้มีความ มั่นคง ไม่โคลงเคลงง่ายๆ เวลาวิ่งอีกด้วยนะ

กลุ่มเป้าหมายหลักๆ ก็คือนักวิ่งที่เพิ่งเริ่มต้น หรือคนที่วิ่งเพื่อสุขภาพ วิ่งจ๊อกกิ้งเบาๆ ไม่ได้เน้นทำความเร็วสูงๆ ค่ะ Puma เค้ามีรุ่นย่อยๆ ที่เหมาะกับมือใหม่หลายรุ่นเลยค่ะ ดีไซน์ก็สวยงาม ใส่ไปวิ่งก็ได้ ใส่เดินเที่ยวก็ยังได้อีก คุ้มค่าสุดๆ!

2. ราคาในตลาดไทยเป็นยังไงบ้างจ๊ะ?

เรื่องราคาเนี่ยเป็นอะไรที่นักช้อปอย่างเราต้องส่องดีๆ ใช่ไหมล่ะคะ? สำหรับ รองเท้าวิ่ง Puma รุ่นเริ่มต้นสำหรับนักวิ่งมือใหม่ ในตลาดไทยเนี่ย ราคาจะค่อนข้างหลากหลายค่ะ ขึ้นอยู่กับรุ่น เทคโนโลยี และโปรโมชั่นในช่วงนั้นๆ

โดยทั่วไปแล้ว รุ่นที่เหมาะกับมือใหม่ ราคาจะอยู่ที่ประมาณ 2,000 บาท ไปจนถึงประมาณ 4,000 บาท (฿) โดยประมาณค่ะ ซึ่งถือว่าเป็นช่วงราคาที่เข้าถึงได้ง่าย ไม่ได้แรงจนเกินไปสำหรับรองเท้าวิ่งดีๆ สักคู่

ถ้าลองไปส่องตามแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซใหญ่ๆ อย่าง Lazada หรือ Shopee จะเห็นว่ามีร้านค้าเยอะมากๆ ทั้ง Official Store ของ Puma เอง หรือร้านตัวแทนจำหน่ายต่างๆ ราคาก็จะมีการแข่งขันกันสูงค่ะ บางทีมีโปรโมชั่นลดราคา หรือใช้โค้ดส่วนลดเพิ่มได้อีก

ส่วนตามห้างสรรพสินค้าอย่าง Central หรือ The Mall แผนก SuperSports หรือร้าน Puma โดยตรง ราคาก็จะเป็นราคาป้ายปกติค่ะ แต่อาจจะมีโปรโมชั่นของห้าง หรือสะสมแต้มได้ ซึ่งก็เป็นอีกทางเลือกที่สะดวก เพราะเราสามารถไปลองไซส์ ลองสวมใส่จริงได้ก่อนตัดสินใจซื้อค่ะ

เรื่องส่วนต่างราคากับต่างประเทศอาจจะมีบ้างเล็กน้อยตามอัตราแลกเปลี่ยนและภาษีนำเข้า แต่โดยรวมแล้ว ราคาในไทยสำหรับรุ่นเริ่มต้นของ Puma ถือว่าค่อนข้างสมเหตุสมผลและแข่งขันกับแบรนด์อื่นได้สบายๆ ค่ะ

3. แล้วเทียบกับแบรนด์อื่นในกลุ่มเดียวกันล่ะ?

มาถึงช่วงเปรียบเทียบ! ถ้าเทียบ รองเท้าวิ่ง Puma สำหรับมือใหม่ กับรองเท้าวิ่งรุ่นเริ่มต้นของแบรนด์คู่แข่งอื่นๆ ในตลาด อย่าง Nike (เช่น Nike Revolution), Adidas (เช่น Adidas Duramo, Response), New Balance (เช่น 410, 520), หรือ Skechers เนี่ย

Puma มักจะวางตัวเองอยู่ในช่วงราคาที่ แข่งขันได้ดี ค่ะ บางครั้งอาจจะให้ ความรู้สึกคุ้มค่ากว่า ด้วยซ้ำไปในแง่ของเทคโนโลยีพื้นรองเท้าที่ให้มาเมื่อเทียบกับราคา อย่างเช่นการใช้โฟม Nitro ในบางรุ่นที่เป็นเทคโนโลยีใหม่ของ Puma ที่ให้การตอบสนองที่ดี แต่นำมาใส่ในรองเท้ากลุ่มที่ราคาไม่ได้สูงมากนัก ทำให้เรารู้สึกว่าได้เทคโนโลยีที่ทันสมัยในราคาที่เป็นมิตรค่ะ

ส่วนแบรนด์อื่นในระดับราคาเดียวกันก็มีข้อดีแตกต่างกันไป เช่น Nike อาจจะเน้นดีไซน์ที่ทันสมัย หรือ Adidas อาจจะมี Boost Foam ที่หลายคนชอบ แต่โดยรวมแล้ว Puma ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมากๆ ในกลุ่มรองเท้าวิ่งเริ่มต้นที่ให้ทั้งประสิทธิภาพที่ดีในระดับหนึ่งและราคาที่เข้าถึงง่ายค่ะ ไม่ได้เน้นความหรูหราแบบพรีเมี่ยมจ๋า แต่เน้นความคุ้มค่าและการใช้งานจริงค่ะ

4. ซื้อแล้วได้อะไรมาบ้างนะ?

เวลาซื้อ รองเท้าวิ่ง Puma ไม่ว่าจะออนไลน์หรือหน้าร้าน สิ่งที่เรามักจะได้รับแน่ๆ ก็คือ ตัวรองเท้า พร้อม กล่อง ค่ะ นอกจากนี้ สิ่งที่ควรเช็คและสอบถามเพิ่มเติมมีดังนี้:

• ค่าจัดส่ง: ถ้าซื้อออนไลน์ ส่วนใหญ่ร้านค้าบน Lazada/Shopee จะมีตัวเลือกการจัดส่งให้ค่ะ บางร้านอาจจะมีโปรโมชั่น ส่งฟรี เมื่อซื้อครบยอดที่กำหนด หรือมีโค้ดส่วนลดค่าส่งให้ใช้ ก็ช่วยประหยัดไปได้อีกนะ
• การรับประกัน: สำหรับรองเท้าวิ่ง ส่วนใหญ่จะไม่ได้มีการรับประกันแบบอิเล็กทรอนิกส์นะคะ แต่จะเป็นเรื่องของ การรับเปลี่ยน/คืนสินค้า ถ้าสินค้ามีตำหนิจากการผลิต หรือได้สินค้าผิดไซส์ ผิดสี อันนี้สำคัญมากค่ะ ควรสอบถามเงื่อนไขกับร้านค้าให้ชัดเจนก่อนสั่งซื้อ โดยเฉพาะร้านบนแพลตฟอร์มออนไลน์ ส่วนใหญ่จะมีนโยบายเปลี่ยนคืนได้ภายใน 7-15 วัน ขึ้นอยู่กับแพลตฟอร์มและนโยบายร้านค่ะ
• ของแถม/โปรโมชั่น: อันนี้แล้วแต่ช่วงเลยค่ะ บางทีซื้อรองเท้าอาจจะได้ถุงเท้าวิ่งฟรี ได้กระเป๋าผ้า หรือได้คูปองส่วนลดสำหรับการซื้อครั้งต่อไป หรือมีการสะสมแต้มสมาชิก (ถ้าซื้อที่ร้านทางการหรือในห้าง) ต้องคอยดูโปรโมชั่นในช่วงที่เราจะซื้อนะคะ
• อุปกรณ์เสริมที่รวมมา: โดยทั่วไปก็จะมีแค่ตัวรองเท้ากับกล่องค่ะ เชือกผูกรองเท้าก็อยู่ในตัวรองเท้าเลย อาจจะมีเชือกสำรองสีอื่นแถมมาให้ในบางรุ่น แต่ไม่บ่อยนักค่ะ

คนไทยเราให้ความสำคัญกับการรับประกันและบริการหลังการขายมากๆ ดังนั้น ถ้าซื้อออนไลน์ ควรอ่านรีวิวร้านค้า และเช็คเงื่อนไขการเปลี่ยนคืนสินค้าให้ดีค่ะ ถ้าซื้อที่ร้านก็สอบถามพนักงานให้เคลียร์ไปเลยนะจ๊ะ

5. มีช่วงไหนน่าช้อปเป็นพิเศษไหม?

ถามว่าช่วงไหนน่าซื้อ รองเท้าวิ่ง Puma ที่สุด? แน่นอนว่าต้องเป็น ช่วงโปรโมชั่น ไงล่ะ! ประเทศไทยเราเนี่ยเป็นสวรรค์ของนักช้อปออนไลน์เลยนะคะ มีเทศกาลลดราคาแทบจะทั้งปี!

• ช่วง Double Digit Sale: อันนี้ห้ามพลาดเลยค่ะ ทั้ง 11.11 (วันที่ 11 เดือน 11) และ 12.12 (วันที่ 12 เดือน 12) เนี่ย Lazada กับ Shopee เค้าจัดหนักจัดเต็มที่สุด ร้านค้าอย่าง Official Store ของ Puma เองก็มักจะมีส่วนลดเยอะมากๆ ค่ะ มีทั้งลดราคาตรงๆ มีโค้ดส่วนลดให้เก็บ มีของแถม บางทีมีกิจกรรมให้ร่วมสนุกเพื่อรับส่วนลดเพิ่มอีกด้วยนะ
• เทศกาลไทย: ช่วง สงกรานต์ หรือ ปีใหม่ไทย ก็เป็นอีกช่วงที่ร้านค้าและห้างสรรพสินค้ามักจะจัดโปรโมชั่นลดราคาสินค้าค่ะ ลองไปเดินดูที่ห้าง หรือเช็คโปรโมชั่นออนไลน์ดูก็ได้
• ช่วงสิ้นเดือน/กลางเดือน: บางทีร้านค้าบนออนไลน์ก็มีโปรโมชั่นเล็กๆ น้อยๆ ช่วงสิ้นเดือนที่เงินเดือนออก หรือกลางเดือนเพื่อกระตุ้นยอดขายค่ะ ต้องคอยติดตามหน้าร้านค้า หรือกดติดตามร้าน Official บน Lazada/Shopee ไว้ เผื่อเค้ามีแจ้งเตือนโปรฯ ค่ะ

สรุปคือ ถ้าไม่ได้รีบใช้มากๆ การ รอซื้อช่วงโปรโมชั่นใหญ่ๆ อย่าง 11.11 หรือ 12.12 เนี่ย มีโอกาสได้รองเท้าในราคาที่ถูกลงเยอะเลยค่ะ หรือถ้าอยากได้เร็วหน่อยก็คอยเช็คโปรโมชั่นย่อยๆ ในช่วงอื่นดูค่ะ

6. คนไทยใช้แล้วรู้สึกยังไงกันบ้างนะ?

จากที่ลองส่องๆ ดูรีวิวและความคิดเห็นของนักวิ่งชาวไทยที่ใช้ รองเท้าวิ่ง Puma รุ่นเริ่มต้น เนี่ย ฟีดแบ็กส่วนใหญ่ค่อนข้างดีเลยค่ะ จุดที่คนไทยชอบมากๆ เลยก็คือ:

• ความคุ้มค่า: หลายคนบอกว่าเมื่อเทียบราคากับคุณภาพและการใช้งานที่ได้ ถือว่าคุ้มค่ามากๆ เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับงบที่ไม่สูงมาก
• ความสบาย: รุ่นสำหรับมือใหม่มักจะเน้นความนุ่ม ใส่สบายเท้า ไม่บีบ ไม่กัด เหมาะกับการใส่วิ่งจ๊อกกิ้งหรือเดินนานๆ
• ดีไซน์สวย: Puma เค้ามีดีไซน์ที่สวยงาม ทันสมัย หรือบางทีก็มีความสปอร์ตเท่ๆ ใส่แล้วดูดี ไม่ได้ดูเป็นรองเท้าวิ่งจ๋าๆ อย่างเดียว สามารถใส่ในชีวิตประจำวันได้ด้วย
• ทนทานในระดับหนึ่ง: สำหรับการใช้งานทั่วไป วิ่งไม่หนักมาก ความทนทานของรองเท้า Puma ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดีค่ะ สามารถใช้งานได้นานพอสมควร (แต่ก็ขึ้นอยู่กับการดูแลรักษาและการใช้งานของแต่ละคนด้วยนะ!)
• น้ำหนักเบา: หลายรุ่นสำหรับมือใหม่ทำออกมาน้ำหนักไม่มากเกินไป ทำให้วิ่งแล้วไม่รู้สึกหนักเท้า

โดยรวมแล้ว คนไทยที่ใช้ Puma รุ่นเริ่มต้นส่วนใหญ่จะแฮปปี้กับ ราคา ความสบาย และดีไซน์ ค่ะ ถือเป็นรองเท้าคู่แรกที่น่าประทับใจสำหรับหลายๆ คนเลย

7. แล้วจะไปหาซื้อได้ที่ไหนล่ะทีนี้?

มาถึงแหล่งช้อปปิ้ง! จะไปสอย รองเท้าวิ่ง Puma คู่ใหม่ได้ที่ไหนบ้างในเมืองไทย? มีหลายช่องทางให้เลือกเลยจ้า:

• ร้านค้าทางการ (Official Store) หรือเว็บไซต์ Puma: อันนี้แน่นอนว่าได้ของแท้แน่นอน มีรุ่นให้เลือกหลากหลายที่สุด บางทีมีรุ่นพิเศษที่ไม่มีขายตามร้านทั่วไป ข้อดีคือมั่นใจได้ในคุณภาพและบริการหลังการขายค่ะ แต่ราคาก็จะเป็นราคาเต็ม หรือมีโปรโมชั่นตามที่แบรนด์กำหนดโดยตรง
• แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซใหญ่: อย่าง Shopee และ Lazada อันนี้เป็นแหล่งยอดฮิตของคนไทยเลยค่ะ มีร้านค้าทางการของ Puma เอง (Official Store) และร้านค้าตัวแทนจำหน่ายอื่นๆ อีกมากมาย ข้อดีคือ สะดวกสบาย เปรียบเทียบราคาง่าย มีโปรโมชั่น ส่วนลด และโค้ดส่งฟรีให้ใช้บ่อยๆ มีรีวิวจากผู้ซื้อคนอื่นๆ ให้อ่านประกอบการตัดสินใจด้วยค่ะ แต่ก็ต้องเลือกร้านที่น่าเชื่อถือ อ่านรีวิวร้านดีๆ ก่อนสั่งซื้อนะจ๊ะ
• ห้างสรรพสินค้าและร้านค้าปลีกอุปกรณ์กีฬา: เช่น แผนก SuperSports ในห้าง Central, The Mall หรือร้าน Multibrand ที่ขายอุปกรณ์กีฬา ข้อดีคือเราสามารถ ไปลองสวมใส่จริงได้ เช็คไซส์ ความสบาย การรับแรงกระแทกได้ด้วยตัวเอง มีพนักงานให้คำแนะนำ แต่ราคาอาจจะสูงกว่าซื้อออนไลน์เล็กน้อย หรือมีโปรโมชั่นตามของห้างในช่วงนั้นๆ ค่ะ

แนะนำว่าถ้าไม่แน่ใจเรื่องไซส์ หรืออยากลองสัมผัสรองเท้าจริงก่อน การไปลองที่ร้านในห้างเป็นตัวเลือกที่ดีค่ะ แต่ถ้าเรารู้ไซส์ตัวเองอยู่แล้ว และอยากได้ราคาดีๆ การช้อปออนไลน์ช่วงโปรโมชั่นก็เป็นอะไรที่ฟินมากๆ ค่ะ

8. สรุปหรือคำแนะนำเรื่องราคา น่าซื้อไหม? เหมาะกับใคร?

มาถึงช่วงสรุปกันแล้ว! ถามว่า รองเท้าวิ่ง Puma รุ่นเริ่มต้นสำหรับนักวิ่งมือใหม่ ยังน่าซื้ออยู่ไหม? ตอบเลยว่า น่าซื้อมากๆ ค่ะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าคุณเป็นคนที่:

• เพิ่งเริ่มต้นวิ่ง หรือวิ่งเพื่อสุขภาพเบาๆ
• มีงบประมาณที่จำกัด แต่อยากได้รองเท้าวิ่งที่มีคุณภาพดีในระดับหนึ่ง
• มองหารองเท้าที่ใส่สบาย รองรับแรงกระแทกได้ดี
• ชอบดีไซน์ของ Puma ที่สามารถใส่ในชีวิตประจำวันได้ด้วย

Puma รุ่นเริ่มต้นเป็นตัวเลือกที่ คุ้มค่าสุดๆ ในช่วงราคาของมันค่ะ ให้ประสิทธิภาพที่เพียงพอต่อนักวิ่งมือใหม่ ให้ความสบาย และดีไซน์ที่สวยงาม

ส่วนจะเลือกรุ่นไหนดี ก็ลองดูจากความชอบส่วนตัว และเช็คคุณสมบัติของแต่ละรุ่นเล็กน้อยค่ะ โดยทั่วไป รุ่นเริ่มต้นก็จะเน้นความสบาย การรองรับแรงกระแทก ส่วนรุ่นที่ราคาสูงขึ้นมาหน่อยอาจจะมีเทคโนโลยีโฟมที่ตอบสนองได้ดีกว่า น้ำหนักเบากว่า หรือมีความมั่นคงที่มากขึ้น

ถ้าคุณแค่อยากได้รองเท้าคู่แรกไว้ใส่วิ่งเบาๆ หรือเดินออกกำลังกาย Puma รุ่นเริ่มต้นคือคำตอบที่ใช่ และคุ้มค่ามากๆ ค่ะ แต่ถ้าคุณเริ่มวิ่งจริงจังขึ้น อยากทำความเร็ว หรือวิ่งระยะไกลขึ้นเรื่อยๆ อาจจะต้องมองหารุ่นที่สูงขึ้นไปอีกระดับที่รองรับการใช้งานที่หนักขึ้นค่ะ แต่สำหรับมือใหม่ Puma จัดว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีมากๆ เลยจ้า!

หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับทุกคนที่กำลังมองหารองเท้าวิ่งคู่นะคะ ขอให้ได้รองเท้าคู่ที่ถูกใจ วิ่งสนุก และสุขภาพแข็งแรงกันทุกคนค่า! บ๊ายบายยย!

วิดีโอที่เกี่ยวข้อง

• นักวิ่งมือใหม่ ใส่รองเท้าอะไรดี?
• สรุปรองเท้าวิ่ง Puma NITRO ทุกรุ่น!
• รีวิว รองเท้าวิ่ง Puma Fast-R Nitro Elite 3 กับความเบาเพียง 170 ...
• รีวิวรองเท้าวิ่ง เปรียบเทียบ 6 คู่ รองเท้าใหญ่ไร้แผ่น ใส่ซ้อมทุกวันเน้น ...
• รองเท้าวิ่ง PUMA รุ่นไหน เหมาะกับใคร