logo

รีวิว Adidas Adizero RC2: รองเท้าวิ่งทำความเร็ว เหมาะกับคนชอบทำ PB ไหม?

user avatar
วีรศักดิ์ วัฒนศิริ·07/04/2025 17:31
点赞
รีวิว Adidas Adizero RC2: รองเท้าวิ่งทำความเร็ว เหมาะกับคนชอบทำ PB ไหม?

นักวิ่งทั้งหลาย! ใครกำลังตามหารองเท้าคู่ใจที่จะช่วยให้การวิ่งของคุณแซ่บขึ้น แรงขึ้น แล้วที่สำคัญคือ "ทำ PB (Personal Best)" ได้แบบที่ตั้งใจไว้บ้าง? วันนี้เรามีรองเท้าวิ่งตัวจี๊ดจากค่ายสามแถบมารีวิวให้ฟังกันแบบจัดเต็ม นั่นก็คือ Adidas Adizero RC2 นั่นเอง! รุ่นนี้เขาว่ากันว่าเป็นรองเท้าสายทำความเร็วที่ราคาน่ารักน่าคบหา แต่จะเจ๋งจริงสมคำร่ำลือมั้ย? ใส่แล้วจะวิ่งปรู๊ดปร๊าดเหมือนติดเทอร์โบ หรือจะแป้กเหมือนวิ่งงานวัด? มาค่ะ! มาแกะกล่อง ลองใส่ ลองวิ่ง แล้วมาเม้าท์มอยให้ฟังกันแบบไม่มีกั๊ก!


1. ภาพรวมของสินค้า: รู้จักเจ้า Adizero RC2 กันสักนิด

แบรนด์: Adidas
รุ่น: Adizero RC2
ปีที่วางขาย: เปิดตัวช่วงต้นปี 2020
ช่วงราคาขาย: ประมาณ 3,400 - 3,500 บาท (ราคาเปิดตัวและในไทย)

การวางตำแหน่งสินค้า: เป็นรองเท้าสายทำความเร็ว (Racing Flat) จัดเป็นรุ่นเริ่มต้นถึงกลางในตระกูล Adizero ที่เน้นความเร็ว เหมาะกับนักวิ่งที่อยากลองรองเท้าสายซิ่ง หรือใช้ซ้อมทำความเร็ว

สรุปจุดเด่นหลักๆ (เท่าที่รู้ก่อนใส่):

  • น้ำหนักเบาหวิว: ใส่แล้วเหมือนเท้าเปล่าติดปีก
  • ใช้โฟม Lightstrike ทั้งแผ่น: ว่ากันว่าเด้งกำลังดี ตอบสนองไว
  • เป็นมิตรกับเงินในกระเป๋า: ราคาดีงามถ้าเทียบกับรองเท้าสายซิ่งตัวท็อป
  • หน้าตาหล่อเหลา: ดีไซน์คล้ายรุ่นพี่สายเรซซิ่งอย่าง Adios 5

2. ดีไซน์ & รูปลักษณ์ภายนอก: หน้าตาซิ่งเหมือนพร้อมออกตัว!

เห็นแวบแรกก็รู้เลยว่ามาสายซิ่ง! ทรงรองเท้าเพรียวๆ ตามสไตล์รองเท้าทำความเร็ว สีสันมีให้เลือกหลากหลายนะ ทั้งสีเบสิกอย่างขาวดำ หรือจะสีจี๊ดๆ อย่างส้มหรือชมพูก็มี อัปเปอร์ใช้ผ้าตาข่ายที่เรียกว่า Celermesh ตัวนี้โปร่ง บาง ระบายอากาศดีเยี่ยม มองทะลุได้เลยบางมุม สัมผัสดูแล้วแข็งแรงดีเหมือนกันนะ ไม่ได้ก๊องแก๊งอย่างที่คิดสำหรับรองเท้าช่วงราคานี้

วัสดุ: อัปเปอร์ Celermesh, พื้นโฟม Lightstrike, พื้นยาง Blown Rubber/Adiwear
ขนาดและน้ำหนัก: เบามากกกก! ไซส์ประมาณ 9 US หนักแค่สองร้อยกว่ากรัมเอง เบากว่า Adios 5 ด้วยนะ
สีที่มีให้เลือก: ดำ, ขาว, ส้ม, ชมพู, ฟ้า และอีกหลายสี
ความสะดวกในการเก็บรักษา: เป็นรองเท้าวิ่งทั่วไป เก็บในตู้รองเท้าปกติได้เลย แต่ถ้าใช้ลุยมา ควรผึ่งลมให้แห้งก่อนนะ จะได้ไม่เหม็นอับ!

ในกล่องก็มีรองเท้ามาให้ 1 คู่ พร้อมคู่มือตามมาตรฐาน ไม่มีอะไรหวือหวาเป็นพิเศษค่ะ


3. ประสบการณ์ในการใช้งานฟังก์ชันหลัก: วิ่งแล้วพุ่งจริงมั้ย?

มาถึงพระเอกของเราคือการวิ่งนี่แหละ! คู่นี้เขาเคลมว่าเป็นรองเท้าทำความเร็ว ก็ต้องลองเอาไปวิ่งเร็วดูสิ! ได้ลองเอาไปวิ่ง Interval (วิ่งสลับเร็ว-ช้า) กับวิ่ง Tempo Run (วิ่งเร็วต่อเนื่องระยะกลางๆ)

ความรู้สึกตอนวิ่ง: สิ่งแรกที่สัมผัสได้คือ ความเบา เหมือนไม่ได้ใส่อะไรเลย! เวลาลงเท้าพื้นโฟม Lightstrike มันให้ความรู้สึก แน่นๆ เฟิร์มๆ ไม่ได้นุ่มย้วยเหมือนโฟม Boost แต่สิ่งที่ได้คือ การตอบสนองที่ดีมาก ยิ่งวิ่งเร็ว ยิ่งรู้สึกว่าพื้นมันส่งแรงกลับมาดี ช่วยให้รอบขามาเร็วขึ้นได้จริง

ลองวิ่งบนพื้นลู่วิ่งกับพื้นถนน: บนพื้นยางลู่วิ่งนี่รู้สึกเข้าทางสุดๆ มันให้ความรู้สึกดีดๆ สนุกมาก แต่พอมาวิ่งบนพื้นปูนแข็งๆ ของถนนในหมู่บ้าน ก็แอบมี แรงสะเทือนขึ้นมาที่เข่าอยู่เหมือนกันนะ อาจจะต้องใช้กล้ามเนื้อขาช่วยซับแรงหน่อย

ข้อสังเกต: พื้น Lightstrike ตัวนี้บางคนอาจจะรู้สึกว่ามันแข็งไปในช่วงแรกๆ นะ แต่พอวิ่งไปได้สัก 50 กิโลเมตร มันจะเริ่มนุ่มขึ้น เฟิร์มกำลังดีเลย


4. ประสบการณ์การใช้งาน & ความง่ายในการใช้: ใส่แล้วต้องปรับตัวเยอะมั้ย?

สำหรับนักวิ่งที่คุ้นเคยกับรองเท้าวิ่งอยู่แล้ว Adizero RC2 คู่นี้ ใส่ง่าย ไม่ต้องปรับตัวเยอะ ตัวอัปเปอร์ Celermesh มันบางก็จริงแต่ให้ความกระชับดี ไม่ได้รู้สึกหลวมหรือ晃 (หวัง) ไปมา

ความสบาย: โดยรวมถือว่าใส่สบาย ระบายอากาศดี วิ่งนานๆ เท้าไม่ค่อยร้อน แต่ลิ้นรองเท้าแอบหนากว่ารุ่นพี่อย่าง Adios 5 อยู่นิดนึง บางคนอาจจะรู้สึกได้ถึงความต่างตรงนี้ตอนรัดเชือกแน่นๆ

ความกระชับ: หน้าเท้ากว้างกำลังดีสำหรับเท้าคนเอเชียนะ แต่ถ้าใครหน้าเท้ากว้างมากๆ อาจจะต้องลองดีๆ หรือเผื่อไซส์ครึ่งเบอร์


5. แบตเตอรี่ / พลังงาน / ความคุ้มค่าในระยะยาว: วิ่งได้กี่โลถึงจะคุ้ม?

รองเท้าวิ่งไม่มีแบตเตอรี่ให้ชาร์จจ้า! แต่ถ้าพูดถึงความคุ้มค่าในระยะยาว ต้องบอกว่า Adidas Adizero RC2 คุ้มค่าตัวมาก ด้วยราคาที่สามพันกลางๆ แต่ได้เทคโนโลยีโฟม Lightstrike และดีไซน์ที่ยกมาจากรุ่นพี่สายซิ่ง

ความทนทาน: พื้นยาง Blown Rubber ตรงหน้าเท้ากับ Adiwear ตรงส้นเท้า เท่าที่ใช้งานมาถือว่าทนทานใช้ได้เลยนะ ไม่สึกเร็วอย่างที่คิด แม้พื้นหน้าจะไม่ใช่ยาง Continental เหมือนรุ่นท็อปๆ ส่วนพื้นโฟมก็มีการยับ/เป็นรอยบ้างตามการใช้งาน แต่โดยรวมยังคงประสิทธิภาพได้ดี

ถ้าเทียบกับรองเท้าวิ่งสายทำความเร็วด้วยกันในราคาใกล้เคียง คู่นี้ถือเป็นตัวเลือกที่ให้ ประสิทธิภาพที่ดีในราคาที่จับต้องได้


6. ข้อดี-ข้อเสีย: ชั่งใจก่อนควักตังค์

ข้อดี:

  • ราคาดีงามเป็นมิตร: เหมาะกับคนงบไม่เยอะแต่อยากได้รองเท้าซิ่ง
  • น้ำหนักเบามาก: ช่วยให้รู้สึกพุ่งตัวได้ดี
  • โฟม Lightstrike ตอบสนองไว: เหมาะกับการวิ่งทำความเร็ว Interval หรือ Tempo
  • ระบายอากาศเยี่ยม: อัปเปอร์บาง โปร่ง วิ่งแล้วไม่ร้อนเท้า
  • ดีไซน์สวยงาม: หน้าตาคล้ายรุ่นพี่สาย Racing

ข้อเสีย:

  • พื้นค่อนข้างเฟิร์ม/แข็ง: อาจไม่เหมาะกับคนชอบความนุ่มยวบยาบ
  • อาจมีแรงสะเทือนบนพื้นแข็ง: ต้องระวังเรื่องอาการบาดเจ็บถ้าไม่ชิน
  • พื้นยางไม่ใช่ Continental: ความหนึบอาจจะไม่เท่ารุ่นท็อป
  • ลิ้นรองเท้าหนาไปนิด: บางคนอาจรู้สึกไม่สบายตอนรัดเชือกแน่น

7. เหมาะกับใคร & คำแนะนำในการซื้อ: ใครควรโดน?

Adidas Adizero RC2 เหมาะกับ:

  • นักวิ่งที่อยากลองขยับมาวิ่งเร็ว หรือซ้อมทำความเร็วโดยเฉพาะ
  • คนที่มองหารองเท้าคู่ที่สองไว้สำหรับใส่วิ่ง Interval, Tempo หรือวิ่งคอร์ด
  • นักวิ่งที่งบประมาณจำกัด แต่อยากได้รองเท้าสายซิ่งประสิทธิภาพดี
  • คนที่ชอบฟีลรองเท้าที่ไม่นุ่มย้วบ ต้องการความรู้สึกตอบสนองจากพื้น

เหมาะกับการใช้งานแบบไหน: เน้นวิ่งซ้อมทำความเร็ว (Tempo, Interval, ซ้อมวิ่งแข่ง) ใส่ลงแข่งระยะสั้นถึงกลางก็ได้นะ

ควรซื้อเลยไหม? ถ้าคุณเข้าข่ายกลุ่มที่บอกไปข้างบน แล้วเจอรุ่นนี้ราคาดีๆ จัดได้เลยค่ะ! โดยเฉพาะช่วงที่มีโปรโมชั่นตามร้านค้าออนไลน์ต่างๆ ราคาจะยิ่งน่ารักขึ้นไปอีก


8. เปรียบเทียบกับสินค้าคล้ายๆ กัน: พี่น้องตระกูล Adizero

ในตระกูล Adizero เอง ก็มีรุ่นอื่นๆ ที่น่าสนใจนะ

  • Adidas SL20: เป็นเหมือนฝาแฝดของ RC2 เลย ใช้โฟม Lightstrike เหมือนกัน แต่ SL20 พื้นจะหนากว่า RC2 นิดหน่อย และบางคนรู้สึกว่า SL20 จะนุ่มสบายกว่า RC2 ด้วยนะ
  • Adidas Adios 5: รุ่นพี่สายซิ่งตัวยอดนิยม ใช้โฟม Lightstrike + Boost พื้นจะนุ่มกว่า RC2 ใช้ยาง Continental ที่หนึบกว่า และราคาแพงกว่า RC2 พอสมควร RC2 เหมือนเป็นน้องที่ถอดแบบ Adios 5 มาแต่ปรับวัสดุให้ราคาเข้าถึงง่ายขึ้น

ถ้าถามว่าคุ้มค่าที่จะอัปเกรดไป Adios 5 ไหม? ถ้าคุณชอบความนุ่มของ Boost และอยากได้ยาง Continental ที่หนึบกว่า ก็อาจจะคุ้ม แต่ถ้าเน้นความเบา ราคาดี และชอบฟีลเฟิร์มๆ ของ Lightstrike เพียวๆ RC2 ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมากๆ แล้ว


9. บริการหลังการขายและช่องทางการซื้อ: ซื้อที่ไหนดี โปรโมชั่นมีไหม?

รองเท้าวิ่ง Adidas Adizero RC2 สามารถหาซื้อได้ตามช่องทางหลักๆ ในไทยเลยค่ะ

  • ร้านค้าออนไลน์ยอดฮิต: Lazada, Shopee
  • ร้านค้าทางการของ Adidas: ทั้งออนไลน์และออฟไลน์
  • ร้านตัวแทนจำหน่ายรองเท้าวิ่งโดยเฉพาะ: เช่น Ari Running

ส่วนใหญ่จะมีการรับประกันสินค้าตามมาตรฐานของแบรนด์ (ลองเช็กกับผู้ขายอีกที) การคืนหรือเปลี่ยนสินค้าก็ขึ้นอยู่กับนโยบายของแต่ละร้านค้าและแพลตฟอร์มออนไลน์

ช่วงเทศกาลหรือแคมเปญใหญ่ๆ (เช่น 11.11, 12.12 หรือช่วงปีใหม่ไทย) มักจะมีโปรโมชั่นลดราคา โค้ดส่วนลด หรือเงินคืน (Cashback) ให้เก็บได้เพียบ! บางร้านมีตัวเลือกผ่อนชำระ 0% ด้วยนะ ถ้าไม่รีบมาก รอลุ้นช่วงโปรฯ อาจจะได้ราคาที่คุ้มสุดๆ ไปเลยค่ะ


10. บทสรุปและคำแนะนำในการซื้อ: ฟันธง! ซื้อไม่ซื้อ?

หลังจากลองใช้และหาข้อมูลมาแล้ว ถ้าถามว่า Adidas Adizero RC2 เหมาะกับคนชอบทำ PB ไหม? ตอบเลยว่า "เหมาะ" ครับ! โดยเฉพาะถ้า PB ของคุณคือการวิ่งทำความเร็วในระยะสั้นถึงกลาง หรือเป็นการฝึกซ้อมเพื่อพัฒนาตัวเองไปสู่ความเร็วที่สูงขึ้น คู่นี้เกิดมาเพื่อสิ่งนี้จริงๆ!

คำแนะนำ:

  • สำหรับนักวิ่งเริ่มต้นที่อยากลองทำความเร็ว หรือเพิ่งเริ่มลงสนามแข่งรุ่นใหม่ๆ Adizero RC2 เป็นตัวเลือกที่ดีมากในการเริ่มต้น ราคาเข้าถึงง่าย ไม่ต้องลงทุนสูง
  • สำหรับนักวิ่งที่มีรองเท้าวิ่งซ้อมหลักอยู่แล้ว แต่อยากได้รองเท้าสำหรับใส่วิ่งซ้อมทำความเร็วโดยเฉพาะ RC2 เป็นรองเท้าคู่ที่สองที่น่ามีไว้ติดบ้าน
  • สำหรับคนที่ชอบรองเท้าฟีลนุ่มๆ เด้งๆ แบบ Boost มากๆ หรือมีปัญหาข้อเข่า/ข้อเท้าที่ต้องการแรงซับกระแทกสูงๆ RC2 อาจจะไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีที่สุด อาจจะต้องมองหารุ่นอื่นในตระกูล Adizero ที่มี Boost หรือรุ่นอื่นๆ ที่เน้นความนุ่มสบายมากกว่านี้

สรุปง่ายๆ คือ ถ้าคุณคือนักวิ่งที่มองหา รองเท้าเบาๆ วิ่งสนุก ตอบสนองดี ราคาจับต้องได้ ไว้ไปซ้อมซิ่ง ทำความเร็ว หรือลงแข่งแบบไม่เน้นระยะมาราธอนจ๋าๆ Adidas Adizero RC2 คือคำตอบครับ! แต่ถ้าชอบนุ่มๆ หรือมีปัญหาการรับแรงกระแทก ลองไปหารุ่นอื่นดูนะ!

วิดีโอที่เกี่ยวข้อง

บทความที่เกี่ยวข้อง

นักวิ่งจ๋า... เคยไหม? วิ่งๆ ไปแล้วรู้สึกเหมือนเท้าจมดิน ไม่มีแรงจะไปต่อ หรือบางทีก็แข็งโป๊กจนเข่าสะเทือน! วันนี้เรามีรองเท้าวิ่งคู่ใจสายเด้งดึ๋งมารีวิวให้ฟัง กับ New Balance FuelCell ที่เขาว่ากันว่าใส่แล้วจะรู้สึกเหมือนเหยียบสปริง วิ่งฉิว ล
New Balance FuelCell รีวิว: รองเท้าวิ่งเทคโนโลยีใหม่ ดีดเด้ง วิ่งสบาย!
โอ้โหหห! วันนี้เราจะมารีวิวรองเท้าวิ่งที่เรียกได้ว่า "ซูเปอร์ชู" ตัวตึงแห่งยุค! พูดชื่อไปนักวิ่งสายทำความเร็วไม่มีใครไม่รู้จัก นั่นก็คือ Nike Vaporfly Next% นั่นเอง! ได้ยินมาหนาหูว่าใส่วิ่งแล้วเหมือนติดเทอร์โบ ทำลายสถิติส่วนตัวกันกระจาย แต่
รีวิว Nike Vaporfly Next%: รองเท้าวิ่งซูเปอร์ชู ทำลายสถิติได้จริงไหม? [ข้อดีข้อเสีย]
วิ่งก็ได้ ใส่เที่ยวก็ดี? มารีวิว Nike Renew Arena รองเท้าวิ่งสายหล่อ ที่หลายคนสงสัยว่าสรุปแล้วมันเอาไงแน่! จะวิ่งจริงจังได้มั้ย หรือเหมาะแค่ใส่เดินชิลล์ๆ คาเฟ่? วันนี้เราจะมาเจาะลึกทุกซอกทุกมุมให้ดูกันไปเลยค่ะซิส!1. ภาพรวมน้อง Nike Renew Ar
รีวิว Nike Renew Arena: รองเท้าวิ่งดีไซน์สวย เหมาะกับการวิ่งประเภทไหน?

บทความล่าสุดดูเพิ่มเติม

โอ๊ยยย... ปวดหลัง ปวดคอ ปวดไหล่! เป็นกันมั้ยจ๊ะชาวออฟฟิศ (หรือชาวฟรีแลนซ์ที่นั่งทำงานหน้าคอมนานๆ) อาการปวดเมื่อยมันเหมือนเพื่อนสนิทที่ตามติดไปทุกที่ บางทีก็คิดนะว่าร่างกายเรามันคงจะเบี้ยวๆ บูดๆ ไปแล้วแน่เลย ถึงได้ปวดได้เมื่อยขนาดนี้! แล้วไอ
จัดกระดูก คืออะไร? รีวิว ประสบการณ์ และข้อควรรู้
ลมหนาวเอื่อยๆ เริ่มพัดมา (หรืออาจจะแค่มโนไปเองในบางวัน 🤣) ท้องฟ้าเริ่มเป็นสีชมพูตอนเย็นๆ โอ๊ย...บรรยากาศมันชวนให้คิดถึงอะไรน้า... ใช่แล้ว! หมูจุ่มร้อนๆ น้ำซุปนัวๆ น้ำจิ้มรสเด็ด! ยิ่งถ้าได้มาอยู่เชียงใหม่ เมืองที่เต็มไปด้วยร้านอร่อย บรรยากา
รวมร้านหมูจุ่ม เชียงใหม่ อร่อยเด็ด บรรยากาศดี
โอ๊ยยย... เบื่อจริงจริ๊งงง! ปัญหาขนกวนใจเนี่ย ไม่ว่าจะขนรักแร้ ขนหน้าแข้ง ขนจิมิ สารพัดขนที่ทำให้เสียเซลฟ์ จะใส่บิกินี่ไปทะเลช่วงสงกรานต์ก็ไม่มั่นใจ จะยกแขนก็กลัวคนเห็นตอขน แถมบางทีโกน ถอน แว็กซ์ จนเป็นหนังไก่บ้าง ขนคุดบ้าง คันยุบยิบไปอีก!
รีวิว Beauty Plus Clinic กำจัดขน: เลเซอร์ขนที่นี่ดีไหม ราคาเป็นอย่างไร?