รีวิวรองพื้น Benefit Hello Happy เนื้อบางเบาแต่ปกปิด คุมมันดีจริงมั้ย

เบื่อไหมกับการที่ต้องเลือกระหว่างรองพื้นเนื้อบางเบาแต่ปกปิดไม่พอ กับรองพื้นปกปิดดีแต่รู้สึกหนักหน้า? วันนี้เราจะพาคุณไปเจาะลึก Benefit Hello Happy Soft Blur Foundation รองพื้นที่เคลมว่าให้ผิวดูเป็นธรรมชาติ บางเบาไร้น้ำหนัก แถมยังช่วยเบลอผิวให้เรียบเนียน และที่สำคัญคือ คุมมันได้ดีจริงหรือไม่? หลังลองใช้มาระยะหนึ่ง เราจะมาไขข้อสงสัยทุกประเด็น พร้อมบอกทุกสิ่งที่ควรรู้ก่อนตัดสินใจซื้อ!

1. ภาพรวมผลิตภัณฑ์: มาทำความรู้จัก Benefit Hello Happy Soft Blur Foundation กัน!

แบรนด์: Benefit Cosmetics

รุ่น: Hello Happy Soft Blur Foundation

ประเภท: รองพื้นเนื้อลิควิด

ปีที่วางขาย: ประมาณปี 2018

ช่วงราคา: ประมาณ 1,250 – 1,350 บาท (ขนาด 30ml) / 450 บาท (ขนาด 6ml)

การวางตำแหน่งสินค้า: รองพื้นเนื้อบางเบา-ปานกลาง ที่เน้นงานผิวธรรมชาติ อำพรางรูขุมขนและจุดบกพร่อง เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการฟินิชลุคกึ่งแมตต์ที่ดูไม่หนา ไม่โบ๊ะ

สรุปจุดเด่นหลัก:

• เนื้อบางเบาไร้น้ำหนัก: รู้สึกสบายผิวเหมือนไม่ได้ทา
• ปกปิดบางเบาถึงปานกลาง: สามารถบิ้วด์เพิ่มระดับการปกปิดได้
• ฟินิชกึ่งแมตต์ธรรมชาติ: ให้ผิวดูเนียนนุ่ม ไม่แมตต์จนแห้งกรัง
• เทคโนโลยี Soft-Focus Optical Blurring Spheres: ช่วยอำพรางรูขุมขนและเบลอริ้วรอย
• มีสารกันแดด SPF 15 PA+++: ปกป้องผิวจากแสงแดด
• คุมมันได้ดี: ช่วยควบคุมความมันส่วนเกินระหว่างวัน

2. ดีไซน์ & รูปลักษณ์ภายนอก: ความน่ารักที่มาพร้อมฟังก์ชัน!

รองพื้น Benefit Hello Happy Soft Blur Foundation มาในขวดแก้วทรงเหลี่ยม ขนาดพอดีมือ ฝาขวดสีชมพูเมทัลลิกวาววับ ดูน่ารักสดใสตามสไตล์ของ Benefit มีรูปหน้ายิ้มตาหัวใจเป็นเอกลักษณ์อยู่ด้านหน้าขวด

ตัวขวดแก้วให้ความรู้สึกแข็งแรงและดูดีบนโต๊ะเครื่องแป้ง มีหัวปั๊มมาให้ในตัวซึ่งเป็นสิ่งสำคัญและสะดวกมากสำหรับการใช้งานรองพื้น เพราะช่วยให้ควบคุมปริมาณการใช้ได้ง่ายและถูกสุขอนามัย

ขนาดและน้ำหนัก: ขวดขนาด 30ml กำลังพอดีสำหรับการใช้งานประจำวัน และมีขนาด 6ml สำหรับพกพาหรือทดลองใช้

สีที่มีให้เลือก: มีให้เลือกถึง 12 เฉดสี เพื่อให้เข้ากับโทนสีผิวที่หลากหลาย

อุปกรณ์เสริมในกล่อง: โดยปกติรองพื้นจะมาเฉพาะตัวขวดเท่านั้น ไม่มีอุปกรณ์เสริมพิเศษในกล่อง

3. ประสบการณ์ในการใช้งานฟังก์ชันหลัก: บางเบาแต่ปกปิด คุมมันจริงหรือ?

มาถึงหัวใจหลักของการรีวิวคือประสิทธิภาพของรองพื้นตัวนี้กัน รองพื้น Benefit Hello Happy Soft Blur Foundation มีเนื้อสัมผัสแบบลิควิดที่ค่อนข้างเหลว แต่ก็ไม่ได้เหลวเป็นน้ำจนเกินไป แนะนำให้เขย่าขวดก่อนใช้ทุกครั้งเพื่อให้ส่วนผสมเข้ากันดี

การปกปิด: รองพื้นตัวนี้ให้การปกปิดในระดับ บางเบาถึงปานกลาง ซึ่งหมายความว่ามันจะช่วยปรับสีผิวให้สม่ำเสมอและเบลอจุดบกพร่องเล็กๆ น้อยๆ อย่างรอยแดงหรือรอยสิวตื้นๆ ได้เป็นอย่างดี หากต้องการการปกปิดที่มากขึ้น ก็สามารถลงซ้ำเป็นเลเยอร์ได้โดยไม่รู้สึกหนักหน้าหรือเป็นคราบ

ความบางเบาและการควบคุมความมัน: จุดเด่นที่ Benefit เคลมคือความบางเบา ซึ่งผู้ใช้ส่วนใหญ่ยืนยันว่ารู้สึกเหมือนไม่ได้ทา และรู้สึกสบายผิวมากๆ ในส่วนของการคุมมัน จากการทดลองใช้ในสภาพอากาศเมืองไทยที่ร้อนชื้น พบว่ารองพื้นตัวนี้ทำหน้าที่ได้ดีเยี่ยมในการช่วยลดความมันส่วนเกินบนใบหน้า หลายคนพบว่าไม่จำเป็นต้องซับมันบ่อยครั้งในระหว่างวัน หรืออาจจะซับแค่ครั้งเดียวก็เพียงพอแล้ว ทำให้ผิวดูแมตต์อย่างเป็นธรรมชาติยาวนาน

ฟินิชลุค: ให้ฟินิชลุคแบบ Natural Soft-Matte คือผิวจะดูเนียนเป็นธรรมชาติ ไม่ได้แมตต์แบบไร้ความมันวาวจนดูแห้งกร้าน แต่จะยังคงมีความเป็นผิวอยู่ ทำให้หน้าดูมีมิติ เทคโนโลยี Soft-Focus Optical Blurring Spheres ทำงานได้ดีในการอำพรางรูขุมขนให้ดูเล็กลงและผิวดูเรียบเนียนขึ้นทันทีที่ทา

4. ประสบการณ์การใช้งาน & ความง่ายในการใช้: ทาแล้วเนียนกริบ มือใหม่ก็เอาอยู่!

รองพื้น Benefit Hello Happy Soft Blur Foundation ใช้งานง่ายมากๆ ไม่ว่าจะเป็นมือใหม่หรือมือโปร เนื้อรองพื้นที่ค่อนข้างเหลวช่วยให้เกลี่ยง่าย ไม่เป็นคราบ หรือตกร่อง

วิธีใช้: สามารถทาได้หลากหลายวิธี ไม่ว่าจะเป็นนิ้วมือ ฟองน้ำ หรือแปรง * สำหรับการปกปิดบางเบาและลุคธรรมชาติ: ใช้นิ้วมือหรือฟองน้ำไข่ค่อยๆ แท็บลงบนผิว * สำหรับการปกปิดที่ดีขึ้นและเบลอรูขุมขน: แนะนำให้ใช้แปรงลงรองพื้นหลังจากการเตรียมผิวด้วยไพรเมอร์

รองพื้นเซ็ตตัวค่อนข้างเร็วแต่ก็ยังมีเวลาให้เกลี่ยได้โดยไม่แห้งไปก่อน เมื่อเซ็ตตัวแล้วจะให้ความรู้สึกสบายผิว ไม่เหนอะหนะ

5. แบตเตอรี่ / พลังงาน / ความคุ้มค่าในระยะยาว: ติดทน คุมมัน คุ้มค่าในทุกวัน!

สำหรับรองพื้นแล้ว "แบตเตอรี่" คือความสามารถในการติดทนนานและการควบคุมความมันตลอดวัน ซึ่ง Benefit Hello Happy Soft Blur Foundation ทำได้ดีเกินคาด

ระยะเวลาการติดทน: รองพื้นตัวนี้เคลมว่าติดทนนานถึง 12 ชั่วโมง และจากการใช้งานจริงก็พิสูจน์แล้วว่าติดทนได้ยาวนานตลอดวัน แม้ในสภาพอากาศร้อนชื้นของเมืองไทย ไม่เป็นคราบ ไม่ไหลเยิ้ม และยังคงสภาพผิวที่ดูดีอยู่

การควบคุมความมัน: นี่คือจุดที่ทำให้หลายคนประทับใจ รองพื้นช่วยควบคุมความมันได้ดีเยี่ยม ทำให้ผิวดูแมตต์เป็นธรรมชาติโดยไม่ต้องซับหน้าบ่อย เหมาะสำหรับคนที่มีผิวมันหรือผิวผสมที่มักเจอปัญหาหน้ามันเยิ้มระหว่างวัน

ความคุ้มค่า: แม้ราคาอาจจะสูงกว่ารองพื้น Drugstore ทั่วไป แต่ด้วยปริมาณ 30ml และประสิทธิภาพที่ให้มา ทั้งความบางเบา การปกปิดที่ดูเป็นธรรมชาติ การคุมมัน และการติดทนนาน ถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าสำหรับคนที่ต้องการงานผิวสวยสมบูรณ์แบบในทุกๆ วัน

6. ข้อดี-ข้อเสีย: เจาะลึกมุมบวกและมุมที่คุณอาจต้องคิด!

ข้อดี:

• เนื้อบางเบา: รู้สึกสบายผิวตลอดวัน ไม่หนักหน้า
• คุมมันได้ดีเยี่ยม: เหมาะกับคนผิวมันหรือผิวผสม ช่วยลดความมันส่วนเกิน
• ปกปิดเป็นธรรมชาติ: ให้ลุคผิวสวย ไม่โบ๊ะ สามารถบิ้วด์เพิ่มได้
• เบลอรูขุมขนได้ดี: ด้วยเทคโนโลยี Soft-Focus ทำให้ผิวดูเรียบเนียน
• ติดทนนาน: สามารถอยู่ได้ยาวนานตลอดวันถึง 12 ชั่วโมง
• ใช้งานง่าย: เกลี่ยง่าย ไม่เป็นคราบ
• มีสารกันแดด SPF 15 PA+++: ช่วยปกป้องผิวในชีวิตประจำวัน

ข้อเสีย:

• เฉดสีอาจไม่หลากหลายเท่าที่ควรสำหรับบางโทนผิว: แม้มี 12 เฉดสี แต่บางรีวิวก็ระบุว่าส่วนใหญ่เน้นโทนอุ่น ทำให้คนผิวโทนเย็นอาจหายากหน่อย
• การปกปิดอาจไม่เพียงพอสำหรับปัญหาสิวหนักๆ: หากมีรอยสิวหรือรอยดำที่ชัดเจนมาก อาจต้องใช้คอนซีลเลอร์ช่วย
• ราคาค่อนข้างสูง: เมื่อเทียบกับรองพื้นในตลาด
• ขวดแก้วอาจต้องระมัดระวัง: มีความเสี่ยงที่จะแตกได้หากทำตก

7. เหมาะกับใคร & คำแนะนำในการซื้อ: ใครควรมีติดกระเป๋าบ้าง?

Benefit Hello Happy Soft Blur Foundation เหมาะกับ:

• ผู้ที่มีผิวมันถึงผิวผสม: ที่ต้องการรองพื้นที่ช่วยควบคุมความมันและให้ฟินิชลุคกึ่งแมตต์
• ผู้ที่ต้องการงานผิวธรรมชาติ: ไม่ชอบรองพื้นที่ปกปิดหนาเตอะ แต่ยังต้องการปรับสีผิวให้สม่ำเสมอและเบลอรูขุมขน
• ผู้ที่ชอบความบางเบา: รู้สึกสบายผิวเหมือนไม่ได้ทา
• ผู้ที่ต้องการรองพื้นติดทนนานในชีวิตประจำวัน: ไม่ต้องเติมหน้าระหว่างวันบ่อยๆ

ควรซื้อเลยไหม?: หากคุณกำลังมองหารองพื้นที่ตอบโจทย์ตามข้างต้น และงบประมาณไม่ใช่ปัญหา แนะนำให้ซื้อเลย! โดยเฉพาะช่วงที่มีโปรโมชั่น หรือสามารถหาไซส์มินิมาทดลองใช้ก่อนเพื่อความมั่นใจ

8. เปรียบเทียบกับสินค้าคล้ายๆ กัน (ถ้ามี):

หากจะเปรียบเทียบกับรองพื้นตัวอื่นในตระกูล Benefit ด้วยกันเอง บางคนอาจสับสนกับ Benefit Hello Happy Flawless Brightening Foundation (ซึ่งเป็นคนละสูตรกัน แม้ชื่อจะคล้าย) โดยตัว Flawless Brightening จะเน้นเรื่องความกระจ่างใสและชุ่มชื้นมากกว่า ในขณะที่ Soft Blur จะเน้นเรื่องการเบลอผิว ฟินิชกึ่งแมตต์ และการคุมมันได้ดีกว่า ดังนั้นหากโจทย์ของคุณคือ "คุมมัน" และ "เบลอรูขุมขน" Hello Happy Soft Blur Foundation คือตัวเลือกที่ตรงจุดกว่าอย่างแน่นอน

9. บริการหลังการขายและช่องทางการซื้อ: หาซื้อได้ที่ไหน?

Benefit Cosmetics เป็นแบรนด์เครื่องสำอางชั้นนำที่มีจำหน่ายในหลายช่องทาง ทำให้มั่นใจได้ในเรื่องบริการหลังการขายและการรับประกันสินค้า

• ช่องทางการซื้อ: สามารถหาซื้อ Benefit Hello Happy Soft Blur Foundation ได้ที่เคาน์เตอร์ Benefit Cosmetics ในห้างสรรพสินค้าชั้นนำ, Sephora ทั้งหน้าร้านและออนไลน์, รวมถึงร้านค้าออนไลน์อย่างเป็นทางการ และแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซยอดนิยม เช่น Lazada และ Shopee
• โปรโมชั่น: แนะนำให้ติดตามโปรโมชั่นของแต่ละร้านค้าในช่วงเวลาต่างๆ มักจะมีส่วนลด ของแถม หรือโปรโมชั่นส่งฟรี ซึ่งจะช่วยให้คุณได้รองพื้นที่คุ้มค่ายิ่งขึ้น
• การรับประกัน: สินค้าแท้จากเคาน์เตอร์หรือร้านค้าทางการมักมีการรับประกันคุณภาพสินค้า หากพบปัญหา สามารถติดต่อสอบถามกับทางร้านค้าได้โดยตรง

10. บทสรุปและคำแนะนำในการซื้อ: Happy กับผิวสวยไร้ที่ติ!

หลังจากได้ทดลองและเจาะลึก Benefit Hello Happy Soft Blur Foundation แล้ว ต้องบอกเลยว่ารองพื้นตัวนี้ ตอบโจทย์สำหรับผู้ที่ต้องการรองพื้นที่ให้งานผิวสวยเป็นธรรมชาติ บางเบาแต่ปกปิดได้ดี และที่สำคัญคือคุมมันได้เยี่ยมยอด!

หากคุณมีผิวมันหรือผิวผสม และกำลังมองหารองพื้นที่ใช้ในชีวิตประจำวัน ที่ช่วยให้ผิวดูเนียน เบลอรูขุมขน และติดทนนานโดยไม่ต้องกังวลเรื่องความมันเยิ้มระหว่างวัน รองพื้นตัวนี้เป็นตัวเลือกที่ไม่ทำให้ผิดหวังอย่างแน่นอน คุ้มค่าแก่การลงทุนเพื่อผิวที่ดู Happy ในทุกๆ วัน!

วิดีโอที่เกี่ยวข้อง

• คัดมาแล้ว! รองพื้น 3 ตัวที่เนื้อบางเบาผิวสวยที่สุด | MAYNESSA
• รีวิวรองพื้นงานผิวสวย คุมมัน ติดทน คัดมาให้ 3 ตัวเด็ดที่ชอบ จึ้งๆ ...
• รีวิวสีรองพื้น Fenty Beauty: เลือกโทนที่ใช่
• รีวิวรองพื้น Fenty Beauty สูตรใหม่อย่างละเอียด
• รีวิวรองพื้นหลักร้อย ปกปิดดีไม่เป็นคราบ