10 รองพื้นเกาหลี ยี่ห้อไหนดี ปี 2025 ผิวสวยฉ่ำวาว ลุคสาวเกาหลี ติดทน


สวัสดีครับเพื่อนๆ ที่หลงใหลในงานผิวฉ่ำวาวสไตล์สาวเกาหลี! ✨ นาทีนี้ถ้าพูดถึงเมคอัพที่ขาดไม่ได้เลยในกระเป๋าของสาวๆ (และบางทีหนุ่มๆ ด้วย!) ก็ต้องมี "รองพื้น" นี่แหละครับ เป็นไอเทมชิ้นสำคัญที่จะช่วยเนรมิตผิวให้ดูสวยเป๊ะ ปกปิดจุดกวนใจ แถมยังช่วยเสริมให้เมคอัพส่วนอื่นๆ ดูเด่นขึ้นด้วย
แต่ก็นั่นแหละครับ ในตลาดตอนนี้มีรองพื้นออกมาเยอะมากกกก หลากหลายแบรนด์ หลากหลายสัญชาติ จนบางทีเลือกไม่ถูกเลยทีเดียว โดยเฉพาะรองพื้นเกาหลีที่เน้นงานผิวฉ่ำ งานผิวโกลว์ นี่เป็นที่นิยมสุดๆ แต่จะเลือกตัวไหนดีให้เข้ากับผิวเรา ติดทนในอากาศเมืองไทย แถมยังได้ลุคสวยปังเหมือนอัปโหลดฟิลเตอร์จากเกาหลีมาไว้บนหน้าจริงๆ? 🤔
ไม่ต้องสับสนอลหม่านไปครับ! เพราะวันนี้ผมจะมาเป็นผู้ช่วยส่วนตัว พาเพื่อนๆ ไปเจาะลึกและส่อง 10 รองพื้นเกาหลีสุดฮิตที่ยังคงมาแรงในปี 2025 นี้ รับรองว่าอ่านจบแล้วได้ไอเดียดีๆ ไปเลือกซื้อรองพื้นที่ใช่ คุ้มค่ากับเงินในกระเป๋าแน่นอนครับ!
ตลาดรองพื้นเกาหลีในไทย ฮอตปรอทแตกแค่ไหน?
บอกเลยว่ากระแส K-Beauty ในไทยไม่มีแผ่ว! เครื่องสำอาง สกินแคร์ รวมถึงรองพื้นจากเกาหลียังคงครองใจสาวไทยมาอย่างต่อเนื่องครับ เพราะมีจุดเด่นเรื่องการเน้นงานผิวที่ดูเป็นธรรมชาติ ฉ่ำวาว ดูสุขภาพดี ซึ่งตรงกับเทรนด์ความงามที่คนไทยหลายคนชื่นชอบ. ถึงแม้จะมีแบรนด์ไทยที่ทำรองพื้นคุณภาพดีออกมาเยอะ แต่แบรนด์เกาหลีก็ยังมีฐานแฟนคลับที่เหนียวแน่น ด้วยภาพลักษณ์ของผิวที่ดูฉ่ำโกลว์ glass skin แบบสาวๆ ไอดอลเกาหลีนั่นเอง.
พฤติกรรมผู้บริโภคชาวไทยส่วนใหญ่เวลามองหารองพื้นเกาหลี ก็จะเน้นไปที่ฟินิชลุคแบบ ฉ่ำวาว โกลว์ใส แต่ก็ต้อง ติดทน กันน้ำ กันเหงื่อ ด้วย เพราะอากาศเมืองไทยค่อนข้างร้อนชื้น. แบรนด์เกาหลีหลายแบรนด์ก็ปรับสูตรให้เข้ากับสภาพอากาศบ้านเรามากขึ้นแล้วครับ. แหล่งช้อปปิ้งยอดนิยมที่หาง่ายในไทยก็มีทั้งร้านมัลติแบรนด์อย่าง Watsons, Eveandboy, Beautrium, Konvy รวมถึงเคาน์เตอร์ในห้างสรรพสินค้า และแน่นอนว่าแพลตฟอร์มออนไลน์อย่าง Lazada และ Shopee นี่แหละแหล่งรวมโปรโมชั่นเด็ดๆ เพียบ!. นอกจากนี้ยังมีร้านที่เน้นสินค้า K-Beauty โดยเฉพาะอย่าง Multy หรือ Koriico ด้วยครับ.
เลือก 'รองพื้นเกาหลีฉ่ำวาว' ยังไงให้ปัง ไม่พังในอากาศไทย?
ก่อนจะพุ่งตัวไปช้อป เรามาดูกันก่อนว่ามีปัจจัยอะไรบ้างที่เราต้องพิจารณา เพื่อให้ได้รองพื้นเกาหลีที่เหมาะกับผิวและสภาพอากาศบ้านเราที่สุดครับ
ปัจจัย | สิ่งที่ควรพิจารณา (สำหรับรองพื้นเกาหลีฉ่ำวาวในไทย) |
---|---|
สภาพผิว | ผิวแห้ง: เหมาะกับรองพื้นเนื้อฉ่ำวาวโดยตรง ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวดูอิ่มน้ำ. |
ผิวมัน/ผิวผสม: เลือกรองพื้นเนื้อกึ่งแมตต์ (Semi-matte) หรือเนื้อซาตินที่ให้ความโกลว์แบบไม่มันเยิ้ม หรือสูตรที่ช่วยควบคุมความมันได้ดี. อาจจะต้องเซตด้วยแป้งฝุ่นคุมมันบริเวณทีโซน. | |
ผิวแพ้ง่าย: มองหาสูตรที่อ่อนโยน ปราศจากน้ำหอม แอลกอฮอล์ หรือสารที่ก่อให้เกิดการระคายเคือง ควรดูส่วนผสมและรีวิวจากผู้ใช้จริง. | |
อันเดอร์โทนและเฉดสี | รองพื้นเกาหลีมักมีโทนสีที่เหมาะกับผิวคนเอเชีย (โทนเหลือง). ควรเลือกเฉดที่พอดีกับสีผิวจริง หรือสว่างกว่าเล็กน้อยเพื่อลุคไบรท์. ลองทดสอบที่แนวกรามเพื่อให้ได้สีที่กลืนไปกับผิวคอ. |
ฟินิช (Finish) | ต้องการฉ่ำวาวแบบกระจก (Glass Skin) หรือแค่โกลว์สุขภาพดี?. เลือกให้เหมาะกับความชอบและสภาพผิว (ผิวมันอาจจะชอบแบบกึ่งแมตต์มากกว่า). |
การปกปิด | ต้องการปกปิดมากน้อยแค่ไหน? (บางเบา, ปานกลาง, สูง) รองพื้นเกาหลีส่วนใหญ่มักเน้นงานผิวจึงให้การปกปิดแบบปานกลางที่สามารถบิ้วด์เพิ่มได้. |
ส่วนผสมบำรุง | หลายแบรนด์ใส่ส่วนผสมที่ช่วยบำรุงผิว เช่น ไฮยาลูรอนิก, สารสกัดจากธรรมชาติ ช่วยให้ผิวชุ่มชื้นและรองพื้นไม่ตกร่อง. มองหาส่วนผสมที่ตอบโจทย์ปัญหาผิวของเราได้. |
ความติดทนและการคุมมัน | สำคัญมากสำหรับอากาศเมืองไทย. แม้จะเป็นสูตรฉ่ำวาว แต่หลายรุ่นก็มีคุณสมบัติช่วยควบคุมความมัน หรือกันน้ำกันเหงื่อได้ในระดับหนึ่ง. |
รีวิวจากผู้ใช้ในไทย | ควรอ่านรีวิวจากคนที่สภาพผิวคล้ายๆ เรา และอยู่ในสภาพอากาศเดียวกับเรา จะช่วยให้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้น. ดูว่ามีปัญหาเรื่องคราบ ความเยิ้ม หรือสีดรอประหว่างวันหรือไม่. |
ราคา | มีตั้งแต่หลักร้อยไปจนถึงหลักพัน เลือกตามงบประมาณและความคุ้มค่า. |
ช่องทางจำหน่าย | หาซื้อได้ง่ายในไทย ทั้งออนไลน์และออฟไลน์. เช็คโปรโมชั่นในช่วงเทศกาลต่างๆ. |
เปิดโผ! 10 รองพื้นเกาหลี ผิวสวยฉ่ำวาว ติดทน ปี 2025
ถึงเวลาที่ทุกคนรอคอย! ผมคัดมาให้แล้ว 10 รองพื้นเกาหลี (บางตัวอาจจะเป็นคุชชั่นหรือบีบีครีมที่ให้ฟินิชแบบรองพื้น) ที่ยังคงได้รับความนิยมและน่าจับตามองในปี 2025 นี้ เน้นงานผิวสวยฉ่ำวาวและติดทนในแบบฉบับสาวเกาหลีครับ
1. LANEIGE Neo Cushion Glow
- เกี่ยวกับแบรนด์: แบรนด์เกาหลีในเครือ Amorepacific โด่งดังเรื่องสกินแคร์เติมน้ำให้ผิว.
- สินค้ารุ่นเด่น: Neo Cushion Glow.
- วิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย: ข้อดี: ให้งานผิวโกลว์สวยเล่นแสง ดูผิวสุขภาพดีมากๆ. เนื้อบางเบา สบายผิว ให้ความชุ่มชื้นได้ดี เหมาะกับผิวแห้ง. ปกปิดปานกลางแต่ดูเป็นธรรมชาติ. ติดทนนานถึง 50 ชม. และไม่ติดแมสก์. มีส่วนผสมบำรุงผิวด้วย. ข้อเสีย: คนผิวมันมากๆ อาจจะต้องใช้แป้งฝุ่นเซตเพิ่ม. เฉดสียังมีให้เลือกไม่หลากหลายมากนัก.
- เหมาะกับใคร: คนผิวแห้ง-ผิวธรรมดาที่ต้องการผิวฉ่ำโกลว์ ดูสุขภาพดี และติดทน. คนที่มองหาคุชชั่นพกพาสะดวกพร้อมฟินิชงานผิวสวย.
- แนะนำช่องทางการซื้อ: ออนไลน์: Lazada, Shopee, Konvy, Central Online. ออฟไลน์: เคาน์เตอร์ Laneige, Watsons, Eveandboy.
- ช่วงราคา: ประมาณ 1,xxx - 1,5xx บาท.
- รีวิวผู้ใช้งาน: "ผิวสวยมาก ใช้แล้วหน้าฉ่ำโกลว์กำลังดีเลย ไม่ดูมันเยิ้ม ติดทนจริงๆ ค่ะ". "ชอบตรงที่ไม่ติดแมสก์นี่แหละ ปลื้มมาก!". "เหมาะกับผิวแห้งแบบเรามากๆ ทาแล้วผิวไม่เป็นคราบเลย".
2. Jung Saem Mool Skin Nuder Foundation / Masterclass Radiant Cushion
- เกี่ยวกับแบรนด์: แบรนด์เมคอัพเกาหลีของเมคอัพอาร์ติสท์ชื่อดัง เน้นงานผิวเป็นธรรมชาติ.
- สินค้ารุ่นเด่น: Skin Nuder Foundation, Masterclass Radiant Cushion.
- วิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย: ข้อดี: ให้งานผิวฉ่ำวาว ดูเป็นธรรมชาติเหมือนผิวจริง. เนื้อบางเบา เกลี่ยง่าย. ปกปิดปานกลางถึงสูง สามารถบิ้วด์เพิ่มได้โดยไม่ดูหนา. มีส่วนผสมบำรุงช่วยให้ผิวชุ่มชื้น. แพคเกจสวยงาม. ข้อเสีย: ราคาสูงกว่าบางแบรนด์.
- เหมาะกับใคร: คนที่ต้องการงานผิวสวยเป็นธรรมชาติ ปกปิดดี และให้ความฉ่ำวาว. คนที่ชอบเมคอัพที่พัฒนาโดยเมคอัพอาร์ติสท์.
- แนะนำช่องทางการซื้อ: ออนไลน์: Lazada, Shopee, Konvy, Central Online, Jung Saem Mool Official. ออฟไลน์: Eveandboy, Beautrium, เคาน์เตอร์ในห้างสรรพสินค้า.
- ช่วงราคา: Foundation ประมาณ 1,7xx - 2,xxx บาท. Cushion ประมาณ 1,4xx - 1,7xx บาท.
- รีวิวผู้ใช้งาน: "ใช้รองพื้น JSM แล้วผิวสวยเหมือนใส่ฟิลเตอร์เลยค่ะ ฉ่ำแต่ไม่มัน". "คุชชั่นปกปิดดีมาก รอยสิวหายไปเลย แต่หน้ายังดูเป็นผิวอยู่". "เกลี่ยง่ายสุดๆ มือใหม่ก็ใช้ได้สบายๆ".
3. Rom&nd Bare Water Cushion
- เกี่ยวกับแบรนด์: แบรนด์เกาหลีที่โด่งดังเรื่องลิปสติกและงานผิว เน้นดีไซน์มินิมอล.
- สินค้ารุ่นเด่น: Bare Water Cushion.
- วิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย: ข้อดี: เน้นงานผิวใสๆ ฉ่ำวาว ดูสุขภาพดี. เนื้อบางเบา สบายผิวมาก. มีส่วนผสมบำรุงหลายชนิดช่วยให้ผิวชุ่มชื้น. ปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ. ข้อเสีย: ปกปิดน้อยถึงปานกลางเท่านั้น ไม่เหมาะกับคนที่ต้องการปกปิดสูง. อาจจะต้องใช้คอนซีลเลอร์ช่วย.
- เหมาะกับใคร: คนที่ชอบงานผิวธรรมชาติ บางเบา เน้นความฉ่ำวาวแบบ Dewy Skin. คนที่ผิวค่อนข้างดีอยู่แล้ว ไม่ต้องการการปกปิดมากนัก.
- แนะนำช่องทางการซื้อ: ออนไลน์: Lazada, Shopee, Konvy. ออฟไลน์: Eveandboy, Beautrium.
- ช่วงราคา: ประมาณ 7xx - 9xx บาท.
- รีวิวผู้ใช้งาน: "คุชชั่น Rom&nd ตัวนี้เบาจริงเหมือนทาครีมเลย ให้ฟีลผิวใสๆ ฉ่ำๆ ชอบมาก". "ถ้าเน้นงานผิวสบายๆ ตัวนี้ดีเลย ไม่หนักหน้าเลยค่ะ". "ปกปิดไม่มาก แต่ช่วยให้ผิวดูโกลว์สวยดีค่ะ".
4. Banila Co Covericious Power Fit Foundation / Cushion
- เกี่ยวกับแบรนด์: แบรนด์เกาหลีที่โด่งดังจากคลีนซิ่งบาล์ม แต่เมคอัพก็ปังไม่แพ้กัน.
- สินค้ารุ่นเด่น: Covericious Power Fit Foundation / Cushion.
- วิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย: ข้อดี: ขึ้นชื่อเรื่องความติดทนและปกปิดดีเยี่ยม. ให้ฟินิชลุคที่สวยระหว่างแมตต์และโกลว์ (กึ่งแมตต์/ซาติน) ไม่มันเยิ้ม. ควบคุมความมันได้ดีในระดับหนึ่ง เหมาะกับอากาศร้อน. มีหลายเฉดสีให้เลือก. ข้อเสีย: อาจจะไม่ฉ่ำวาวเท่าบางแบรนด์ที่เน้น Dewy สุดๆ แต่ก็ให้ความโกลว์แบบสุขภาพดี.
- เหมาะกับใคร: คนผิวมัน-ผิวผสม หรือคนที่ต้องการรองพื้นที่ติดทน กันน้ำกันเหงื่อได้ดีในสภาพอากาศร้อน. คนที่ต้องการการปกปิดสูงแต่ยังดูเป็นธรรมชาติ.
- แนะนำช่องทางการซื้อ: ออนไลน์: Lazada, Shopee, Konvy. ออฟไลน์: Eveandboy, Beautrium.
- ช่วงราคา: ประมาณ 8xx - 1,3xx บาท.
- รีวิวผู้ใช้งาน: "ยกให้ Banila Co เป็นรองพื้นที่ติดทนที่สุดในกรุแล้วค่ะ อยู่ได้ทั้งวันจริงๆ". "ปกปิดดีมาก รอยสิวหายหมด หน้าไม่เยิ้มด้วย ชอบค่ะ". "ใช้ในไทยรอดนะ ไม่ไหล ไม่เป็นคราบ".
5. Espoir Pro Tailor Foundation Be Glow
- เกี่ยวกับแบรนด์: แบรนด์เมคอัพเกาหลีที่โด่งดังเรื่องรองพื้นและคุชชั่น มีความโปรเฟสชั่นแนล.
- สินค้ารุ่นเด่น: Pro Tailor Foundation Be Glow.
- วิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย: ข้อดี: ให้ฟินิชลุคผิวสวยโกลว์ สุขภาพดี ไม่มันเยิ้มเกินไป. เนื้อบางเบา เกลี่ยง่าย. ปรับสีผิวให้ดูสว่างกระจ่างใส. มีเฉดสีให้เลือกค่อนข้างหลากหลาย. ข้อเสีย: การปกปิดอยู่ในระดับปานกลาง.
- เหมาะกับใคร: คนที่ต้องการงานผิวโกลว์สุขภาพดีที่ดูเป็นธรรมชาติ. คนที่มองหารองพื้นที่เกลี่ยง่าย ใช้ได้ทุกวัน.
- แนะนำช่องทางการซื้อ: ออนไลน์: Lazada, Shopee, Konvy, Beautrium Online. ออฟไลน์: Beautrium, Eveandboy (บางสาขา).
- ช่วงราคา: ประมาณ 8xx - 1,2xx บาท.
- รีวิวผู้ใช้งาน: "รองพื้น Espoir Be Glow คือดีงาม ให้ผิวสวยโกลว์แบบกำลังดี ไม่เมือกเลย". "เนื้อบางเบามากๆ ทาแล้วสบายผิวทั้งวันค่ะ". "ใช้แล้วหน้าดูไบรท์ขึ้น ไม่ดรอประหว่างวัน".
6. HERA Black Cushion Foundation
- เกี่ยวกับแบรนด์: แบรนด์หรูในเครือ Amorepacific เป็นที่นิยมในกลุ่มไอดอลเกาหลี.
- สินค้ารุ่นเด่น: Black Cushion Foundation.
- วิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย: ข้อดี: ให้ฟินิชลุคแบบซอฟต์ซาตินกึ่งแมตต์ ที่ยังคงความโกลว์แบบดูแพง. ปกปิดดีเยี่ยม รอยสิว รูขุมขนดูเบลอขึ้น. ติดทนนาน กันเหงื่อได้ดี เหมาะกับอากาศร้อนชื้น. ข้อเสีย: ราคาค่อนข้างสูง. เฉดสียังมีให้เลือกไม่เยอะเท่าที่ควรสำหรับผิวคนไทยที่หลากหลาย.
- เหมาะกับใคร: คนที่ต้องการคุชชั่นที่ให้การปกปิดสูง ติดทน และได้งานผิวแบบกึ่งแมตต์ที่ยังมีความโกลว์แบบดูแพง. คนที่ผิวมัน-ผิวผสมและต้องการคุมมันได้ดีในระดับหนึ่ง.
- แนะนำช่องทางการซื้อ: ออนไลน์: Lazada, Shopee (ร้าน Official หรือร้านค้าที่น่าเชื่อถือ). ออฟไลน์: เคาน์เตอร์ HERA ในห้างสรรพสินค้า, Sephora.
- ช่วงราคา: ประมาณ 1,xxx - 2,xxx บาท.
- รีวิวผู้ใช้งาน: "Hera Black Cushion ปกปิดดีมากจริงๆ ค่ะ หน้าเรียบเนียนกริบเลย". "ถึงจะเป็นกึ่งแมตต์ แต่ก็ยังมีความโกลว์สวยอยู่ ไม่แมตต์ด้านเกินไป". "ใช้แล้วติดทนทั้งวันจริงๆ ค่ะ ไม่ต้องเติมเลย".
7. Innisfree My Foundation All Day Longwear
- เกี่ยวกับแบรนด์: แบรนด์เกาหลีที่เน้นส่วนผสมจากธรรมชาติจากเกาะเชจู.
- สินค้ารุ่นเด่น: My Foundation All Day Longwear SPF 25 PA++. (ชื่อรุ่นอาจมีการปรับเล็กน้อยใน 2025)
- วิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย: ข้อดี: เนื้อบางเบา เกลี่ยง่าย ไม่หนักผิว. ให้ฟินิชแบบกึ่งแมตต์ที่เหมาะกับทุกสภาพผิว โดยเฉพาะผิวมัน-ผิวผสมในไทย. ช่วยคุมมันและติดทนนาน. มีส่วนผสมจากน้ำชาเขียวช่วยบำรุง. ราคาเข้าถึงง่าย. ข้อเสีย: การปกปิดอาจจะไม่สูงสุดเท่าบางแบรนด์ แต่ก็บิ้วด์เพิ่มได้.
- เหมาะกับใคร: คนที่มองหารองพื้นที่เหมาะกับสภาพอากาศร้อนชื้นในไทย. คนผิวมัน-ผิวผสมที่ต้องการรองพื้นกึ่งแมตต์ที่ติดทนและคุมมันได้ในระดับหนึ่ง. คนที่ชอบแบรนด์ที่เน้นส่วนผสมจากธรรมชาติ.
- แนะนำช่องทางการซื้อ: ออนไลน์: Lazada, Shopee, Konvy, Innisfree Official. ออฟไลน์: Innisfree Shop, Watsons, Eveandboy.
- ช่วงราคา: ประมาณ 7xx - 9xx บาท.
- รีวิวผู้ใช้งาน: "Innisfree My Foundation ตัวนี้ใช้ดีเกินราคามากๆ ค่ะ คุมมันได้ดี หน้าไม่เยิ้ม". "เนื้อบางเบา สบายผิวมากๆ ค่ะ ใช้ได้ทุกวัน". "ชอบที่ให้ฟินิชแบบกึ่งแมตต์ ไม่แห้งเกินไป ยังมีความผิวสวยอยู่".
8. MISSHA M Perfect Cover BB Cream
- เกี่ยวกับแบรนด์: แบรนด์เกาหลีที่บุกเบิกวงการ BB Cream และได้รับความนิยมทั่วโลก.
- สินค้ารุ่นเด่น: M Perfect Cover BB Cream SPF 42 PA+++.
- วิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย: ข้อดี: เป็น BB Cream ตัวดังในตำนานที่ให้การปกปิดดีเยี่ยม. เนื้อเกลี่ยง่าย ช่วยปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ. มีส่วนผสมบำรุงและสารกันแดดสูง. ราคาเป็นมิตรมากๆ. ข้อเสีย: อาจจะไม่ได้ให้ฟินิชที่ฉ่ำวาวแบบ Dewy เท่ารองพื้นสูตรเฉพาะทาง. อาจจะรู้สึกหนาไปเล็กน้อยสำหรับบางคนถ้าทาเยอะ.
- เหมาะกับใคร: คนที่ต้องการผลิตภัณฑ์ที่รวมเบส รองพื้น และกันแดดไว้ในตัวเดียว. คนที่ต้องการการปกปิดสูงในราคาเข้าถึงง่าย. คนที่ชอบ BB Cream ที่ติดทนและบำรุงผิวไปในตัว.
- แนะนำช่องทางการซื้อ: ออนไลน์: Lazada, Shopee, Konvy. ออฟไลน์: Watsons, Eveandboy, Beautrium.
- ช่วงราคา: ประมาณ 3xx - 5xx บาท.
- รีวิวผู้ใช้งาน: "BB Cream Missha ตัวนี้ใช้มานานมาก! ปกปิดดีจริงๆ รอยสิวหายเกือบหมด". "ราคาดีมาก คุณภาพเกินราคาไปเยอะเลยค่ะ". "เป็นไอเทมที่ต้องมีติดบ้าน ใช้ในวันที่ต้องการปกปิดไวๆ".
9. Hince Second Skin Foundation
- เกี่ยวกับแบรนด์: แบรนด์เกาหลีที่มีภาพลักษณ์ทันสมัย เน้นเมคอัพสีสันสวยงาม.
- สินค้ารุ่นเด่น: Second Skin Foundation.
- วิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย: ข้อดี: ให้ฟินิชลุคแบบกึ่งแมตต์ที่ดูเป็นผิวธรรมชาติ ไม่หนา ไม่เป็นคราบ. เนื้อบางเบา สามารถเพิ่มระดับการปกปิดได้. ช่วยให้ผิวดูเรียบเนียน. ข้อเสีย: อาจจะไม่ได้ให้ความฉ่ำวาวเท่าแบรนด์ที่เน้น Dewy โดยเฉพาะ. การคุมมันอยู่ในระดับปานกลาง. เฉดสียังมีให้เลือกไม่มาก.
- เหมาะกับใคร: คนที่ต้องการรองพื้นงานผิวที่ดูเป็นธรรมชาติแบบกึ่งแมตต์. คนที่ผิวค่อนข้างดี ไม่ได้มีปัญหาที่ต้องการปกปิดมากมาย.
- แนะนำช่องทางการซื้อ: ออนไลน์: Lazada, Shopee (ร้านค้าที่น่าเชื่อถือ), Konvy. ออฟไลน์: Beautrium, Eveandboy (บางสาขา).
- ช่วงราคา: ประมาณ 9xx - 1,3xx บาท.
- รีวิวผู้ใช้งาน: "Hince Second Skin ให้ผิวสวยมากจริงๆ ค่ะ ดูเป็นผิวเราเองเลย ไม่เหมือนใส่หน้ากาก". "เนื้อบางเบามาก ใช้แล้วสบายผิวทั้งวัน". "ถึงจะไม่ใช่สายฉ่ำมาก แต่ฟินิชแบบกึ่งแมตต์ของเค้าก็สวยดีค่ะ".
10. Huxley Secret Of Sahara Moist Foundation
- เกี่ยวกับแบรนด์: แบรนด์เกาหลีที่เน้นส่วนผสมจากตะบองเพชร (Prickly Pear Seed Oil) ช่วยเรื่องความชุ่มชื้น.
- สินค้ารุ่นเด่น: Secret Of Sahara Moist Foundation. (ชื่อรุ่นอาจมีการปรับเล็กน้อย)
- วิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย: ข้อดี: ให้งานผิวหน้าฉ่ำวาว ดูสุขภาพดีมากๆ. ช่วยเติมความชุ่มชื้นให้กับผิวได้ดีเยี่ยม เหมาะกับผิวแห้ง. ปกปิดระดับปานกลางแต่ดูเป็นธรรมชาติ. ข้อเสีย: อาจจะไม่เหมาะกับคนผิวมันมากๆ เพราะเน้นความชุ่มชื้น. ราคาค่อนข้างสูง. เฉดสียังมีให้เลือกน้อย.
- เหมาะกับใคร: คนผิวแห้งถึงแห้งมากที่ต้องการรองพื้นที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นและให้งานผิวฉ่ำวาวเป็นพิเศษ. คนที่มองหารองพื้นที่มีส่วนผสมบำรุงผิวเข้มข้น.
- แนะนำช่องทางการซื้อ: ออนไลน์: Lazada, Shopee (ร้านค้าที่น่าเชื่อถือ), Konvy. ออฟไลน์: Beautrium, Eveandboy (บางสาขา).
- ช่วงราคา: ประมาณ 1,xxx - 1,8xx บาท.
- รีวิวผู้ใช้งาน: "Huxley ตัวนี้คือที่สุดของความฉ่ำวาวแล้ว! ผิวดูอิ่มน้ำ สุขภาพดีสุดๆ". "เหมาะกับคนผิวแห้งมากๆ ทาแล้วผิวไม่ลอก ไม่เป็นขุยเลย". "เป็นรองพื้นที่ใช้แล้วผิวดู Glow สวยทั้งวันจริงๆ".
คำถามที่พบบ่อย (FAQ) สไตล์คนไทย!
Q: รองพื้นเกาหลีผิวฉ่ำวาว จะรอดในอากาศร้อนชื้นแบบไทยไหม?
A: รอดแน่นอนครับ!. แต่ต้องเลือกสูตรที่เหมาะกับสภาพผิวและมีคุณสมบัติช่วยควบคุมความมันหรือกันเหงื่อด้วย. สำหรับคนผิวมัน-ผิวผสม แนะนำให้ใช้ไพรเมอร์คุมมันก่อนลงรองพื้น และเซตด้วยแป้งฝุ่นโปร่งแสงบางๆ บริเวณทีโซน จะช่วยให้รองพื้นติดทนและหน้าไม่เยิ้มครับ. การเตรียมผิวให้ชุ่มชื้นก่อนลงรองพื้นก็สำคัญมาก จะช่วยให้รองพื้นไม่เป็นคราบด้วย.
Q: เลือกเฉดสีรองพื้นเกาหลียังไงให้เข้ากับผิวคนไทย?
A: รองพื้นเกาหลีส่วนใหญ่มักทำออกมาสำหรับโทนผิวคนเอเชีย (โทนเหลือง). ลองเลือกเฉดที่ใกล้เคียงกับสีผิวจริงที่สุด หรือสว่างกว่าเล็กน้อยเพื่อความไบรท์. วิธีที่ชัวร์ที่สุดคือลองปาดที่แนวกราม แล้วดูว่าสีกลืนไปกับผิวคอหรือไม่ในแสงธรรมชาติครับ.
Q: เป็นคนผิวแพ้ง่าย ใช้นรองพื้นเกาหลีได้ไหม?
A: ใช้ได้ครับ แต่ต้องเลือกสูตรที่อ่อนโยนสำหรับผิวแพ้ง่ายโดยเฉพาะ. มองหาส่วนผสมที่ช่วยปลอบประโลมผิว และหลีกเลี่ยงส่วนผสมที่อาจก่อให้เกิดการระคายเคือง เช่น น้ำหอม แอลกอฮอล์ พาราเบน. ควรอ่านรีวิวจากผู้ใช้จริงที่เป็นผิวแพ้ง่ายเหมือนกัน และอาจจะทดสอบการแพ้ที่บริเวณเล็กๆ ก่อนใช้ทั่วหน้าครับ.
Q: ซื้อรองพื้นเกาหลีใน Lazada/Shopee จะได้ของปลอมไหม?
A: มีโอกาสเจอของปลอมได้ครับ โดยเฉพาะร้านค้าที่ไม่น่าเชื่อถือ. ทางที่ดีควรเลือกซื้อจาก Official Store ของแบรนด์นั้นๆ บน Lazada/Shopee หรือร้านค้าที่ได้รับอนุญาต และมีรีวิวจากผู้ซื้อคนไทยเยอะๆ ครับ. การซื้อจากร้านค้าออฟไลน์อย่าง Watsons, Eveandboy, Beautrium หรือเคาน์เตอร์ในห้างก็มั่นใจได้มากกว่าครับ.
Q: ระหว่างรองพื้นแบบขวดกับคุชชั่นเกาหลี อันไหนดีกว่ากัน?
A: ขึ้นอยู่กับความชอบและการใช้งานครับ! รองพื้นแบบขวด มักจะให้การปกปิดที่หลากหลายกว่า มีปริมาณเยอะกว่า และอาจจะควบคุมปริมาณการใช้ง่ายกว่า. ส่วน คุชชั่น สะดวกมากๆ สำหรับการพกพาและเติมหน้าระหว่างวัน ให้งานผิวที่ดูธรรมชาติและฉ่ำวาวได้ง่าย. คุชชั่นบางรุ่นก็ให้การปกปิดดีเยี่ยมไม่แพ้รองพื้นแบบขวดแล้วครับ.
สรุปส่งท้าย เลือก 'รองพื้นเกาหลีฉ่ำวาว' ให้เป๊ะปังในสไตล์เรา!
เป็นยังไงบ้างครับกับ 10 รองพื้นเกาหลีที่ผมคัดมาให้ในปี 2025 นี้? หวังว่าเพื่อนๆ จะพอได้ไอเดียในการเลือกรองพื้นที่ใช่สำหรับตัวเองนะครับ การมีผิวสวยฉ่ำวาวสไตล์เกาหลีไม่ใช่เรื่องยากเลย ถ้าเรารู้จักเลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับสภาพผิวและรู้จักเทคนิคการใช้ให้ถูกวิธีครับ
- ถ้าเน้น ผิวฉ่ำวาวขั้นสุด และผิวแห้ง แนะนำ LANEIGE Neo Cushion Glow หรือ Huxley Secret Of Sahara Moist Foundation ครับ
- ถ้าอยากได้งาน ผิวโกลว์ธรรมชาติ ปกปิดดี ลองดู Jung Saem Mool Skin Nuder Foundation/Cushion หรือ Espoir Pro Tailor Foundation Be Glow
- ถ้า ผิวมัน/ผิวผสม แต่อยากได้ความฉ่ำ และเน้น ติดทน คุมมัน ต้อง Banila Co Covericious Power Fit หรือ HERA Black Cushion เลยครับ
- ถ้าเน้น ราคาเป็นมิตร ปกปิดดี ต้องยกให้ MISSHA M Perfect Cover BB Cream
- ถ้าชอบ งานผิวบางเบา ดูเป็นธรรมชาติ ลอง Rom&nd Bare Water Cushion หรือ Hince Second Skin Foundation ครับ
- ส่วน Innisfree My Foundation All Day Longwear ก็เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับคนที่ต้องการความสมดุลระหว่างความโกลว์ ติดทน และคุมมัน ในราคาที่เข้าถึงง่าย.
อย่าลืมนะครับว่าถึงแม้รองพื้นจะช่วยเนรมิตผิวให้สวยได้ แต่การดูแลผิวให้มีสุขภาพดีจากภายในก็สำคัญไม่แพ้กันครับ. เตรียมผิวให้พร้อม เติมความชุ่มชื้นให้เพียงพอ แล้วรองพื้นที่ใช้ก็จะยิ่งสวยติดทน และที่สำคัญ! อย่าลืมทาครีมกันแดดเพื่อปกป้องผิวจากแสงแดดในเมืองไทยด้วยนะครับ! 😉
มาเมาท์มอยกันหน่อย! แชร์ประสบการณ์หน่อยจ้า!
เพื่อนๆ คนไหนเคยใช้รองพื้นเกาหลีตัวไหนบ้าง หรือมีตัวไหนที่เล็งไว้ในปี 2025 นี้? ใช้แล้วเป็นยังไง ชอบไม่ชอบตรงไหน มาคอมเมนต์เล่าสู่กันฟังหน่อยสิครับ! หรือมีคำถามคาใจเกี่ยวกับรองพื้นเกาหลีตัวไหน ถามมาได้เลยนะ! 👇
ถ้าใครถูกใจบทความนี้ อยากให้กำลังใจ หรืออยากได้พิกัดร้าน/ลิงก์โปรโมชั่นดีๆ รบกวนพิมพ์คำว่า "จัดลิงก์มาเลย!" เดี๋ยวผมรวบรวมร้านค้าออนไลน์และออฟไลน์ที่น่าเชื่อถือ พร้อมโปรโมชั่นเด็ดๆ มาให้เป็นพิเศษเลยจ้าาา! แล้วเจอกันใหม่บทความหน้า สวัสดีครับ! 👋
วิดีโอที่เกี่ยวข้อง
แนะนำสำหรับคุณ
10 แป้งพัฟเกาหลี ยี่ห้อไหนดี ปี 2025 ผิวฉ่ำวาว ปกปิดเนียนเป๊ะ
10 อันดับ เจลบำรุงผิวหน้า ยี่ห้อไหนดี ปี 2025 บางเบา ซึมง่าย ให้ความชุ่มชื้น
10 อันดับ ลิปมันเปลี่ยนสี ยี่ห้อไหนดี ปี 2025 ปากอมชมพู ชุ่มชื้น ดูเป็นธรรมชาติ
10 อินไลเนอร์ ยี่ห้อไหนดี ปี 2025 เขียนง่าย เส้นคมชัด ติดทน
10 อันดับ มาสคาร่า ถูกและดี ปี 2025 ถูกและดี ขนตายาว งอนฟู กันน้ำ
10 โฟมล้างหน้าผู้ชายลดสิว ยี่ห้อไหนดี ปี 2025 ล้างหน้าสะอาด ลดสิว คุมมัน