อัปเดตราคา Proton Exora รุ่นใหม่ vs มือสอง เลือกรถครอบครัวแบบไหนดีในปี 2025?


สวัสดีจ้า พ่อบ้าน แม่บ้านใจกล้า หรือใครที่กำลังมองหารถครอบครัวไซส์ใหญ่ที่นั่งได้หมดทั้งบ้าน ลากปู่ ย่า ตา ยาย ไปเที่ยวได้สบายๆ แต่! งบประมาณไม่ถึงกับต้องขายไต วันนี้เรามีตัวเลือกที่น่าสนใจมากๆ มาเม้าท์มอยกัน นั่นก็คือเจ้า Proton Exora นั่นเอง! รถ MPV 7 ที่นั่งจากแดนเสือเหลือง ที่ครั้งหนึ่งเคยเข้ามาวิ่งในบ้านเราให้เห็นอยู่เต็มถนน แล้วตอนนี้ในปี 2025 เนี่ย ราคาค่าตัวมันเป็นยังไงบ้าง? ทั้งรถใหม่ (อ๊ะๆ เดี๋ยวเฉลย!) กับรถมือสองสุดเย้ายวนใจ มาดูกันว่าควรเลือกแบบไหนดีนะ!
1. เอ๊ะๆ แล้วเจ้า Proton Exora นี่มันคือรถอะไรกันนะ?
มาทำความรู้จักกับเจ้า Exora กันก่อนเลยจ้า น้องเค้าเป็นรถยนต์นั่งอเนกประสงค์แบบ MPV (Multi-Purpose Vehicle) ไซส์ใหญ่หน่อย ที่สามารถขนคนได้สูงสุด 7 ที่นั่งแบบสบายๆ (หรือ 6+1 ก็ว่าไป) เหมาะมากๆ สำหรับครอบครัวใหญ่ที่มีสมาชิกหลายคน หรือคนที่ชอบเดินทางไปไหนมาไหนแบบยกโขยง หรือจะเอาไว้ขนของ ขนสัมภาระเวลาไปจ่ายตลาดหรือไปต่างจังหวัดก็คือดีย์! Proton Exora เค้าเป็นผลผลิตจากค่าย Proton ซึ่งเป็นแบรนด์รถยนต์แห่งชาติจากประเทศมาเลเซียเพื่อนบ้านเรานี่เอง เค้าเข้ามาทำตลาดในไทยอยู่ช่วงหนึ่งนะ ด้วยจุดเด่นเรื่องขนาดที่ใหญ่กว่าคู่แข่งในราคาที่เข้าถึงง่าย ทำให้เป็นที่นิยมในกลุ่มคนที่มองหารถครอบครัวที่คุ้มค่าตัวมากๆ
ส่วนประวัติแบรนด์ Proton ในไทยเนี่ย เค้าก็เข้ามาทำตลาดตั้งแต่ปี 2007 นู่นเลยนะ มีการร่วมมือกับบริษัทไทยในการนำเข้ารถเข้ามาขาย แต่สุดท้ายก็ยุติการทำตลาดรถยนต์นั่งในไทยไปในช่วงปี 2018 (แต่ตัวโรงงานในมาเลเซียก็ยังผลิตอยู่พักนึง จนถึงปี 2023 นะ)
2. แล้วราคา Proton Exora ในตลาดไทยปี 2025 เป็นไงบ้าง?
เอาล่ะ! มาถึงคำถามที่ค้างคาใจ "รถใหม่ปี 2025 มีขายไหม?" ขอฟันธงตรงนี้เลยว่า... ไม่มีแล้วจ้า! อย่างที่บอกไปว่า Proton เค้าเลิกขายรถยนต์นั่งในไทยไปพักใหญ่แล้ว เพราะฉะนั้นปี 2025 นี้ ถ้าอยากได้เจ้า Exora ต้องพุ่งตรงไปที่ ตลาดรถมือสอง เท่านั้นนะจ๊ะ!
แล้วราคามือสองในบ้านเราตอนนี้เป็นยังไง? บอกเลยว่า เป็นมิตรกับเงินในกระเป๋ามากๆ! ราคาจะมีความหลากหลายสุดๆ ขึ้นอยู่กับปีที่ผลิต รุ่นย่อย สภาพรถ เลขไมล์ และอารมณ์คนขาย! อิอิ แต่เท่าที่ไปสำรวจมา ราคา Proton Exora มือสองในปี 2025 เนี่ย สตาร์ทกันตั้งแต่ หลักหมื่นปลายๆ ไปจนถึง สามแสนปลายๆ หรืออาจจะถึงสี่แสนต้นๆ สำหรับคันที่สภาพนางฟ้าจริงๆ ปีใหม่หน่อยๆ (เช่น ปี 2012-2015) หรือรุ่นท็อปที่เป็นเครื่อง Turbo เรียกว่ามีงบไม่ถึงแสนก็อาจจะได้รถ 7 ที่นั่งไปขับแล้วนะ แต่ก็ต้องทำใจเรื่องปีและสภาพหน่อยนะจ๊ะ
ลองไปส่องๆ ดูได้ตามแพลตฟอร์มออนไลน์สำหรับรถมือสองหลักๆ ในไทย เช่น Kaidee Auto, TaladROD.com, ENNXO หรือตามกลุ่มซื้อขายรถมือสองใน Facebook ก็มีประกาศขายเยอะแยะเลย ส่วนร้านค้าปลีกใหญ่ๆ อย่างพวกเต็นท์รถมือสองทั่วไปก็มีให้เห็นบ้างประปรายนะ
3. เทียบราคากับรถ 7 ที่นั่งรุ่นอื่นในตลาด?
ถ้าเอาเจ้า Exora มือสองมาเทียบกับรถ 7 ที่นั่งรุ่นอื่นๆ ที่ยังมีขายเป็นรถใหม่ในปัจจุบันเนี่ย ราคาคือ ต่างกันลิบลับ! รถ MPV 7 ที่นั่งป้ายแดงเดี๋ยวนี้มีตั้งแต่เจ็ดแสนบาทไปจนถึงล้านกว่าบาทเลย แต่ถ้าเทียบกับรถ 7 ที่นั่งในตลาดมือสองด้วยกันในงบประมาณใกล้เคียงกัน (เช่น ไม่เกิน 5 แสนบาท) Exora ก็ยังถือว่ามีราคาที่น่าสนใจมากๆ ตัวเลือกอื่นๆ ในงบประมาณนี้ก็จะมีพวก Toyota Innova รุ่นเก่าหน่อย, Honda Mobilio, Honda BR-V, Suzuki Ertiga, หรือบางทีอาจจะเจอ Toyota Sienta หรือ Mitsubishi Xpander ตัวเริ่มต้นปีเก่าๆ
จุดเด่นของ Exora เมื่อเทียบกับพวกนี้ในราคาใกล้เคียงกันคือ มักจะได้รถที่ ขนาดตัวถังใหญ่กว่า และบางทีได้ออปชันที่ดูครบครันกว่าในราคาที่ถูกกว่านะ แต่ก็ต้องแลกมากับการที่มันไม่ใช่รถตลาด อาจจะห่วงเรื่องการซ่อมและอะไหล่ (ซึ่งเดี๋ยวนี้ดีขึ้นแล้วนะ!)
4. ซื้อแล้วได้อะไรมาบ้างนะ (แบบมือสอง)?
อันนี้แหละคือเรื่องที่ต้องลุ้นและเช็คให้ดีเวลาซื้อมือสองนะจ๊ะ! สิ่งที่มักจะได้มาด้วยก็คือตัวรถนั่นแหละ! 🤣 อุปกรณ์มาตรฐานพื้นฐาน เช่น ล้อ พวงมาลัย เบาะนั่ง (ส่วนใหญ่เป็นผ้าหรือหนังสังเคราะห์ ขึ้นอยู่กับรุ่นย่อย) แอร์ (แน่นอนว่ามี! และ Exora มีแอร์หลังให้ผู้โดยสารแถว 2-3 ด้วยนะ เย็นฉ่ำถึงข้างหลัง! อันนี้ดีงาม) เครื่องเสียงเดิมๆ
ส่วนสิ่งอื่นๆ ที่อาจจะได้หรือไม่ได้มาด้วยก็เช่น:
- ยางอะไหล่ แม่แรง เครื่องมือประจำรถ: อันนี้ควรเช็คนะจ๊ะ
- คู่มือรถ สมุดรับประกัน (ถ้ายังอยู่): ส่วนใหญ่จะหายากแล้วสำหรับรถปีเก่าๆ
- กุญแจสำรอง: สำคัญมาก! พยายามหากุญแจสำรองให้เจอตอนซื้อขายนะ
- อุปกรณ์เสริมที่เจ้าของเดิมติดเพิ่ม: เช่น กล้องติดรถยนต์ สัญญาณถอยหลัง เซ็นเซอร์ต่างๆ ฟิล์มกรองแสง
สำหรับเรื่อง ค่าขนส่ง ถ้าซื้อออนไลน์ส่วนใหญ่ก็มีค่าส่งนะจ๊ะ หรือถ้าไปดูเองแล้วขับกลับก็ประหยัดไป แต่ถ้าอยู่ไกลมากๆ อาจจะต้องคำนวณค่าเดินทางไปดูรถด้วยนะ
ส่วนเรื่อง การรับประกัน ต้องทำใจว่ารถมือสองปีขนาดนี้ ไม่มีประกันศูนย์แล้วแน่นอนจ้า! บางเต็นท์รถมือสองอาจจะมีประกันเครื่องยนต์เกียร์ให้สั้นๆ เช่น 1-3 เดือน ก็ต้องสอบถามเงื่อนไขดีๆ นะจ๊ะ แต่ถ้าซื้อกับเจ้าของโดยตรง ส่วนใหญ่คือ "ซื้อแล้วจบ" ต้องดูแลตัวเองล้วนๆ
ของแถม/โปรโมชั่น จากผู้ขายมือสองก็ไม่ค่อยมีอะไรหวือหวาเท่าซื้อรถใหม่นะ อาจจะมีน้ำมันเต็มถังให้วันรับรถก็ถือว่าดีแล้ว! 😅
5. ช่วงไหนเหมาะกับการช้อป Proton Exora มือสอง?
การซื้อรถมือสองเนี่ยไม่เหมือนซื้อของในห้างที่มีโปรโมชั่นเป๊ะๆ ตามเทศกาลซะทีเดียวจ้า แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีโอกาสได้ราคาดีๆ เลยนะ! ช่วงที่อาจจะพอมีลุ้นส่วนลดหรือราคาพิเศษก็เช่น:
- ช่วงปลายปี: หลายคนอยากขายรถก่อนปีใหม่ หรือเต็นท์รถอยากเคลียร์สต็อก ก็อาจจะมีโปรโมชั่นออกมาบ้าง
- ช่วงที่ตลาดรถมือสองซบเซา: ถ้าช่วงไหนคนไม่ค่อยซื้อรถมือสองเยอะๆ ผู้ขายก็อาจจะต้องลดราคาลงมาเพื่อจูงใจ
- ช่วงที่เจ้าของร้อนเงิน: อันนี้แล้วแต่ดวงเลยจ้า ถ้าเจอเจ้าของที่จำเป็นต้องขายรถด่วน อาจจะได้ราคาดีแบบไม่คาดฝัน!
ส่วนโปรโมชั่นตามเทศกาลไทยๆ อย่างสงกรานต์ หรือ Double Digit Sale บน Lazada/Shopee เนี่ย ไม่ค่อยมีผลกับการซื้อรถยนต์มือสองเท่าไหร่ (ยกเว้นพวกอะไหล่หรืออุปกรณ์แต่งรถนะ) แนะนำว่าถ้าเจอคันที่ถูกใจ สภาพดี ราคาได้ ก็อย่ารอช้ามากจ้า เดี๋ยวจะโดนคนอื่นคว้าไปซะก่อน! หมั่นเข้าไปเช็คตามเว็บไซต์และแอปพลิเคชันขายรถมือสองบ่อยๆ นั่นแหละดีที่สุด
6. คนไทยใช้ Proton Exora แล้วรู้สึกยังไงกันบ้างนะ?
เท่าที่ไปส่องๆ ตามเว็บบอร์ดหรือกลุ่มรีวิวรถต่างๆ ในไทยเนี่ย เสียงตอบรับจากผู้ใช้ Proton Exora ส่วนใหญ่ก็มีทั้งแฮปปี้และมีจุดที่ต้องดูแลนะจ๊ะ
ข้อดีที่คนไทยชอบ:
- ราคาถูก คุ้มค่าตัว: อันนี้ยืนหนึ่งเลยจ้า! ได้รถ 7 ที่นั่งในราคาที่ถูกกว่าชาวบ้านเยอะมากๆ
- ห้องโดยสารกว้างขวาง: นั่ง 7 คนได้จริง เบาะแถวสามพอให้นั่งได้ไม่อึดอัดเกินไป (สำหรับผู้ใหญ่ไซส์มาตรฐานนะ)
- มีแอร์หลัง: ผู้โดยสารแถว 2 และ 3 เย็นสบาย ไม่ต้องกลัวร้อนตอนเดินทางไกล
- พื้นที่เก็บของเยอะ พับเบาะได้หลากหลาย: ปรับการใช้งานได้ตามต้องการ จะขนคนหรือขนของก็ได้หมด
ข้อที่ต้องทำใจหรือเป็นข้อควรระวัง (สำหรับรถมือสอง):
- ไม่ใช่รถตลาด: ศูนย์บริการเฉพาะทางอาจจะน้อยกว่ารถตลาดทั่วไป แต่ก็พอมีอู่ที่รับซ่อมได้นะ
- อะไหล่: เมื่อก่อนอาจจะหา_ยากและแพง แต่ตอนนี้การสั่งซื้อออนไลน์สะดวกขึ้นเยอะ และมีอะไหล่เทียบหรืออะไหล่มือสองให้เลือกพอสมควร
- ราคาขายต่อตก: อันนี้แน่นอนอยู่แล้วสำหรับรถที่ไม่ใช่รถตลาด แต่ถ้าคิดว่าจะใช้ยาวๆ ไม่ได้กะขายต่อเร็วๆ ก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่
- ปัญหาจุกจิกที่อาจเจอตามอายุรถ: รถปีเก่าก็มีสิทธิ์เจอเรื่องซ่อมบำรุงตามอายุตามระยะทางบ้าง เช่น เกียร์ (บางคันอาจมีอาการกระตุก) หรือระบบอื่นๆ ต้องเลือกคันที่สภาพดีๆ หรือมีประวัติการซ่อมบำรุงที่ชัดเจน
- อัตราเร่ง: เครื่อง 1.6 NA อาจจะอืดหน่อยถ้าบรรทุกเต็มคัน แต่เครื่อง 1.6 Turbo (CFE) ก็ช่วยให้ขับขี่ดีขึ้นเยอะ
โดยรวมคือ ถ้าเน้นความคุ้มค่า พื้นที่ใช้สอยเยอะ ในงบที่จำกัดมากๆ Exora มือสองถือว่าตอบโจทย์ แต่ต้องยอมรับในเรื่องการดูแลรักษาที่อาจจะต้องหาอู่นอกที่ชำนาญ หรือหาข้อมูลเรื่องอะไหล่เองบ้างนะจ๊ะ
7. อยากได้ Exora มือสอง จะไปหาซื้อได้จากช่องทางไหนบ้าง?
โอเค เมื่อตัดสินใจแน่วแน่แล้วว่าจะไปสอยเจ้า Exora มือสองคู่ใจสักคัน แหล่งช้อปหลักๆ ที่แนะนำก็คือ:
- เว็บไซต์/แอปพลิเคชันขายรถมือสองออนไลน์: นี่คือแหล่งรวมที่ใหญ่ที่สุดเลยจ้า มีรถให้เลือกเยอะมากๆ จากทั้งเต็นท์รถและเจ้าของโดยตรง ข้อดีคือเปรียบเทียบราคาและดูรูปหลายๆ คันได้ง่าย สะดวก เว็บยอดฮิตก็อย่างที่บอกไป เช่น Kaidee Auto, TaladROD.com, ENNXO, One2car เป็นต้น
- กลุ่มซื้อขายรถยนต์มือสองใน Facebook: เป็นอีกแหล่งที่ดีมากๆ ที่จะได้ซื้อกับผู้ใช้โดยตรง บางทีได้ราคาดีกว่า แต่ก็ต้องระวังเรื่องความน่าเชื่อถือ เช็คโปรไฟล์คนขายดีๆ และถ้าเป็นไปได้ ควรนัดเจอเพื่อดูรถจริงและทำสัญญาซื้อขายกันซึ่งๆ หน้าจะปลอดภัยที่สุดจ้า
- เต็นท์รถมือสองทั่วไป: มีให้เลือกดูตามพื้นที่ต่างๆ ข้อดีคือได้เห็นและทดลองขับรถจริง ได้สอบถามข้อมูลกับผู้ขายโดยตรง และบางทีมีบริการเรื่องไฟแนนซ์หรือการรับประกันสั้นๆ ให้ด้วย
สำหรับช่องทาง Official ของ Proton ในไทยตอนนี้ไม่มีแล้วนะจ๊ะ ส่วนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซแบบ Lazada/Shopee ถึงจะมีขายอะไหล่บางชิ้น แต่ไม่เหมาะกับการซื้อรถยนต์ทั้งคันเน้อ
8. สรุปแล้ว Proton Exora มือสอง น่าซื้อไหม? เหมาะกับใครในปี 2025?
มาถึงช่วงสรุปแล้วจ้า! ถามว่า Proton Exora มือสองในปี 2025 นี้น่าซื้อไหม? ถ้าคุณมีเงื่อนไขดังต่อไปนี้ บอกเลยว่า น่าซื้อมากๆ จ้า คุ้มค่าตัวสุดๆ!
- งบประมาณจำกัดมากๆ แต่อยากได้รถ 7 ที่นั่งจริงๆ
- เน้นพื้นที่ใช้สอยเป็นหลัก ขนคน ขนของได้เยอะๆ
- ไม่ได้กังวลเรื่องภาพลักษณ์แบรนด์ หรือราคาขายต่อที่อาจจะตก
- พอมีความรู้เรื่องรถบ้าง หรือมีอู่ประจำที่ไว้ใจได้ในการดูแลรักษา
- วางแผนว่าจะใช้รถคันนี้นานๆ ไม่ได้กะเปลี่ยนบ่อย
เจ้า Exora มือสองนี่แหละคือคำตอบ! มันเป็นรถที่ให้ ความคุ้มค่า ในด้านขนาดและฟังก์ชันการใช้งานในราคาที่เข้าถึงง่ายมากๆ เมื่อเทียบกับตัวเลือกอื่นๆ ในตลาด เหมาะกับครอบครัวใหญ่ที่ต้องการรถยนต์สำหรับเดินทางร่วมกันบ่อยๆ หรือคนที่ต้องการรถอเนกประสงค์สำหรับขนของในงบประมาณที่จำกัด
แต่! ถ้าคุณซีเรียสเรื่องศูนย์บริการที่ต้องสะดวกสบาย หาอะไหล่ได้ง่ายเหมือนรถตลาด มีความกังวลเรื่องปัญหาจุกจิกของรถมือสอง หรือคิดว่าจะใช้แป๊บเดียวแล้วขายต่อ ก็อาจจะต้องพิจารณาตัวเลือกอื่นในตลาดมือสองที่คนนิยมมากกว่านี้หน่อยนะ
ส่วนคำถามว่าจะเลือกรุ่นย่อยไหนดีระหว่างรุ่นเครื่องยนต์ปกติ (NA) หรือรุ่น Turbo (CFE) ถ้าเน้นประหยัดงบสุดๆ ขับในเมืองเป็นหลัก ไม่ได้บรรทุกหนักบ่อยๆ รุ่น NA ก็เพียงพอ แต่ถ้าเน้นเรื่องสมรรถนะ ขับทางไกล บรรทุกเต็มที่บ่อยๆ แนะนำให้มองหารุ่น Turbo จะขับสบายใจกว่าเยอะจ้า แต่ราคาก็จะสูงขึ้นตามไปด้วยนะ
หวังว่าข้อมูลนี้จะเป็นประโยชน์ในการตัดสินใจเลือกซื้อรถครอบครัวในปี 2025 นะจ๊ะ ขอให้ทุกคนเจอรถที่ถูกใจและเหมาะสมกับการใช้งานของตัวเองจ้า! ขับขี่ปลอดภัย เที่ยวให้สนุกนะทุกคน บ๊ายบาย!
วิดีโอที่เกี่ยวข้อง
- Proton Exora คุ้มสุดใน MPV 7 ที่นั่งปีไม่ลึก งบเริ่มต้นหลักหมื่น รีวิว ...
- “รีวิวเต็มอิ่ม Proton Exora 2025 ใหม่ล่าสุด รถครอบครัว 7 ที่นั่งสุดคุ้ม!”
- Proton Exora คุ้มสุดใน MPV 7 ที่นั่งปีไม่ลึก งบเริ่มต้นหลักหมื่น รีวิว ...
- 7 ข้อดี Proton Exora รถมือสอง รีวิวเด็ด
- รถมือสองงบไม่เกิน 350000 คันไหนดี? 15/3/2025
แนะนำสำหรับคุณ
รีวิวรองเท้าผ้าใบ Puma Carina: สวยคลาสสิก แมทช์ได้ทุกลุค
รีวิว YSL Pure Shots: เซรั่มกู้ผิวโทรม บูสต์ผิวใสในข้ามคืน
เปิดกรุรีวิวไอเทมเด็ดจาก Watsons: ตัวไหนน่าสอย ตัวไหนต้องลอง?
รีวิว Hiby R3: เครื่องเล่นเพลงพกพาเสียงดี เหมาะกับคนรักเสียงเพลง
รีวิว มาร์คเท้ากู้ชีพ: เปลี่ยนเท้าหยาบกร้าน เป็นเท้าเนียนนุ่มน่าสัมผัส
รีวิว Yamaha Nouvo Elegance 135cc: ออโตเมติกยอดนิยม ดีไซน์สปอร์ต ขี่สบาย