เครื่องอ่านอีบุ๊ก Kindle หาซื้อที่ B2S ราคาเท่าไหร่? มีรุ่นไหนขายบ้าง


สวัสดีผู้อ่านทุกท่าน วันนี้เราจะมาเจาะลึกเรื่องราวของ เครื่องอ่านอีบุ๊ก Kindle อุปกรณ์คู่ใจของหนอนหนังสือทั่วโลก ที่กำลังได้รับความสนใจเพิ่มขึ้นในตลาดเมืองไทยหลายคนคงสงสัยว่าเจ้าเครื่องนี้หาซื้อได้ที่ไหน โดยเฉพาะที่ร้าน B2S และราคาเท่าไหร่ มีรุ่นไหนน่าสนใจบ้าง มาหาคำตอบไปพร้อมกันเลย!
1. ทำความรู้จัก Kindle: เพื่อนแท้ของนักอ่าน
Kindle คือเครื่องอ่านอีบุ๊ก (E-reader) ที่พัฒนาโดย Amazon ยักษ์ใหญ่ด้านอีคอมเมิร์ซและเทคโนโลยีจากประเทศสหรัฐอเมริกา จุดเด่นของ Kindle คือหน้าจอแบบ E Ink ที่เลียนแบบการอ่านบนกระดาษจริงได้อย่างยอดเยี่ยม ทำให้ไม่มีแสงสะท้อน ไม่ว่าจะอ่านกลางแดดจ้าหรือในที่ร่ม ก็สบายตาเหมือนอ่านหนังสือเล่มจริงๆ ช่วยลดอาการปวดตาจากการจ้องหน้าจอเป็นเวลานานๆ
Kindle ถูกออกแบบมาเพื่อการอ่านโดยเฉพาะ แตกต่างจากแท็บเล็ตทั่วไปที่มัลติฟังก์ชัน ด้วยแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ยาวนานหลายสัปดาห์ต่อการชาร์จเพียงครั้งเดียว และน้ำหนักที่เบา ทำให้พกพาหนังสือหลายพันเล่มติดตัวไปได้ทุกที่ เหมาะสำหรับทุกคนที่รักการอ่าน ไม่ว่าจะเป็นนักเรียน นักศึกษา คนทำงาน หรือผู้สูงอายุที่ต้องการความสะดวกสบายในการเข้าถึงหนังสือ และอยากถนอมสายตาขณะอ่านหนังสือดิจิทัล
2. ช่วงราคา Kindle ในตลาดไทย: ซื้อที่ B2S ราคาเท่าไหร่? มีรุ่นไหนขายบ้าง
สำหรับในตลาดประเทศไทย การหาซื้อ Kindle อาจจะต้องพิจารณาจากหลายช่องทาง โดยเฉพาะที่ร้าน B2S ซึ่งเป็นหนึ่งในตัวเลือกหลักที่หลายคนนึกถึง ร้าน B2S มักจะมี Kindle และเครื่องอ่านอีบุ๊กอื่นๆ วางจำหน่ายตามสาขาใหญ่ๆ ในห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล และบนช่องทางออนไลน์ของ B2S เองด้วย
ราคาของ Kindle ใน B2S นั้น มักจะสูงกว่า การสั่งซื้อโดยตรงจาก Amazon ในต่างประเทศ หรือจากร้านค้าที่ไม่ใช่ตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการในแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซเนื่องจากอาจมีปัจจัยเรื่องภาษีนำเข้าและค่าดำเนินการต่างๆ มาเกี่ยวข้อง อย่างไรก็ตาม การซื้อที่ B2S ก็มีข้อดีคือสามารถเห็นสินค้าจริงและสอบถามข้อมูลได้โดยตรง
โดยทั่วไปแล้ว รุ่นยอดนิยมที่พบได้ในตลาดไทย และอาจมีวางจำหน่ายที่ B2S รวมถึงแพลตฟอร์มออนไลน์อย่าง Lazada และ Shopee มีดังนี้:
- Kindle (รุ่นพื้นฐาน): เป็นรุ่นเริ่มต้น ราคาจะอยู่ประมาณ 4,xxx - 6,xxx บาท (฿) เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นที่ต้องการประสบการณ์การอ่านอีบุ๊กที่คุ้มค่า
- Kindle Paperwhite: รุ่นยอดนิยมที่มีไฟส่องสว่างในตัว ปรับอุณหภูมิสีได้ และกันน้ำได้ ราคาจะสูงขึ้นมาอีกหน่อย อยู่ที่ประมาณ 7,xxx - 10,xxx บาท (฿) โดยรุ่นล่าสุด (Kindle Paperwhite 12th Generation ปี 2024 หรือ 11th Generation เดิม) อาจมีราคาสูงถึงเกือบ 10,000 บาท (฿) ในบางร้าน ส่วนรุ่น Signature Edition (ความจุ 32GB พร้อมระบบชาร์จไร้สายและปรับแสงอัตโนมัติ) อาจอยู่ที่ประมาณ 10,500 บาท (฿)
- Kindle Scribe: รุ่นใหม่ล่าสุดที่มาพร้อมฟังก์ชันการเขียนบันทึกได้ด้วยปากกา ราคาจะค่อนข้างสูงกว่ารุ่นอื่น เริ่มต้นที่ประมาณ 16,590 - 20,590 บาท (฿) ขึ้นอยู่กับความจุ (16GB / 32GB / 64GB)
หากเปรียบเทียบกับราคาในต่างประเทศ หลายครั้งจะพบว่าราคาในไทยอาจจะสูงกว่าประมาณ 20-50% เลยทีเดียว ซึ่งเป็นสิ่งที่นักช้อปชาวไทยต้องพิจารณา อย่างไรก็ตาม การซื้อจากร้านค้าปลีกในไทยอย่าง B2S หรือห้างสรรพสินค้าเช่น Central Online ก็อาจให้ความสบายใจเรื่องการรับประกันและบริการหลังการขายมากกว่า
3. เปรียบเทียบราคากับสินค้าประเภทเดียวกัน
ในตลาดเครื่องอ่านอีบุ๊กของไทย นอกจาก Kindle แล้ว ยังมีแบรนด์อื่นๆ ที่น่าสนใจ เช่น Kobo หรือ Onyx Boox ซึ่งแต่ละแบรนด์ก็มีจุดเด่นและช่วงราคาที่แตกต่างกันไป
- Kindle Paperwhite: หากมองที่รุ่นยอดนิยมอย่าง Paperwhite ที่ราคาประมาณ 7,xxx - 10,xxx บาท ถือเป็นช่วงกลางๆ ที่ให้ฟังก์ชันครบครันสำหรับการอ่านทั่วไป
- Kobo: เครื่องอ่านอีบุ๊กจากแบรนด์ Kobo ก็ได้รับความนิยมเช่นกัน โดยมีรุ่นต่างๆ ที่มีราคาและฟังก์ชันใกล้เคียงกับ Kindle Paperwhite หรืออาจมีฟังก์ชันที่แตกต่างกันเล็กน้อย เช่น การรองรับไฟล์ที่หลากหลายกว่า
- Onyx Boox: สำหรับแบรนด์ Onyx Boox มักจะมีราคาที่สูงกว่า Kindle และ Kobo อย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะรุ่นที่มีหน้าจอสีหรือระบบปฏิบัติการ Android ที่ทำให้สามารถลงแอปพลิเคชันได้หลากหลาย ซึ่งจะทำให้ราคาสูงไปถึง 1x,xxx - 2x,xxx บาท
ดังนั้น หากคุณเน้นประสบการณ์การอ่านที่เรียบง่าย สบายตา และเข้าถึงอีบุ๊กจาก Amazon ได้อย่างง่ายดาย Kindle ก็เป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าในงบประมาณที่เหมาะสม แต่หากต้องการฟังก์ชันเสริม เช่น การจดบันทึก หรือความสามารถในการลงแอปพลิเคชันที่หลากหลาย ก็อาจต้องพิจารณา Kobo หรือ Onyx Boox ที่มีราคาสูงขึ้นไป
4. อุปกรณ์เสริมและบริการที่รวมมา
เมื่อซื้อ Kindle ในประเทศไทย สิ่งที่คุณจะได้รับโดยทั่วไปคือ:
- ตัวเครื่อง Kindle: มาพร้อมกับสายชาร์จ USB-C (สำหรับรุ่นใหม่ๆ) และคู่มือเริ่มต้นการใช้งาน
- การรับประกัน: ร้านค้าในประเทศไทยที่นำเข้า Kindle มาจำหน่ายมักจะมีการรับประกันสินค้าให้ โดยอาจเป็น ประกันร้าน ระยะเวลา 1 ปี หรือ 13 เดือน ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้บริโภคชาวไทยให้ความสำคัญอย่างมาก หากพบปัญหาการใช้งาน สามารถนำเครื่องเข้ารับบริการได้ที่ร้านค้าที่ซื้อมา อย่างไรก็ตาม การรับประกันอาจแตกต่างกันไปในแต่ละผู้ขาย จึงควรสอบถามให้ละเอียดก่อนตัดสินใจซื้อ
- ค่าขนส่ง: หากซื้อผ่านแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซชั้นนำอย่าง Lazada หรือ Shopee ร้านค้าหลายแห่งมักจะมีโปรโมชั่น ฟรีค่าจัดส่ง หรือมีส่วนลดค่าจัดส่งเมื่อซื้อครบตามกำหนด
- ของแถม/โปรโมชั่น: บางร้านค้าอาจมีของแถมเล็กๆ น้อยๆ เช่น ฟิล์มกันรอย เคส หรือคูปองส่วนลดสำหรับการซื้อครั้งต่อไป ควรตรวจสอบโปรโมชั่น ณ จุดขายหรือบนหน้าสินค้า
5. โปรโมชั่นและคำแนะนำการซื้อ
การซื้อ Kindle ให้ได้ราคาดีที่สุดในไทยนั้น ต้องอาศัยจังหวะและช่องทางที่เหมาะสม:
- ช่วงเทศกาลลดราคา: แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซอย่าง Lazada และ Shopee มักจะจัดโปรโมชั่นลดราคาครั้งใหญ่ในช่วง Double Digit Sale เช่น 11.11, 12.12 หรือ 6.6, 9.9 รวมถึงเทศกาลสำคัญๆ ของไทย เช่น สงกรานต์ หรือช่วงปลายปี นี่เป็นโอกาสทองที่คุณจะได้ซื้อ Kindle ในราคาที่ถูกลงกว่าปกติมาก
- ร้านค้าระดับแฟลกชิพบนแพลตฟอร์ม: ลองมองหาร้านค้าที่เป็น Official Store หรือ Mall บน Lazada และ Shopee ถึงแม้จะเป็นร้านที่ไม่ใช่ Amazon โดยตรง แต่เป็นร้านค้าที่เชื่อถือได้และมักจะมีโปรโมชั่นหรือส่วนลดอยู่เป็นประจำ ควรติดตามข่าวสารจากร้านค้าเหล่านี้
- เปรียบเทียบราคา: ก่อนตัดสินใจซื้อ ควรเปรียบเทียบราคาจากหลายๆ แหล่ง ไม่ว่าจะเป็น B2S, Central Online, Lazada, Shopee รวมถึงร้านค้าออนไลน์อิสระที่น่าเชื่อถือ เพราะราคาอาจแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ
คำแนะนำ: หากไม่รีบใช้มากนัก การรอซื้อในช่วงโปรโมชั่น จะช่วยประหยัดเงินได้มาก และอย่าลืมตรวจสอบเงื่อนไขการรับประกันและบริการหลังการขายของแต่ละร้านค้าให้ดี
6. รีวิวและฟีดแบ็กจากผู้ใช้ในไทย
จากประสบการณ์ของผู้ใช้ Kindle ในประเทศไทย มักจะได้รับฟีดแบ็กเชิงบวกในหลายด้าน:
- ความสบายตา: ผู้ใช้ส่วนใหญ่ชื่นชอบหน้าจอ E Ink ที่อ่านสบายตา ไม่เหมือนการจ้องจอโทรศัพท์หรือแท็บเล็ต ทำให้สามารถอ่านหนังสือได้นานขึ้นโดยไม่เมื่อยล้า
- แบตเตอรี่อึด: แบตเตอรี่ที่ใช้งานได้นานหลายสัปดาห์เป็นจุดเด่นที่ทำให้ Kindle เหมาะสำหรับการพกพาไปอ่านนอกสถานที่โดยไม่ต้องกังวลเรื่องการชาร์จบ่อยๆ
- น้ำหนักเบาและพกพาง่าย: ด้วยขนาดที่กะทัดรัดและน้ำหนักที่เบา ทำให้ Kindle เป็นอุปกรณ์ที่พกพาสะดวก ไม่ว่าจะใส่กระเป๋าเดินทาง หรือถืออ่านด้วยมือเดียวก็ทำได้สบาย
- คุณภาพคุ้มราคา: แม้ราคาในไทยจะสูงกว่าต่างประเทศเล็กน้อย แต่ผู้ใช้หลายคนมองว่าเมื่อเทียบกับประสบการณ์การอ่านที่ได้รับ และความทนทานของตัวเครื่องแล้ว ถือว่าคุ้มค่ากับการลงทุน โดยเฉพาะหากเป็นคนที่อ่านหนังสือเป็นประจำ
- การเข้าถึงอีบุ๊ก: แม้การเข้าถึงอีบุ๊กภาษาไทยบน Kindle โดยตรงจาก Amazon อาจจะยังไม่แพร่หลายเท่าภาษาอังกฤษ แต่ผู้ใช้ก็ยังคงสนุกกับการอ่านอีบุ๊กภาษาอังกฤษที่มีให้เลือกมากมายมหาศาล
7. ช่องทางการซื้อที่แนะนำ
สำหรับการหาซื้อ Kindle ในประเทศไทย มีหลายช่องทางที่คุณสามารถพิจารณาได้ ดังนี้:
- B2S: เป็นหนึ่งในช่องทางออฟไลน์หลักที่สามารถหาซื้อ Kindle ได้ B2S มีสาขาอยู่ทั่วประเทศ โดยเฉพาะในห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล เช่น Central World, Central Chidlom, Central Ladprao, Central Rama 9 คุณสามารถเข้าไปชมสินค้าจริง สอบถามข้อมูลจากพนักงาน และบางครั้งก็มีโปรโมชั่นเฉพาะที่ร้าน อย่างไรก็ตาม ราคามักจะสูงกว่าช่องทางออนไลน์
- Central Online และ Power Buy: เนื่องจาก B2S เป็นส่วนหนึ่งของ Central Group คุณอาจพบ Kindle วางจำหน่ายบนเว็บไซต์ Central Online หรือที่ร้าน Power Buy ด้วย ซึ่งให้ความมั่นใจในเรื่องการรับประกันและบริการหลังการขายจากผู้ขายรายใหญ่
- Lazada และ Shopee: แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซยอดนิยมในไทย เป็นแหล่งรวมผู้ขายทั้งที่เป็นร้านค้าและผู้ค้ารายย่อยจำนวนมาก คุณจะพบ Kindle หลากหลายรุ่นและหลายราคา ข้อดีคือมีตัวเลือกเยอะ สามารถเปรียบเทียบราคาและอ่านรีวิวจากผู้ซื้อคนอื่นได้ง่าย มักมีโปรโมชั่นลดราคาและโค้ดส่วนลดบ่อยครั้ง นอกจากนี้ ร้านค้าหลายแห่งยังจัดส่งจากกรุงเทพฯ ทำให้ได้รับสินค้าค่อนข้างเร็ว
- การสั่งซื้อจาก Amazon โดยตรง (ระหว่างประเทศ): แม้จะซับซ้อนกว่าและอาจมีค่าใช้จ่ายเรื่องภาษีและค่าจัดส่งที่ต้องคำนวณให้ดี แต่บางครั้งก็ยังได้ราคาที่ถูกกว่าในไทยหากรวมทุกอย่างแล้ว การสั่งจาก Amazon โดยตรงมักจะได้รับประกันจาก Amazon และตัวเลือกสินค้าที่ครบถ้วนกว่า
8. สรุปความคุ้มค่าและคำแนะนำในการซื้อ
สรุปแล้ว เครื่องอ่านอีบุ๊ก Kindle ยังคงเป็นอุปกรณ์ที่น่าสนใจและคุ้มค่าสำหรับนักอ่านในประเทศไทยเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะถ้าคุณเป็นคนที่:
- อ่านหนังสือเยอะ: และต้องการถนอมสายตา
- ชอบพกพาหนังสือไปทุกที่: เพราะ Kindle เบาและมีแบตเตอรี่ที่ยาวนาน
- เน้นการอ่านเป็นหลัก: ไม่ต้องการฟังก์ชันอื่นๆ เหมือนแท็บเล็ต
- ต้องการอุปกรณ์ที่ใช้งานง่ายและเสถียร: ระบบของ Kindle ออกแบบมาเพื่อการอ่านโดยเฉพาะ
Kindle Paperwhite เป็นรุ่นที่แนะนำสำหรับคนส่วนใหญ่ เพราะให้ฟังก์ชันที่จำเป็นครบครัน ทั้งไฟส่องสว่างในตัวและความสามารถกันน้ำ ในราคาที่เข้าถึงได้ง่ายที่สุดเมื่อเทียบกับฟังก์ชันที่ให้มา ส่วน Kindle Scribe เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการฟังก์ชันการจดบันทึกเพิ่มเติม หรือต้องการหน้าจอขนาดใหญ่เป็นพิเศษ ซึ่งราคาก็จะสูงขึ้นตามไปด้วย
สำหรับคำถามที่ว่า "คุ้มค่าที่จะซื้อไหม?" คำตอบคือ คุ้มค่ามาก หากคุณเป็นหนอนหนังสือตัวจริง และสามารถรับได้กับราคาที่อาจจะสูงกว่าในต่างประเทศเล็กน้อย การลงทุนกับ Kindle จะช่วยยกระดับประสบการณ์การอ่านของคุณได้อย่างแน่นอน
ในการซื้อ Kindle ที่ B2S แม้ราคาอาจจะสูงกว่าช่องทางออนไลน์อื่นๆ แต่ก็มอบความสะดวกสบายในการเข้าถึงสินค้า และความมั่นใจจากร้านค้าปลีกขนาดใหญ่ การเปรียบเทียบราคาจาก B2S กับแพลตฟอร์มออนไลน์อย่าง Lazada และ Shopee ก่อนตัดสินใจซื้อ จะช่วยให้คุณได้ Kindle ในราคาและเงื่อนไขที่คุ้มค่าที่สุดค่ะ
วิดีโอที่เกี่ยวข้อง
แนะนำสำหรับคุณ
ราคาพระเครื่อง หลวงพ่อนุ้ย วัดม่วง สุราษฎร์ธานี รุ่น 1: รุ่นนิยม หายาก ราคาพุ่ง
รวม ห้องพักรายวัน พัทยากลาง ราคาถูก: พักสบาย งบไม่บานปลาย
ราคา Johnnie Walker Platinum Label ล่าสุด (อัปเดตปี 2025)
ราคา iPhone 6 Plus ล่าสุด โปรโมชั่น และเคล็ดลับการซื้อ ปี 2025
ราคาเตาอบ Rational Combi Steamer: อุปกรณ์ครัวมืออาชีพ ประหยัดเวลา ทำอาหารได้หลากหลาย
ราคา หุ้น IPO บริษัท ZEN (ZEN Corporation Group) อัปเดตล่าสุด