logo

ราคา ลำโพง Marshall [ปีล่าสุด] รุ่นยอดนิยม พกพา หรือตั้งบ้าน เสียงดีไหม?

user avatar
พิมพ์ชนก บุญยืน·07/10/2025T08:09Z
点赞
ราคา ลำโพง Marshall [ปีล่าสุด] รุ่นยอดนิยม พกพา หรือตั้งบ้าน เสียงดีไหม?

สวัสดีค่าทุกคนนน! วันนี้เราจะมาเม้าท์มอยเรื่องลำโพงสุดคลาสสิก ขวัญใจสายอาร์ต สายชิลล์ และสายร็อกอย่าง Marshall กัน! ใครที่กำลังเล็งๆ ลำโพงดีไซน์เท่ๆ เสียงกระหึ่มๆ อยู่ล่ะก็ ปักหมุดรอเลยจ้า เพราะเราจะมาเจาะลึกเรื่อง ราคา Marshall Speaker ปีล่าสุด รุ่นไหนฮิต พกพาได้ไหม หรือตั้งบ้านดีกว่า แล้วเสียงมันจะดีจริงสมคำร่ำลือหรือเปล่า! เตรียมตัวเตรียมเงินในกระเป๋าให้พร้อม แล้วไปดูกันเลย!

1. Marshall Speaker มันคืออะไรกันนะ ทำไมฮิตจัง?

มาเริ่มกันที่ว่าเจ้าลำโพง Marshall เนี่ย มันคืออะไร ทำไมช่วงนี้เห็นใครๆ ก็ใช้กันเต็มไปหมด? พูดง่ายๆ เลยนะ มันคือลำโพงจากแบรนด์เครื่องเสียงระดับตำนานจากประเทศอังกฤษ ที่เค้าดังมาจากการทำตู้แอมป์กีตาร์ให้เหล่าศิลปินร็อกระดับโลกใช้กันมานานม๊ากมาก พอมาทำลำโพงบลูทูธ เค้าก็ยังคงเอกลักษณ์ทั้งดีไซน์และความเป็นร็อกแอนด์โรลไว้เต็มเปี่ยม ทำให้ลำโพง Marshall ไม่ใช่แค่ลำโพงธรรมดาๆ แต่เป็นเหมือนเฟอร์นิเจอร์ชิ้นเท่ๆ ที่ช่วยเสริมให้บ้านหรือห้องของเราดูดีมีสไตล์ขึ้นมาทันที

แล้วเสียงล่ะ? สไตล์เสียงของ Marshall จะเน้นความหนักแน่น เบสกระหึ่ม แต่ก็ยังคงรายละเอียดเสียงร้องและเครื่องดนตรีได้ดี เหมาะมากๆ สำหรับคนที่ชอบฟังเพลงแนวร็อก ป๊อป หรือเพลงที่มีจังหวะสนุกๆ ที่ต้องการเบสแน่นๆ สะใจ แต่รุ่นใหม่ๆ ก็ทำมาให้ฟังเพลงได้หลากหลายแนวมากขึ้นด้วยนะ

กลุ่มผู้ใช้ที่เหมาะกับลำโพง Marshall ก็มีตั้งแต่คนที่ชอบฟังเพลงแบบจริงจัง ไปจนถึงคนที่มองหาลำโพงดีไซน์สวยๆ มาแต่งบ้าน หรือคนที่ชอบพกพาลำโพงไปเปิดเพลงนอกบ้าน ไม่ว่าจะไปแคมป์ปิ้ง ปาร์ตี้ริมสระ หรือนั่งชิลล์ในสวน รุ่นพกพาก็ตอบโจทย์ได้ดีเลย

2. ช่วงราคา Marshall Speaker ในตลาดไทย ปีล่าสุด

มาถึงเรื่องที่ทุกคนรอคอย! ราคา Marshall Speaker ในไทย ปีล่าสุด (ซึ่งก็คือปี 2025 นี่แหละจ้า) บอกเลยว่ามีหลายช่วงราคามากๆ ขึ้นอยู่กับรุ่นและขนาดนะ โดยรุ่นยอดนิยมแบ่งคร่าวๆ ได้ตามนี้:

  • รุ่นพกพาตัวเล็ก (Ultra-Portable): เช่น Marshall Willen II, Emberton III ราคาจะอยู่ที่ประมาณ 3,xxx - 7,xxx บาท (฿) รุ่น Emberton II ยังพอมีขายอยู่ ราคาประมาณ 5,xxx - 7,xxx บาท รุ่น Willen II ราคาประมาณ 4,xxx บาท
  • รุ่นพกพาขนาดกลาง (Portable): เช่น Marshall Kilburn III, Middleton ราคาประมาณ 10,xxx - 14,xxx บาท (฿) รุ่น Kilburn II ยังพอมีขาย ราคาประมาณ 9,xxx - 12,xxx บาท
  • รุ่นตั้งบ้านขนาดกลาง (Home Speaker): เช่น Marshall Acton III, Stanmore III ราคาประมาณ 12,xxx - 18,xxx บาท (฿) Acton III ราคาประมาณ 12,xxx บาท Stanmore III ราคาประมาณ 18,xxx บาท
  • รุ่นตั้งบ้านขนาดใหญ่ (Home Speaker): เช่น Marshall Woburn III ราคาประมาณ 26,xxx - 28,xxx บาท (฿) รุ่น Woburn II ยังพอมีขายอยู่ ราคาประมาณ 22,xxx บาท หรือบางทีเจอถูกกว่านั้นในตลาดมือสอง

ราคานี้เป็นราคาโดยประมาณจากร้านค้าตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการและแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซใหญ่ๆ ในไทยนะ เช่น BaNANA, Power Buy, Studio7, Advice, Jaymart, Ash Asia (ตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ), Mercular, รวมถึงร้านค้า Official บน Lazada และ Shopee ซึ่งราคาอาจมีแตกต่างกันไปในแต่ละช่วงและแต่ละร้าน ลองเช็คหลายๆ ที่ก่อนซื้อจะดีที่สุดจ้า

3. แล้วเทียบกับแบรนด์อื่นล่ะ ราคาโอเคมั้ย?

ถ้าเอา Marshall ไปเทียบกับแบรนด์ลำโพงอื่นๆ ที่เน้นคุณภาพเสียงและดีไซน์ในตลาดไทยด้วยกัน อย่าง JBL, Bose, Harman Kardon หรือ Sony เนี่ย ราคาของ Marshall มักจะอยู่ในกลุ่มที่ค่อนข้างพรีเมียมนะ คือไม่ได้ถูกสุด แต่ก็ไม่ได้แพงจนเอื้อมไม่ถึง

อย่างลำโพงพกพารุ่น Emberton III ราคา 7,xxx บาท ถ้าเทียบกับ JBL หรือ Bose ในขนาดใกล้เคียงกัน ราคาอาจจะพอๆ กัน หรือ Marshall อาจจะสูงกว่าเล็กน้อย แต่สิ่งที่ได้จาก Marshall คือดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์มากๆ ซึ่งหลายคนยอมจ่ายเพิ่มเพื่อตรงนี้เลยนะ

ส่วนลำโพงตั้งบ้าน รุ่นกลางอย่าง Acton III ราคาประมาณ 12,xxx บาท หรือ Stanmore III ราคาประมาณ 18,xxx บาท ก็ถือเป็นราคามาตรฐานสำหรับลำโพงบ้านคุณภาพดีจากแบรนด์ดังในกลุ่มนี้ ถ้าเทียบกับบางรุ่นของ Bose หรือ Harman Kardon ก็อาจจะมีทั้งรุ่นที่ถูกกว่าและแพงกว่า Marshall ขึ้นอยู่กับสเปกและฟังก์ชัน

สรุปคือ Marshall ไม่ได้เน้นสงครามราคา แต่เน้นที่แบรนด์ ดีไซน์ และคาแร็กเตอร์เสียงที่เป็นเอกลักษณ์ ซึ่งทำให้เค้ามีฐานแฟนคลับที่เหนียวแน่นพร้อมเปย์เพื่อสิ่งเหล่านี้จ้า!

4. ซื้อแล้วได้อะไรมาบ้างนะ?

เวลาซื้อลำโพง Marshall ไม่ว่าจะเป็นรุ่นพกพาหรือตั้งบ้าน สิ่งที่มักจะอยู่ในกล่องหลักๆ ก็จะมีตัวลำโพงเอง สายชาร์จ (บางรุ่นใช้ USB-C บางรุ่นใช้สายไฟ AC) และคู่มือการใช้งาน

เรื่องสำคัญที่คนไทยให้ความสนใจคือ การรับประกัน โดยปกติแล้วลำโพง Marshall ที่เป็นเครื่องศูนย์ไทยจากตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ มักจะมีการรับประกัน 1 ปี ซึ่งส่วนใหญ่สามารถนำไปเคลมที่ศูนย์บริการของ Ash Asia (ตัวแทนจำหน่ายในไทย) ได้ บางร้านอาจจะมีประกันร้านเพิ่มเติมเล็กน้อย แต่ถ้าซื้อจากร้านค้าที่ไม่ใช่ตัวแทนอย่างเป็นทางการ หรือเป็นเครื่องหิ้ว ต้องตรวจสอบเรื่องการรับประกันให้ดีมากๆ บางทีอาจจะไม่มีประกันศูนย์ไทยนะจ๊ะ

ส่วนเรื่อง ค่าจัดส่ง ถ้าซื้อผ่านแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซใหญ่ๆ อย่าง Lazada หรือ Shopee หรือร้านค้าออนไลน์ของตัวแทนจำหน่าย หลายครั้งจะมีโปรโมชั่น จัดส่งฟรี เมื่อซื้อถึงยอดที่กำหนด หรือบางร้านในกรุงเทพฯ อาจมีบริการส่งด่วนภายในไม่กี่ชั่วโมงด้วย

ของแถม หรือคูปองส่วนลดต่างๆ อันนี้แล้วแต่โปรโมชั่นของแต่ละร้านและแต่ละช่วงเลยจ้า บางทีอาจจะได้กระเป๋าใส่ลำโพง (สำหรับรุ่นพกพา) หรือคูปองส่วนลดสำหรับการซื้อครั้งต่อไป ก็ต้องคอยส่องโปรดีๆ นะ

5. มีช่วงไหนน่าซื้อเป็นพิเศษมั้ย?

ถ้าอยากได้ลำโพง Marshall ในราคาที่คุ้มค่าขึ้นมาอีกนิดนึง ช่วง โปรโมชั่น นี่แหละคือโอกาสทอง! แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซใหญ่อย่าง Lazada และ Shopee เค้าจัดโปรโมชั่นลดราคาบ่อยมาก โดยเฉพาะช่วง Double Digit Sale ยอดฮิต เช่น 11.11, 12.12 ในช่วงปลายปี หรือช่วงกลางปีอย่าง 6.6, 7.7, 8.8 ก็มีลดไม่แพ้กัน

นอกจากนี้ ช่วง เทศกาลสำคัญของไทย เช่น ปีใหม่ไทย (สงกรานต์), วันปีใหม่สากล หรือช่วง Black Friday / Cyber Monday ก็มักจะมีโปรโมชั่นพิเศษจากร้านค้าต่างๆ ด้วยเช่นกัน

ร้านค้าที่เป็น Official Store ของ Marshall บน Lazada หรือ Shopee ก็มักจะมีส่วนลดหรือออกคูปองพิเศษอยู่เรื่อยๆ นะ แนะนำให้กดติดตามร้านไว้เลย จะได้ไม่พลาดข่าวสารโปรโมชั่น

คำแนะนำคือ ถ้าไม่ได้รีบใช้มากๆ แล้วอยากได้ราคาดีๆ ให้ รอซื้อช่วงมีโปรโมชั่น จะคุ้มที่สุดจ้า อาจจะได้ทั้งส่วนลดจากตัวลำโพงเอง ได้คูปองลดเพิ่ม หรือได้ของแถมพิเศษ ทำให้ประหยัดไปได้เยอะเลย

6. รีวิวและฟีดแบ็กจากผู้ใช้ในไทยเป็นยังไงบ้างนะ?

ลองไปส่องๆ ดูตามรีวิวของผู้ใช้ Marshall ในไทย ทั้งใน Pantip, Facebook หรือตามรีวิวบน Shopee/Lazada ส่วนใหญ่เสียงตอบรับดีมากๆ เลยนะ จุดที่คนไทยชอบและพูดถึงบ่อยๆ คือ:

  • ดีไซน์สวยคลาสสิก วางตรงไหนก็เท่: อันนี้เป็นจุดเด่นอันดับต้นๆ ที่ทุกคนพูดถึง ดีไซน์วินเทจแบบแอมป์กีตาร์มันกินใจคนไทยมากๆ
  • เสียงดี เบสแน่น สะใจ: หลายคนชอบคาแร็กเตอร์เสียงที่เป็นเอกลักษณ์ของ Marshall ที่ให้เบสหนักแน่น ฟังสนุก โดยเฉพาะเวลาฟังเพลงจังหวะมันๆ
  • วัสดุดี งานประกอบเนี๊ยบ: รู้สึกว่าลำโพงแข็งแรงทนทาน สมกับราคาที่เป็นพรีเมียม
  • พกพาสะดวก (สำหรับรุ่นพกพา): รุ่นเล็กๆ อย่าง Emberton หรือ Willen ถูกใจคนชอบพกไปเที่ยว เพราะขนาดกะทัดรัด น้ำหนักไม่เยอะ แถมบางรุ่นกันน้ำได้ด้วย
  • ใช้งานง่าย ไม่ยุ่งยาก: ปุ่มควบคุมไม่เยอะ เชื่อมต่อง่าย บางรุ่นมี Control Knob หมุนๆ ปรับเสียงได้เลย อันนี้หลายคนชอบความคลาสสิกตรงนี้

ส่วนใหญ่ฟีดแบ็กจะไปในทิศทางบวกนะ แม้ราคาอาจจะสูงกว่าบางแบรนด์ แต่ผู้ใช้ส่วนใหญ่รู้สึกว่าคุ้มค่ากับสิ่งที่ได้ ทั้งดีไซน์ เสียง และแบรนด์ดิ้ง

7. ช่องทางการซื้อที่แนะนำ

ถ้าตัดสินใจได้แล้วว่าจะสอย Marshall Speaker มาประดับบ้านหรือพกพาไปอวดเพื่อน ช่องทางการซื้อหลักๆ ที่แนะนำในไทยก็มีหลายที่เลย:

  • ร้านค้าตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ: เช่น BaNANA, Power Buy, Studio7, Advice, Mercular พวกนี้มั่นใจได้ว่าเป็นของแท้ มีหน้าร้านให้ไปลองฟังเสียง ลองจับตัวจริงได้ และมีการรับประกันจากศูนย์ไทย ซึ่งสะดวกเวลาเคลม
  • Official Store บนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ: เช่น Marshall Official Store บน Lazada และ Shopee ช่องทางนี้สะดวกสุดๆ อยู่บ้านก็ช้อปได้ มีโปรโมชั่น มีโค้ดส่วนลดบ่อยๆ ระบบการจ่ายเงินปลอดภัย แต่ต้องระวังร้านที่ไม่ใช่ Official Store ที่อาจขายของปลอมได้นะ ให้ดูชื่อร้านที่เป็นทางการ หรือมีเครื่องหมายรับรองจากแพลตฟอร์ม
  • ร้านค้าอื่นๆ บนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ: บางร้านบน Lazada หรือ Shopee ก็มีขาย Marshall ด้วย บางทีอาจเจอราคาดีๆ แต่ต้องเช็คเครดิตร้าน รีวิว และสอบถามเรื่องการรับประกันให้ชัดเจนก่อนตัดสินใจ

สำหรับคนที่ไม่สะดวกไปหน้าร้าน หรืออยากได้ราคาดีๆ พร้อมโปรโมชั่นแน่นๆ ช่องทางออนไลน์บนแพลตฟอร์มใหญ่อย่าง Lazada และ Shopee ที่เป็น Official Store ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมากๆ จ้า

8. สรุปหรือคำแนะนำเรื่องราคา คุ้มค่าน่าซื้อไหม?

สรุปแล้ว ลำโพง Marshall Speaker เนี่ย ยังไงก็เป็นไอเทมที่น่าสอยมากๆ ในปีล่าสุดนี้แหละจ้า! ถ้าถามว่าคุ้มค่าไหม? สำหรับคนที่มองหาลำโพงที่ให้มากกว่าแค่เสียง แต่ยังได้เรื่อง ดีไซน์ที่สวยคลาสสิก เป็นเหมือนของแต่งบ้านชิ้นนึง ได้ แบรนด์ระดับตำนาน และ คุณภาพเสียงที่เป็นเอกลักษณ์ ฟังสนุก โดยเฉพาะเพลงที่มีจังหวะจะโคน Marshall คือตอบโจทย์มากๆ และถือว่า คุ้มค่ากับราคา ที่จ่ายไปแน่นอน

เหมาะกับใคร?

  • สายวินเทจ สายแต่งบ้าน: ชอบดีไซน์ของ Marshall ที่ดูเท่ ไม่เหมือนใคร วางตรงไหนก็สวย
  • สายฟังเพลงสนุกๆ เน้นเบส: ชอบคาแร็กเตอร์เสียงที่หนักแน่น ฟังมันส์
  • สายพกพาแต่เน้นคุณภาพและสไตล์: อยากได้ลำโพงพกพาที่เสียงดี ดีไซน์สวย ไม่เกะกะ (รุ่นพกพา)

ส่วนจะเลือกรุ่นไหนดี อันนี้ขึ้นอยู่กับงบประมาณและการใช้งานเลยจ้า

  • ถ้าเน้นพกพาเป็นหลัก ใช้งานนอกบ้านบ่อยๆ หรืออยากได้ลำโพงตัวแรกที่ไม่แพงมาก รุ่นพกพาตัวเล็ก (Willen, Emberton) นี่แหละเหมาะเลย ราคาจับต้องง่าย คุณภาพเสียงดีเกินตัว พกพาสะดวก
  • ถ้าอยากได้ลำโพงพกพาที่เสียงดังขึ้นมาหน่อย หรือเอาไว้ตั้งในห้องขนาดไม่ใหญ่มาก แล้วบางทีมีหยิบไปใช้นอกบ้านบ้าง รุ่นพกพาขนาดกลาง (Kilburn, Middleton) ก็น่าสนใจ ให้เสียงที่อิ่มขึ้น ดังขึ้น
  • ถ้าเน้นตั้งไว้ในบ้านเป็นหลัก อยากได้เสียงที่เต็มอิ่ม ดังกระหึ่ม เติมเต็มห้องได้ดี รุ่นตั้งบ้าน (Acton, Stanmore, Woburn) คือคำตอบ เลือกขนาดให้เหมาะสมกับขนาดห้องด้วยนะ ห้องเล็กๆ Acton ก็พอ ห้องใหญ่ขึ้นมาหน่อย Stanmore หรือ Woburn จะเหมาะกว่า

ไม่ต้องคิดเยอะเลยจ้า ถ้าใจมันรัก Marshall แล้วก็จัดเลย! แค่เลือกให้ตรงกับการใช้งานและงบประมาณ แล้วไปตามหาโปรโมชั่นดีๆ ในช่วงเซลล์ รับรองว่าได้ลำโพงคู่ใจที่ทั้งเสียงดีและสวยถูกใจแน่นอน!


วิดีโอที่เกี่ยวข้อง

บทความที่เกี่ยวข้อง

มาแล้วจ้า! ได้เวลาเม้าท์มอยเรื่องลำโพงที่ฮอตสุดอะไรสุด ณ ตอนนี้ อย่าง Marshall ที่หลายคนเห็นแล้วต้องเหลียวหลัง เพราะดีไซน์มันช่างเท่บาดใจซะเหลือเกิน! แต่นอกจากหน้าตาที่กินขาดแล้ว เสียงน้องจะเป็นยังไง? รุ่นไหนถึงจะเหมาะกับเรา? หรือแค่ซื้อมาต
รีวิว ลำโพง Marshall: รุ่นไหนดี? เสียงเป็นอย่างไร? คุ้มค่าน่าซื้อมาตั้งโชว์ไหม?
อ่ะ...ใครเป็นสายร็อก สายติสท์ หรือแค่ชอบความเก๋าแบบไม่ตามใคร ยกมือขึ้น! วันนี้เราจะมาเม้าท์มอยถึงแบรนด์เครื่องเสียงที่เห็นโลโก้แล้วต้องเหลียวหลัง เพราะดีไซน์เขามันกินขาดจริงๆ นั่นก็คือ Marshall นั่นเอง!หลายคนอาจจะคุ้นตาจากตู้แอมป์กีตาร์บนเว
Marshall รีวิว: ลำโพง หูฟัง แบรนด์ดัง คุณภาพเสียงเป็นยังไง? รุ่นไหนน่าซื้อ?
โอ้โห! ใครสายลำโพงเก๋าๆ ดีไซน์คลาสสิก เห็น Marshall แล้วใจมันสั่นแน่นอน! โดยเฉพาะเจ้า Marshall Stanmore II ตัวนี้นี่แหละ ที่หลายคนเล็งมานาน เพราะขนาดกำลังดี วางตรงไหนในบ้านก็ดูดีมีชาติตระกูล แถมเสียงยังกระหึ่มสะใจ! แต่เอ๊ะ... ลำโพงรุ่นนี้ที
รีวิว ลำโพง Marshall Stanmore II: ลำโพง Bluetooth เสียงดี ดีไซน์คลาสสิก เหมาะกับใคร?

บทความล่าสุดดูเพิ่มเติม

สวัสดีครับพี่น้อง! วันนี้มาเม้าท์เรื่องมือถือยอดฮิตติดลมบน เอ้ย! ติดตลาดรุ่นหนึ่งที่ยังวนเวียนให้เห็นกันในปี ๒๕๖๘ นี้ นั่นก็คือ Oppo A34 นั่นเองครับผม! ใครที่กำลังมองหามือถือราคาเบาๆ สเปกพอตัวไว้ใช้งานทั่วไป ไม่เน้นอะไรหวือหวามากนัก แต่ก็ยั
อัปเดตราคาล่าสุด Oppo A34 (ปี ๒๕๖๘) สเปกคุ้มไหม? ซื้อที่ไหนถูกสุด
สวัสดีค่าทุกคนนน! วันนี้เราจะมาเม้าท์มอยหอยสังข์เรื่องกล้องสุดฮิตในตำนานสำหรับมือใหม่หัดถ่าย นั่นก็คือ Sony Alpha A5000 นั่นเอง! ใครที่กำลังมองหากล้องตัวแรก หรืออยากจะขยับจากการถ่ายรูปด้วยมือถือ มาลองใช้กล้องที่ให้ไฟล์สวยกว่า มีลูกเล่นเยอะก
ราคากล้อง Sony Alpha A5000 มือสอง เหมาะกับมือใหม่หัดถ่ายไหม?
สวัสดีค้าบบบทุกคนนน! วันนี้เราจะมาเม้าท์มอยเรื่องนาฬิกาที่ฮิตตลอดกาล ใส่แล้วเท่ ใส่แล้วคูล แถมยังทนถึกอย่างกับยอดมนุษย์ นั่นก็คือ G-Shock นั่นเอง! และรุ่นที่เราจะมาเจาะลึกกันวันนี้ก็คือ G-Shock GA-120TR ที่เค้าว่ากันว่าดีไซน์เตะตา ฟังก์ชันน
ราคา นาฬิกา G-Shock GA-120TR รุ่นไหนน่าสนใจ ฟังก์ชันเด่นอะไร?

บทความยอดนิยม

บทความที่แนะนำ