โน๊ตบุ๊ค Dell Latitude 5285 2-in-1 ราคาล่าสุดในตลาดมือสอง สเปคดี


สวัสดีเพื่อนๆ ที่กำลังมองหาอุปกรณ์คู่ใจสำหรับการทำงานและการเรียนรู้ในยุคดิจิทัล! วันนี้เราจะมาเจาะลึกโน๊ตบุ๊ค 2-in-1 ระดับธุรกิจอย่าง Dell Latitude 5285 2-in-1 ที่แม้จะเปิดตัวมาได้สักพักแล้ว แต่ยังคงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจอย่างยิ่งในตลาดมือสอง ด้วยสเปกที่ตอบโจทย์และดีไซน์ที่เน้นการใช้งาน บทความนี้จะพาคุณไปสำรวจทุกซอกทุกมุมของเจ้าเครื่องนี้ เพื่อให้คุณตัดสินใจได้ว่ามันคือสิ่งที่ใช่สำหรับคุณหรือไม่!
1. ทำความรู้จัก Dell Latitude 5285 2-in-1
Dell Latitude 5285 2-in-1 เป็นอุปกรณ์ประเภทแท็บเล็ตไฮบริดที่สามารถใช้งานได้ทั้งในโหมดโน๊ตบุ๊คและแท็บเล็ตในเครื่องเดียว เหมาะสำหรับกลุ่มผู้ใช้งานที่เป็น นักธุรกิจมืออาชีพ, พนักงานองค์กร, หรือแม้กระทั่ง นักเรียนนักศึกษา และ ผู้ที่ทำงานแบบ Work From Anywhere ที่ต้องการความยืดหยุ่นในการทำงาน ความทนทาน และฟังก์ชันการทำงานที่ครบครันสำหรับการทำงานแบบ Multi-tasking
แบรนด์ Dell (เดลล์) ก่อตั้งขึ้นโดย Michael Dell ในปี ค.ศ. 1984 ที่รัฐเท็กซัส สหรัฐอเมริกา จุดเด่นของ Dell คือการเป็นผู้บุกเบิกโมเดลธุรกิจแบบ ขายตรงถึงลูกค้า (Direct-to-Customer) ทำให้เข้าใจความต้องการของลูกค้าและสามารถนำเสนอผลิตภัณฑ์คุณภาพสูงในราคาที่แข่งขันได้ จนกระทั่งในปี 2001 Dell ก็ก้าวขึ้นเป็นผู้ผลิตคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลอันดับหนึ่งของโลก สำหรับตระกูล Latitude นั้น Dell ออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับตลาดธุรกิจและองค์กร โดยเน้นที่ความน่าเชื่อถือ ความปลอดภัย และความทนทาน ทำให้เป็นตัวเลือกที่ดีเยี่ยมสำหรับผู้ที่ต้องเดินทางบ่อยๆ หรือใช้งานในสภาพแวดล้อมที่หลากหลาย
Dell Latitude 5285 2-in-1 มาพร้อมหน้าจอสัมผัสขนาด 12.3 นิ้ว Full HD (1920x1280) โดดเด่นด้วยขาตั้งแบบ Auto-deploy kickstand ที่จะกางออกโดยอัตโนมัติเมื่อวางเครื่องบนพื้นผิวเรียบ และสามารถปรับมุมได้สูงสุดถึง 150 องศาเพื่อการรับชมที่หลากหลาย ตัวเครื่องมีน้ำหนักเบา (น้อยกว่า 2 ปอนด์ หรือประมาณ 0.9 กก.) ทำให้พกพาสะดวกอย่างยิ่ง และยังรองรับการใช้งานร่วมกับปากกา Active Pen เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการจดบันทึกหรือสร้างสรรค์ผลงาน
2. ช่วงราคาในตลาดมือสอง (ในไทย)
เนื่องจาก Dell Latitude 5285 2-in-1 เปิดตัวมาตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ ปี ค.ศ. 2017 ปัจจุบันจึงไม่พบการจำหน่ายเป็นสินค้าใหม่ในร้านค้าปลีกไอทีหลักๆ อย่าง JIB, Banana IT หรือ Power Buy แล้ว โดยส่วนใหญ่จะพบได้ใน ตลาดมือสอง ซึ่งราคาจะมีความหลากหลายขึ้นอยู่กับสเปก สภาพเครื่อง และอุปกรณ์เสริมที่มาพร้อมกัน
จากการสำรวจในแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซยอดนิยมในประเทศไทยอย่าง Shopee และ Lazada พบว่าราคาของ Dell Latitude 5285 2-in-1 ในตลาดมือสองจะอยู่ที่ประมาณ 9,500 - 13,900 บาท (฿) ตัวอย่างเช่น รุ่นที่มีสเปก Intel Core i5-7200U หรือ i5-7300U, RAM 8GB และ SSD 128GB/256GB มักจะอยู่ในช่วงราคานี้ ผู้ขายหลายรายมักจะนำเข้าเครื่องเหล่านี้มาจากต่างประเทศ (เช่น ญี่ปุ่น) ซึ่งอาจเป็นเครื่องที่หมดสัญญาเช่าซื้อ โดยราคาเปิดตัวเมื่อครั้งยังเป็นสินค้าใหม่นั้นอยู่ที่ประมาณ 50,000 กว่าบาท ซึ่งทำให้ราคาในตลาดมือสองถือว่าลดลงมาอย่างมากและคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคาเดิม
สำหรับร้านค้าปลีกอุปกรณ์ไอทีขนาดใหญ่ เช่น Central, Big C หรือ The Mall จะเน้นสินค้าใหม่และไม่ได้จำหน่ายรุ่นนี้แล้วเช่นกัน
3. เปรียบเทียบราคากับสินค้าประเภทเดียวกัน
เมื่อนำ Dell Latitude 5285 2-in-1 มาเปรียบเทียบกับอุปกรณ์ 2-in-1 หรือแท็บเล็ตคู่แข่งในตลาดมือสองที่มีฟังก์ชันการทำงานใกล้เคียงกัน จะเห็นได้ว่า Dell Latitude 5285 ยังคงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจในกลุ่มธุรกิจ โดยคู่แข่งที่ใกล้เคียงที่สุดคือ Microsoft Surface Pro 4 ที่มีดีไซน์และแนวคิดคล้ายกัน
อย่างไรก็ตาม หากเทียบกับแท็บเล็ต 2-in-1 มือสองจากแบรนด์อื่นๆ ที่เน้นราคาประหยัด เช่น Fujitsu Arrows Tab หรือ HP Elite x2 ซึ่งอาจจะมาพร้อมสเปกที่ต่ำกว่า (เช่น Core M หรือ Celeron, RAM 4GB) ราคาจะอยู่ที่ประมาณ 3,690 - 6,590 บาท ซึ่งถือว่าต่ำกว่า Dell Latitude 5285 2-in-1 อยู่พอสมควร
ในขณะที่โน๊ตบุ๊คมือสองทั่วไปที่ไม่ใช่ 2-in-1 จากแบรนด์อย่าง Lenovo หรือ HP ที่มีสเปก Core i5 Gen 7-8 อาจมีราคาเริ่มต้นที่ 5,000 - 7,000 บาท การที่ Dell Latitude 5285 2-in-1 ที่เป็น Business-grade 2-in-1 ยังคงรักษาระดับราคาไว้ได้ในหลักหมื่นบาทต้นๆ แสดงให้เห็นถึง ความคุ้มค่า และ ความน่าเชื่อถือ ของแบรนด์และซีรีส์ Latitude ที่ได้รับการยอมรับในกลุ่มผู้ใช้งานธุรกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพิจารณาจากราคาเปิดตัวที่สูงถึงหลักห้าหมื่นบาท ทำให้การซื้อในตลาดมือสองเป็นทางเลือกที่ช่วยประหยัดงบประมาณได้อย่างมาก แต่ยังคงได้อุปกรณ์ที่มีประสิทธิภาพสูงและฟังก์ชันการใช้งานที่ครบครันสำหรับงานระดับมืออาชีพ
4. อุปกรณ์เสริมและบริการที่รวมมา
การซื้อ Dell Latitude 5285 2-in-1 ในตลาดมือสอง สิ่งที่ผู้ซื้อควรพิจารณาอย่างยิ่งคือ อุปกรณ์เสริมและบริการที่ผู้ขายรวมมาให้ เนื่องจากเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อความคุ้มค่าและประสบการณ์การใช้งาน โดยทั่วไปแล้ว ผู้ขายในตลาดมือสองมักจะเสนอชุดอุปกรณ์ดังนี้:
- คีย์บอร์ด (Travel Keyboard): เป็นอุปกรณ์เสริมที่สำคัญมากและมักจะมาพร้อมกับตัวเครื่องในตลาดมือสอง เพื่อให้สามารถใช้งานเป็นโน๊ตบุ๊คได้อย่างสมบูรณ์แบบ คีย์บอร์ดของรุ่นนี้มักจะมีไฟ Backlight ด้วย
- ปากกา Stylus (Active Pen): เป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์เสริมที่มักจะถูกแถมมาให้ หรือบางทีก็รวมอยู่ในชุดขาย ช่วยให้สามารถใช้ฟังก์ชันการเขียนหรือวาดบนหน้าจอได้อย่างเต็มที่
- อะแดปเตอร์ชาร์จไฟ: เป็นอุปกรณ์พื้นฐานที่ต้องมีมาให้ เพื่อการใช้งานต่อเนื่อง
- กระเป๋า/เคสหนัง: ผู้ขายบางรายอาจจะแถมกระเป๋าหรือเคสหนังมาให้ด้วย เพื่อเพิ่มความสะดวกในการพกพาและป้องกันรอยขีดข่วน
- ระบบปฏิบัติการและซอฟต์แวร์: โดยส่วนใหญ่เครื่องมือสองจะมาพร้อมกับ Windows 10 Pro ลิขสิทธิ์แท้ และสามารถอัปเกรดเป็น Windows 11 ได้ บางครั้งอาจมีการลงโปรแกรมพื้นฐานสำหรับการทำงานมาให้ เช่น Microsoft Office (Word, Excel, PowerPoint) หรือ Adobe Acrobat Reader
ในส่วนของ การรับประกัน สำหรับสินค้ามือสอง โดยทั่วไปแล้วจะ ไม่มีประกันศูนย์ เหลืออยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม ผู้ขายบางราย โดยเฉพาะร้านค้าใน Shopee หรือ Lazada อาจมีการ รับประกันร้าน (Seller Warranty) ให้เป็นระยะเวลาสั้นๆ เช่น 7 วัน, 30 วัน หรือ 3 เดือน เพื่อความสบายใจของผู้ซื้อ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญสำหรับผู้บริโภคชาวไทยที่ให้ความสำคัญกับการบริการหลังการขาย การสอบถามเงื่อนไขการรับประกันกับผู้ขายโดยตรงจึงเป็นสิ่งจำเป็น
เรื่อง ค่าจัดส่ง บนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซหลักๆ อย่าง Shopee หรือ Lazada มักจะมีโปรโมชั่น ส่งฟรี หรือมีค่าจัดส่งที่ไม่แพงนัก ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขโปรโมชั่นในแต่ละช่วงเวลา
5. โปรโมชั่นและคำแนะนำการซื้อ
สำหรับ Dell Latitude 5285 2-in-1 ในตลาดมือสอง แม้จะไม่ได้มีการจัดโปรโมชั่นลดราคาใหญ่โตเหมือนสินค้าใหม่ แต่ก็ยังมีโอกาสได้ราคาดีในช่วงเทศกาลสำคัญต่างๆ โดยเฉพาะช่วง Double Digit Sale อย่าง 11.11 หรือ 12.12 บนแพลตฟอร์ม Lazada และ Shopee [ตามตัวอย่างบทความ] รวมถึงช่วงเทศกาลของไทย เช่น สงกรานต์ หรือ ปีใหม่ ที่ผู้ขายบางรายอาจจัดโปรโมชั่นพิเศษ หรือมีโค้ดส่วนลดให้ใช้
ร้านค้าในรูปแบบ แฟล็กชิปสโตร์ (Flagship Store) บน Lazada หรือ Shopee มักจะเน้นขายสินค้าใหม่จากแบรนด์โดยตรง ซึ่ง Dell Latitude 5285 2-in-1 ไม่ได้เป็นสินค้าใหม่แล้ว ดังนั้น การหาซื้อจากร้านค้าทั่วไปที่เชี่ยวชาญด้านคอมพิวเตอร์มือสอง หรือผู้ขายรายย่อยที่มีรีวิวดีๆ จะเป็นช่องทางหลัก
คำแนะนำในการซื้อคือ อย่ารีบร้อน หากไม่จำเป็นต้องใช้งานทันที การหมั่นตรวจสอบราคาและโปรโมชั่นในช่วงเวลาดังกล่าว จะช่วยให้คุณได้เครื่องในราคาที่คุ้มค่าที่สุด หรือได้ของแถมเพิ่มเติม เช่น กระเป๋า หรือซอฟต์แวร์พื้นฐาน นอกจากนี้ การตรวจสอบรีวิวของผู้ขายและสอบถามรายละเอียดสินค้าให้ชัดเจนก่อนตัดสินใจซื้อก็เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง
6. รีวิวและฟีดแบ็กจากผู้ใช้ในไทย
จากการรวบรวมข้อมูลและรีวิวจากผู้ใช้งานในประเทศไทยเกี่ยวกับ Dell Latitude 5285 2-in-1 พบว่าได้รับผลตอบรับที่ดีในหลายด้าน โดยเฉพาะในจุดที่ตรงกับความต้องการของผู้บริโภคไทย:
- ความทนทานและประสิทธิภาพสำหรับงานธุรกิจ: ผู้ใช้หลายคนชื่นชอบความทนทานของซีรีส์ Latitude ที่สร้างมาเพื่อการใช้งานในองค์กร ทำให้มั่นใจได้ว่าจะสามารถใช้งานได้ยาวนาน ประสิทธิภาพโดยรวมถือว่าดีสำหรับงานเอกสาร, การท่องเว็บ, การประชุมออนไลน์ และงานมัลติทาสกิ้งทั่วไป ด้วยหน่วยประมวลผล Intel Core i5/i7 Gen 7 และ SSD ที่ตอบสนองได้รวดเร็ว
- ขนาดเล็กกะทัดรัด พกพาสะดวก: จุดเด่นที่ถูกกล่าวถึงบ่อยคือความบางเบาและขนาดที่กะทัดรัด ทำให้สะดวกอย่างยิ่งในการพกพาไปทำงานนอกสถานที่, ไปเรียน หรือเดินทาง
- ฟังก์ชัน 2-in-1 ที่ยืดหยุ่น: ความสามารถในการถอดคีย์บอร์ดออกเพื่อใช้งานเป็นแท็บเล็ต และการมีขาตั้งแบบอัตโนมัติที่แข็งแรง ทำให้ปรับเปลี่ยนการใช้งานได้หลากหลาย ตอบโจทย์ทั้งการพรีเซนต์งาน, การดูหนัง หรือการใช้จดบันทึกด้วยปากกา
- หน้าจอคุณภาพดี: หน้าจอ Full HD ขนาด 12.3 นิ้ว มอบภาพที่คมชัด สดใส และมีมุมมองกว้าง ทำให้การทำงานหรือรับชมความบันเทิงเป็นที่น่าพอใจ
- ความคุ้มค่าด้านราคา: เมื่อเทียบกับราคาเปิดตัวที่สูงมาก การได้เครื่องสเปกธุรกิจในราคาตลาดมือสองที่ลดลงมาหลายเท่าตัว ทำให้ผู้ใช้รู้สึกว่าคุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไปอย่างมาก
- ข้อสังเกต: บางรีวิวเก่าๆ อาจจะพูดถึงเรื่องแบตเตอรี่ที่ไม่ยาวนานมากนักในตอนเปิดตัว แต่ในตลาดมือสอง ผู้ขายมักจะระบุสถานะแบตเตอรี่ หรือมีการเปลี่ยนแบตเตอรี่ใหม่ให้ ซึ่งทำให้ใช้งานได้ตามปกติ (ประมาณ 2-8 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับการใช้งาน)
7. ช่องทางการซื้อที่แนะนำ
สำหรับการซื้อ Dell Latitude 5285 2-in-1 ในตลาดมือสอง มีช่องทางหลักๆ ที่แนะนำดังนี้:
- แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซขนาดใหญ่ในไทย (Shopee, Lazada):
- เหตุผลที่แนะนำ: เป็นแหล่งรวมร้านค้าและผู้ขายรายย่อยจำนวนมาก ทำให้มีตัวเลือกหลากหลาย สามารถเปรียบเทียบราคาได้ง่าย มีระบบการชำระเงินที่ปลอดภัย และมักมีโปรโมชั่นส่วนลดหรือโค้ดส่งฟรี มีระบบรีวิวและให้คะแนนผู้ขายที่ช่วยในการตัดสินใจ
- ข้อควรพิจารณา: ไม่สามารถตรวจสอบสภาพเครื่องจริงได้ก่อนซื้อ ต้องอาศัยรูปภาพและรายละเอียดที่ผู้ขายให้มา รวมถึงความน่าเชื่อถือของร้านค้า ควรเลือกผู้ขายที่มีคะแนนรีวิวสูงและมีประวัติการขายที่ดี
- กลุ่มซื้อขายคอมพิวเตอร์มือสองใน Facebook:
- เหตุผลที่แนะนำ: เป็นอีกหนึ่งช่องทางที่ได้รับความนิยม สามารถพูดคุย สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ขอดูรูปภาพหรือวิดีโอสภาพเครื่องจากผู้ขายโดยตรงได้ และบางครั้งอาจได้ราคาที่ดีกว่าการซื้อจากร้านค้า [ตามตัวอย่างบทความ]
- ข้อควรพิจารณา: ต้องใช้ความระมัดระวังในการซื้อขาย ควรนัดรับสินค้าและตรวจสอบสภาพเครื่องด้วยตนเองหากเป็นไปได้ เพื่อป้องกันปัญหาการหลอกลวง
- ร้านค้าคอมพิวเตอร์มือสองโดยเฉพาะ:
- เหตุผลที่แนะนำ: มีร้านค้าบางแห่งที่เชี่ยวชาญในการจำหน่ายคอมพิวเตอร์มือสองโดยเฉพาะ ซึ่งมักจะมีสินค้าหลากหลายรุ่นและสามารถให้คำแนะนำได้ คุณสามารถไปดูและ ลองสัมผัสเครื่องจริง ก่อนตัดสินใจซื้อได้ ทำให้มั่นใจในสภาพสินค้ามากขึ้น [ตามตัวอย่างบทความ]
- ข้อควรพิจารณา: ราคาอาจจะสูงกว่าการซื้อผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์เล็กน้อย และอาจมีจำนวนร้านค้าไม่มากนักในบางพื้นที่
สำหรับช่องทางทางการของ Dell ในประเทศไทย ส่วนใหญ่จะเน้นการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ใหม่และบริการสำหรับองค์กร ดังนั้น Dell Latitude 5285 2-in-1 จึงไม่น่าจะหาซื้อได้จากช่องทางเหล่านี้แล้ว
8. สรุปและคำแนะนำเรื่องราคา
โดยสรุปแล้ว Dell Latitude 5285 2-in-1 ยังคงเป็นโน๊ตบุ๊ค 2-in-1 ที่ คุ้มค่าที่จะซื้อ อย่างยิ่งในตลาดมือสอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่กำลังมองหาอุปกรณ์ที่มี ความยืดหยุ่นสูง, ทนทาน และ ประสิทธิภาพดีพอสำหรับการทำงานและการเรียนรู้ในชีวิตประจำวัน ในราคาที่เข้าถึงได้
รุ่นนี้เหมาะอย่างยิ่งสำหรับ:
- นักธุรกิจและพนักงานออฟฟิศ: ที่ต้องการอุปกรณ์สำหรับงานเอกสาร, พรีเซนเทชัน, การประชุมออนไลน์ และการเดินทางบ่อยๆ ด้วยคุณสมบัติด้านความปลอดภัยและความทนทานแบบ Business-grade
- นักเรียนนักศึกษา: ที่ต้องการโน๊ตบุ๊คขนาดเล็กกะทัดรัด พกพาสะดวก สำหรับการเรียน, จดเลคเชอร์ด้วยปากกา, และงานโปรเจกต์ต่างๆ [ตามตัวอย่างบทความ, 12, 15, 36]
- ผู้ที่ทำงานแบบ Work From Anywhere: ที่ต้องการความคล่องตัว สามารถปรับเปลี่ยนโหมดการใช้งานได้ตามสถานการณ์ และมีน้ำหนักเบา
- ผู้ที่มีงบประมาณจำกัด: แต่อยากได้คอมพิวเตอร์ที่มีคุณภาพและฟังก์ชันการทำงานที่ครบครันกว่าแท็บเล็ตทั่วไป หรือโน๊ตบุ๊คราคาประหยัดรุ่นอื่นๆ
การเลือกรุ่นย่อย (Core i5 หรือ i7) หรือขนาด SSD (128GB หรือ 256GB) ควรพิจารณาจากงบประมาณและปริมาณงานที่คุณต้องทำ หากเน้นงานเอกสารทั่วไปและท่องเว็บ รุ่น Core i5 พร้อม SSD 128GB ก็เพียงพอแล้ว แต่หากมีไฟล์งานเยอะ หรือต้องการความลื่นไหลสูงสุดในการเปิดโปรแกรมหลายๆ อย่างพร้อมกัน การเลือกรุ่น SSD 256GB ขึ้นไปจะตอบโจทย์กว่า สิ่งสำคัญคือการตรวจสอบสภาพเครื่องและสอบถามรายละเอียดจากผู้ขายให้ถี่ถ้วนก่อนตัดสินใจ เพื่อให้ได้ Dell Latitude 5285 2-in-1 ที่ตรงใจและคุ้มค่าที่สุดในตลาดมือสอง!
วิดีโอที่เกี่ยวข้อง
แนะนำสำหรับคุณ
รวม ห้องพักรายวัน พัทยากลาง ราคาถูก: พักสบาย งบไม่บานปลาย
ราคา Garmin Fenix 5S: นาฬิกา Multipsport GPS สำหรับผู้หญิงและคนข้อมือเล็ก
ราคาล่าสุด นาฬิกา Breitling 1884 ของแท้ รุ่นฮิต
ราคา iPhone 11 ติดโปร AIS อัปเดตล่าสุด ผ่อนได้ไหม?
ราคาทองคำย้อนหลัง วันที่ 12 กรกฎาคม 2562
ราคาบ้านในขอนแก่น อัปเดตล่าสุด ทำเลไหนน่าลงทุน?