logo

ราคาตั๋วรถไฟไปอุบลราชธานี ประเภทตั๋ว/ชั้นไหนดี?

user avatar
เกศรินทร์ รัตนเสถียร·06/26/2025 15:27
点赞
ราคาตั๋วรถไฟไปอุบลราชธานี ประเภทตั๋ว/ชั้นไหนดี?

สวัสดีจ้าทุกคนนน! วันนี้เราจะมาเม้าท์มอยเรื่องการเดินทางสุดคลาสสิกในตำนานอย่าง นั่งรถไฟไปอุบลราชธานี กัน ใครที่กำลังเล็งๆ เดินทางไกลแบบสบายๆ ชิลล์ๆ ชมวิวสองข้างทาง มามุงทางนี้เลยจ้า เพราะเราจะมาเจาะลึกเรื่อง ราคาตั๋ว ประเภทตั๋ว/ชั้นไหนดี ให้ฟังแบบหมดเปลือก แถมด้วยเคล็ดลับช้อป (ตั๋ว) ยังไงให้คุ้มค่า จนเพื่อนต้องเหลียวหลัง! เตรียมตัวให้พร้อม แล้วไปลุยกันเลย!


1. "สินค้า" นี้มันคืออะไรกันนะ? (ตั๋วรถไฟนั่นเอง!)

เอาล่ะ เริ่มต้นกันที่ว่าเจ้า ตั๋วรถไฟไปอุบลราชธานี นี่มันคืออะไร? พูดง่ายๆ มันคือเอกสารยืนยันสิทธิ์ของเราที่จะได้ขึ้นรถไฟของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ซึ่งเป็นหน่วยงานรัฐวิสาหกิจคู่บ้านคู่เมืองเรานี่แหละ เพื่อเดินทางจากกรุงเทพฯ (ส่วนใหญ่ก็สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์นะ) มุ่งหน้าสู่แดนอีสานใต้ที่จังหวัดอุบลราชธานีนั่นเองจ้า ตั๋วรถไฟเนี่ยก็เหมือนพาสปอร์ตพาเราไปสัมผัสบรรยากาศการเดินทางแบบสโลว์ไลฟ์ ได้มองออกไปนอกหน้าต่าง เห็นทุ่งนา ป่าเขา วิถีชีวิตผู้คนสองข้างทาง มันมีเสน่ห์กว่านั่งเครื่องบินที่แป๊บเดียวถึงเยอะเลยนะ เหมาะมากสำหรับคนที่ ไม่รีบมาก ชอบเสพวิว หรือ อยากลองประสบการณ์เดินทางแบบเก่าๆ (แต่เดี๋ยวนี้ก็มีรถไฟใหม่ๆ สะอาดๆ แล้วนะ) กลุ่มผู้ใช้ที่เหมาะก็มีตั้งแต่ นักเรียน นักศึกษาที่อยากประหยัด, วัยทำงานที่อยากเปลี่ยนบรรยากาศ, ไปจนถึงผู้สูงอายุที่อาจจะชอบการเดินทางแบบไม่เร่งรีบจ้า


2. ราคาในตลาดไทยเป็นยังไงบ้าง? (ราคาตั๋วนั่นแหละ!)

มาถึงเรื่องสำคัญที่ทุกคนรอคอย นั่นก็คือ "ราคา" นั่นเอง! สำหรับ ตั๋วรถไฟไปอุบลราชธานี เนี่ย ต้องบอกก่อนว่าราคาเค้ามีหลากหลายมากๆ ขึ้นอยู่กับ ประเภทขบวนรถ และ ชั้นที่นั่ง ที่เราเลือกเลยจ้า เหมือนซื้อของก็มีหลายรุ่นหลายราคาให้เลือกสรรนั่นแหละ

ราคาจะเริ่มต้นตั้งแต่หลักร้อยปลายๆ ไปจนถึงพันกลางๆ เลยทีเดียว ที่นิยมๆ กันก็จะมี:

  • ชั้น 3 (รถนั่งพัดลม/ปรับอากาศ): อันนี้คือแบบ ประหยัดสุดๆ ราคาเป็นมิตรกับกระเป๋ามากๆ แต่ก็อาจจะร้อนหน่อยถ้าเป็นพัดลม และคนอาจจะเยอะ เบียดเสียดนิดนึง ราคาอาจจะอยู่ประมาณ 200-400 บาท ขึ้นอยู่กับขบวนนะ
  • ชั้น 2 (รถนั่งพัดลม/ปรับอากาศ, รถนอนพัดลม/ปรับอากาศ): ชั้นนี้ตัวเลือกหลากหลายขึ้นมาหน่อย มีทั้งแบบนั่งและแบบนอน ถ้าเป็นรถนั่งปรับอากาศ ราคาก็จะสูงขึ้นมาอีก แต่ก็เย็นสบายขึ้นเยอะ ส่วนรถนอนเนี่ย หลายคนชอบมาก เพราะเดินทางกลางคืน หลับยาว ตื่นมาก็ถึงอุบลฯ เลย ราคาเตียงล่างจะแพงกว่าเตียงบนนิดหน่อย เพราะมีพื้นที่มากกว่าและมองวิวได้ ราคาชั้น 2 แบบนั่งปรับอากาศอาจจะประมาณ 500-700 บาท ส่วนแบบนอนปรับอากาศก็ประมาณ 800-1,100 บาท จ้า
  • ชั้น 1 (รถนอนปรับอากาศ): อันนี้คือแบบ พรีเมียมสุดๆ เป็นห้องส่วนตัวเลย นอนได้ 2 คน หรือถ้ามาคนเดียวก็เหมาห้องไปเลยจ้า เหมาะสำหรับคนที่ชอบความเป็นส่วนตัว ต้องการความสะดวกสบายสูงสุด ราคาจะโดดขึ้นมาเยอะเลยนะ ประมาณ 1,300 - 1,600 บาท สำหรับเตียงเดี่ยว หรือถ้าเหมาห้องก็สองพันกว่าบาทเลย

ราคาที่บอกเป็นแค่ ราคาประมาณการ นะ เพราะมันขึ้นอยู่กับชนิดขบวนรถ (ด่วนพิเศษ, ด่วน, เร็ว) และประเภทที่นั่งเป๊ะๆ ด้วย ลองไปเช็คในเว็บไซต์หรือแอปของการรถไฟฯ จะได้ราคาที่แน่นอนกว่าจ้า


3. แล้วเทียบกับ "สินค้าประเภทเดียวกัน" ล่ะ ราคาโอเคมั้ย? (เทียบกับรถทัวร์/เครื่องบิน)

ถ้าให้เทียบกับการเดินทางไปอุบลราชธานีด้วยวิธีอื่นเนี่ย รถไฟก็มีข้อดีข้อเสียเรื่องราคาต่างกันไปนะ

  • เทียบกับรถทัวร์: ราคาตั๋วรถไฟชั้น 3 หรือชั้น 2 แบบนั่งพัดลม มักจะพอๆ กับหรือถูกกว่ารถทัวร์เล็กน้อยนะ แต่ถ้าเป็นรถทัวร์ VIP หรือ First Class ราคาก็จะไปใกล้เคียงกับรถไฟชั้น 2 ปรับอากาศหรือรถนอนเลยล่ะ ข้อดีของรถไฟคือได้เหยียดแข้งเหยียดขา เดินไปมาได้บ้าง ส่วนรถทัวร์ก็จะจอดน้อยกว่า อาจจะถึงเร็วกว่านิดหน่อย
  • เทียบกับเครื่องบิน: อันนี้แน่นอนว่าเครื่องบิน เร็วกว่า เยอะมาก นั่งไม่กี่ชั่วโมงก็ถึงแล้ว แต่ราคาก็ แพงกว่า รถไฟทุกชั้นอย่างมีนัยสำคัญเลยจ้า เหมาะกับคนที่มีเวลาน้อย เน้นความรวดเร็ว ส่วนรถไฟเหมาะกับคนที่มีเวลา อยากเดินทางแบบชิลล์ๆ ประหยัดงบประมาณมากกว่า

สรุปคือ รถไฟเนี่ยเป็นตัวเลือกที่อยู่ตรงกลางระหว่างรถทัวร์กับเครื่องบิน ทั้งเรื่องราคา ระยะเวลาเดินทาง และความสบาย ถ้าเน้น ความคุ้มค่า และ ประสบการณ์เดินทางที่ไม่เหมือนใคร รถไฟคือคำตอบเลยจ้า


4. ซื้อแล้วได้อะไรมาบ้างนะ? (บริการที่มาพร้อมตั๋ว)

เวลาซื้อตั๋วรถไฟ สิ่งที่เราได้มาหลักๆ เลยก็คือ สิทธิ์ในการเดินทาง ตามวันเวลาและที่นั่ง/เตียงที่เราจองไว้จ้า

สิ่งที่รวมมาด้วย (ขึ้นอยู่กับชั้นและประเภทรถนะ):

  • ที่นั่ง/เตียง: อันนี้ได้แน่นอน! จะได้ระบุเลขที่นั่งหรือเลขเตียงมาในตั๋วเลย
  • พื้นที่เก็บสัมภาระ: ใต้ที่นั่ง หรือมีชั้นวางของด้านบนให้
  • พัดลม/เครื่องปรับอากาศ: ขึ้นอยู่กับว่าเป็นตู้พัดลมหรือตู้ปรับอากาศ
  • ผ้าห่ม หมอน (สำหรับตู้นอน): เค้าจะเตรียมไว้ให้จ้า สะอาดใช้ได้เลยนะ
  • ปลั๊กไฟ: ส่วนใหญ่รถไฟรุ่นใหม่ๆ หรือตู้นอนปรับอากาศจะมีปลั๊กไฟให้ชาร์จแบตได้ด้วย
  • ห้องน้ำ: มีแน่นอน แต่ความสะอาดก็แล้วแต่ขบวนและผู้ร่วมเดินทางนะจ๊ะ

ส่วนเรื่อง ค่าขนส่ง (ตั๋ว) เนี่ย ถ้าซื้อออนไลน์ก็อาจจะมีค่าธรรมเนียมเล็กน้อยนะ แต่ส่วนใหญ่ก็จะส่งเป็นไฟล์ E-ticket มาให้ทางอีเมล สะดวกสุดๆ ไม่ต้องกลัวตั๋วหาย การรับประกันนี่ไม่มีนะจ๊ะ ตั๋วรถไฟซื้อแล้วใช้เดินทางตามที่ระบุ ไม่มีการซ่อมแซมใดๆ จ้า ส่วนของแถมหรือคูปองเนี่ย ปกติไม่มีนะ แต่บางทีการรถไฟฯ อาจจะมีโปรโมชั่นพิเศษร่วมกับพันธมิตรบ้างเป็นครั้งคราว ต้องคอยติดตามข่าวสารเอาเองนะ


5. มีช่วงไหนน่าซื้อเป็นพิเศษมั้ย? (ช่วงโปรโมชั่น/เทศกาล)

แน่นอนว่าถ้าอยากได้ตั๋วรถไฟราคาดีๆ หรือมีโอกาสเดินทางสะดวกๆ ช่วง เทศกาล นี่แหละที่ต้องจับตาดู! การรถไฟฯ เค้ามักจะ เพิ่มขบวนรถพิเศษ ในช่วงเทศกาลใหญ่ๆ ของไทยนะ เช่น สงกรานต์, ปีใหม่ เพื่อรองรับผู้โดยสารที่เดินทางกลับภูมิลำเนาหรือไปเที่ยว ช่วงนี้แหละที่มีโอกาสได้ตั๋วมากขึ้น แต่ก็ต้อง รีบจองล่วงหน้า นะ เพราะคนเดินทางเยอะมากๆ

ส่วนโปรโมชั่นลดราคาแบบปังๆ เหมือนพวกแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซอย่าง 11.11 หรือ 12.12 เนี่ย สำหรับตั๋วรถไฟตรงๆ อาจจะไม่มีเป็นประจำนะ แต่บางทีอาจจะมีโปรโมชั่นร่วมกับบัตรเครดิต หรือส่วนลดสำหรับกลุ่มเฉพาะ (เช่น นักเรียน นักศึกษา ผู้สูงอายุ) ต้องคอยเช็คเงื่อนไขดีๆ จ้า

คำแนะนำการซื้อคือ ถ้าวางแผนเดินทางล่วงหน้านานๆ โดยเฉพาะช่วงเทศกาล รีบจองแต่เนิ่นๆ เลยจ้า เพราะตั๋วดีๆ ที่นั่งดีๆ เต็มเร็วมากนะ โดยเฉพาะตู้ที่เป็นที่นิยมอย่างตู้นอน การจองล่วงหน้าเนี่ย การรถไฟฯ เค้าก็เปิดให้จองได้สูงสุดถึง 90 วันสำหรับบางขบวนยอดนิยมด้วยนะ


6. รีวิวและฟีดแบ็กจากผู้ใช้ในไทยเป็นยังไงบ้างนะ?

จากที่ลองไปส่องๆ ดูตามรีวิวของคนไทยเนี่ย เสียงตอบรับเกี่ยวกับการนั่งรถไฟไปอุบลราชธานีก็มีหลากหลายนะ ขึ้นอยู่กับว่านั่งชั้นไหน ขบวนอะไร แต่จุดที่คนไทยพูดถึงบ่อยๆ ก็คือ:

  • ชั้น 3: ราคาถูกจริง เหมาะกับคนงบน้อย หรืออยากลองฟีลรถไฟโบราณ แต่ก็ต้องทำใจเรื่องความแออัด ร้อน (ถ้าเป็นพัดลม) และอาจจะเมื่อยหน่อยถ้านั่งนานๆ
  • ชั้น 2 (นั่งปรับอากาศ): สบายขึ้นเยอะ เย็น ไม่ร้อน ราคาก็พอรับได้ คนไม่แน่นเท่าชั้น 3
  • ชั้น 2 (นอนปรับอากาศ): ฮิตมาก! สะดวกสบาย เดินทางกลางคืนถึงเช้า ประหยัดเวลาเที่ยวกลางวัน มีความเป็นส่วนตัวระดับหนึ่ง มีม่านกั้น แต่เตียงบนอาจจะแคบหน่อย และปีนขึ้นลงลำบากนิดนึง
  • ชั้น 1 (นอนปรับอากาศ): ส่วนตัวสุดๆ เหมาะกับมาเป็นคู่ หรืออยากได้พื้นที่ส่วนตัวมากๆ สิ่งอำนวยความสะดวกครบ แต่ราคาก็ แพงสุด เลยจ้า
  • รถไฟรุ่นใหม่ (CNR): รีวิวดีมากๆ สะอาด ปลอดภัย มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ทั้งปลั๊กไฟ Wi-Fi (บางขบวน)

โดยรวมแล้ว คนไทยส่วนใหญ่ที่เลือกรถไฟไปอุบลฯ มักจะเน้นที่ ความคุ้มค่า (โดยเฉพาะชั้นประหยัด) หรือ ประสบการณ์เดินทาง ที่แตกต่างจากการนั่งเครื่องบินหรือรถทัวร์ ความทนทานของรถไฟไทยก็ค่อนข้างดีนะ วิ่งมานานแล้ว แต่เรื่องตรงต่อเวลาอันนี้ก็แล้วแต่ขบวนและสถานการณ์บ้างนะ


7. แล้วจะไปหาซื้อ "สินค้า" (ตั๋วรถไฟ) ได้ที่ไหนล่ะทีนี้?

การซื้อตั๋วรถไฟไปอุบลราชธานีเนี่ย เดี๋ยวนี้สะดวกสบายขึ้นเยอะเลยจ้า ไม่ได้มีแค่ไปต่อคิวที่สถานีอย่างเดียวแล้วนะ

  • ช่องทางทางการ:
    • เว็บไซต์ D-Ticket ของการรถไฟฯ: อันนี้คือช่องทางหลักเลยจ้า สะดวกที่สุด เข้าไปเลือกต้นทาง-ปลายทาง วันเดินทาง เลือกขบวน เลือกที่นั่ง/เตียง ชำระเงินออนไลน์ได้เลย ง่ายมากๆ
    • แอปพลิเคชัน SRT D-Ticket: เหมือนเว็บไซต์เป๊ะๆ แค่อยู่ในรูปแบบแอปบนมือถือ สะดวกพกพา จองได้ทุกที่ทุกเวลา
    • สถานีรถไฟทุกแห่งทั่วประเทศ: อันนี้คือช่องทางดั้งเดิม ไปซื้อได้ที่ช่องจำหน่ายตั๋ว แต่ช่วงเทศกาลคนจะเยอะหน่อย ต้องเผื่อเวลาและอาจจะต้องลุ้นว่าตั๋วที่ต้องการจะยังมีไหม
    • Call Center 1690: โทรไปสอบถามข้อมูล หรือจองตั๋วก็ได้นะ
  • แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ/เอเจนซี่ออนไลน์: บางแพลตฟอร์มรับจองตั๋วรถไฟด้วยนะ อาจจะมีค่าธรรมเนียมเพิ่มขึ้นมานิดหน่อย แต่ก็เป็นอีกทางเลือกที่สะดวกในการดูรอบรถและเปรียบเทียบกับช่องทางการเดินทางอื่น

แนะนำว่าถ้าอยากได้ตั๋วชัวร์ๆ และเลือกที่นั่งได้ตามต้องการ จองผ่านเว็บไซต์หรือแอป SRT D-Ticket คือสะดวกและดีที่สุด จ้า ได้ E-ticket มาเก็บไว้ในมือถือได้เลย ไม่ต้องกลัวทำหาย


8. สรุปแล้วน่าซื้อไหม? เหมาะกับใคร? (ตั๋วรถไฟไปอุบลฯ)

มาถึงบทสรุปกันแล้ว! ถามว่า ตั๋วรถไฟไปอุบลราชธานี ยังน่าซื้ออยู่ไหมในปีนี้? คำตอบคือ น่าซื้อมากๆ เลยจ้า ถ้าคุณเป็นคนที่:

  • มีงบประมาณหลากหลาย ตั้งแต่ประหยัดสุดๆ ไปจนถึงอยากสบายแบบส่วนตัว
  • มีเวลาเดินทาง และไม่รีบมากจนเกินไป
  • ชอบการเดินทางแบบชิลล์ๆ ได้ชมวิวสองข้างทาง
  • อยากได้ประสบการณ์เดินทางที่แตกต่าง จากรถทัวร์หรือเครื่องบิน
  • ชอบความปลอดภัย ในการเดินทางระยะไกล (ระบบรางค่อนข้างปลอดภัย)

การเดินทางด้วยรถไฟไปอุบลฯ คือคำตอบเลยจ้า มันให้ความรู้สึก คลาสสิก ปลอดภัย และมีตัวเลือกที่หลากหลาย ให้เราเลือกได้ตามงบและความต้องการ

ส่วนจะเลือกชั้นไหนดี? อันนี้ก็ขึ้นอยู่กับสไตล์และงบของคุณเลยจ้า:

  • ถ้าเน้น ประหยัดสุดๆ ไม่ติดเรื่องความสบายมากนัก และเดินทางกลางวัน ชั้น 3 คือเพื่อนที่ดีที่สุด!
  • ถ้าอยากได้ ความสบายพอประมาณ เดินทางกลางวันเย็นๆ หรือเดินทางกลางคืนแบบนอนได้ ชั้น 2 คือตัวเลือกที่คุ้มค่าและหลากหลาย
  • ถ้าต้องการ ความส่วนตัวสูงสุด และพร้อมจ่ายเพื่อความสบายเต็มที่ ชั้น 1 ตอบโจทย์แน่นอน

ไม่ว่าคุณจะเลือกชั้นไหน ขอให้สนุกกับการเดินทางด้วยรถไฟไปเยือนอุบลราชธานีนะจ๊ะ ได้สัมผัสบรรยากาศดีๆ วิวสวยๆ แน่นอนจ้า! บ๊ายบายยย!


วิดีโอที่เกี่ยวข้อง

บทความล่าสุดดูเพิ่มเติม

สวัสดีค่าทุกคนนน! วันนี้เราจะมาเม้าท์มอยเรื่องที่ดินแดนสวรรค์อย่าง ภูเก็ต กัน! ใครที่กำลังมองหาทำเลทองจะซื้อ จะลงทุน จะเก็บไว้เก็งกำไร หรือแค่อยากรู้ว่าช่วงปี 2568 เนี่ย ราคาที่ดินที่ภูเก็ตมันเป็นยังไงบ้าง แล้วโซนไหนที่เค้าว่ากันว่าเด็ดสุดๆ
ราคาที่ดินภูเก็ต อัปเดต 2568: โซนไหนน่าลงทุนที่สุด (เทียบปี 2562)
สวัสดีจ้าทุกคนนน! วันนี้เราจะมาเม้าท์มอยเรื่องแกดเจ็ตสุดปังที่ชีวิตยุค 4G ขาดไม่ได้ นั่นก็คือ TP-Link Archer MR200 เราเตอร์ใส่ซิม 4G ที่เค้าว่ากันว่าคุ้มค่าน่าใช้สุดๆ! ใครที่กำลังปวดหัวเรื่องอินเทอร์เน็ตบ้านช้าบ้าง ไม่มีเน็ตไฟเบอร์เข้าถึงบ้
รีวิว TP-Link MR200 และราคา: เราเตอร์ใส่ซิม 4G คุ้มค่าไหม
สวัสดีคร้าบบบทุกคนนน! วันนี้เราจะมาคุยเรื่องที่ดินกันบ้างจ้าาา เรื่องใกล้ตัวที่ใครๆ ก็อยากเป็นเจ้าของ นั่นก็คือ "ที่ดิน" นั่นเอง! แล้วถ้าเป็น ที่ดินขนาด 50 ตารางวา เนี่ย ราคามันจะประมาณไหน ซื้อตอนนี้ดีมั้ย เหมาะกับเราหรือเปล่า? มาค่ะ! เราจะ
ที่ดิน 50 ตารางวา ราคาเท่าไหร่: วิธีคำนวณและประเมินง่ายๆ

บทความที่แนะนำ