logo

ราคา Isuzu Mu-7 Choiz มือสอง ปีไหนน่าใช้ที่สุด?

user avatar
รวิสรา ศรีสมบัติ·06/26/2025 14:49
点赞
ราคา Isuzu Mu-7 Choiz มือสอง ปีไหนน่าใช้ที่สุด?

สวัสดีคร้าบทุกคนนน! วันนี้จะมาคุยกันเรื่องรถยนต์ PPV ในตำนานอีกรุ่นที่หลายคนยังมองหาเป็นรถบ้านคู่ใจ นั่นก็คือ Isuzu Mu-7 Choiz มือสอง นั่นเองงง! ใครที่กำลังมองหารถครอบครัว 7 ที่นั่ง อึด ถึก ทน ประหยัดน้ำมัน สไตล์อีซูซุแท้ๆ แถมราคาเป็นมิตรกับกระเป๋า มามุงตรงนี้เลยจ้า เพราะเราจะมาเจาะลึกกันว่า Mu-7 Choiz ปีไหนน่าใช้ที่สุด! เตรียมตัวให้พร้อม แล้วไปดูกันเลย!


1. เจ้า Mu-7 Choiz นี่มันคือรถอะไรกันนะ?

เอาล่ะ มาทำความรู้จักกับเจ้า Isuzu Mu-7 Choiz กันก่อน มันคือรถยนต์อเนกประสงค์ประเภท PPV (Pickup Passenger Vehicle) หรือที่เราเรียกง่ายๆ ว่ารถยนต์ดัดแปลงจากรถกระบะนั่นแหละ ซึ่งเจ้านี่ก็พัฒนามาจาก Isuzu D-Max กระบะตัวเก่งของค่ายอีซูซุ ค่ายรถยนต์เก่าแก่ชื่อดังจากประเทศญี่ปุ่น ที่คนไทยคุ้นเคยกันมานาน เรื่องความทนทานนี่ไว้ใจได้เลย อีซูซุเค้าขึ้นชื่ออยู่แล้ว. เจ้า Mu-7 เนี่ยเกิดมาเพื่อเป็นรถครอบครัวขนาดใหญ่ รองรับผู้โดยสารได้สบายๆ 7 ที่นั่ง แถมมีพื้นที่เก็บของด้านหลังกว้างขวาง เหมาะมากๆ สำหรับครอบครัวใหญ่ที่ชอบเดินทาง หรือคนที่ต้องการรถที่ลุยได้หน่อยๆ ไม่ต้องกลัวพื้นขรุขระ เพราะช่วงล่างเค้าหนาแน่นพอตัว. ส่วนรุ่น "Choiz" ที่เรากำลังจะคุยกันวันนี้ มันคือรุ่นพิเศษที่ออกมาในช่วงท้ายๆ ของ Mu-7 ก่อนที่จะเปลี่ยนโฉมไปเป็น Mu-X นั่นเอง ซึ่งรุ่นนี้จะมีการปรับปรุงดีไซน์ให้ดูทันสมัยขึ้น สปอร์ตขึ้นกว่าเดิมนิดหน่อย ทั้งภายนอกภายใน ให้ดูน่าใช้มากขึ้นนั่นแหละจ้า.


2. แล้วราคา Isuzu Mu-7 Choiz มือสองในไทยอยู่ประมาณไหน?

มาถึงเรื่องสำคัญที่ทำให้หลายคนยังมองหาเจ้า Mu-7 Choiz อยู่ นั่นก็คือ "ราคา" ในตลาดมือสองนี่แหละ! ต้องบอกเลยว่าราคาเจ้าตัวนี้ตกลงมาจากตอนเป็นรถใหม่เยอะมากๆ เรียกว่าน่าสอยสุดๆ. ราคาของ Isuzu Mu-7 Choiz มือสอง เนี่ยจะขึ้นอยู่กับปีที่ผลิต สภาพรถ เลขไมล์ อุปกรณ์ต่างๆ และคนขายด้วยนะ แต่โดยทั่วไปแล้ว ถ้าเป็นรุ่น Choiz (ซึ่งจะอยู่ในช่วงปี 2011-2013) ราคาจะอยู่ในช่วงประมาณ 300,000 - 500,000 บาท (฿) โดยประมาณนะ.

ถ้าเป็นปีเก่าๆ หน่อยก่อนถึงรุ่น Choiz ราคาอาจจะลงมาถึงสองแสนปลายๆ ก็มีให้เห็นนะ. ส่วนรุ่น Choiz เอง ปีใหม่ๆ หน่อยอย่างปี 2012-2013 ราคาก็จะขยับสูงขึ้นมานิดนึง แต่ก็ยังอยู่ในช่วงที่จับต้องได้เมื่อเทียบกับรถ PPV รุ่นใหม่ๆ. แหล่งที่เราจะเจอรถพวกนี้เยอะๆ ก็ไม่ใช่ Lazada หรือ Shopee แน่นอนจ้า! ต้องไปดูตามเต็นท์รถมือสองใหญ่ๆ หรือแพลตฟอร์มออนไลน์สำหรับซื้อขายรถมือสองโดยเฉพาะ เช่น One2Car หรือ Taladrod พวกนี้จะมีตัวเลือกเยอะมากๆ ให้เราเข้าไปส่อง เข้าไปเปรียบเทียบราคาได้เลย.


3. ถ้าเทียบกับรถรุ่นอื่นในตลาดล่ะ ราคาเป็นไงบ้าง?

ถ้าเอาเจ้า Isuzu Mu-7 Choiz มือสอง ไปเทียบกับคู่แข่งตัวฉกาจในยุคเดียวกันอย่าง Toyota Fortuner หรือ PPV ค่ายอื่นๆ ในปีใกล้เคียงกัน ต้องบอกว่า Mu-7 Choiz เนี่ย ราคาในตลาดมือสองมักจะ เป็นมิตรกับเงินในกระเป๋ามากกว่า. บางทีได้ปีใหม่กว่าในราคาเท่ากัน หรือราคาเท่ากันแต่สภาพดีกว่าก็มีนะ. แน่นอนว่าฟังก์ชันหรือออปชันบางอย่างอาจจะไม่หวือหวาเท่ารถรุ่นใหม่ๆ ป้ายแดง แต่ถ้ามองในแง่ของความคุ้มค่า การใช้งานที่เน้นความทนทาน ประหยัดน้ำมัน และค่าบำรุงรักษาที่ไม่จุกจิกมาก เจ้า Mu-7 Choiz ถือเป็นตัวเลือกที่ น่าสนใจมากๆ ในช่วงราคาเดียวกัน. มันคือรถที่เน้นการใช้งานจริง ไม่ได้เน้นความหรูหราฟู่ฟ่าอะไรมากนัก.


4. ซื้อแล้วจะได้อะไรติดรถมาบ้างนะ?

อันนี้แหละคือจุดที่ต้องพิจารณาให้ดีเวลาซื้อรถมือสอง ไม่ใช่แค่ Mu-7 Choiz นะ แต่กับรถทุกคันเลย! สิ่งที่เราควรเช็คว่าได้อะไรมาบ้าง หรือมีอะไรบ้าง:

  • ตัวรถ: สภาพภายนอก ภายในเป็นยังไง มีร่องรอยการใช้งานเยอะไหม
  • เครื่องยนต์ เกียร์ ช่วงล่าง: อันนี้สำคัญสุดๆ! สภาพสมบูรณ์ดีไหม มีเสียงดังผิดปกติหรือเปล่า ควรพาช่างผู้ชำนาญไปช่วยดูเลยนะ
  • เลขไมล์: วิ่งมาเยอะแค่ไหน เลขไมล์แท้หรือเปล่า
  • สมุดคู่มือและประวัติการเข้าศูนย์บริการ: ถ้ามีครบถ้วนจะช่วยให้เราเช็คประวัติรถได้ว่าดูแลมาดีแค่ไหน
  • ยาง: ดอกยางยังเยอะอยู่ไหม ปีผลิตยางเมื่อไหร่
  • แบตเตอรี่: ยังเก็บไฟได้ดีอยู่ไหม
  • อุปกรณ์ประจำรถ: ยางอะไหล่ แม่แรง เครื่องมือประจำรถ มีครบหรือเปล่า
  • ประกันรถยนต์: ส่วนใหญ่รถมือสองจะไม่มีประกันชั้น 1 ติดมาแล้ว อาจจะต้องซื้อเพิ่มเอง
  • การรับประกันจากผู้ขาย: อันนี้แล้วแต่แหล่งที่ซื้อเลย ถ้าซื้อจากเต็นท์รถใหญ่ๆ บางทีอาจจะมี รับประกันเครื่องยนต์และเกียร์ ให้บ้าง เล็กๆ น้อยๆ เช่น 3 เดือน หรือ 5,000 กม.. แต่ถ้าซื้อจากเจ้าของโดยตรง ส่วนใหญ่อาจจะไม่มีการรับประกันอะไรให้เลย ต้องเช็คสภาพให้ชัวร์ก่อนจ่ายเงินนะ!
  • ของแถม/โปรโมชั่น: ถ้าซื้อจากเต็นท์ บางทีอาจจะมีโปรโมชั่น ฟรีค่าโอน ฟรีดาวน์ หรือแถมขัดเคลือบสีให้ก่อนส่งมอบ ก็ต้องลองสอบถามดู.

ส่วนเรื่อง ค่าจัดส่ง รถมือสองนี่ไม่เหมือนของออนไลน์นะ ส่วนใหญ่เราต้องไปรับรถเอง หรือถ้าซื้อจากเต็นท์ที่อยู่ไกลๆ อาจจะต้องคุยเรื่องค่าขนส่งต่างหากจ้า


5. มีช่วงไหนน่าซื้อเป็นพิเศษ หรือต้องรอดูโปรโมชั่นไหม?

สำหรับรถมือสองอย่าง Isuzu Mu-7 Choiz เนี่ย ช่วงเวลาที่น่าซื้อเป็นพิเศษอาจจะไม่ได้ตรงกับช่วงเทศกาลลดราคาแบบ 11.11 หรือ 12.12 เหมือนสินค้า gadget นะจ๊ะ แต่ช่วงที่อาจจะมีดีลดีๆ ก็เช่น:

  • ช่วงปลายปีงบประมาณของเต็นท์รถ: บางทีเต็นท์รถอยากปิดยอด ก็อาจจะมีโปรโมชั่นพิเศษออกมา
  • ช่วงที่มีรถใหม่รุ่นใหม่เปิดตัว: เมื่อ Mu-X รุ่นใหม่ออกมา คนที่ใช้ Mu-7 หรือ Mu-X รุ่นเก่า อาจจะปล่อยรถออกมาในตลาดมือสองเยอะขึ้น ทำให้มีตัวเลือกมากขึ้นและราคาอาจจะมีการแข่งขันกันมากขึ้น
  • ช่วงที่เศรษฐกิจไม่ค่อยดี: ตลาดรถมือสองอาจจะมีราคาน่าสนใจมากขึ้น

แต่สิ่งสำคัญกว่าการรอโปรโมชั่น คือการ เจอรถสภาพดี ราคาเหมาะสม มากกว่านะจ๊ะ! การหมั่นเช็คราคาในแพลตฟอร์มต่างๆ และการเข้าไปดูรถจริงเพื่อประเมินสภาพ เป็นสิ่งที่จำเป็นมากๆ ส่วนโปรโมชั่นต่างๆ เช่น ฟรีดาวน์ ดอกเบี้ยต่ำ หรือฟรีค่าโอน มักจะเป็นโปรโมชั่นที่เต็นท์รถนำเสนอเพื่อจูงใจลูกค้าอยู่แล้ว ก็ลองเปรียบเทียบของแถมพวกนี้ได้เลยจ้า


6. คนไทยที่ใช้ Isuzu Mu-7 Choiz รู้สึกยังไงกันบ้าง?

จากเสียงรีวิวของผู้ใช้งานชาวไทยเนี่ย Isuzu Mu-7 Choiz ยังคงเป็นรถที่หลายคนประทับใจในหลายๆ ด้านเลยนะ. จุดเด่นที่คนไทยพูดถึงบ่อยๆ ก็คือ:

  • ความทนทาน อึด ไม่จุกจิก: นี่คือเอกลักษณ์ของอีซูซุเลยก็ว่าได้ หลายคันวิ่งไปหลายแสนกิโลเมตรแล้วยังใช้งานได้ดีอยู่.
  • เครื่องยนต์ดีเซล ประหยัดน้ำมัน: เครื่อง 3.0 VGS Turbo ขึ้นชื่อเรื่องความอึดและอัตราสิ้นเปลืองที่น่าพอใจสำหรับการเป็นรถ PPV ขนาดนี้.
  • ห้องโดยสารกว้างขวาง นั่งสบาย 7 ที่นั่ง: เหมาะกับการเดินทางไปกันทั้งครอบครัว.
  • ช่วงล่างไว้ใจได้ ขับลุยได้บ้าง: แม้จะไม่ใช่รถ Off-Road แท้ๆ แต่ก็ขับบนถนนที่ไม่เรียบ หรือทางลูกรังได้สบายๆ.
  • ค่าบำรุงรักษาไม่แพง อะไหล่หาง่าย: เนื่องจากใช้พื้นฐานเดียวกับ D-Max ทำให้การดูแลรักษาและหาอะไหล่ทำได้ง่าย และราคาไม่แรง.

แต่ก็มีบางจุดที่อาจจะต้องทำความเข้าใจด้วย เช่น ออปชันความบันเทิงอาจจะไม่ล้ำสมัยเท่ารถรุ่นใหม่ๆ หรือช่วงล่างอาจจะไม่ได้นุ่มนวลเท่ารถเก๋ง แต่ถ้าเน้นความคุ้มค่าและการใช้งานที่สมบุกสมบันหน่อย เจ้าตัวนี้ตอบโจทย์ได้ดีเลย.


7. แล้วจะไปหาซื้อ Isuzu Mu-7 Choiz มือสองได้ที่ไหนดีล่ะ?

อย่างที่บอกไปตอนต้นว่าเจ้า Mu-7 Choiz นี่หลักๆ คือตลาดมือสองแล้วจ้า ช่องทางยอดฮิตก็จะมีตามนี้เลย:

  • แพลตฟอร์มออนไลน์ซื้อขายรถมือสอง: เช่น One2Car และ Taladrod เป็นแหล่งรวมรถเยอะที่สุด มีทั้งจากเต็นท์รถและเจ้าของโดยตรง ข้อดีคือตัวเลือกเยอะ เปรียบเทียบราคาได้ง่าย แต่ต้องดูรายละเอียดให้ดีและระวังเรื่องมิจฉาชีพ.
  • เต็นท์รถมือสอง: มีอยู่ทั่วประเทศ ทั้งเต็นท์เล็กและเต็นท์ใหญ่ ข้อดีคือสามารถไป ดูรถ สัมผัสรถ ลองขับ ได้จริง มีคนขายให้ข้อมูล และบางทีมีบริการเสริมหรือการรับประกันจากเต็นท์ให้ด้วย.
  • ซื้อจากเจ้าของโดยตรง: อาจจะเจอรถที่ดูแลมาดีและได้ราคาที่ถูกกว่าเต็นท์ แต่ต้องมีความรู้เรื่องรถพอสมควรในการตรวจสภาพ และไม่มีการรับประกันหลังการขายให้.

แนะนำว่าถ้าไม่ชำนาญเรื่องรถมือสอง การไปดูที่เต็นท์รถที่น่าเชื่อถือ หรือใช้แพลตฟอร์มออนไลน์ที่มีการการันตี ตรวจสอบสภาพรถให้ ก็จะช่วยลดความเสี่ยงลงได้นะจ๊ะ.


8. สรุปแล้ว Mu-7 Choiz มือสอง ปีไหนน่าใช้ที่สุด? และเหมาะกับใคร?

มาถึงบทสรุปแล้ว! ถ้าถามว่า Isu-7 Choiz มือสอง ปีไหนน่าใช้ที่สุด? ถ้ามองในแง่ของความสดใหม่ของปีรถ ออปชันที่ทันสมัยขึ้นมาหน่อย (เมื่อเทียบกับ Mu-7 รุ่นก่อนหน้า) และยังได้ดีไซน์ของรุ่น Choiz ที่ดูดีขึ้น รุ่น ปี 2012 และ ปี 2013 ซึ่งเป็นปีท้ายๆ ก่อนเปลี่ยนโฉมเป็น Mu-X เนี่ยถือว่าน่าสนใจมากๆ นะ. รุ่นปีเหล่านี้มักจะมีออปชันอย่างเครื่องยนต์ VGS Turbo ที่ให้กำลังดีขึ้น ระบบเบรก ABS ถุงลมนิรภัยคู่หน้า และบางคันอาจมีกล้องมองหลัง หรือจอเพดานมาให้ด้วย.

Isuzu Mu-7 Choiz มือสอง เหมาะมากๆ สำหรับ:

  • ครอบครัวขนาดใหญ่ ที่ต้องการรถ 7 ที่นั่ง พื้นที่กว้างๆ
  • คนที่ มีงบประมาณจำกัด แต่อยากได้รถ PPV ที่คุ้มค่า
  • คนที่เน้น ความทนทาน ประหยัดน้ำมัน และค่าบำรุงรักษาไม่แพง
  • คนที่ต้องการรถที่ ขับลุยได้บ้าง ไม่ต้องกลัวน้ำท่วม หรือถนนไม่ดีเท่าไหร่

มันเป็นรถที่คุ้มค่ากับราคาในตลาดมือสองมากๆ ถ้าเจอคันที่สภาพดี ดูแลรักษามาอย่างต่อเนื่อง รับรองว่าใช้ได้ยาวๆ เลยจ้า! ส่วนจะเลือกรุ่นย่อยไหน (ขับสอง หรือขับสี่) ก็ขึ้นอยู่กับการใช้งานเป็นหลักนะ ถ้าวิ่งในเมืองเป็นหลัก ขับสองก็เพียงพอแล้วจ้า.

หวังว่าข้อมูลนี้จะเป็นประโยชน์ในการตัดสินใจซื้อ Isuzu Mu-7 Choiz มือสอง ของทุกคนนะคร้าบ! ขอให้ได้รถที่ถูกใจ สภาพดี ราคาโดนใจ แล้วก็ขับขี่ปลอดภัย เดินทางมีความสุขกันทั้งครอบครัวจ้า! ไปลุยกันเลยยย!


วิดีโอที่เกี่ยวข้อง

บทความล่าสุดดูเพิ่มเติม

สวัสดีค่าทุกคนนน! วันนี้เราจะมาเม้าท์มอยเรื่องที่ดินแดนสวรรค์อย่าง ภูเก็ต กัน! ใครที่กำลังมองหาทำเลทองจะซื้อ จะลงทุน จะเก็บไว้เก็งกำไร หรือแค่อยากรู้ว่าช่วงปี 2568 เนี่ย ราคาที่ดินที่ภูเก็ตมันเป็นยังไงบ้าง แล้วโซนไหนที่เค้าว่ากันว่าเด็ดสุดๆ
ราคาที่ดินภูเก็ต อัปเดต 2568: โซนไหนน่าลงทุนที่สุด (เทียบปี 2562)
สวัสดีจ้าทุกคนนน! วันนี้เราจะมาเม้าท์มอยเรื่องแกดเจ็ตสุดปังที่ชีวิตยุค 4G ขาดไม่ได้ นั่นก็คือ TP-Link Archer MR200 เราเตอร์ใส่ซิม 4G ที่เค้าว่ากันว่าคุ้มค่าน่าใช้สุดๆ! ใครที่กำลังปวดหัวเรื่องอินเทอร์เน็ตบ้านช้าบ้าง ไม่มีเน็ตไฟเบอร์เข้าถึงบ้
รีวิว TP-Link MR200 และราคา: เราเตอร์ใส่ซิม 4G คุ้มค่าไหม
สวัสดีคร้าบบบทุกคนนน! วันนี้เราจะมาคุยเรื่องที่ดินกันบ้างจ้าาา เรื่องใกล้ตัวที่ใครๆ ก็อยากเป็นเจ้าของ นั่นก็คือ "ที่ดิน" นั่นเอง! แล้วถ้าเป็น ที่ดินขนาด 50 ตารางวา เนี่ย ราคามันจะประมาณไหน ซื้อตอนนี้ดีมั้ย เหมาะกับเราหรือเปล่า? มาค่ะ! เราจะ
ที่ดิน 50 ตารางวา ราคาเท่าไหร่: วิธีคำนวณและประเมินง่ายๆ

บทความที่แนะนำ