ค่าบริการ ตรอ. 2568: ตรวจสภาพรถราคาเท่าไหร่ ใช้เอกสารอะไรบ้าง


สวัสดีครับพี่น้องชาวสองล้อสี่ล้อทุกท่าน! วันนี้เราจะมาคุยกันถึงเรื่องใกล้ตัวคนใช้รถใช้ถนนอย่างเราๆ นั่นก็คือเรื่อง การตรวจสภาพรถที่ ตรอ. หรือที่เรียกกันเต็มๆ ว่า สถานตรวจสภาพรถเอกชนนั่นเอง ฟังดูเป็นทางการเนอะ แต่อย่าเพิ่งงงครับ มันคือสถานที่ที่เราต้องเอารถคู่ใจไปตรวจเช็กสภาพให้เรียบร้อยก่อนจะไปต่อภาษีประจำปีนั่นแหละ.
ทำไมต้องตรวจสภาพรถ? แล้วรถแบบไหนที่ต้องตรวจบ้าง?
อธิบายง่ายๆ เลย การตรวจสภาพรถก็เหมือนกับการพาคนไปตรวจสุขภาพประจำปีนั่นแหละครับ เพื่อให้แน่ใจว่ารถของเรายังอยู่ในสภาพที่พร้อมใช้งานอย่างปลอดภัย ไม่ไปสร้างปัญหาบนท้องถนน และที่สำคัญคือ เป็นข้อบังคับตามกฎหมาย ถ้าไม่ตรวจก็ต่อภาษีไม่ได้นะจ๊ะ
ทีนี้ รถแบบไหนล่ะที่ต้องเข้า ตรอ.? หลักๆ เลยก็คือรถที่มีอายุถึงเกณฑ์ที่กำหนดครับ:
- รถจักรยานยนต์ (มอเตอร์ไซค์) ที่มีอายุการใช้งานตั้งแต่ 5 ปีขึ้นไป (นับจากวันที่จดทะเบียน).
- รถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 คน (รถเก๋ง) และ รถยนต์นั่งส่วนบุคคลเกิน 7 คน (รถตู้) รวมถึง รถยนต์บรรทุกส่วนบุคคล (รถกระบะ) ที่มีอายุการใช้งานตั้งแต่ 7 ปีขึ้นไป (นับจากวันที่จดทะเบียน).
นอกจากนี้ รถที่ ขาดต่อภาษีเกิน 1 ปี ก็ต้องนำมาตรวจสภาพที่ ตรอ. ด้วยนะ.
แต่ก็มีรถบางประเภทนะที่ ตรอ. ตรวจไม่ได้ ต้องตรงไปที่กรมการขนส่งทางบกเท่านั้น เช่น รถที่มีการดัดแปลงสภาพผิดไปจากเดิมมากๆ หรือรถที่มีปัญหาเกี่ยวกับเลขตัวถัง/เลขเครื่องยนต์ หรือรถที่ขาดต่อภาษีเกิน 3 ปี. รถที่ใช้แก๊ส LPG/NGV ก็ต้องมีใบรับรองการตรวจสภาพถังก๊าซมาก่อนด้วยนะ.
ต้องเตรียมเอกสารอะไรไปบ้างนะ?
เรื่องเอกสารนี่ง่ายมากๆ เลยครับ เตรียมไปแค่:
- สมุดคู่มือจดทะเบียนรถ (ตัวจริงหรือสำเนา).
แค่นี้เอง! ส่วนเอกสารอื่นๆ อย่าง พ.ร.บ. หรือใบรับรองการตรวจสภาพ (หลังจากตรวจผ่าน) จะใช้ตอนที่คุณไป ต่อภาษีรถยนต์ อีกทีครับ.
ค่าบริการตรวจสภาพรถราคาเท่าไหร่กันนะในปี 2568?
มาถึงเรื่องของค่าใช้จ่ายกันบ้าง อัตราค่าบริการ ตรอ. เนี่ย กรมการขนส่งทางบกกำหนดไว้เป็นมาตรฐานเดียวกันทั่วประเทศ ไม่ต้องกลัวโดนโก่งราคาเลยครับ สำหรับปี 2568 (พ.ศ. 2568) ค่าตรวจสภาพรถก็ประมาณนี้เลย:
- รถจักรยานยนต์: คันละ 60 บาท.
- รถยนต์ที่มีน้ำหนักรถเปล่าไม่เกิน 1,600 กิโลกรัม: คันละ 150 บาท.
- รถยนต์ที่มีน้ำหนักรถเปล่าเกิน 1,600 กิโลกรัม: คันละ 250 บาท.
หมายเหตุ: บางแหล่งข้อมูลอาจจะเคยระบุอัตราค่าบริการสำหรับรถยนต์ตามน้ำหนักไม่เกิน 2,000 กก. ที่ 200 บาท และเกิน 2,000 กก. ที่ 300 บาท แต่จากข้อมูลล่าสุดมักระบุตามเกณฑ์น้ำหนัก 1,600 กก. นะครับ
สำคัญ: หากรถของคุณตรวจสภาพ ไม่ผ่าน ในครั้งแรก แล้วนำไปแก้ไขและกลับมาตรวจซ้ำที่ ตรอ. เดิม ภายใน 15 วัน จะเสียค่าบริการแค่ ครึ่งราคา แต่ถ้าเกิน 15 วันไปแล้ว หรือไปตรวจที่อื่น จะต้องเสียค่าบริการเต็มจำนวนนะครับ.
ตรวจสภาพได้ที่ไหนบ้าง?
หาไม่ยากเลยครับ สถานตรวจสภาพรถเอกชน (ตรอ.) มีอยู่ทั่วประเทศ มองหาป้าย "ตรอ." ได้เลย หรือจะลองค้นหาในอินเทอร์เน็ตว่า "ตรอ. ใกล้ฉัน" ก็เจอเพียบครับ สะดวกกว่าไปที่กรมการขนส่งทางบกเยอะเลย.
สรุปส่งท้าย
การตรวจสภาพรถที่ ตรอ. เป็นเรื่องง่ายๆ ที่เจ้าของรถที่มีอายุถึงเกณฑ์ต้องทำทุกปี เพื่อให้รถของเราพร้อมใช้งานอย่างปลอดภัย และสามารถนำใบรับรองไป ต่อภาษีรถยนต์ประจำปี ได้อย่างราบรื่น. เตรียมเอกสารแค่เล่มทะเบียนรถ เตรียมเงินค่าบริการตามประเภทรถให้พร้อม แล้วก็ขับรถไปที่ ตรอ. ใกล้บ้านได้เลยครับ อย่าปล่อยให้ภาษีขาดนานนะจ๊ะ!
วิดีโอที่เกี่ยวข้อง
- เช็คด่วน! ค่าตรวจสภาพรถแต่ละประเภท ราคาเท่าไหร่บ้าง‼️ #ตรวจ ...
- ตรวจสภาพรถที่สถานตรวจสภาพรถเอกชน (ตรอ.) ต้องเตรียมเอกสาร ...
- รอบรู้เรื่องขนส่ง EP.10 - ขั้นตอนการตรวจสภาพรถตาม พรบ. การขนส่ง ...
- ขั้นตอนการต่อภาษีรถและซื้อพ.ร.บ.ที่เซเว่น7-11
- รถอายุเกิน 7 ปี ต้องตรวจสภาพรถก่อนต่อภาษีนะครับ ! | by Priceza ...
แนะนำสำหรับคุณ
รีวิวรองเท้าผ้าใบ Puma Carina: สวยคลาสสิก แมทช์ได้ทุกลุค
รีวิว YSL Pure Shots: เซรั่มกู้ผิวโทรม บูสต์ผิวใสในข้ามคืน
เปิดกรุรีวิวไอเทมเด็ดจาก Watsons: ตัวไหนน่าสอย ตัวไหนต้องลอง?
รีวิว Hiby R3: เครื่องเล่นเพลงพกพาเสียงดี เหมาะกับคนรักเสียงเพลง
รีวิว มาร์คเท้ากู้ชีพ: เปลี่ยนเท้าหยาบกร้าน เป็นเท้าเนียนนุ่มน่าสัมผัส
รีวิว Yamaha Nouvo Elegance 135cc: ออโตเมติกยอดนิยม ดีไซน์สปอร์ต ขี่สบาย