logo

รีวิวรองเท้าวิ่ง Hoka One One Arahi 3 รองเท้า Stability น้ำหนักเบา

user avatar
ภูมิ พงศ์ธนาธิป·07/04/2025 17:02
点赞
รีวิวรองเท้าวิ่ง Hoka One One Arahi 3 รองเท้า Stability น้ำหนักเบา

สวัสดีค่าาา~ ชาววิ่งที่น่ารักทุกคน! วันนี้จะมาเมาท์มอยหอยสังข์กับรองเท้าวิ่งคู่หนึ่งที่ได้ยินชื่อมานานมากกก... นั่นก็คือออ Hoka One One Arahi 3 นั่นเอง! ได้ยินว่าเป็นรองเท้าสาย Stability ที่ว่ากันว่า "น้ำหนักเบา" เอ๊ะ! จริงเหรอ? Hoka ที่ขึ้นชื่อเรื่องพื้นหนาตึ้บเนี่ยนะจะเบาได้ไง? วันนี้จะมารีวิวให้ดูกันแบบหมดเปลือก ไม่มีกั๊ก ฟิลลิ่งเหมือนเม้าท์กับเพื่อนซี้ข้างลู่วิ่งเลยจ้า!


1. ภาพรวมผลิตภัณฑ์: รู้จักเจ้า Arahi 3 กันก่อน

ถ้าพูดถึง Hoka ภาพจำคือพื้นหนาๆ เหมือนรองเท้าอวกาศใช่ไหมล่ะ? แต่รุ่น Arahi เนี่ยเขามาแหวกแนวหน่อย เป็นสาย Stability ตัวแรกๆ ของแบรนด์ที่พยายามทำให้มันไม่เทอะทะเหมือนรองเท้าแก้เท้าล้มแบบเก่าๆ

แบรนด์: Hoka One One
รุ่น: Arahi 3
เปิดตัว: ประมาณปี 2019 นี่เอง (อาจจะนานหน่อย แต่เก๋านะ!)

ตำแหน่งในตลาด: เป็นรองเท้าสาย Stability ระดับกลางๆ ที่เน้นความบาลานซ์ระหว่างการซัพพอร์ตกับน้ำหนัก เหมาะกับคนที่มีปัญหาเท้าล้ม (Overpronation) ไม่มากถึงปานกลาง หรืออยากได้รองเท้าซัพพอร์ตที่ยังวิ่งทำความเร็วได้อยู่

จุดเด่นที่เขาเคลมมา:

  • Stability ไม่เหมือนใครด้วย J-Frame™: ไม่ใช่แค่ใส่ตัวซัพพอร์ตแข็งๆ แต่ใช้โฟมที่แน่นกว่ารูปตัว 'J' ช่วยประคองเท้าให้วิ่งตรง ไม่ล้มง่าย
  • น้ำหนักเบาแบบคาดไม่ถึง: เป็นรองเท้าสายซัพพอร์ตที่เบาเอาเรื่อง!
  • พื้นหนานุ่มสไตล์ Hoka แต่ยัง Responsive: ได้ความสบายจากพื้นหนา แต่ไม่ย้วย วิ่งเด้งๆ ได้
  • เทคโนโลยี Meta-Rocker: ช่วยให้การลงเท้าและส่งตัวไหลลื่นเป็นธรรมชาติ
  • Upper ระบายอากาศดี: ใส่แล้วไม่ร้อนเท้าอบอ้าว เหมาะกับอากาศเมืองไทยสุดๆ

2. ดีไซน์ & รูปลักษณ์ภายนอก: หนาแต่น่ารัก!

ยอมรับเลยว่า Hoka เขามีดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์จริงๆ คือพื้นหนาเป็นตับ! แต่ Arahi 3 ก็ไม่ได้ดูเทอะทะเหมือนรุ่นพี่ใหญ่อย่าง Bondi หรือ Gaviota นะ ตัว Upper เขาออกแบบมาค่อนข้างเพรียว ทำให้โดยรวมดูลงตัวขึ้น

การออกแบบ: พื้นหนาเตะตาแน่นอน แต่ Upper เป็นผ้า Engineered Mesh ที่ดูทันสมัย สีสันมีให้เลือกหลายแบบ (เท่าที่เห็นนะ) บางสีก็จี๊ดจ๊าด บางสีก็มินิมอล

วัสดุที่ใช้: Upper เป็นผ้า Mesh ที่เขาปรับปรุงให้ระบายอากาศดีขึ้น พื้น Midsole เป็นโฟม Dual-Density (RMAT + EVA) ที่เป็นสูตรเฉพาะของ Hoka

ขนาดและน้ำหนัก: อันนี้คือเซอร์ไพรส์จริง! หนักประมาณ 272 กรัมสำหรับผู้ชาย (ไซส์ 9 US) และ 227 กรัมสำหรับผู้หญิง (ไซส์ 7 US) ถือว่าเบามากเมื่อเทียบกับรองเท้า Stability แบรนด์อื่นในตลาด!

สีที่มีให้เลือก: มีหลายสีอยู่นะ ทั้งสีเรียบๆ อย่างดำ เทา น้ำเงิน หรือสีสันสดใส ลองไปส่องดูได้ตามร้านค้าออนไลน์หรือร้านอุปกรณ์วิ่งชั้นนำ

อุปกรณ์เสริมในกล่อง: ปกติก็จะมีแค่ตัวรองเท้ากับคู่มือเล็กๆ น้อยๆ ไม่ได้มีอะไรพิเศษหวือหวา


3. ประสบการณ์ในการใช้งานฟังก์ชันหลัก: ซัพพอร์ตเนียนๆ วิ่งสบาย

เอาล่ะ! ถึงเวลาลองของจริง! จุดเด่นของ Arahi 3 คือ Stability ที่ไม่ยัดเยียดจนเกินไป คือเวลาวิ่งจะรู้สึกว่ามีอะไรบางอย่างช่วยประคองเท้าด้านใน แต่ไม่ได้เป็นก้อนแข็งๆ ดันอุ้งเท้าเหมือนรองเท้าแก้เท้าล้มสมัยก่อน เทคโนโลยี J-Frame™ เนี่ยทำงานดีจริง!

ลองเอาไปวิ่งทั้ง Long Run ช้าๆ สบายๆ กับ Easy Run ระยะสั้นๆ รู้สึกว่ารองรับแรงกระแทกได้ดี พื้นให้ความรู้สึกแน่นๆ เด้งนิดๆ ไม่ได้ยวบยาบเหมือนวิ่งบนมาชเมลโล่แบบรุ่นพี่อย่าง Bondi

ตัว Meta-Rocker ก็ช่วยให้ก้าวขาได้ต่อเนื่องดี ไม่รู้สึกติดขัด

เหมาะมากสำหรับวันซ้อมวิ่งยาวๆ หรือวันที่อยากวิ่งแบบถนอมเข่า ถนอมข้อเท้า โดยเฉพาะช่วงที่เราซ้อมหนักๆ หรือหลังจากงานวิ่งมาราธอนที่ร่างกายยังล้าอยู่ การได้รองเท้าที่มีซัพพอร์ตดีๆ ช่วยได้เยอะจริงๆ


4. ประสบการณ์การใช้งาน & ความง่ายในการใช้: ใส่ง่าย แต่ไซส์ต้องลองดีๆ!

ตอนลองครั้งแรก เอ้อ... ใส่ง่ายดีแฮะ ไม่ต้องออกแรงยัดมาก แต่บางคนที่มีหน้าเท้ากว้างอาจจะต้องลองไซส์ดีๆ หรือมองหารุ่น Wide เพราะมีรีวิวบางส่วนบอกว่ามันค่อนข้างแคบช่วงหน้าเท้า ส่วน Upper ที่เป็นผ้า Mesh คือดีมาก ระบายอากาศได้โอเคเลย วิ่งกลางแดดเมืองไทยก็ไม่รู้สึกร้อนอบอ้าวจนเกินไป

ฟิลลิ่งตอนวิ่งคือรู้สึกมั่นคง ไม่โคลงเคลง ตัว J-Frame™ มันช่วยไกด์เท้าเราไปตามธรรมชาติจริงๆ ไม่ได้รู้สึกว่าโดนบังคับ

ความนุ่มของพื้นอาจจะไม่เท่า Hoka รุ่นอื่นๆ ที่เน้น Max Cushioning จ๋าๆ แต่มันก็แลกมาด้วยความ Responsive ที่ทำให้วิ่งได้สนุกขึ้น ไม่ได้รู้สึกจมไปกับพื้น


5. แบตเตอรี่ / พลังงาน / ความคุ้มค่าในระยะยาว: คู่เดียวจบ ครบเครื่อง!

รองเท้าวิ่งก็เหมือนรถยนต์คู่ใจ ใช้ไปเรื่อยๆ ก็มีสึกหรอเป็นธรรมดา ตัวพื้น Outsole ของ Arahi 3 บางรีวิวก็บอกว่าอาจจะสึกค่อนข้างเร็วถ้าวิ่งบนพื้นปูนเป็นหลัก แต่ส่วน Midsole ที่เป็นโฟมก็ยังคงคุณสมบัติการรองรับแรงกระแทกได้ดีอยู่ (ขึ้นอยู่กับการใช้งานของแต่ละคนด้วยนะ)

ถ้าเทียบกับราคาเปิดตัว (~130 USD) ซึ่งตอนเข้าไทยราคาก็อาจจะแรงกว่านั้นนิดหน่อย ถือว่าเป็นรองเท้า Stability ที่ให้ Performance ที่คุ้มค่ามากๆ ยิ่งถ้าเจอช่วงโปรโมชั่นตามแอปส้ม แอปน้ำเงิน หรือร้านค้าต่างๆ ก็ยิ่งน่าสอยสุดๆ

ความคุ้มค่า: ถ้าคุณเป็นคนที่มีปัญหาเท้าล้มและหารองเท้าคู่เดียวจบ ที่ซัพพอร์ตดี แต่วิ่งได้หลากหลาย Pace ไม่ได้เน้นความนุ่มขั้นสุด แต่เน้นความมั่นคง และน้ำหนักเบา... Arahi 3 คือตอบโจทย์มาก ซื้อแล้วคุ้ม ได้ใช้บ่อยแน่นอน


6. ข้อดี-ข้อเสีย: ชั่งใจก่อนสอย!

ข้อดีเด็ดๆ ที่ชาวไทยน่าจะชอบ:

  • เบาจริง เบาจัง: เป็นรองเท้า Stability ที่น้ำหนักไม่ถ่วงขา วิ่งแล้วรู้สึกคล่องตัว
  • ซัพพอร์ตดีแบบเนียนๆ: ตัว J-Frame™ ไม่ทำให้รู้สึกเกะกะ วิ่งสบายเท้า
  • วิ่งได้หลากหลาย: จะวิ่งยาว วิ่งช้า หรือจะลองทำ Tempo ก็พอไหว
  • ระบายอากาศดี: Upper ผ้า Mesh ไม่อมความร้อน วิ่งอากาศร้อนๆ ได้
  • ดีไซน์ Hoka เอกลักษณ์: ใส่เดินเล่นในวันสบายๆ ก็ยังได้ (ถ้ามั่นใจนะ!)

ข้อเสียที่อาจทำให้ลังเลใจ:

  • อาจจะรู้สึกแน่น/แคบ: สำหรับคนหน้าเท้ากว้างมากๆ อาจจะไม่เหมาะ
  • พื้นไม่ได้นุ่มยวบยาบ: ถ้าคาดหวังความนุ่มแบบสุดๆ อาจจะต้องมองรุ่นอื่น
  • เรื่องความทนทาน: บางรีวิวบอกว่าพื้น Outsole อาจจะสึกไว และมีรายงานเรื่องกาวที่ Upper
  • เป็นรุ่นที่ออกมานานแล้ว: อาจจะหาซื้อรุ่นใหม่ (Arahi 6, 7) ได้ง่ายกว่า และมีเทคโนโลยีใหม่กว่า

7. เหมาะกับใคร & คำแนะนำในการซื้อ: ใครควรจัด?

เหมาะกับ:

  • นักวิ่งที่มีปัญหาเท้าล้มเล็กน้อยถึงปานกลาง: และอยากได้รองเท้าคู่แรกที่เป็นสาย Stability
  • นักวิ่งที่อยากได้รองเท้าคู่เดียวจบ: ที่ใช้ซ้อมได้หลากหลาย ตั้งแต่วิ่งยาวไปจนถึง Tempo (นิดหน่อย)
  • คนที่ชอบฟิลลิ่งพื้นแน่นๆ Responsive: แต่ยังคงความสบายจากพื้นหนา
  • คนที่มองหารองเท้า Stability ที่น้ำหนักเบา: ไม่อยากได้รองเท้าที่ดูเทอะทะ

คำแนะนำในการซื้อ:

ถ้าอ่านมาถึงตรงนี้แล้วรู้สึกว่า "ใช่เลย!" Arahi 3 นี่แหละคือเนื้อคู่ของเรา แนะนำให้ลองหาดูตามร้านค้าออนไลน์ใหญ่ๆ ในไทย เพราะตอนนี้เป็นรุ่นที่ออกมานานแล้ว อาจจะมีโปรโมชั่น ลดราคาพิเศษอยู่บ่อยๆ (นี่แหละข้อดีของรุ่นที่ตกรุ่นแล้ว!) ลองเช็คราคาใน Lazada, Shopee หรือร้านอุปกรณ์วิ่งออนไลน์เจ้าอื่นๆ เปรียบเทียบกันหลายๆ ที่ บางทีมีโค้ดส่วนลดหรือโปรโมชั่นผ่อน 0% ด้วยนะ

แต่ถ้าไม่รีบ หรืออยากได้เทคโนโลยีล่าสุด ก็อาจจะลองดู Hoka Arahi รุ่นใหม่ๆ (เช่น Arahi 6, 7) ซึ่งเขาก็มีการพัฒนาให้ดียิ่งขึ้นไปอีก


8. เปรียบเทียบกับสินค้าคล้ายๆ กัน: มวยรองเท้า!

ถ้าจะเทียบกับมวยในค่ายเดียวกันอย่าง Hoka Gaviota อันนั้นจะเป็นสาย Max Cushioning + Stability ที่แน่นและซัพพอร์ตเยอะกว่า Arahi ชัดเจน Gaviota จะเหมาะกับคนที่ต้องการซัพพอร์ตสูงๆ หรือน้ำหนักเยอะหน่อย ในขณะที่ Arahi จะเบา คล่องตัว และ Responsive กว่า

ถ้าเทียบกับแบรนด์อื่นในกลุ่ม Stability ระดับเดียวกัน ก็จะมีอย่าง Brooks Adrenaline GTS, ASICS GEL-Kayano, Saucony Guide ซึ่งรองเท้าเหล่านี้ส่วนใหญ่จะใช้เทคโนโลยีซัพพอร์ตแบบดั้งเดิม (Medial Post) ซึ่งฟิลลิ่งจะต่างจาก J-Frame™ ของ Hoka Arahi ลองไปลองสวม ลองวิ่งดูที่ร้านเปรียบเทียบกันได้เลย ว่าชอบฟิลลิ่งแบบไหนมากกว่า


9. บริการหลังการขายและช่องทางการซื้อ: ซื้อที่ไหนดี?

การซื้อรองเท้าวิ่งผ่านช่องทางออนไลน์ในไทยตอนนี้สะดวกสบายมาก ทั้ง Lazada, Shopee, JD Central หรือร้านค้า Official ของแบรนด์ต่างๆ ส่วนใหญ่มีการรับประกันสินค้า ถ้ามีปัญหาจากการผลิตก็สามารถเคลมได้ (ตามเงื่อนไขของแต่ละร้าน/แบรนด์)

บางร้านมีบริการให้เปลี่ยนไซส์ได้ถ้าใส่ไม่พอดี (เช็คเงื่อนไขก่อนสั่งซื้อนะ!) ช่องทางการชำระเงินก็มีหลากหลาย ทั้งโอนเงิน ตัดบัตร หรือผ่อนชำระ 0% ก็มี

ช่วงเทศกาลใหญ่ๆ อย่าง 11.11, 12.12 หรือช่วงสงกรานต์ มักจะมีโปรโมชั่นลดราคาที่น่าสนใจมากๆ ค่าจัดส่งส่วนใหญ่มักจะมีโปรฯ ส่งฟรี หรือคิดค่าส่งตามระยะทาง ซึ่งก็ไม่แพงมาก และจัดส่งไวสุดๆ ในกรุงเทพฯ บางทีวันเดียวก็ได้ของแล้ว!


10. บทสรุปและคำแนะนำในการซื้อ: ฟันธง!

สรุปง่ายๆ เลยว่า Hoka One One Arahi 3 เป็นรองเท้าวิ่งสาย Stability ที่น่าสนใจมากๆ สำหรับนักวิ่งที่มีปัญหาเท้าล้มไม่มาก และอยากได้รองเท้าที่ซัพพอร์ตดี แต่น้ำหนักเบา ไม่เทอะทะ สามารถนำไปซ้อมได้หลากหลายรูปแบบ ทั้งวิ่งยาว วิ่งช้า หรือแม้แต่จะลองทำ Tempo เล็กๆ น้อยๆ

ถ้าคุณเป็นนักวิ่งมือใหม่ที่มีปัญหาเท้าล้ม และหารองเท้าคู่แรกที่ช่วยประคองเท้าได้อย่างเป็นธรรมชาติ ไม่รู้สึกแข็งกระด้าง Arahi 3 เป็นตัวเลือกที่ดีมากๆ

คำแนะนำสุดท้าย: ถ้าเจอ Arahi 3 ในราคาโปรโมชั่นดีๆ และไซส์ที่ใช่ของคุณล่ะก็... จัดเลย! คุ้มค่าแน่นอน แต่ถ้าซีเรียสเรื่องความทนทานสูงสุด หรืออยากได้ความนุ่มขั้นสุดแบบ Hoka รุ่นอื่นๆ อาจจะต้องพิจารณาอีกที หรือลองดู Arahi รุ่นใหม่ๆ แทนค่ะ

หวังว่ารีวิวนี้จะเป็นประโยชน์กับชาววิ่งที่กำลังมองหารองเท้าคู่อยู่ไม่มากก็น้อยนะคะ! ใครเคยใช้ Arahi 3 หรือ Hoka รุ่นอื่นๆ เป็นยังไงบ้าง มาคอมเมนต์เล่าสู่กันฟังได้เลยน้าาา~

วิดีโอที่เกี่ยวข้อง

บทความที่เกี่ยวข้อง

นักวิ่งจ๋า... เคยไหม? วิ่งๆ ไปแล้วรู้สึกเหมือนเท้าจมดิน ไม่มีแรงจะไปต่อ หรือบางทีก็แข็งโป๊กจนเข่าสะเทือน! วันนี้เรามีรองเท้าวิ่งคู่ใจสายเด้งดึ๋งมารีวิวให้ฟัง กับ New Balance FuelCell ที่เขาว่ากันว่าใส่แล้วจะรู้สึกเหมือนเหยียบสปริง วิ่งฉิว ล
New Balance FuelCell รีวิว: รองเท้าวิ่งเทคโนโลยีใหม่ ดีดเด้ง วิ่งสบาย!
โอ้โหหห! วันนี้เราจะมารีวิวรองเท้าวิ่งที่เรียกได้ว่า "ซูเปอร์ชู" ตัวตึงแห่งยุค! พูดชื่อไปนักวิ่งสายทำความเร็วไม่มีใครไม่รู้จัก นั่นก็คือ Nike Vaporfly Next% นั่นเอง! ได้ยินมาหนาหูว่าใส่วิ่งแล้วเหมือนติดเทอร์โบ ทำลายสถิติส่วนตัวกันกระจาย แต่
รีวิว Nike Vaporfly Next%: รองเท้าวิ่งซูเปอร์ชู ทำลายสถิติได้จริงไหม? [ข้อดีข้อเสีย]
วิ่งก็ได้ ใส่เที่ยวก็ดี? มารีวิว Nike Renew Arena รองเท้าวิ่งสายหล่อ ที่หลายคนสงสัยว่าสรุปแล้วมันเอาไงแน่! จะวิ่งจริงจังได้มั้ย หรือเหมาะแค่ใส่เดินชิลล์ๆ คาเฟ่? วันนี้เราจะมาเจาะลึกทุกซอกทุกมุมให้ดูกันไปเลยค่ะซิส!1. ภาพรวมน้อง Nike Renew Ar
รีวิว Nike Renew Arena: รองเท้าวิ่งดีไซน์สวย เหมาะกับการวิ่งประเภทไหน?

บทความล่าสุดดูเพิ่มเติม

โอ๊ยยย... ปวดหลัง ปวดคอ ปวดไหล่! เป็นกันมั้ยจ๊ะชาวออฟฟิศ (หรือชาวฟรีแลนซ์ที่นั่งทำงานหน้าคอมนานๆ) อาการปวดเมื่อยมันเหมือนเพื่อนสนิทที่ตามติดไปทุกที่ บางทีก็คิดนะว่าร่างกายเรามันคงจะเบี้ยวๆ บูดๆ ไปแล้วแน่เลย ถึงได้ปวดได้เมื่อยขนาดนี้! แล้วไอ
จัดกระดูก คืออะไร? รีวิว ประสบการณ์ และข้อควรรู้
ลมหนาวเอื่อยๆ เริ่มพัดมา (หรืออาจจะแค่มโนไปเองในบางวัน 🤣) ท้องฟ้าเริ่มเป็นสีชมพูตอนเย็นๆ โอ๊ย...บรรยากาศมันชวนให้คิดถึงอะไรน้า... ใช่แล้ว! หมูจุ่มร้อนๆ น้ำซุปนัวๆ น้ำจิ้มรสเด็ด! ยิ่งถ้าได้มาอยู่เชียงใหม่ เมืองที่เต็มไปด้วยร้านอร่อย บรรยากา
รวมร้านหมูจุ่ม เชียงใหม่ อร่อยเด็ด บรรยากาศดี
โอ๊ยยย... เบื่อจริงจริ๊งงง! ปัญหาขนกวนใจเนี่ย ไม่ว่าจะขนรักแร้ ขนหน้าแข้ง ขนจิมิ สารพัดขนที่ทำให้เสียเซลฟ์ จะใส่บิกินี่ไปทะเลช่วงสงกรานต์ก็ไม่มั่นใจ จะยกแขนก็กลัวคนเห็นตอขน แถมบางทีโกน ถอน แว็กซ์ จนเป็นหนังไก่บ้าง ขนคุดบ้าง คันยุบยิบไปอีก!
รีวิว Beauty Plus Clinic กำจัดขน: เลเซอร์ขนที่นี่ดีไหม ราคาเป็นอย่างไร?