10 เหยือกดริปกาแฟ ยี่ห้อไหนดี ปี 2025 ดริปง่าย กาแฟอร่อย


สวัสดีครับเพื่อนๆ สายกาแฟและมนุษย์ที่การดริปคือศิลปะ! ☕️ ในยุคที่ชีวิตต้องการความสุนทรีย์มากขึ้น แถมบางทีก็อยากจิบกาแฟดีๆ ฝีมือตัวเองที่บ้าน ไม่ต้องออกไปเสียตังค์แพงๆ เหยือกดริปกาแฟนี่แหละคือผู้ช่วยสำคัญ!
เหยือกดริปกาแฟ คู่หูบาริสต้าจำเป็น! ไม่ใช่แค่ภาชนะรองรับน้ำกาแฟนะ แต่การออกแบบเหยือกที่ดีช่วยให้การรินกาแฟใส่แก้วเป็นเรื่องง่าย ควบคุมปริมาณและทิศทางน้ำได้แม่นยำ ทำให้กาแฟแก้วโปรดของเรามีรสชาติที่สม่ำเสมอและอร่อยยิ่งขึ้นครับ
แต่ปัญหาคือ... ตอนนี้ในตลาดมีเหยือกดริปกาแฟออกมาเยอะมากกกก หลายยี่ห้อ หลายวัสดุ หลายดีไซน์จนเลือกไม่ถูกเลย! จะเลือกยังไงให้ได้เหยือกที่ใช่ ดริปง่าย กาแฟอร่อยถูกปาก แถมยังเข้ากับมุมกาแฟสุดชิคของเราได้อีกด้วย? 🤔
ไม่ต้องห่วงครับ! วันนี้ผมจะมาเป็นกูรูส่วนตัว พาเพื่อนๆ ไปเจาะลึกโลกของเหยือกดริปกาแฟในไทย พร้อมแนะนำ 10 รุ่นเด็ดที่น่าจับตามองในปี 2025 นี้ บอกเลยว่าอ่านจบปุ๊บ เลือกซื้อได้ปั๊บ ไม่ต้องสับสนอีกต่อไป!
ตลาดเหยือกดริปกาแฟในไทย คึกคักแค่ไหนกันนะ?
บอกเลยว่าตลาดกาแฟดริปในไทยช่วงนี้กำลัง ฮอตไม่หยุด ฉุดไม่อยู่! คนไทยหันมาชงกาแฟดื่มเองที่บ้านหรือที่ทำงานกันมากขึ้น ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลเรื่องรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ ความสุนทรีย์ในการชง หรือแม้กระทั่งการประหยัดงบในระยะยาว ทำให้ความต้องการอุปกรณ์ดริปกาแฟ รวมถึงเหยือกดริปเพิ่มสูงขึ้นตามไปด้วยครับ
แบรนด์ที่เห็นส่วนใหญ่ในตลาดก็จะเป็นแบรนด์นำเข้าจากต่างประเทศเจ้าดังๆ ที่คอกาแฟรู้จักกันดี ไม่ว่าจะเป็น HARIO, Kalita, Timemore, Fellow, IWAKI พวกนี้มีเหยือกดริปให้เลือกหลากหลายวัสดุและดีไซน์ ส่วนแบรนด์ไทยก็เริ่มมีเข้ามาบ้าง แต่ส่วนใหญ่จะเน้นไปที่อุปกรณ์ดริปแบบครบชุดหรือเหยือกดีไซน์มินิมอลราคาเข้าถึงง่ายครับ
คนไทยส่วนใหญ่เวลามองหาเหยือกดริปกาแฟก็จะเน้นไปที่ วัสดุที่ปลอดภัย (ส่วนใหญ่เป็นแก้วหรือสเตนเลส), ขนาดที่เหมาะกับการใช้งาน (ชงกี่แก้ว), ดีไซน์ที่สวยงามเข้ากับมุมกาแฟ และแน่นอนว่าต้องควบคุมการรินน้ำได้ดี แหล่งช้อปปิ้งยอดฮิตก็หนีไม่พ้นแพลตฟอร์มออนไลน์อย่าง Lazada และ Shopee ที่มีตัวเลือกเยอะและมีโปรโมชั่นเรื่อยๆ หรือถ้าใครอยากไปดูของจริง ก็ต้องไปที่ร้านขายอุปกรณ์กาแฟโดยเฉพาะ หรือบางร้านก็มีโชว์ให้ดูครับ
เลือกเหยือกดริปกาแฟยังไงให้โดนใจ?
ก่อนจะพุ่งตัวไปช้อป เรามาดูกันก่อนว่ามีปัจจัยอะไรบ้างที่เราต้องพิจารณา เพื่อให้ได้เหยือกดริปกาแฟที่เหมาะกับการใช้งานของเราที่สุดครับ ลองดูตารางนี้เป็นแนวทางได้เลย:
ปัจจัย | สิ่งที่ควรพิจารณา (สำหรับเหยือกดริปกาแฟ) |
---|---|
วัสดุ | แก้ว (ใส, ไม่ดูดกลิ่น, เห็นปริมาณชัดเจน) หรือ สเตนเลส (เก็บความร้อนดี, ทนทาน)? |
ขนาด/ความจุ | ชงกี่แก้ว? 1-2 แก้ว (ประมาณ 360 ml) หรือ 2-4 แก้ว (ประมาณ 600 ml) หรือมากกว่านั้น? |
รูปทรงปากเหยือก (Spout) | คม ไม่หยดเลอะเทอะ ควบคุมสายน้ำได้ง่าย? |
ด้ามจับ | จับถนัดมือ รินง่าย ควบคุมน้ำหนักได้ดี? |
ความเข้ากันได้กับดริปเปอร์ | ปากเหยือกพอดีกับขนาดดริปเปอร์ที่เราใช้หรือไม่? |
มีสเกลบอกปริมาตร | ช่วยให้ควบคุมปริมาณน้ำกาแฟได้แม่นยำขึ้น? |
ฟังก์ชันพิเศษ | นำเข้าไมโครเวฟได้? ทนความร้อน/เย็นได้ดี? |
ดีไซน์ | สวยงาม เข้ากับสไตล์ของมุมกาแฟเราไหม? |
ราคา | มีงบเท่าไหร่? เหยือกแก้วเริ่มต้นราคาไม่สูงนัก ส่วนสเตนเลสหรือดีไซน์พิเศษอาจราคาสูงขึ้น |
แบรนด์และความน่าเชื่อถือ | แบรนด์มีชื่อเสียงในวงการกาแฟไหม? รีวิวจากผู้ใช้ในไทยเป็นอย่างไร? |
จัดไป! 10 เหยือกดริปกาแฟ น่าสอย ปี 2025!
ถึงช่วงที่ทุกคนรอคอย! ผมคัดมาให้แล้ว 10 เหยือกดริปกาแฟเด็ดๆ จากหลากหลายแบรนด์ ที่เป็นที่นิยมและน่าสนใจในปี 2025 นี้ครับ ลองพิจารณาตามสไตล์และความต้องการของตัวเองได้เลย!
1. HARIO V60 Range Server
- เกี่ยวกับแบรนด์: แบรนด์เก่าแก่จากญี่ปุ่น มีชื่อเสียงมากในวงการอุปกรณ์กาแฟดริป โดยเฉพาะดริปเปอร์ V60
- สินค้ารุ่นเด่น: HARIO V60 Range Server (มีหลายขนาด เช่น 360ml, 600ml)
- วิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย:
- ข้อดี: เป็นเหยือกแก้ว Borosilicate ทนความร้อนสูง มีสเกลบอกปริมาตรชัดเจน ปากเหยือกเข้ากับดริปเปอร์ V60 ได้พอดี ดีไซน์เรียบง่าย timeless เป็นที่นิยมทั่วโลก ทนทาน ทำความสะอาดง่าย
- ข้อเสีย: เป็นเหยือกแก้ว อาจแตกได้หากตกหล่น.
- เหมาะกับใคร: คอกาแฟดริปที่ใช้ดริปเปอร์ V60 อยู่แล้ว, คนที่ชอบดีไซน์คลาสสิก เน้นเหยือกแก้วคุณภาพดี.
- แนะนำช่องทางการซื้อ:
- ออนไลน์: Lazada, Shopee, ร้านอุปกรณ์กาแฟออนไลน์ทั่วไป
- ออฟไลน์: ร้านอุปกรณ์กาแฟเฉพาะทาง, แผนกเครื่องใช้ในบ้านในห้างสรรพสินค้าบางแห่ง
- ช่วงราคา: ประมาณ 400 - 800 บาท (ขึ้นอยู่กับขนาดและโปรโมชั่น)
- รีวิวผู้ใช้งาน: "เหยือกคู่บุญ V60 เลยค่ะ ใช้มาหลายปีแล้วยังดีอยู่", "สเกลชัดเจนดี ทำให้ชงได้ปริมาณที่ต้องการ", "ดีไซน์เรียบๆ แต่สวย วางบนสแตนด์ดริปแล้วเข้ากันมาก"
2. Timemore Glass Server
- เกี่ยวกับแบรนด์: แบรนด์จากจีนที่กำลังมาแรงเรื่องอุปกรณ์กาแฟดีไซน์มินิมอล คุณภาพดี
- สินค้ารุ่นเด่น: Timemore Glass Server (มีหลายขนาด เช่น 360ml, 600ml)
- วิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย:
- ข้อดี: ดีไซน์มินิมอล สวยงาม ทำจากแก้ว Borosilicate ทนความร้อน ปากเหยือกคม เทง่าย ไม่หยด มีสเกลบอกปริมาตร ฝามีซีลซิลิโคน ปิดแน่น
- ข้อเสีย: อาจมีราคาสูงกว่าเหยือกแก้วแบรนด์ทั่วไปบางรุ่น.
- เหมาะกับใคร: คนที่ชอบอุปกรณ์กาแฟดีไซน์สวย มินิมอล เน้นคุณภาพแก้วที่ดี.
- แนะนำช่องทางการซื้อ:
- ออนไลน์: Lazada, Shopee, ร้านอุปกรณ์กาแฟออนไลน์ที่นำเข้า Timemore
- ออฟไลน์: ร้านอุปกรณ์กาแฟเฉพาะทางบางร้าน.
- ช่วงราคา: ประมาณ 500 - 900 บาท (ขึ้นอยู่กับขนาดและแหล่งซื้อ)
- รีวิวผู้ใช้งาน: "สวยมาก วางบนเคาน์เตอร์กาแฟแล้วดูดีสุดๆ", "ปากเหยือกเทง่ายจริงๆ ครับ คุมน้ำได้ดี", "วัสดุแก้วดี ดูแข็งแรงกว่าที่คิด"
3. Fellow Stagg Double Wall Coffee Carafe
- เกี่ยวกับแบรนด์: แบรนด์พรีเมียมจากอเมริกา โดดเด่นด้วยดีไซน์และฟังก์ชันล้ำๆ
- สินค้ารุ่นเด่น: Fellow Stagg Double Wall Coffee Carafe (ขนาดประมาณ 600-700 ml)
- วิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย:
- ข้อดี: เป็นเหยือกแก้วสองชั้น (Double Wall) ช่วยรักษาอุณหภูมิของกาแฟได้ดี ดีไซน์สวยงาม ทันสมัย เข้ากันได้ดีกับดริปเปอร์ Fellow Stagg
- ข้อเสีย: ราคาสูง. เป็นแก้วสองชั้น ต้องระวังเรื่องการทำความสะอาดช่องว่างระหว่างชั้น (หากมีน้ำเข้า).
- เหมาะกับใคร: คนที่เน้นดีไซน์พรีเมียม ต้องการเหยือกที่ช่วยเก็บความร้อนกาแฟได้ระยะหนึ่ง, แฟนคลับ Fellow.
- แนะนำช่องทางการซื้อ:
- ออนไลน์: Lazada, Shopee (ร้าน Official หรือร้านนำเข้าที่เชื่อถือได้)
- ออฟไลน์: ร้านอุปกรณ์กาแฟพรีเมียมบางแห่ง.
- ช่วงราคา: ประมาณ 1,500 - 2,500 บาท
- รีวิวผู้ใช้งาน: "สวยมากครับ วางคู่กับกาดริป Fellow คือเข้ากันสุดๆ", "ชอบที่เก็บความร้อนได้ดี ทำให้จิบกาแฟได้นานขึ้น", "ราคาสูงหน่อย แต่ดีไซน์กับฟังก์ชันคุ้มค่า"
4. IWAKI Microwavable Pot & Dripper
- เกี่ยวกับแบรนด์: แบรนด์เครื่องแก้วคุณภาพจากญี่ปุ่น มีผลิตภัณฑ์เครื่องแก้วหลากหลาย รวมถึงอุปกรณ์กาแฟ
- สินค้ารุ่นเด่น: IWAKI Microwavable Pot & Dripper (มักมาพร้อมดริปเปอร์ในชุด)
- วิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย:
- ข้อดี: มักมาเป็นชุดพร้อมดริปเปอร์ในราคาที่คุ้มค่า เหยือกแก้วทนความร้อน นำเข้าไมโครเวฟได้สะดวก ดีไซน์เรียบง่าย ใช้งานง่าย เหมาะกับมือใหม่
- ข้อเสีย: ดีไซน์อาจจะดูทั่วไปกว่าแบรนด์เฉพาะทางกาแฟ. ดริปเปอร์ที่มาในชุดอาจเป็นทรงคางหมู ซึ่งอาจไม่เหมาะกับทุกคนที่ชอบควบคุมการไหลของน้ำแบบ V60.
- เหมาะกับใคร: มือใหม่หัดดริปที่ต้องการชุดอุปกรณ์เริ่มต้นที่คุ้มค่า ใช้งานง่าย, คนที่มองหาเหยือกแก้วที่นำเข้าไมโครเวฟได้.
- แนะนำช่องทางการซื้อ:
- ออนไลน์: Lazada, Shopee, ร้านเครื่องใช้ในบ้านออนไลน์ทั่วไป
- ออฟไลน์: แผนกเครื่องใช้ในบ้านในห้างสรรพสินค้า.
- ช่วงราคา: ประมาณ 500 - 1,000 บาท (สำหรับชุดพร้อมดริปเปอร์)
- รีวิวผู้ใช้งาน: "ชุดนี้เหมาะกับมือใหม่มาก ซื้อครั้งเดียวได้ครบเลย", "เหยือกทนความร้อนดี เอาไปอุ่นกาแฟในไมโครเวฟได้สะดวก", "ราคาไม่แพง คุณภาพใช้ได้เลย"
5. Kalita Wave Server
- เกี่ยวกับแบรนด์: แบรนด์อุปกรณ์กาแฟเก่าแก่จากญี่ปุ่น มีชื่อเสียงจากดริปเปอร์ทรง Wave
- สินค้ารุ่นเด่น: Kalita Wave Style Up (มักมาพร้อมดริปเปอร์และฟิลเตอร์ในชุด)
- วิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย:
- ข้อดี: ทำจากแก้วทนความร้อน ดีไซน์เข้ากันได้ดีกับดริปเปอร์ Kalita Wave มักมาเป็นชุดพร้อมดริปเปอร์ ทำให้เริ่มต้นได้ง่าย
- ข้อเสีย: เหยือกเดี่ยวๆ อาจมีตัวเลือกน้อยกว่า Hario หรือ Timemore.
- เหมาะกับใคร: คอกาแฟที่ชื่นชอบการดริปด้วย Kalita Wave, คนที่มองหาชุดอุปกรณ์ดริปที่ออกแบบมาให้เข้ากัน.
- แนะนำช่องทางการซื้อ:
- ออนไลน์: Lazada, Shopee, ร้านอุปกรณ์กาแฟออนไลน์ที่นำเข้า Kalita
- ออฟไลน์: ร้านอุปกรณ์กาแฟเฉพาะทางบางร้าน.
- ช่วงราคา: ประมาณ 1,000 - 2,000 บาท (สำหรับชุดพร้อมดริปเปอร์)
- รีวิวผู้ใช้งาน: "สวยมากครับ ดีไซน์คลาสสิกสไตล์ญี่ปุ่น", "ใช้คู่กับ Kalita Wave Dripper คือลงตัวสุดๆ", "วัสดุแก้วดี ทนทานครับ"
6. BESTCOFF Coffee Drip Set
- เกี่ยวกับแบรนด์: แบรนด์ที่มักพบในแพลตฟอร์มออนไลน์ เสนอชุดอุปกรณ์ดริปกาแฟที่คุ้มค่า
- สินค้ารุ่นเด่น: BESTCOFF V60 Coffee Drip Set Wooden Handle หรือ Ceramic Dripper Set
- วิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย:
- ข้อดี: ราคาไม่แพง คุ้มค่า มักมาเป็นชุดพร้อมอุปกรณ์อื่นๆ มีดีไซน์หลากหลายให้เลือก ทั้งแบบด้ามจับไม้หรือดริปเปอร์เซรามิก หาซื้อง่ายในแพลตฟอร์มออนไลน์
- ข้อเสีย: คุณภาพวัสดุอาจไม่เทียบเท่าแบรนด์พรีเมียม. ชื่อเสียงแบรนด์ยังไม่เป็นที่รู้จักเท่าแบรนด์ใหญ่.
- เหมาะกับใคร: คนที่เริ่มต้นดริปกาแฟ มีงบจำกัด ต้องการชุดอุปกรณ์ครบๆ ในราคาที่เข้าถึงง่าย.
- แนะนำช่องทางการซื้อ:
- ออนไลน์: Lazada, Shopee
- ออฟไลน์: อาจมีบางร้านอุปกรณ์กาแฟขนาดเล็กนำมาขาย.
- ช่วงราคา: ประมาณ 500 - 1,000 บาท (สำหรับชุดอุปกรณ์)
- รีวิวผู้ใช้งาน: "ซื้อมาลองดริปครั้งแรก ชุดนี้คุ้มมาก ได้อุปกรณ์ครบเลย", "ราคาดีงาม คุณภาพใช้ได้เลยสำหรับมือใหม่", "ด้ามจับไม้สวยดีครับ ชอบ"
7. Soulhand Coffee Drip Set
- เกี่ยวกับแบรนด์: แบรนด์ที่เน้นอุปกรณ์กาแฟดีไซน์สวยงาม มีทั้งแบบชุดและแยกชิ้น
- สินค้ารุ่นเด่น: Soulhand Coffee Drip Set (มีหลายแบบ หลายวัสดุ)
- วิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย:
- ข้อดี: ดีไซน์สวยงาม มีสไตล์ มีชุดอุปกรณ์ให้เลือกหลากหลาย วัสดุดูดีเมื่อเทียบกับราคา
- ข้อเสีย: ชื่อเสียงอาจยังไม่เท่าแบรนด์ใหญ่บางแบรนด์.
- เหมาะกับใคร: คนที่เน้นอุปกรณ์กาแฟที่ดูดีมีดีไซน์ อยากได้ชุดเริ่มต้นที่สวยงามในราคาที่จับต้องได้.
- แนะนำช่องทางการซื้อ:
- ออนไลน์: Lazada, Shopee
- ออฟไลน์: ร้านอุปกรณ์กาแฟบางร้าน.
- ช่วงราคา: ประมาณ 700 - 1,500 บาท (สำหรับชุดอุปกรณ์)
- รีวิวผู้ใช้งาน: "ชอบดีไซน์มากครับ ดูแพงกว่าราคาจริง", "ได้ชุดมาครบเลย พร้อมลุยดริป", "เหยือกแก้วสวยดีครับ ใสปิ๊ง"
8. M Kitchen เหยือกชงกาแฟ พร้อมที่กรอง
- เกี่ยวกับแบรนด์: แบรนด์ที่พบในตลาดออนไลน์ เสนออุปกรณ์กาแฟที่ใช้งานง่าย ราคาประหยัด
- สินค้ารุ่นเด่น: เหยือกชงกาแฟ พร้อมที่กรอง (มักมาพร้อมตัวกรองสเตนเลสหรือไนลอน)
- วิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย:
- ข้อดี: ราคาถูกมาก เข้าถึงง่าย ใช้งานง่าย เหมาะกับมือใหม่สุดๆ ไม่ต้องใช้กระดาษกรอง (ในรุ่นที่มาพร้อมที่กรองสเตนเลส/ไนลอน)
- ข้อเสีย: คุณภาพอาจไม่เทียบเท่าแบรนด์เฉพาะทาง. รสชาติกาแฟที่ได้อาจแตกต่างจากการใช้กระดาษกรอง.
- เหมาะกับใคร: มือใหม่มากๆ ที่อยากลองชงกาแฟดริปด้วยตัวเองในงบประมาณที่จำกัดสุดๆ.
- แนะนำช่องทางการซื้อ:
- ออนไลน์: Lazada, Shopee
- ออฟไลน์: ร้านเครื่องครัว หรือซูเปอร์มาร์เก็ตบางแห่ง.
- ช่วงราคา: ประมาณ 200 - 500 บาท
- รีวิวผู้ใช้งาน: "ซื้อมาลองดริปขำๆ ครับ ราคานี้โอเคเลย", "สะดวกดี ไม่ต้องใช้กระดาษกรอง", "เหมาะกับชงกินคนเดียวง่ายๆ ที่บ้าน"
9. Origami Dripper (พร้อม Server ที่เข้าชุด)
- เกี่ยวกับแบรนด์: แบรนด์ดริปเปอร์ชื่อดังจากญี่ปุ่น โดดเด่นด้วยดีไซน์คล้ายการพับกระดาษ
- สินค้ารุ่นเด่น: Origami Dripper (มีหลายวัสดุ) มักใช้คู่กับ Origami Wooden Holder และ Server แก้วต่างๆ ที่เข้ากันได้
- วิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย:
- ข้อดี: ดริปเปอร์ดีไซน์สวยงาม มีเอกลักษณ์ วัสดุเซรามิกเก็บความร้อนได้ดี (ในรุ่นเซรามิก) สามารถใช้กับ Server ได้หลากหลายรุ่นที่มีปากพอดี
- ข้อเสีย: ต้องซื้อแยกชิ้น (ดริปเปอร์, Holder, Server) ทำให้ราคารวมสูง. ต้องเลือก Server ที่มีปากพอดีกับ Holder.
- เหมาะกับใคร: คนที่เน้นดีไซน์และความสวยงาม อยากได้อุปกรณ์ดริปที่ไม่เหมือนใคร มีความเข้าใจในการเลือกอุปกรณ์ที่เข้าชุดกัน.
- แนะนำช่องทางการซื้อ:
- ออนไลน์: Lazada, Shopee, ร้านอุปกรณ์กาแฟออนไลน์ที่นำเข้า Origami
- ออฟไลน์: ร้านอุปกรณ์กาแฟเฉพาะทางที่นำเข้าแบรนด์นี้.
- ช่วงราคา: Server แก้วที่ใช้คู่กันประมาณ 500 - 1,000 บาท (ราคานี้ไม่รวมดริปเปอร์และ Holder)
- รีวิวผู้ใช้งาน: "ดริปเปอร์ Origami สวยมากครับ เป็นของแต่งบ้านได้เลย", "ต้องหา Server ที่ปากพอดี แต่พอได้ชุดที่เข้ากันคือสวยสุดๆ", "ได้กาแฟรสชาติดีตามแบบฉบับ Origami"
10. Generic Stainless Steel Server
- เกี่ยวกับแบรนด์: สินค้าทั่วไปที่ไม่มีแบรนด์เฉพาะ มักพบในร้านค้าออนไลน์
- สินค้ารุ่นเด่น: เหยือกสเตนเลสสองชั้นสำหรับเก็บความร้อนกาแฟ
- วิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย:
- ข้อดี: ราคาไม่แพง ทำจากสเตนเลสสองชั้น ช่วยเก็บความร้อนได้ดี ทนทาน ไม่แตกง่าย
- ข้อเสีย: ดีไซน์อาจไม่หลากหลายเท่าแบรนด์ดัง. คุณภาพและมาตรฐานอาจแตกต่างกันไปตามผู้ผลิต.
- เหมาะกับใคร: คนที่ต้องการเหยือกที่ช่วยเก็บความร้อนกาแฟได้ในราคาประหยัด ไม่เน้นดีไซน์มากนัก.
- แนะนำช่องทางการซื้อ:
- ออนไลน์: Lazada, Shopee (ค้นหาคำว่า "เหยือกกาแฟสแตนเลส", "เหยือกเก็บความร้อนกาแฟ")
- ออฟไลน์: ร้านขายอุปกรณ์เครื่องครัวทั่วไปบางแห่ง.
- ช่วงราคา: ประมาณ 300 - 800 บาท
- รีวิวผู้ใช้งาน: "ซื้อมาไว้เก็บกาแฟให้ร้อนดีครับ ราคาก็ไม่แพง", "เป็นสแตนเลส ตกไม่แตก ทนดี", "ใช้ได้ดีตามราคาครับ"
คำถามที่พบบ่อย (FAQ) สไตล์คอกาแฟดริปไทย!
Q: ระหว่างเหยือกแก้วกับเหยือกสเตนเลส แบบไหนดีกว่ากันคะ?
A: แล้วแต่ชอบเลยครับ! เหยือกแก้ว ข้อดีคือใส มองเห็นปริมาณกาแฟชัดเจน ไม่ดูดซับกลิ่น ทำความสะอาดง่าย แต่ต้องระวังแตกครับ ส่วน เหยือกสเตนเลส ข้อดีคือทนทาน เก็บความร้อน (หรือความเย็น) ได้ดีกว่า แต่เราจะไม่เห็นปริมาณกาแฟด้านในครับ ถ้าเน้นโชว์สีและปริมาณกาแฟ หรือชอบดีไซน์คลีนๆ เลือกแก้ว ถ้าเน้นความทนทานและเก็บอุณหภูมิ เลือกสเตนเลสครับ!
Q: จำเป็นต้องใช้เหยือกดริปที่มีสเกลบอกปริมาตรไหมคะ?
A: ถ้าอยากชงกาแฟให้ได้รสชาติที่สม่ำเสมอ การมีสเกลบอกปริมาตรในเหยือกช่วยได้มากครับ ทำให้เราควบคุมปริมาณน้ำกาแฟที่ได้ในแต่ละครั้งได้แม่นยำขึ้น แต่ถ้าไม่ซีเรียสมาก หรือมีตาชั่งอยู่แล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องมีสเกลก็ได้ครับ
Q: เหยือกดริปกาแฟไฟฟ้า (Electric Drip Kettle) ต่างจากเหยือกดริปธรรมดายังไงคะ?
A: เหยือกดริปไฟฟ้าจริงๆ แล้วหมายถึง "กาดริปไฟฟ้าคอห่าน" ครับ ที่ใช้ต้มน้ำและควบคุมอุณหภูมิได้ในตัวเดียว ส่วน "เหยือกดริปกาแฟ" ในบริบทนี้คือภาชนะสำหรับรองรับน้ำกาแฟที่ดริปเสร็จแล้วครับ คนละอุปกรณ์กันเน้อ!
Q: ซื้อเหยือกดริปกาแฟใน Lazada/Shopee ร้านไหนเชื่อถือได้คะ?
A: แนะนำให้เลือกร้านที่เป็น Official Store ของแบรนด์นั้นๆ หรือร้านที่มีเรตติ้งดีๆ คะแนนสูง มีรีวิวจากผู้ซื้อเยอะๆ และมีหน้าร้านจริงให้น่าเชื่อถือครับ ถ้าเจอร้านที่ไม่คุ้นเคย หรือราคาถูกจนน่าตกใจ ให้เช็คให้ดีก่อนสั่งนะครับ!
Q: เหยือกดริปกาแฟไซส์ 01 กับ 02 ต่างกันยังไงคะ?
A: ไซส์ 01 มักจะมีความจุประมาณ 300-360 มล. เหมาะสำหรับชง 1-2 แก้ว ส่วนไซส์ 02 จะมีความจุประมาณ 600 มล. เหมาะสำหรับชง 2-4 แก้วครับ เลือกขนาดให้เหมาะกับจำนวนคนดื่มหรือปริมาณที่ต้องการชงต่อครั้งครับ
สรุปส่งท้าย เลือกเหยือกดริปกาแฟให้ใช่ ดริปกาแฟให้อร่อย!
เห็นไหมครับว่าเหยือกดริปกาแฟก็มีรายละเอียดให้พิจารณาเยอะเหมือนกัน! การจะเลือกรุ่นที่ใช่ ก็ต้องเริ่มจากถามตัวเองก่อนว่า เราเน้นใช้งานแบบไหน? อยากได้วัสดุอะไร? งบประมาณเท่าไหร่? และชอบดีไซน์แบบไหนเป็นพิเศษ?
- ถ้าเป็น มือใหม่หัดดริป งบจำกัด แนะนำ IWAKI Microwavable Pot & Dripper (แบบมีชุด) หรือ BESTCOFF/M Kitchen รุ่นเริ่มต้นครับ
- ถ้าเน้น คุณภาพดี ดีไซน์สวยงาม คลาสสิก คู่อุปกรณ์ดริปตัวโปรด ต้อง HARIO V60 Range Server หรือ Kalita Wave Server เลยครับ
- ถ้าชอบ ดีไซน์มินิมอล ทันสมัย วัสดุดี แนะนำ Timemore Glass Server หรือ Fellow Stagg Double Wall Coffee Carafe ครับ
- ถ้าเน้น เก็บความร้อน หรืออยากได้เหยือกสเตนเลสที่ทนทาน ลองดู Generic Stainless Steel Server ครับ
- ถ้าเน้น ดีไซน์สวย มีเอกลักษณ์ ยอมลงทุนหน่อย แนะนำ Origami Dripper พร้อม Server ที่เข้าชุดกันครับ
สิ่งสำคัญอีกอย่างคือ อย่าลืมเช็ค ความเข้ากันได้ของขนาดเหยือกกับดริปเปอร์ ที่เรามีหรือกำลังจะซื้อนะครับ และระวังของปลอม โดยเฉพาะหากซื้อผ่านร้านที่ไม่น่าเชื่อถือ ที่สำคัญ! ในช่วงเทศกาลหรือโปรโมชั่นใหญ่ๆ บน Lazada Shopee มักจะมีดีลเด็ดๆ ออกมาให้ช้อปกันแบบจัดเต็ม อย่าพลาดเชียวล่ะ! 😉
มาเมาท์มอยกันหน่อย! แชร์ประสบการณ์หน่อยจ้า!
เพื่อนๆ คนไหนกำลังใช้เหยือกดริปกาแฟรุ่นไหน ยี่ห้อไหนอยู่บ้าง? เป็นยังไง เล่าสู่กันฟังหน่อยสิครับ! ชอบตรงไหน ไม่ชอบตรงไหน หรือมีรุ่นไหนอยากแนะนำเพิ่มเติม คอมเมนต์มาคุยกันได้เลยนะ! 👇
ถ้าใครถูกใจบทความนี้ อยากให้กำลังใจ หรืออยากได้พิกัดร้าน/ลิงก์โปรโมชั่นดีๆ รบกวนพิมพ์คำว่า "จัดลิงก์มาเลย!" เดี๋ยวผมรวบรวมให้เป็นพิเศษเลยจ้าาา! แล้วเจอกันใหม่บทความหน้า สวัสดีครับ! 👋
วิดีโอที่เกี่ยวข้อง
แนะนำสำหรับคุณ
10 ไมโครเวฟ Electrolux รุ่นไหนดี ปี 2025 ทำอาหารง่าย ฟังก์ชันครบ
10 เตาแก๊สปิคนิค ยี่ห้อไหนดี ปี 2025 พกพาสะดวก ใช้งานง่าย
10 อันดับ คีย์บอร์ด Nubwo รุ่นไหนดี ปี 2025 ตอบสนองไว ใช้งานทนทาน
10 อันดับ คีย์แคป สวย ๆ ปี 2025 สวยงาม ปุ่มน่ารัก
รีวิว โครงการ Pleno (AP): ทาวน์โฮม/บ้าน ทำเลดี ราคาเข้าถึงง่าย น่าซื้อไหม?
ราคาเตาอบ Rational Combi Steamer: อุปกรณ์ครัวมืออาชีพ ประหยัดเวลา ทำอาหารได้หลากหลาย